ของพวกนี้ ถึงจริงก็ไม่มีประโยชน์ ไม่ถูกหลักวิชชาครับ หากจะให้ถูกหลักวิชชาให้ทำแบบพระสัมมาสัมพุทธเจ้าน่ะครับ คือ การนั่งสมาธิจนจิตผ่องใส เห็นบุญบาปในตัวชนทั้งหลาย สามารถพยากรณ์อนาคตของตัวเอง หรือ คนอื่นได้
ทำไมพวกนี้ถึงไม่ถูกหลักวิชชา(สมมุติ เขม่นแล้วบอกเหตุล่วงหน้าจริง) เพราะ คาดการณ์ไม่ได้ว่าเมื่อไหร่จะเขม่น แต่หากทำสมาธิจนเห็นบุญบาปในตัวคน เมื่อนั้น อยากรู้อนาคตเมื่อไหร่ ก็สอดญาณไป ก็จะเห็นอนาคต(ตามบุญกรรม)ของคนนั้นๆ ได้ทันที
นกแสก มีทั้งแบบมาโดยบังเอิญ ดังเคสข้างล่างนี้
http://www.dmc.tv/pa...2548-03-26.htmlและก็ทั้งแบบมีเหตุจริงๆ ดังเคสข้างล่างนี้
http://www.dmc.tv/pa...2547-03-17.htmlเรื่องนกแสกนี่ก็เอาแน่เอานอนไม่ได้ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จริง เมื่อไหร่บังเอิญ ดังนั้น ฝึกวิชชาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะดีกว่าครับ เห็นจริงชัวร์ตลอด
เรื่องการตั้งความปราถนาลงมาสร้างบารมีเรื่อยๆ นั้น เป็นแนวทางเดียวกันกับพระบรมโพธิสัตว์ในกาลก่อนอยู่แล้วครับ เพราะพระบรมโพธิสัตว์ทรงทราบดีว่า ชีวิตเราตกเป็นเชลยในวัฏฏะ ดังนั้น ต้องเร่งขวนขวายสร้างบารมีให้แก่รอบ รือสัตว์ขนสัตว์ให้หมดทุกข์พบสุขแท้จริง จะไม่ยอมประมาทในความเพลิดเพลินบนสวรรค์ เป็นต้น
หมู่คณะของเรา ก็มีอุดมการณ์เฉกเช่น พระบรมโพธิสัตว์ในกาลก่อน คือ ต้องการช่วยให้สรรพสัตว์พ้นจากทุกข์ทั้งปวง ดังนั้น ก็ต้องดำเนินตามแนวทางเดียวกันครับ คือ ลงมาสร้างบารมีเป็นระยะๆ ไม่เพลิดเพลินกับความสุขในมนุษย์ หรือ สวรรค์ เป็นต้น
การที่มีคนบอกว่า หลวงปู่ลงมาเกิดแล้ว หรือไม่ก็ตาม ให้เรารับฟังไว้ แต่พิสูจน์ด้วยตัวเราเองดีกว่า คือ ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกายภายใน เดี๋ยวก็จะทราบความลับทุกอย่างของโลกและจักรวาล ด้วยตัวเราเองแหละครับ