ถ้ามีคนมาถามว่า ปล่อยปลาแล้วทำไมยังกินปลาอยู่ คุณจะตอบว่ายังไง

ปล่อยปลาแล้วทำไมยังกินปลา
เริ่มโดย usr28872, May 10 2009 12:03 AM
มี 11 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 10 May 2009 - 12:03 AM
#2
โพสต์เมื่อ 10 May 2009 - 12:16 PM
ก็ตอบไปว่าเราซื้อมากิน ไม่ได้ฃ่ามากิน ตอบสั้นๆแค่นี้ครับ แล้วก็นิ่งเฉยทำใจนิ่งๆ
#3
โพสต์เมื่อ 10 May 2009 - 09:21 PM
ชอบคำตอบจังค่ะ สั้น แต่ได้ใจความ
#4
โพสต์เมื่อ 10 May 2009 - 10:25 PM
เราปล่อยปลา เพื่อ ให้ชีวิต
เรากินเฉพาะปลาที่ไร้ชีวิต(ซาก)...ซึ่งเราไม่เห็น ไม่ได้ยิน ไม่รู้ถึง...การสั่งพรากชีวิตของปลาตัวนั้น :'(
...ไม่เพียงแต่ปลาเท่านั้น...สัตว์เลี้ยงอื่นๆก็เช่นกัน...
...เพราะเราต้องการเพียงซากไร้ชีวิตเหล่านั้นมาดำรงชีพ...ไม่ปรารถนาเบียดเบียนสัตว์ใดๆ

เรากินเฉพาะปลาที่ไร้ชีวิต(ซาก)...ซึ่งเราไม่เห็น ไม่ได้ยิน ไม่รู้ถึง...การสั่งพรากชีวิตของปลาตัวนั้น :'(
...ไม่เพียงแต่ปลาเท่านั้น...สัตว์เลี้ยงอื่นๆก็เช่นกัน...
...เพราะเราต้องการเพียงซากไร้ชีวิตเหล่านั้นมาดำรงชีพ...ไม่ปรารถนาเบียดเบียนสัตว์ใดๆ

ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC
#5
โพสต์เมื่อ 11 May 2009 - 06:11 PM
ขออธิบายเพิ่มเติมจากทุก ๆ ท่านดังนี้นะคะ
ว่า ทำไมปล่อยปลาแล้วยังกินปลา ? พระเดชพระคุณหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่เคยพูดไว้ในโรงเรียนอนุบาลฯค่ะว่า.....
เมื่อเราปล่อยปลาไปแล้ว บุญย่อมจะเป็นของเรา เพราะเราได้ให้ชีวิตแก่สัตว์เหล่านั้นไปแล้ว เราปล่อยเค้าออกจากที่คุมขังให้เค้าได้มีชีวิตอิสระ เราจะได้บุญส่วนนั้น (อุปมาเหมือนกับว่า เราถูกกักขังไว้ แล้วมีคนมาปล่อยเราออกไป เค้าคนนั้นก็ได้บุญ เนื่องจากเค้าทำให้เรามีอิสระ) และเมื่อหลังจากปล่อยไป ปลาเหล่านั้นโดนจับ โดยบุคคลอื่นที่ไม่ใช่เรา ไม่ว่าจะนำไปขายเพื่อฆ่า หรือนำไปฆ่า หรือประกอบอาหาร ส่วนนั้นก็เป็นกรรมใหม่ของบุคคลนั้น ไม่เกี่ยวกับเรา เพราะเราได้ทำหน้าที่ให้ชีวิตพวกมันเสร็จสิ้นลงแล้ว เราได้ทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้ว ได้บุญตรงส่วนนั้นไปแล้ว และถ้าเราจะกินปลา โดยเราไม่รู้เลยว่าปลานั้นถูกฆ่ามาเพื่อเรา ไม่รู้ที่มาของการฆ่า ไม่ได้ยินว่าผู้นำมาให้ฆ่ามาเพื่อเราโดยเฉพาะ เราก็ไม่บาปอะไรค่ะ เนื่องจากเราไม่รู้นี่คะว่าปลาเหล่านั้นตายเอง หรือมีผู้ใดทำร้าย เมื่อมันตายแล้วเราไปซื้อ ตัวเราไม่ได้เป็นผู้ฆ่า ดังนั้นก็เป็นการเสียทรัพย์ เพื่อไม่ให้เราเสียศีลนั่นเองค่ะ
อันนี้จำคุณครูไม่ใหญ่ท่านมาบอกเล่ากันนะคะ
ว่า ทำไมปล่อยปลาแล้วยังกินปลา ? พระเดชพระคุณหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่เคยพูดไว้ในโรงเรียนอนุบาลฯค่ะว่า.....
เมื่อเราปล่อยปลาไปแล้ว บุญย่อมจะเป็นของเรา เพราะเราได้ให้ชีวิตแก่สัตว์เหล่านั้นไปแล้ว เราปล่อยเค้าออกจากที่คุมขังให้เค้าได้มีชีวิตอิสระ เราจะได้บุญส่วนนั้น (อุปมาเหมือนกับว่า เราถูกกักขังไว้ แล้วมีคนมาปล่อยเราออกไป เค้าคนนั้นก็ได้บุญ เนื่องจากเค้าทำให้เรามีอิสระ) และเมื่อหลังจากปล่อยไป ปลาเหล่านั้นโดนจับ โดยบุคคลอื่นที่ไม่ใช่เรา ไม่ว่าจะนำไปขายเพื่อฆ่า หรือนำไปฆ่า หรือประกอบอาหาร ส่วนนั้นก็เป็นกรรมใหม่ของบุคคลนั้น ไม่เกี่ยวกับเรา เพราะเราได้ทำหน้าที่ให้ชีวิตพวกมันเสร็จสิ้นลงแล้ว เราได้ทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้ว ได้บุญตรงส่วนนั้นไปแล้ว และถ้าเราจะกินปลา โดยเราไม่รู้เลยว่าปลานั้นถูกฆ่ามาเพื่อเรา ไม่รู้ที่มาของการฆ่า ไม่ได้ยินว่าผู้นำมาให้ฆ่ามาเพื่อเราโดยเฉพาะ เราก็ไม่บาปอะไรค่ะ เนื่องจากเราไม่รู้นี่คะว่าปลาเหล่านั้นตายเอง หรือมีผู้ใดทำร้าย เมื่อมันตายแล้วเราไปซื้อ ตัวเราไม่ได้เป็นผู้ฆ่า ดังนั้นก็เป็นการเสียทรัพย์ เพื่อไม่ให้เราเสียศีลนั่นเองค่ะ
อันนี้จำคุณครูไม่ใหญ่ท่านมาบอกเล่ากันนะคะ
#7
โพสต์เมื่อ 12 May 2009 - 02:48 AM
อย่างนี้ก็น่าจะอยู่กลุ่มเดี่ยวกับการกินเจ ...... กินได้ก็ดี แต่ถ้าไม่สะดวกทำก็ไม่เป็นไร
แต่ปล่อยปลา เป็นการให้้ชีวิตเป็นทาน ....... น่ากระทำอย่างยึ่ง
แต่ปล่อยปลา เป็นการให้้ชีวิตเป็นทาน ....... น่ากระทำอย่างยึ่ง
#8
โพสต์เมื่อ 12 May 2009 - 08:11 AM
สนับสนุนความคิดเห็นคุณ sphere ค่ะ
#9
โพสต์เมื่อ 12 May 2009 - 09:55 AM
เพิ่มเติมทัศนคติที่ว่า "ควรกินเจ หรือมังสวิรัติ เพราะการกินเจ ทำให้ลดการฆ่า "
ได้มีโอกาสฟังคำตอบจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตชีโว ท่านได้ตอบให้คลายสงสัยว่า
"หากกินเพราะเห็นว่ามีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะพืชผักนั้นย่อยง่ายกว่าเนื้อสัตว์ เป็นผลดีต่อสุขภาพ ท่านว่าเป็นความคิดที่ถูกต้อง
หากกินเพราะหวังว่าตัวเองจะบริสุทธ์เข้าถึงธรรมได้เพราะกินเจ ท่านว่าควายกินแต่หญ้ามานานแล้วไม่เห็นบรรลุธรรมสักกะตัวเดียว
หากกินเพราะว่าเป็นการช่วยลดการฆ่า ท่านว่า คนก็ไม่ได้กินเนื้อคน แต่ทุกวันนี้คนก็ยังฆ่ากันอยู่ทุกวัน
ดังนั้นการกินเนื้อสัตว์ที่เขาใช้เวรใช้กรรมกันโดยที่เราไม่รู้เห็นในการฆ่า ไม่ได้ฆ่าเอง ไม่ได้สนับสนุนให้ฆ่า ฯลฯ
ก็ถือว่าใช้ได้ "
ที่สำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่ากินเนื้อหรือกินเจ
แต่อยู่ที่กินเพื่อดำรงชีวิตอยู่เพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญ และสร้างบารมีต่างหากจ้า
ได้มีโอกาสฟังคำตอบจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตชีโว ท่านได้ตอบให้คลายสงสัยว่า
"หากกินเพราะเห็นว่ามีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะพืชผักนั้นย่อยง่ายกว่าเนื้อสัตว์ เป็นผลดีต่อสุขภาพ ท่านว่าเป็นความคิดที่ถูกต้อง
หากกินเพราะหวังว่าตัวเองจะบริสุทธ์เข้าถึงธรรมได้เพราะกินเจ ท่านว่าควายกินแต่หญ้ามานานแล้วไม่เห็นบรรลุธรรมสักกะตัวเดียว
หากกินเพราะว่าเป็นการช่วยลดการฆ่า ท่านว่า คนก็ไม่ได้กินเนื้อคน แต่ทุกวันนี้คนก็ยังฆ่ากันอยู่ทุกวัน
ดังนั้นการกินเนื้อสัตว์ที่เขาใช้เวรใช้กรรมกันโดยที่เราไม่รู้เห็นในการฆ่า ไม่ได้ฆ่าเอง ไม่ได้สนับสนุนให้ฆ่า ฯลฯ
ก็ถือว่าใช้ได้ "
ที่สำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่ากินเนื้อหรือกินเจ
แต่อยู่ที่กินเพื่อดำรงชีวิตอยู่เพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญ และสร้างบารมีต่างหากจ้า
#10
โพสต์เมื่อ 13 May 2009 - 12:34 PM
ผมเองก็หาโอกาสกินเจอยู่เป็นระยะๆ ครับ เพราะแก่แล้ว ร่างกายรู้สึกระบบขับถ่ายต่างๆ เริ่มรวนเร สังเกตุตัวเองเลยว่า ช่วงไหนทานเนื้อสัตว์มากๆ จะย่อยยาก ท้องผูก ทรมาณพอดูทีเดียว แต่ช่วงไหนทานผักมากๆ รู้่สึกไม่อึดอัด เบาสบายตัวครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร
#11
โพสต์เมื่อ 13 May 2009 - 09:17 PM
อ๋อ...เข้าใจแล้วครับ....
ถ้าเราไม่ได้อยู่ในวงจรการฆ่า...ก็เท่ากับเราปลอดภัยแล้วครับ.....สาธุ
ถ้าเราไม่ได้อยู่ในวงจรการฆ่า...ก็เท่ากับเราปลอดภัยแล้วครับ.....สาธุ
#12
โพสต์เมื่อ 17 May 2009 - 07:01 PM
ที่ปล่อยปลาเพราะสงสารมันและอยากทำบุญนะคับ ที่กินปลาก็เพราะมันอร่อยนะคับ ถ้าไม่อร่อยก็คงไม่กิน และถ้ามันมีอะไรสักอย่างหนึ่งซึ่งไม่ใช่เนื้อสัตว์ และมีคุณค่าทางอาหารเทียบเท่าเนื้อสัตว์ หากินง่ายไม่ยุ่งยาก รสชาติอร่อย และราคาไม่แพง ผมก็จะไม่กินปลาหรือเนื้อสัตว์คับ