ไปที่เนื้อหา


เนื้อหาจาก Dd2683

ค้นพบทั้งสิ้น 407 รายการโดย Dd2683 (จำกัดการค้นหาจาก 05-June 23)



#185000 พระนิพพาน

โพสต์เมื่อ โดย Dd2683 บน 30 November 2010 - 08:36 PM ใน เว็บบอร์ด DMC

อนุโมทนา สนทนาธรรมและคำตอบ ของกัลยาณมิตรทุกท่านด้วยครับ
สาธุ

จากคำถามเจ้าของกระทู้
QUOTE
พระนิพพานหรือพระธรรมกายที่อยู่ในอายตนะนิพพานท่านตรวจดูสรรพสัตว์ที่อยู่ในวัฎสงสารหรือไม่?

ไม่ทราบครับ
ความคิดเห็น ความเข้าใจส่วนตัว คิดว่า
พระสัพพัญญูสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเห็นแจ้ง ทั้งรูปธรรม แม้กระทั่งนามธรรมอันปราณีต ที่จักษุของบรรดาเทพและพรหม ไม่เห็น
ดังนั้น สรรพสัตว์และสรรพสิ่ง ที่อยู่ในกามภพ รูปภพ อรูปภพ
ย่อมอยู่ในวิสัย ความสามารถ ญาณทัสสนะ ในธรรมจักษุ ของพระพุทธองค์
หากปรารถนา ดำริ ตรวจดู ก็ย่อมเป็นไปได้

QUOTE
แล้วท่านยังสามารถช่วยสรรพสัตว์ทั้งหลายให้พ้นทุกข์ภัยในวัฎสงสารได้อีกหรือไม่ ?

ไม่ทราบครับ
ความคิดเห็น ความเข้าใจส่วนตัว คิดว่า
ถ้าบรรดา เทพ พรหม ที่อยู่ในภพ ๓ ยังมี อาสวะ ๔ (กามาสวะ ภวาสวะ ทิฎฐาสวะ อวิชชาสวะ )
ยังสามารถเกื้อกูล อนุเคราะห์ สงเคราะห์ มนุษย์และสัตว์ (ตามบันทึกในหลายพระสูตร , ชาดก )
ได้ตามสมควรแก่อานุภาพของตนและตามบุญของมนุษย์และสัตว์นั้นๆ

แล้วพระสัพพัญญูสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงกำจัด อาสวะ ๔ สิ้นเชื้อไม่เหลือเศษแล้ว
ทรงเปี่ยมด้วยพุทธานุภาพ จะทรงช่วย บำบัด บรรเทาทุกข์ บำรุงสุข ให้สรรพสัตว์ในภพ ๓
มิได้เชียวหรือ

ส่วนว่า วิธีช่วยสรรพสัตว์ ท่านทำอย่างไร ผ่านเส้นทางไหน ผ่านอายตนะใด กายใด
คือ ปริศนาและคำถาม ยากที่ใครจะรู้และตอบได้



#184975 คำสอนของคุณยายอาจารย์ฯ ในวันพิธีจุดไฟแก้วสลายร่าง

โพสต์เมื่อ โดย Dd2683 บน 24 November 2010 - 11:54 PM ใน บทความดี๊ดี ... จากสมาชิก

น้อมจิต กราบบูชา คุณยายอาจารย์ มหาอุบาสิกา จันทร์ ขนนกยูง
ด้วยความเคารพ เลื่อมใสขอรับ

ยายอยู่ที่ตรงนี้
http://www.youtube.c...feature=related



#184974 ฝึกตัดอาลัยให้ขาด

โพสต์เมื่อ โดย Dd2683 บน 24 November 2010 - 11:41 PM ใน ธรรมกถึก

อนุโมทนาในสาระธรรมและการแบ่งปันจากเจ้าของกระทู้ครับ

เรื่องการตัด ความอาลัย รวมถึงความอาวรณ์ เยื่อใยในใจ มันยากหรือง่าย
สาเหตุหนึ่งก็น่าจะอยู่ที่ อุปาทานในขันธ์ ๕
ใครมีมาก น้อย
ใคร ลด ละ การยึดมั่น ถือมั่น ได้มากหรือน้อย

อ่านเรื่องนี้ทำให้นึกถึงคุณยายฯ
ท่านเป็นแบบอย่างที่ดีมากๆในการ สละอาลัย อาวรณ์ ในคน สัตว์ สิ่งของ
แม้กระทั่ง ลาภ สักการะ สรรเสริญ

ใจท่านจึงทิ้งทุกอย่าง ปล่อยวางทุกสิ่ง(เรื่องโลกภายนอก)
นิ่งอย่างเดียว ( เข้าสู่โลกใน )
และมีผลก้าวหน้าในธรรรมะปฏิบัติ อย่างที่ยากที่ใครจะตามเห็น รู้ ในญาณทัสสนะของท่านได้

ขอนอบน้อมจิต สักการะคุณยายฯ ด้วยความเลื่อมใส ขอรับ

http://www.youtube.c...feature=related



#184973 วิชาเจ้าเสน่ห์.....ไม่ต้องยกขัน ครอบครู

โพสต์เมื่อ โดย Dd2683 บน 24 November 2010 - 11:28 PM ใน ธรรมกถึก

เห็นชื่อกระทู้ คิดว่า พี่ innerpeace จะเปิดตำหนัก รับทำเสน่ห์ซะอีก tongue.gif

ที่แท้ก็ชวนมาทำเสน่ห์ ด้วยการทำความดีผ่านสังคหวัตถุ ๔ กับคนรอบตัวนี่เอง laugh.gif



#184972 ทำไมต้องรวมเด็กล้าน

โพสต์เมื่อ โดย Dd2683 บน 24 November 2010 - 11:24 PM ใน บทความดี๊ดี ... จากสมาชิก

อนุโมทนา ครับ

พลังเด็กดีสามารถสร้างสรรค์สิ่งดีๆในครอบครัว สังคม สถานบันการศึกษา แม้ในสถาบันศาสนา ได้เกินคาดของผู้ใหญ่มากนะครับ

ชมรายการ โครงการกฐินสัมฤทธิ์ของบรรดา เด็กดี V-Star ทีไร หัวใจพองโตทุกที



#184955 ถ้าคุณเป็นพิธีกรทีวีจะถามประเด็น?/อุบาสิกาแก้ว๑ล้าน

โพสต์เมื่อ โดย Dd2683 บน 22 November 2010 - 08:23 PM ใน เว็บบอร์ด DMC

อนุโมทนา ความคำถาม คำตอบที่สร้างสรรค์ ดีๆทั้งนั้นครับ laugh.gif



#184940 คุณธรรมพื้นฐานที่พึงมีประจำใจของนักสร้างบารมี

โพสต์เมื่อ โดย Dd2683 บน 19 November 2010 - 10:00 PM ใน บทความดี๊ดี ... จากสมาชิก

อนุโมทนา เจ้าของกระทู้ สำหรับสาระธรรม ที่นำมาแบ่งปันครับ



#184939 รวมภาพมนุษย์ แปลกๆ

โพสต์เมื่อ โดย Dd2683 บน 19 November 2010 - 09:55 PM ใน เว็บบอร์ด DMC

เศษวิบากกรรม ช่างร้ายเหลือ glare.gif
ขอเพิ่มคำว่า เศษ นะขอรับ เพราะส่องเงากรรม ตรงแรง



#184892 Pre Report วัดพระธรรมกาย

โพสต์เมื่อ โดย Dd2683 บน 15 November 2010 - 07:27 AM ใน บทความดี๊ดี ... จากสมาชิก

ขอเพิ่มกระทู้ที่เกี่ยวข้อง กรณีแม่ชีปัดระเบิดใรสงครามโลกครั้งที่ ๒
ที่มีเพื่อนกัลยาณมิตร ร่วมแสดงความคิดเห็นที่ควรศึกษา พิจารณา ไว้ในกระทู้นี้ด้วยครับ
อนุโมทนา กัลยารมิตรทุกท่านในกระทู้ตัวอย่างนี้ด้วยครับ

เขาว่าคุณยายแม่ชีจันทร์ ขนนกยูง ขนระเบิดไปทิ้งทะเลจริงไหม, ตอนสงครามโลกครั้งที่2
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=6015

คุณยายอาจารย์, ปัดระเบิด
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=4110

เรื่องของคุณยาย, เกี่ยวกับเหตุการณ์ตอนสงครามโลก
http://www.dmc.tv/fo...showtopic=24167




#184891 สู้นะลูก

โพสต์เมื่อ โดย Dd2683 บน 15 November 2010 - 07:18 AM ใน บทความดี๊ดี ... จากสมาชิก

อนุโมทนา ในสาระธรรมครับ



#184830 อะไรคือองค์ประกอบของการทำบุญที่ประกอบด้วยปัญญา

โพสต์เมื่อ โดย Dd2683 บน 12 November 2010 - 11:13 PM ใน เว็บบอร์ด DMC

อนุโมทนา การสนทนาธรรมครับ
สาธุ

QUOTE
อะไรคือองค์ประกอบของการทำบุญที่ประกอบด้วยปัญญา ?

เสริมจากคุณ ธาตุล้วนธรรมล้วน นะครับ

ถ้า บุญ ในประโยคนี้ หมายถึง ปริจาคะ การสร้างทานกุศล ทานมัย ทานบารมี
ถ้า ปัญญา ในประโยคนี้ หมายถึง ถูกหลักวิชชา ถูกต้อง ฉลาด ทำแล้วได้ผลมาก มีอานิสงส์มาก

ขอเสนอความเห็นส่วนตัวว่า


มีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องในหลักของการให้ทานที่สมบูรณ์ ทานของสัตบุรุษ เช่น
ความบริสุทธิ์ของวัตถุทาน ผู้ให้ ผู้รับ ประโยชน์ต่อส่วนรวม , ก่อนทำ กำลังทำ หลังทำ ฯล
ศึกษาเพิ่มเติมจาก
ทานที่มีผลมาก
http://www.84000.org...k/bookpn01.html


อธิษฐานบารมี เพื่อความบริสุทธิ์ หลุดพ้น ไม่ขอ ไม่ปรารถนา พึงพอใจเพียงเพื่อโลกียสมบัติ โลกียสุข

ส่วนการทำบุญ(ทานกุศล)ที่ไม่ประกอบด้วยปัญญา
ส่วนมากเกิดจาก
ความเข้าใจผิดวัตถุประสงค์ของการให้ ปริจาคะ
เช่น
ไม่ทำเพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ของผู้รับ
ไม่ทำเพื่อความเจริญในกุศลกรรม กุศลธรรม ของผู้รับ (กรณีทำทานเพื่อฟื้นฟูและส่งเสริม ศีลธรรม การทำความดีของมหาชน)
ไม่ทำเพื่อสลัดความตระหนี่ โลภะในใจ
แค่อยากแสร้งสร้างภาพพจน์ของตนให้ดูดี
+ ความไม่รู้หลักการให้ทานที่ถูกต้องของสัตบุรุษ
+ อธิษฐานเพียงเพื่อโลกียสมบัติ โลกียสุข แล้วทำให้มีโอกาสผิดศีล ผิดธรรม หรือ อกุศลจิต อกุศลกรรม เพิ่มพูนในภายหลัง
เช่น
ให้รวยทรัพย์ที่สุดใน.....
ขอให้เก่งกว่าคนนั้น ชนะคนนี้
หรือขอให้เกิดเป็นผัวเมียกันทุกชาติ เพราะตอนนี้รักกันมาก จึงอยากเป็นคู่ครองกันอีกตลอดไป
ขอให้ สวยมาก หล่อมาก ใครเห็นก็รัก หลง จึงทำให้มีโอกาสผิดศีลข้อ กาเม สุ มิฉาจาร

ป.ล.
ถ้า ความหมาย ของ คำว่า บุญ และ ปัญญา ที่เจ้าของกระทู้กล่าวถึง คนละความหมาย
ก็ขออภัยทาน ที่ตอบไม่ตรงประเด็นด้วยนะครับ



#184828 เรื่องของคุณยาย

โพสต์เมื่อ โดย Dd2683 บน 12 November 2010 - 10:37 PM ใน เว็บบอร์ด DMC

อนุโมทนา พี่ ทศฯ ด้วยครับ
ชอบอุปมาเรื่อง ปัดยุง ครับ เข้าใจง่ายดี

เอ่อ ไม่มีฟังก์ชั่นแนบไฟล์ แล้วหรือครับ



#184785 เรื่องของคุณยาย

โพสต์เมื่อ โดย Dd2683 บน 12 November 2010 - 10:59 AM ใน เว็บบอร์ด DMC

มีคำตอบ หลายแนวทางครับ

มีกระทู้เก่าที่เกี่ยวข้อง ให้พิจารณาเผื่อเป็นอีกแนวทางในการสนทนากับเพื่อนครับ

Pre Report วัดพระธรรมกาย ในทรรศนะที่เป็น วัดยุคใหม่ ในพุทธศตวรรษที่ ๒๕
http://www.dmc.tv/fo...showtopic=15379

ความคิดเห็นที่ ๒๓ และ ๒๗

อีกกระทู้ อาจมีประโยชน์ในการสนทนาประเด็นอื่นครับ
ความเข้าใจที่บิดเบี้ยว กรณีวัดพระธรรมกาย
http://www.dmc.tv/fo...showtopic=12197



#184721 พิธีถวายอุปกรณ์เครื่องกันหนาว วันที่ 13, 20 พ.ย.นี้

โพสต์เมื่อ โดย Dd2683 บน 11 November 2010 - 09:51 PM ใน เว็บบอร์ด DMC

อนุโมทนาเจ้าของกระทู้และคุณ สาหร่าย สำหรับข่าวบุญและรายละเอียด ครับ
Sadhu.gif

ไปกันเสาร์ที่ ๑๓ นี้ก็ดีครับ



#184720 จำเป็นไหมต้องทำบุญเยอะถึงจะรวย

โพสต์เมื่อ โดย Dd2683 บน 11 November 2010 - 09:43 PM ใน เว็บบอร์ด DMC

QUOTE
จำเป็นไหมคับว่าจะต้องทำบุญด้วยเงินเยอะๆถึงจะรวย


ไม่จำเป็นครับ

การสร้างทานกุศล เป็นเหตุหนึ่งที่ส่งผลให้มีทรัพย์สมบัติ
และทานกุศลไม่ได้จำกัดแค่ บริจาคเงิน

เงิน เป็นวัตถุทาน อย่างหนึ่งที่นำมาเปลี่ยนแปรให้เป็นทานวัตถุอื่น ๆ เช่น ปัจจัย ๔ บริขาร ๘ และสิ่งของที่ควรแก่สมณะ

ศึกษา :
ทานวัตถุ ๑๐
ทานที่มีผลมาก มีอานิสงส์มาก
รวบรวมโดย ประณีต ก้องสมุทร
http://www.84000.org...k/bookpn01.html



#184713 เพียงแค่สุนัขตัวหนึ่ง

โพสต์เมื่อ โดย Dd2683 บน 11 November 2010 - 09:21 PM ใน เว็บบอร์ด DMC


ขอบคุณ เจ้าของกระทู้ครับ
ได้ข้อคิดดีครับ

เพียงแค่หมา ตัวหนึ่ง
เพียงแค่คน คนหนึ่ง
มาเจอกัน ระหว่างมีชีวิต เกิดความสัมพันธ์ที่ดีมากมาย
น่าประทับใจ

นึกถึงเรื่องราวในชาดกหลายๆเรื่อง

ที่ชีวิตคน คนหนึ่งมาเจอคน อีกคนหนึ่ง
แล้วมีเรื่องราวเบียดเบียนซึ่งกันและกัน ผูกอาฆาต พยาบาทไปจนจบชีวิต ถึงข้ามภพข้ามชาติ
น่าสังเวชใจแท้




#184711 เบื่อจังค่ะทำไมคนชอบว่าร้ายธรรมกาย

โพสต์เมื่อ โดย Dd2683 บน 11 November 2010 - 09:02 PM ใน เว็บบอร์ด DMC

เสริมความคิดเห็นต่อจากเพื่อนสมาชิกนิดนึงครับว่า

ในกระดานสนทนาอื่น
สักแต่ว่า เข้าไปอ่าน ก็พอแล้วครับ

ถ้าชอบตอบ ก็ดูทิศทางกระทู้ หรือเพลา ๆ บ้างนะครับ
เพราะส่วนมาก ยิ่งตอบ ยิ่งบานปลาย

คนส่วนมากมักมาแขวะ กระแหนะกระแหน
มาเพ่งโทษ ผู้ทรงศีล ทรงธรรม คนที่ทำความดี
โดยที่เขาไม่รู้จริง และเราควบคุมไม่ได้

แรกๆอาจคุยกันด้วยกุศลจิต
แต่เมื่อข้อมูล ความรู้ ความเข้าใจและความคิดเห็น ต่างกัน
หรือขัดกันด้วยทิฎฐิ
อกุศลจิต วจีทุจริตก็จะตามมา
ยิ่งตอบก็เหมือนช่วยเติมเชื้ออกุศลจิต หรืออยู่ในวงจรการก่อวจีทุจริต กับคนหมู่มาก

เลี่ยงการโต้ตอบได้ก็ดีครับ

ได้ ไม่คุ้มเสีย

ด้วยความปรารถนาดีครับ

________________________.jpg
ภาพประกอบ พุทธวจนะ โดย คุณ ต่อmcu
Sadhu.gif



#184707 ใครมี หนังสือ อยู่กับยาย บ้าง

โพสต์เมื่อ โดย Dd2683 บน 11 November 2010 - 08:37 PM ใน เว็บบอร์ด DMC

Sadhu.gif

เมื่อไรไปวัด ลองหาซื้อ ร่วมบุญที่จุดจำหน่าย หรือตามบูท ต่าง ๆ ครับ




#184631 อึ้ง! คิวจองกฐินวัดปากน้ำนานกว่า 397 ปี

โพสต์เมื่อ โดย Dd2683 บน 10 November 2010 - 09:51 PM ใน เว็บบอร์ด DMC

เสริมข่าวจาก คม ชัด ลึก ครับ

ฮือฮาคิวจองกฐินพระราชทานวัดปากน้ำยาวเป็นหางว่าวถึง ปี พ.ศ.2950
ต้องจองล่วงหน้าถึง 397 ปี


ผช.เจ้าอาวาสเผย ประธานปีนี้ต้องจองล่วงหน้าถึง 36 ปี เตรียมนำปัจจัยที่ได้สร้าง “พระมหาเจดีย์รัชมงคล”
....

เมื่อ วันที่ 9 พฤศจิกายน พระครูพิทักษ์วรานุรักษ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เปิดเผยว่า
จากการตรวจสอบรายนามพุทธศาสนิกชนที่มาจองเป็นประธานพิธีถวายผ้าพระกฐินพระ ราชทานที่วัดปากน้ำ
พบว่ามีผู้ที่มีจิตศรัทธามาจองเป็นประธานไปจนถึงปี พ.ศ.2950

กล่าวคือ มีการจองเป็นประธานล่วงหน้าไปถึง 397 ปี
สำหรับประธานในการถวายผ้าพระกฐินพระราชทานประจำปี 2553 นี้
คือ น.ส.ชูชีพ กาญจนวัฒน์ ซึ่งได้จองล่วงหน้านานถึง 36 ปี
และได้มีพิธีในการถวายผ้าพระกฐินพระราชทานไปแล้วในวันที่ 7 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
มีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ เป็นประธานในพิธี
ซึ่งสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ระบุว่า ทุนทรัพย์ที่ได้จะใช้ในการสร้างพระมหาเจดีย์มหารัชมงคลต่อไป

สำหรับ การดำเนินการขอพระราชทานผ้าพระกฐินจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาทอดถวายพระสงฆ์ที่จำพรรษานั้น
ได้เริ่มดำเนินการมาหลังจากพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดปากน้ำมรณภาพไป 2 ปี
คือตั้งแต่ปี พ.ศ.2504 จนถึงปัจจุบันก็เป็นปีที่ 49 แล้ว

ด้าน น.ส.ตรีธา เนียมขำ นายกสมาคมศิษย์หลวงพ่อวัดปากน้ำ กล่าวว่า
ในปีนี้นอกจาก น.ส.ชูชีพ กาญจนวัฒน์ ที่ได้เป็นประธานในการถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน
หลังจากจองล่วงหน้ามา 36 ปีแล้ว ยังมีผู้ที่ประสงค์จะเป็นประธานร่วมอีกจำนวน 1,082 ราย
แยกเป็นประธานตลอดชีพจำนวน 592
ราย ประธานเฉพาะปีจำนวน 490 ราย และกรรมการจำนวน 1,201 ราย

ที่มา http://www.komchadlu...il/20101109...



#184630 ใครจะมาเร็วหรือมาช้าไม่สำคัญ

โพสต์เมื่อ โดย Dd2683 บน 10 November 2010 - 09:42 PM ใน เว็บบอร์ด DMC

อนุโมทนาในธรรม ขอรับ
Sadhu.gif



#184628 จับดี ชี้ขุมทรัพย์

โพสต์เมื่อ โดย Dd2683 บน 10 November 2010 - 09:35 PM ใน บทความดี๊ดี ... จากสมาชิก

เสริมคติธรรมที่เกี่ยวข้องจาก หนังสือ ส่องธรรม ล้ำภาษิต เล่ม ๒
ในกระทู้
จับผิด จับดี, คนพาลมีความเพ่งโทษเป็นกำลัง by นักเรียนอนุบาล answer Sadhu.gif
http://www.dmc.tv/fo...showtopic=24139

จับผิด จับดี
อุชฺฌตฺติพลา พาลา นิชฺฌตฺติพลา ปณฺฑิตา
คนพาลมีความเพ่งโทษเป็นกำลัง
บัณฑิตมีความไม่เพ่งโทษเป็นกำลัง
(องฺ. อฏฺฐกฺ ๒๓/๒๒๗)

บางคนแสวงหาความดีใส่ตนด้วยการจ้อง
“จับผิด” ผู้อื่น จ้อง “ติติง” ผู้อื่นอยู่เสมอ
นั่นไม่ใช่วิสัยของคนดี และสิ่งนั้นก็ไม่ใช่ความดี
สังเกตที่ใจ ยิ่งจับผิด ยิ่งเพ่งโทษ ยิ่งติติง ยิ่งทุกข์ร้อน
ความทุกข์ร้อนเกิดขึ้นในใจผู้นั้นก่อน เสมือนจับกองไฟ
เผาไหม้ตัวเอง เห็นกองไฟเมื่อใดเป็นต้องไขว่คว้าเข้าหาตัวเมื่อนั้น
ใจจึงอุดมไปด้วยไฟ แล้วความสุขใจจะบังเกิดขึ้นได้อย่างไร

ผู้เป็นบัณฑิตจึงไม่ติทุกเรื่อง ไม่ติทุกอย่าง ไม่ติทุกเวลา
ติเท่าที่จำเป็น ติเป็นบางเรื่อง ติเป็นบางอย่าง ติบางเวลา

และที่สำคัญที่สุด จะติเมื่อเกิดประโยชน์เท่านั้น

บัณฑิตจะพยายามไม่เพ่งโทษใคร ไม่คอยจับผิดใคร

ตรงกันข้ามบัณฑิตจะคอยเพ่งโทษตัวเอง จับผิดตัวเอง
จับดีผู้อื่นอยู่เป็นนิจ เหมือนถอนวัชพืชออกจากใจ
นำดอกไม้ภายนอกมาปลูกไว้กลางใจ

ในใจของบัณฑิต จึงอุดมไปด้วยบุปผานานาพรรณ
หอมฟุ้ง อบอวล สวยสด งดงาม ตลอดเวลา

จับแต่ผิด มีสิทธิ์จับ แต่กลับผิด
พาลมีฤทธิ์ เพราะจับผิด เก่งนักหนา
จับแต่ผิด เลิกเถอะนะ เสียเวลา
กลับกายา กลับจิตใจ จับดีเอย



#184627 จับผิด จับดี

โพสต์เมื่อ โดย Dd2683 บน 10 November 2010 - 09:32 PM ใน บทความดี๊ดี ... จากสมาชิก

Sadhu.gif

ขอนำไปเสริมกระทู้เก่าที่เกี่ยวข้องด้วยนะครับ



#184576 แปลเรื่องน้องแอมเสร็จแล้ว

โพสต์เมื่อ โดย Dd2683 บน 09 November 2010 - 09:39 PM ใน เว็บบอร์ด DMC

Sadhu.gif



#184575 ความคิดของคนเรา มีผลต่อธรรมชาติอย่างไร?

โพสต์เมื่อ โดย Dd2683 บน 09 November 2010 - 09:10 PM ใน วิทยาศาสตร์ทางใจ

เสริมแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องจาก youtube ครับ

http://www.youtube.c...r... Emoto&aq=f

Interview Dr.Masaru Emoto
http://www.youtube.c...feature=related

Dr.Masaru Emoto - The Healing power of water
http://www.youtube.c...feature=related

Water Crystals and Emotion
http://www.youtube.c...feature=related

Water, Consciousness & Intent: Dr. Masaru Emoto


crystall of water
http://www.youtube.c...feature=related










#184571 การสังคายนาพระไตรปิฎก

โพสต์เมื่อ โดย Dd2683 บน 09 November 2010 - 08:47 PM ใน ธรรมกถึก

ค้นเจอข้อมูลที่ เวบมหาจุฬาราชวิทยาลัย
เชิญศึกษา พิจารณาครับ

เนื่องจากมีเนื้อหามาก ขอคัดลอกมาบางส่วน และไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาที่เป็นแบบฟอร์ม

ประวัติการสังคายนาพระไตรปิฎกบาลี

พระเมธีรัตนดิลก คณะพุทธศาสตร์

บทนำ

“สังคายนา” หรือ “สังคีติ” คือการจัดระเบียบหลักคำสอนไว้เป็นหมวดหมู่ สะดวกแก่การจดจำนำไปอ้างอิงนั้น

มีมาตั้งแต่สมัยที่พระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่แล้ว ปรากฏหลักฐานในปาสาทิกสูตรและสังคีติสูตร ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค

มีใจความสรุปได้ว่า เมื่อพระพุทธเจ้าประทับอยู่ที่นรปาวาของเจ้ามัลละ พร้อมด้วยพระสงฆ์ประมาณห้าร้อยรูป นิครนถ์นาฏบุตร

หรือเป็นที่รู้จักกันว่า มหาวีระ สาสดาของศาสนาเชนได้ดับขันธ์ลงที่เมืองปาวานั้น

พวกสาวกนิครนถ์ เกิดความแตกแยกทะเลาะวิวาทโจมตีกันเอง

ด้วยเหตุที่ยึดถือปฎิบัติและแปลความธรรมวินัยของศาสดาที่เพิ่งจะล่วงลับไม่ ตรงกัน

ปา สาทิกสูตรเล่าว่า ท่านพระจุนทะปรึกษากับพระอานนท์ แล้วพากันไปเฝ้าพระพุทธเจ้า

ทรงแนะนำให้รวบรวมธรรมภาษิตของพระองค์เพื่อให้ พรหมจรรย์ตั้งอยู่ยั่งยืน

ส่วน ในสังคีติสูตรบันทึกไว้ว่า ท่านพระสารีบุตรก็ได้ปรารภเหตุการณ์อันน่าเศร้าสลดใจครั้งนี้

จึงพูดกับพระสงฆ์ให้ดูเป็นบทเรียน และว่าควรสังคายนาจัดหมวดหมู่พระธรรมวินัยไว้ให้เป็นหลักฐาน

เพื่อให้พระสาสนาไม่วิปริตและดำรงอยู่ได้นานแม้องค์พระศาสดาจะปรินิพพานแล้ว ท่านได้แสดงไว้ให้ดูเป็ฯอตัวอย่าง

โดยเริ่มตั้งแต่ธรรมที่มีองค์ประกอบเดียว (สงฺคีติเอกก)

ได้แก่การที่สัตว์ทั้งหลายดำรงชีพอยู่ได้ด้วยอาหาร จนถึงธรรมที่มีองค์ประกอบ ๑๐ (สงฺคีติทสก) เช่น อเสกขธรรม ๑๐ คือ

อเสกฺขา สมฺมาทิฏฺฐิ ฯลฯ สมฺมาญาณํ อเสกฺขา สมฺมาวิมุตฺติ เป็นต้น

ความทราบถึงพระบรมศาสดา ก็ทรงเห็นชอบด้วย และทรงอนุโมทนาสาธุการ นับได้ว่า

เป็นต้นแบบแห่งการสังคายนาพระธรรมวินัย


ปฐมสังคายนา : สังคายนาครั้งที่ ๑

มีความเป็นมาในสมันตปาสาทิกา อรรถกถาพระวินัยโดยสรุปว่า ภายหลังพุทธปรินิพพานแล้วได้ ๒๑ วัน

คือเสร็จจากวันถวายพระเพลิงพุทธสรีะแล้ว พระมหากัสสปะได้ประชุมพระสงฆ์จำนวน ๗๐๐,๐๐๐ รูป

ที่มาร่วมถวายพระเพลิงที่เมืองกุสินารา

โดยปรารภถึงถ้อยคำดูหมิ่มพระบรมศาสดาและพระธรรมวินัยของพระสุภัททะซึ่งบวชเมื่อแก่

ได้กล่าวห้ามปรามพระสงฆ์ปุถุชนที่เศร้าโศกเมื่อพระศาสดาปรินิพพานว่า อย่าได้เศร้าโศกเสียใจกันไปเลย

บัดนี้พวกเราพ้นจากพระมหาสมณะพระองค์นั้นแล้ว แต่ก่อนพวกเราถูกพระองค์เบียดเบียนว่ากล่าว

ห้ามปรามเสมอว่า นี้ควรแก่เธอ นี้ไม่ควรแก่เธอ ที่นี้พวกเราทำได้ตามใจปรารถนาแล้ว

พระเถระมีความสังเวชว่า พระศาสดาเพิ่งปรินิพพานได้เพียง ๗ วัน ยังมีภิกษุอลัชชีมากล่าวย่ำยีพระธรรมวินัยได้ถึงปานนี้

หากไม่รีบแก้ไขสืบไปภายหน้าเมื่ออธรรมวาที วินยวาที มีพวกมากขึ้น

ก็จะมีกำลังทำลายพระพุทธศาสนาให้เสื่อมลงโดยเร็ว

พระมหากัสสปะจึงชักชวนพระสงฆ์เหล่านั้นให้ช่วยกันสังคายนาพระธรรมวินัย มีวัตถุประสงค์โดยสรุป คือ

๑. ป้องกันพวกอลัชชี มาย่ำยีพระศาสนาด้วยเข้าใจว่า ปาพจน์ย่อมสิ้นไปพร้อมกับองค์พระศาสดา

๒. ประกาศให้ทราบว่า พระศาสนายังดำรงอยู่ตราบเท่าที่พระธรรมวินัยยังมีผู้ศึกษา

และถือปฏิบัติอยู่ ตามหลักการที่พระพุทธเจ้าตรัสให้ถือพระธรรมวินัยแทนองค์พระศาสดา

๓. ป้องกันพวกอธรรมวาที อวินยวาที ได้พรรคพวกแล้ว มีกำลังเบียดเบียนพวกธรรม วาที วินยวาทีในอนาคต

ที่ประชุมสงฆ์ได้เห็นชอบด้วย แล้วมอบหมายให้พระมหากัสสปะเถระคัดเลือกพระอรหันตขีณาสพ

ผู้มีอภิญญาเพียบพร้อมด้วยปฏิสัมภิทา ทรงพระไตรปิฎก

ซึ่งส่วนมากพระผู้มีพระภาคทรงตั้งไว้ในตำแหน่าเอตทัคคะ จำนวน ๔๙๙ รูป

หย่อนจำนวน ๕๐๐ ไว้รูปหนึ่ง เพื่อให้โอกาสแก่พระอานนท์

เพราะเล็งเห็นว่าการสังคายนาครั้งนั้นเว้นพระอานนท์เสีย ก็จะทำให้ขาดความสมบูรณ์

เพราะท่านเป็นดุจคลังแห่งสัทธรรม ทรงจำคำสอนของพระศาสดาไว้มาก

แต่หากจะเลือกท่านเข้าในจำนวนพระสังคีติการก ๕๐๐ รูป

ในขณะนั้นก็ยังขาดคุณสมบัติที่สำคัญ คือท่านยังเป็นพระเสขบุคคลยังมิได้บรรลุอรหัตผล

ที่ประชุมจึงมีมติให้หย่อนจำนวน ๕๐๐ ไว้ ๑ รูป

เพื่อรอให้พระอานนท์เป็นพระอริยบุคคลโดยสมบูรณ์ แล้วเข้าร่วมเป็นพระสังคีติกาจารย์ด้วย

เมื่อ ที่ประชุมสงฆ์ได้ตกลงกันที่จะทำสังคายนาที่กรุงราชคฤห์ เพราะสมบูรณ์ด้วยน้ำและโคจรคาม

พระมหากัสสปะจึงสวดญัตติทุติยกรรมวาจาประกาศห้ามพระสงฆ์นอกจากที่ได้รับเลือกเข้าทำสังคายนามิให้เข้าจำพรรษา ณ พระนครนั้น

เพื่อเกียจกันมิให้วิสภาคบุคคลเข้าไปขัดขวางให้เสียพิธี

ครั้นแล้วพระมหากัสสปเถระและพระอนุรุทธเถระได้พาพระสงฆ์จำนวน ๔๙๙ รูป

ผู้ได้รับเลือกเป็นพระสังคีติกาจารย์เดินทางไปยังพระนคราชคฤห์

ส่วนพระอานนท์พุทธอนุชาได้นำบาตจีวรพุทธบริโภคเดินทางไปยังพระเชตวัน กรุงสาวัตถี ที่ประทับเดิม

เพื่อชำระปรับปรุงพระคันธกุฎีดุจดังเวลาที่ยังทรงพระชนม์อยู่ เมื่อได้เวลาจะเข้าพรรษาจึงเดินทางมาพระนครราชคฤห์

ที่กรุงราชคฤห์มหานคร คณะสงฆ์ได้เข้าเฝ้าถวายพระพรขออุปถัมภ์ในการสังคายนาจากพระเจ้าอชาตศัตรู

ซึ่งก็ได้พระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์ ด้านอาณาจักรอย่างสมบูรณ์

โดยทรงปฏิสังขรณ์วัดใหญ่ (มหาวิหาร) ๑๘ แห่งในพระนครราชคฤห์ และทรงให้สร้างมณฑปสำหรับทำสังคีติกรรม

ณ ประตูถ้ำสัตตบรรณคูหา เชิงเขาเวภารบรรพตถวาย


ครั้นถึงกาลกำหนดจะทำสังคายนา พระสงฆ์ทั้ง ๔๙๙ รูป ได้ประชุมกัน ณ มณฑปศาลาแล้ว กล่าวกันว่า

พระอานนท์ได้บรรลุอรหันตผลในคืนก่อนถึงกำหนดการสังคายนา

และเพื่อประกาศให้ที่ประชุมสงฆ์ทราบว่า ท่านเป็นอเสขบุคคล ทรงอภิญญาจึงแสดงอภิญญาดำดินมาโผล่ตรงอาสนะที่จัดไว้สำหรับท่าน

ที่ประชุมได้ตกลงกันมอบหมายให้พระมหากัสสปเถระเป็นประธาน ทำหน้าที่สอบถามพระธรรมวินัย

ให้พระอุบาลีเถระผู้เป็นเอตทัคคะในด้านพระวินัย ทำหน้าที่วิสัชนาในเรื่องที่เกี่ยวกับพระวินัย

ให้พระอานนท์พุทธอนุชาผู้ได้ชื่อว่าเป็นคลังแห่งพระสัทธรรม เพราะทรงจำคำสอนของพระศาสดาไว้ได้มาก เป็นผู้วิสัชนาพระธรรม

ทั้งพระสูตร และพระปรมัตถาภิธรรม และตกลงให้สังคายนาพระวินัยก่อนเป็นอันดับแรก

เพราะพระวินัยเป็นแก่นหรือเป็นรากแก้วของพระศาสนา แล้วจึงสังคายนาพระสุตตาภิธรรม เมื่อสังคายนาแต่ละปิฎกจบลง

พระสงฆ์สังคีติภาณกาจารย์ได้ท่องจำและสังวัธยายปิฎกนั้น ๆ โดย มุขปาฐะ

การสังคายนาครั้งนั้น ได้กระทำด้วยวิธีนี้ เป็นเวลา ๗ เดือน จึงจบสิ้น

ผลแห่งการสังคายนา


คัมภีร์สมันตปาสาทิกา อรรถกถาวินัยได้บรรยายว่า

พระสังคีติภาณกาจารย์ได้จัดหมวดหมู่พระธรรมวินัยออกเป็น ๓ หมวดใหญ่ เรียกว่า “ปิฎก” คือ

๑.
พระวินัยปิฎก ประมวลพระพุทธพจน์ส่วนวินัย

๒.
พระสุตตันตปิฎก ประมวลพระพุทธพจน์ส่วนพระสูตร

๓.
พระอภิธรรมปิฎก ประมวลพระพุทธพจน์ส่วนพระปรมัตถ์

พระวินัยปิฎก แบ่งออกเป็นภาคใหญ่ ๆเรียกว่า “ วิภังค์ “ คือ

- ภิกขุวิภังค์ ข้อบัญญัติเกี่ยวกับพระภิกษุ

- ภิกขุณีวิภังค์ ข้อปฏิบัติเกี่ยวกับภิกษุณี


รายละเอียดอื่นเชิญแวะไปที่
http://www.mcu.ac.th/mcutrai/menu2/Article/article_23.htm