1. ปุพเพนิวาสานุสติญาณ ระลึกชาติได้
2. จุตูปปาตญาณ มีตาทิพย์และรู้การเกิดและการตายของสัตว์โลกว่าเกิดจากเหตุอะไร
3. อาสวักขยญาณ วิชชาทำอาสวะกิเลสให้สิ้นจากกายใจ)
อภิญญา 6
1. อิทธิวิธี แสดงอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหารย์ได้
2. ทิพพโสตญาณ มีหูทิพย์ได้ยินเสียงที่มนุษย์ไม่สามารถได้ยิน
3. เจโตปริยญาณ ญาณที่ให้ทายใจคนอื่นได้
4. ปุพเพนิวาสานุสติญาณ ญาณที่ทำให้ระลึกชาติได้
5. ทิพจักขุญาณ ตาทิพย์
6. อาสวักขยญาณ ทำกิเลสอาสวะให้สิ้น
ปฏิสัมภิทาญาณ 4 ( ตามแตกฉานธรรม )
1. อัตถปฏิสัมภิทา ความเข้าใจแจ่มแจ้งในอรรถะ คือ เนื้อความ ใจความ ความหมาย ความมุ่งหมาย ผล และประโยชน์ทั้งปวงพร้อมทั้งสามารถขยายความย่อๆให้พิสดารได้
2. ธรรมปฏิสัมภิทา ความเข้าใจแตกฉานในธรรมทั้งปวงแล้ว สามารถเรียบเรียงเป็นเรื่องราว เป็นหนังสือเป็นหัวข้อเทศได้เป็นอย่างดีวิเศษ
3. นิรุตติปฏิสัมภิทา ความเข้าใจแตกฉานในภาษาพูด ภาษาเขียนให้ผู้อ่านผู้ฟังรู้เรื่อง เข้าใจได้อย่างแจ่มแจ้งชัดเจน หมดความสงสัย
4. ปฏิภาณปฏิสัมภิทา ความแตกฉาน มีไหวพริบ ฉลาดในการพูดปราศรัยการโต้ตอบปัญหาธรรม พร้อมทั้งสามารถเปรียบเทียบให้เข้าใจได้อย่างแตกฉาน ลุ่มลึก สุขุม คัมภีรภาพ
วิชชา 8 ประการ
1. มโนมยิทธิ ฤทธิ์สำเร็จด้วยใจรวมทั้งอธิษฐานนิรมิตถอดตัวกายทิพย์ออกจากกายเนื้อ ดุจชักไส้จากหญ้าปล้อง ชักดาบออกจากฝัก
2. อิทธิวิธี ความรู้ที่ทำให้แสดงฤทธิ์ได้ต่างๆ
3. ทิพโสต ญาณที่ทำให้มีหูทิพย์
4. เจโตปริยญาณ ญาณที่ทำให้สามารถ กำหนดหยั่งรู้วาระจิตคนอื่น
5. ปุพเพนิวาสานุสติญาณ ญาณอันระลึกชาติปางก่อนได้
6. จุตุปปาตญาณ ญาณที่ทำให้มีตาทิพย์ในการกำหนดที่จะรู้เรื่องการ จุติและอุบัติของสัตว์ทั้งหลาย อันเป็นไปตามกรรม และเห็นการเวียนว่ายตายเกิดของสัตว์ทั้งหลาย
7. วิปัสสนาญาณ ญาณปัญญาที่พิจารณาเห็นสังขาร คือ เห็นนามรูปในตัวเราเป็นไปโดยพระไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เมื่อฝึกไปตามลำดับเป็นขั้นๆต่อเนื่องกัน ก็จะเจริญถึง
8. อาสวักขยญาณ ญาณหยั่งรู้ ในธรรมอันเป็นที่สิ้นไปแห่งอาสวกิเลสเครื่องเศร้าหมองทั้งหลายที่หมักหมมอยู่ในจิตสันดาน
นอกจากอาสวักขญาณแล้ว ถ้าให้เลือกได้3ข้อ ท่านอยากได้ข้อไหนกันบ้างครับ???
เลือกเอาตามใจชอบกันเลย...
(แล้วไปปฏิบัติเอาเอง

