ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

รสธรรมะ ชนะรสทั้งปวง


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 17 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 คนรักบุญู

คนรักบุญู
  • Members
  • 203 โพสต์

โพสต์เมื่อ 29 May 2008 - 12:37 PM

[/center]รสธรรมะ ชนะรสทั้งปวง


สพพรสํ ธมมรโส ชินาติ

-ธรรมบท ขุกกกนิกาย-

รสธรรมชำนะรส อื่นปวง

ภาษิตอันนี้ควร วิเคราะห์

ธรรมะประดิษฐ์ดวง ใจมั่น

จึ่งนับว่าเป็นเหมาะ จิตสมาน



อาหารรสย่อมให้ ชวนชิม

แต่ก็พอเคี้ยวไป สิ้นรส

รสเพียงแต่ชวนลิ้ม บ่ยั่ง ยืนนา

กว่าจะกลืนก็หมด รสทราม

อีกกามท่านก็เปรียบ ว่ารส

ชวนเพ่งฟังดมชิม สัมผัส

พอเริ่มเสพเริ่มหมด อร่อย พลันพ่อ

เป็นแน่ฉะนี้ชัด อย่าฉงน

คนหลงกามรสต้อง เสียใจ

เพราะสิ่งซึ่งต้องตรา จางจืด

เสียงเสนาะโสตฟังไป ชวนเบื่อ

กลิ่นรสมิช้าชืด หมดหวาน

การเสพธรรมรสไซร้ ไป่มี

ที่จะต้องเสียใจ สักเทื้อ

เริ่มเสพก็ยินดี อยากเสพ อีกนา

เสพเสร็จก็สุขเมื้อ ไม่วาย

สบายกายบ่แม้น สบายจิตเลย

กายกระทบร้อนเย็น เดือดร้อน

จิตสุขสุขบ่วาย ความสุข

สุจริตช่วยซ้อน สุขเสริม

เริ่มเรียนธรรมะแล้ว อย่าทอด ทิ้งเลย

หมั่นศึกษาเข้าใจ ให้มาก

ธรรมะจะคุ้มปลอด ปวงทุกข์ พ่อเอย

คงจะได้ปราศจาก ขุกเข็ญฯ

[center]
-พระราชนิพนธ์ใน รัชกาลที่ ๖-

#2 DJ.

DJ.
  • Members
  • 1212 โพสต์

โพสต์เมื่อ 29 May 2008 - 03:19 PM

สาธุ...บทกวี...ลางชาง...ยิ่งนัก...

กาม...ยิ่งเสพ...ยิ่งเซ็ง!!!

ธรรม...ยิ่งเสพ...ยิ่งซึ้ง...

#3 ศรีวยาฆร

ศรีวยาฆร
  • Members
  • 184 โพสต์

โพสต์เมื่อ 30 May 2008 - 07:53 AM

มีโคลงมาร่วมสร้างบรรยากาศกวีครับ

อนิจฺจา วต สงฺขารา _____อุปฺปาทวยธมฺมิโน
อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนฺติ ___เตส วูปสโม สุโขติ ฯ


smile.gif ของปรุงของแต่งแท้----เที่ยงไฉน
เกิดอยู่ย่อมเสื่อมไป---------เปล่าแท้
เกิดแล้วแต่จักไคล----------คราดับ
ใดสงบปรุงแต่งแล้----------สุขล้ำธรรมดา

smile.gif ชอบใดแก่ชีพนี้---------ยึดถือ
น้อยหนึ่งแต่จะหือ-----------ห่อนได้
ยินใดแค่คำลือ--------------คำล่อ ลวงนา
กายสลายชีพไร้-------------รับรู้อยู่เห็น

smile.gif เป็นคนเป็นสัตวเพี้ยง-----เพื่อนทุกข
อย่ายกตนข่มเขา------------ว่าร้าย
ดีชั่วเล่นสนุก----------------ในโลก ลืมตาย
ต่างจากแต่คล้ายย้าย--------ต่างกรรม์

smile.gif ก่อนนอนวอนไหว้กราบ---แก้วสาม
เป็นมิ่งเป็นขวัญตน-----------ก่อนแล้ว
ถือประทีปชีพตาม------------ทางกลับ
ฝึกกว่าได้กล้าแกล้ว----------เกลศไกล

smile.gif ประเวณีเวี่ยไว้-----------วัจนกวี
รจนาพาที-------------------ปราชญพร้อง
ทำใดจะดูดี-----------------ดาย บ ได้นา
เดียวบทแต่ใจต้อง----------ต่อให้เห็นสม

ศรีวยาฆร ประพันธ์.


#4 DJ.

DJ.
  • Members
  • 1212 โพสต์

โพสต์เมื่อ 30 May 2008 - 09:17 PM

อันกำกง กำเกวียน ย่อมเวียนผัน

หมุนตามกัน เป็นวง อย่าสงสัย

ชีวิตคน วนเวียน ย่อมเปลี่ยนไป

อุปมัย กำเกวียน ที่เวียนวน

#5 ศรีวยาฆร

ศรีวยาฆร
  • Members
  • 184 โพสต์

โพสต์เมื่อ 31 May 2008 - 09:13 AM

ชอบมากครับ มาต่อเพิ่มเติมครับ

-----เห็นธรรม-----

happy.gif ลมหนาวเย็นยะเยือก
ชีวิตเลือกคิดถึงสิ่งไหน
ชายสมุทรขอบฟ้าแสนไกล
เสียงคลื่นคลาไคลโครมคราม

happy.gif เดือนสิบสองน้ำนองเต็มฝั่ง
นั่งคิดความหลังถึงขวากหนาม
ท้องฟ้าวันนี้สีคราม
แสงทองอร่ามยามงาย

happy.gif ริมฝั่งพระสมุทร
ชีวิตประดุจฝันสืบสาย
คิดถึงวันสุดท้ายความตาย
ความหมายเป็นเพียงมายา

happy.gif เย็นสบายสายลมหนาว
คลื่นสีขาวต่างไคลสุดขอบฟ้า
แปซิฟิกกว้างไกลสุดสายตา
นาวาวิ่งอ้าวเข้าหลบลม

happy.gif ชีวิตผู้คนคงวนเวียน
จำเนียรซ้ำซากทับถม
ทุกแห่งทุกหนทุกข์ระทม
ความตายคงอุดมทุกที่ไป

happy.gif วันใหม่แต่ใจดวงเดิม
ชีวิตเริ่มต้นอยู่ทุกสมัย
ขณะจิตปลายทางแสนไกล
จักสิ้นสุดที่ใดใจเอย

happy.gif ลมหนาวเพิ่มหนาวเหน็บ
เมฆเก็บดวงตะวันมิเห็นเผย
มรสุมคลุมสมุทรเช่นเคย
กะไรเลยเปลี่ยนไปในพริบตา

happy.gif โลกนี้ไม่มีอะไรแน่
ผันแปรมิสิ้นสังสาร์
คิดเห็นก็เป็นอนิจจา
เกิดมาต้องพานพบสัจจริง

ศรีวยาฆร ประพันธ์



#6 DJ.

DJ.
  • Members
  • 1212 โพสต์

โพสต์เมื่อ 31 May 2008 - 09:49 PM

ฝีมือประพันธ์ " ยอดเยี่ยม " ครับ

อ่านว่า " สี วะ ยา คอน " หรือ " สี วะ ยา ฆะ ระ " ครับ

(นามปากกา) เพราะดี แปลว่าอะไรครับ ขอบคุณครับ

#7 Bruce Wayne

Bruce Wayne
  • Members
  • 184 โพสต์

โพสต์เมื่อ 01 June 2008 - 05:24 PM

น่าจะอ่านว่า ศิวจักร มากกว่านะครับ คุณ DJ smile.gif

#8 DJ.

DJ.
  • Members
  • 1212 โพสต์

โพสต์เมื่อ 01 June 2008 - 07:16 PM

Thank you very much, Khun Bruce Wayne. laugh.gif

#9 ศรีวยาฆร

ศรีวยาฆร
  • Members
  • 184 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 June 2008 - 03:52 PM

ขอบคุณสำหรับคำชมครับ(ชอบๆ)
นามปากกาของกระผม อ่านออกเสียงว่า ศรี วะ ยา คอน ขอรับ
ส่วนความหมายนั้น ศรี ในที่นี้หมายเอา ศักดิ์ศรี หรือความมีสิริ ครับ
ส่วน วยาฆร เป็นคำสันสกฤต แปลว่า เสือ ครับ มีประวัติครับ แต่จะไม่กล่าวถึงละครับ

ส่วนบทกวีนี่ผมแต่งไปตามอารมณ์ขณะนั้นๆ ละครับ
อ่านแล้วถ้าไม่ชอบใจ ก็อย่าถือสากันนะครับ
คิดเสียว่ามาร่วมสนุก บันเทิงธรรมประสาคนชอบพอฮักแพงกันครับ

--------ดาวใด-------

happy.gif อาทิตย์ อัสดง
ลับเหลี่ยมเมรุลงแล้วหนา
ลิบลิบแลลำนาวา
ขอบฟ้ารัตติกาลลานดาว

happy.gif ค่ำคืนสายลมเงียบสงัด
คลื่นซัดสาดซ่าฟองขาว
กระทบแสงจันทร์แพรวพราว
ชีวิตชั่วคราวคลาไคล

happy.gif โลกเอยโลกนี้
โลกอื่นมีบ้างหรือไม่
เรื่องราวหลากหลายเป็นไป
คล้ายกันบ้างไหมใจเรา

happy.gif ใจโลกนี้ช่างวุ่นวาย
เหตุการณ์มากมายแสนเศร้า
มนุษย์หลงในรูปเงา
ดาวเจ้าจักเป็นเช่นไร

happy.gif แหงนหน้ามองดาว
สุกสกาวทอแสงสดใส
ขอบฟ้าที่ไกลแสนไกล
นาวาปั่นไฟเป็นทิวยาว

happy.gif ชั่วชีวิต
หมู่ดาวสถิตในห้วงหาว
เห็นดั่งดวงแก้วแวววาว
ชั่วคราวยาวนานเท่ากัน

happy.gif ดึกแล้วแก้วใจเอ๋ย
ปริศนายังมิเผยเปลี่ยนผัน
ซับซ้อนซ่อนจริงเงียบงัน
ใครกันที่จักษ์แจ้งสัจจา

ศรีวยาฆร ประพันธ์.


#10 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 03 June 2008 - 08:12 PM

อนุโมทนาเจ้าของกระทู้และ กวี ศรีวยาฆร ครับ
ชอบบทรำพึงใน บทกวี ดาวใด มากครับ

#11 DJ.

DJ.
  • Members
  • 1212 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 June 2008 - 10:02 PM

ให้รางวัลที่กลับมาเฉลยคำว่า"ศรีวยาฆร"

จะแต่งกลอน ถอนพิษ ปริศนา
เพื่อสัจจา แจ้งจักษ์ ด้วยสักวา

"สักวา สว่างแล้ว แก้วใจเอ๋ย
ปริศนา ถึงคราเผย เฉลยซึ้ง
เช่นโลกอื่น รื่นสกาว ดาวดึงส์
แต่อื้ออึง ตึงตัง จึงชังจัง
ต้องดุสิต บุรีสิ ที่ผมรัก
แจ้งประจักษ์ กั๊กวงบุญ พิเศษหวัง
อีกเขตใน ใสสว่าง ณ.กลางคลัง
ใจเป็นผัง ดั่งสำเร็จ เสร็จกิจเอย"

#12 คนรักบุญู

คนรักบุญู
  • Members
  • 203 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 June 2008 - 09:27 AM

โห...ดิฉันเป็นเจ้าของกระทู้รู้สึกว่าตัวเองหง๋อยไปเลยเพราะ กลอนของคุณ ศรีวยาฆร ที่แต่งได้น่าอ่านขนาดนี้

ขอชมเชยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ



#13 ศรีวยาฆร

ศรีวยาฆร
  • Members
  • 184 โพสต์

โพสต์เมื่อ 06 June 2008 - 05:52 PM

โอ้ คุณ DJ นี่ สำนวนไม่เบาเหมือนกันนะครับ
เข้าขั้น 'ปฏิภาณกวี' ทีเดียว

happy.gif Into this Universe, and Why not knowing,
Nor Whence, like Water willy-nilly flowing;
And out of it as Wind along the Waste,
I know not whither, willy-nilly blowing.

ข้าฯเกิดมาในพิภพ, โดยไม่รู้ว่าทำไม
มาจากไหน, ดั่งสายน้ำที่ไหลไป โดยจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม
สักวันก็ต้องจากไป ดั่งสายลมที่เปล่าดาย
ไม่รู้จักสิ้นสุดที่ใด แต่ก็ต้องไปอยู่ดี.


happy.gif ฝากท่านไขปริศนาอีกสักบทขอรับ

#14 DJ.

DJ.
  • Members
  • 1212 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 June 2008 - 01:26 AM

ขอบคุณมากครับคุณศรีวยาฆรที่ชมผมว่าเป็น"ปฏิภาณกวี"ครับ

ปริศนาของคุณมี 3 วาระ
(๑) มาจากไหน(Whence)
(๒) มาทำไม(Why)
(๓) จะกลับไปไหน(Whither)

ในเมื่อคุณแปลอังกฤษเป็นไทย ผมก็จะแปลงไทยเป็นอังกฤษ
พระเดชพระคุณคุณครูไม่ใหญ่สุดรักสดบูชา ได้เคยรจนาไขปริศนาข้อที่๑นี้ไว้แล้ว
จึงขออัญเชิญมาประดับเป็นมงคล ณ. ที่นี้

"มาจากไหน"
""ดาวทิ้งฟ้า" มาอยู่ ในอู่กาย
ซ้อนเรียงราย กลายเป็น หนทางขาว
อริยะ ผุดผ่าน เส้นทางดาว
ตั้งแต่เช้า ยันค่ำ ฉ่ำชื่นใจ"

"Whence"
"Heaven stars are falling into the bodies,
Multiplication become the milky way;
Dhammakaya are rising up the star ray,
Morning stays until night, mighty mind."

#15 DJ.

DJ.
  • Members
  • 1212 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 June 2008 - 09:47 PM

ได้เห็นลายเซ็นของคุณเพชรจักรพรรดิ เจ้าของกระทู้"บัณฑิตแก้ว"
เหมาะกับเป็นคำตอบของวาระ๒ ดังนี้

"มาทำไม"
"เพราะธาตุธรรมสั่งส่งลงมาเกิด
เพราะหน้าที่อันประเสริฐทหารกล้า
เพราะรื้อสัตว์ขนสัตว์นับคณา
เพราะมารายังบัญชาเบื้องหลังเรา"

"Why"
"Because of The Born, The First One order;
Because of The Duty, The Courageous soldier;
Because of The Being, The Enlightenment of endless number;
Because of The Mara, The Top secret of the dark conductor.

#16 DJ.

DJ.
  • Members
  • 1212 โพสต์

โพสต์เมื่อ 11 June 2008 - 10:47 AM

ได้บท"กลับดุสิตบุรี" จากหนังสือ"ความตาย...ส่วนหนึ่งของชีวิต" ในงานชำระร่างพระมหาโชติญาณ สุวีโร ป.ธ.๓ (โชติญาณ สุวิชาญกุล) ประพันธ์โดย อาศรมอุบาสก

"กลับไปไหน"
"ทำหน้าที่ตราบจนลมหมดสิ้น
ทั้งชีวินกลั่นแล้วดุจแก้วใส
ทำหน้าที่อย่างสง่าก่อนจากไป
พักกายใจกลางทางดุสิตบุรี

"Whither"
Doing duty, until our good life are fall,
Meditation, until our soul are crystal;
Doing duty, extremely proud of total,
Dusit Buri, intermission resting for all.

อนุโมทนาสาธุการให้ก้องหล้า
ให้รู้ว่าน่าเทิดทูนขนาดไหน
คนรุ่นหลังต้องทุ่มเทสุดหัวใจ
เพราะสุดท้ายที่ไปคือสุดแห่งธรรม"

#17 ศรีวยาฆร

ศรีวยาฆร
  • Members
  • 184 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 June 2008 - 08:25 AM

happy.gif โอ้โฮ โอ้โฮ ความเพียรท่าน DJ นี่ ยอดเยี่ยมกระเทียมดองจริงๆ ครับ
รูปแบบบทกวีภาษา ปะกิต ก็มีความแปลกใหม่ น่าสนใจมากๆ ครับผม
กระผมขอฝากบท ‘ผู้รู้ใจ’ มาตอบเป็นบรรณาการท่านขอรับ happy.gif

-----ผู้รู้ใจ-----

happy.gif ราตรีดึกสงัด
จิตใจยิ่งสงบ
จันทร์เพ็ญยังลอยเด่นฟ้า
หมู่ดารากระพริบวิบวับ

happy.gif ข้าพเจ้าแย้มยิ้มกับเดือนดาว
ถามไถ่เรื่องราวกันและกัน
ระหว่างเราไร้ถูกผิดและดีชั่ว
สหาย ท่านช่างเจรจานัก

happy.gif อัศจรรย์อะไรเช่นนี้
การสนทนาโดยมิพักเอ่ยปาก
จากใจก็ถึงใจ
สหายรัก ในยามนี้ใครเล่าจะเข้าใจเรา

happy.gif ประหลาดไฉนหนอ
ที่ผ่านมาข้าพเจ้าเฝ้าแต่ร่ำไห้
ฟูมฟายและวุ่นวาย
สหาย ท่านกลับนิ่งเงียบเสีย

happy.gif บัดนี้ ข้าพเจ้านิ่งเงียบ
สงบอยู่ล้ำลึก
ท่านจึงยอมสนทนาเยี่ยงมิตรรู้ใจ
เช่นนี้แล้ว..ข้าพเจ้าเข้าใจแล้ว

ศรีวยาฆร ประพันธ์


#18 อริย 072

อริย 072
  • Members
  • 440 โพสต์

โพสต์เมื่อ 15 June 2008 - 01:09 AM

นั่งอ่านกระทู้ของท่านDJ ทั้งท่าน Shrivฯ แล้ว
ทำให้ค่ำคืนนี้มีแต่ อึ้ง ตะลึง ตึงๆ!!!
....So Good ...So Great ...So Impress !!
ขอได้โปรดรับข้าน้อยฯ เป็นศิษย์ด้วยเถิด ท่านนักปราชญ์ ทั้งสอง..