
เรื่องที่เรากำลังทำกันอย่างเร่งด่วนตอนนี้ คือ การสร้างมหารัตนวิหารคด เป็นเรื่องสำคัญ เพราะหมายถึงความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนา ประโยชน์สุขจะเกิดขึ้นกับพุทธบริษัท ๔ และมวลมนุษยชาติทั่วโลก เพราะ วันใดที่เราสร้างสำเร็จแล้วนั้นก็จะเป็นสัญญาณที่ดี แล้วสิ่งดี ๆ จะเกิดขึ้นกับโลกใบนี้ เพราะว่านับจากนั้นไป เราก็จะเตรียมการที่จะไปกราบอาราธนาพุทธบุตรหลากนิกายทั่วโลก เป็นจำนวนเรือนล้านทีเดียว มหารัตนวิหารคดเราจุได้ก็ร่วมล้าน แค่ครั้งเดียว
ไปกราบอาราธนาท่านมาเป็นเนื้อนาบุญให้กับพวกเรา กับเพื่อที่ท่านจะได้มาทำความรู้จักกัน อย่างที่หลวงพ่อได้กล่าวบ่อย ๆ การทำความรู้จักกันมีความสำคัญมาก เพราะว่าข้อวัตรปฏิบัติของพุทธบุตรนั้น มีข้อแตกต่างกันไป จากคำสอนดั้งเดิมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ความแตกต่างคือความแตกแยก หรือรวมกันได้อย่างหลวม ๆ ซึ่งมันไม่เกิดประโยชน์ต่อพุทธบริษัททั้ง ๔ และต่อชาวโลกรวมทั้งพระพุทธศาสนาด้วย
เพราะ ฉะนั้นเมื่อท่านได้มารู้จักกัน ท่านก็จะได้ ถือโอกาสมาปรึกษาหารือที่จะไปศึกษาคำสอนดั้งเดิมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อจะได้มาปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน คิดเหมือนกัน พูดเหมือนกัน ทำเหมือนกัน คล้าย ๆ ย้อนยุคพุทธกาลอย่างนั้นแหละ ซึ่ง ถ้าหากเป็นอย่างนี้ได้ ประโยชน์ก็จะเกิดขึ้นกับพระพุทธศาสนา พุทธบริษัททั้ง ๔ และก็มวลมนุษย์ชาติ ที่จะได้ศึกษาคำสอนดั้งเดิมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จากการรวมกันของพุทธบุตรหลากนิกายทั่วโลก ที่จะมาเป็นหนึ่งเดียวกัน
ดัง นั้น งานนี้เป็นงานในระดับโลกที่แท้จริง เพราะไม่มีวิธีการใดที่จะทำให้มวลมนุษย์ชาติ พ้นจากความทุกข์ทรมานของชีวิตได้ นอกจากพุทธวิธี คือวิธีของพระพุทธเจ้า ที่พระองค์ทรงพัฒนาฝึกฝนตนเองอย่างไร จนกระทั่งดับ ทุกข์ได้ หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะได้ มีความสุขตั้งแต่วันที่บรรลุธรรม จนกระทั่งดับขันธปรินิพพานและมีชีวิตได้เสวยเอกันตบรมสุขเป็นนิรันดร
เพราะ ฉะนั้น มีวิธีการเดียวเท่านั้นคือนำคำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไปขยายไปยังเพื่อนมนุษย์ทุก ๆ คน ในโลก ให้ได้มาศึกษาเรียนรู้แล้วก็ปฏิบัติ จะได้เข้าถึงสันติสุขภายใน เข้าถึงพระรัตนตรัยในตัว แล้วหลังจากนั้นสิ่งดี ๆ ก็จะเกิดขึ้นกับโลกใบนี้ เมื่อทุกคนดับทุกข์ภายในได้ มีสันติสุขภายใน เห็นไหมจ๊ะว่า งานสร้างหลังคานี้ เป็นงานที่ยิ่งใหญ่มาก ที่เราไม่ควรจะพลาดโอกาส ในการที่จะเป็นผู้สถาปนาในการสร้างหลังคา
การสร้างกำแพงเมืองจีน ปิรามิด หรือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ของโลก เขาเอาชีวิตเป็นเดิมพันกันทีเดียว หมายความว่า ตายกันเยอะแยะ เพื่อจะสร้างสิ่งนี้ขึ้นมา ซึ่งมันก็เป็นประโยชน์ได้ในระดับหนึ่ง ไม่ได้สร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นกับโลกใบนี้ หรือดับทุกข์มนุษย์ได้ เป็นแค่อนุสรณ์ของความยิ่งใหญ่ในยุค ๆ หนึ่งเท่านั้น หรือความเชื่อในยุค ๆ หนึ่ง แต่ขนาดประโยชน์มันได้เพียงแค่นั้น เขายังเอาชีวิตเป็นเดิมพัน การสร้างเมือง สร้างกรุงโรม หรือสร้างอะไรก็แล้วแต่ ขยายอาณาจักรก็เอาชีวิตเป็นเดิมพัน แปลว่าตาย หรือไม่ก็พิการ แขนขาด ขาขาด เสียเลือด เสียเนื้อ แต่ประโยชน์ก็ได้รับในระดับหนึ่ง ไม่ได้เต็มที่
แต่ การสร้างหลังคามหารัตนวิหารคดนี้ ไม่มีการเสียเลือด เสียเนื้อ เสียชีวิต แต่ประโยชน์ที่จะได้รับมันยิ่งใหญ่ อย่างที่หลวงพ่อได้กล่าวมาแล้วว่า การรวมกันของพุทธบุตรเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับโลกใบนี้ โดยเฉพาะในยุคนี้ ถ้ามารวมกันได้สิ่งดี ๆ ก็จะเกิดขึ้น ดังนั้นนี่ เราจะต้องสร้างกันให้มันสำเร็จ เป้านี่ตั้งไว้ ให้มันสำเร็จ
ในใจหลวงพ่อ ไม่ได้คิดเป็นโมดูลหรอกนะ คิดว่า “ทำอย่างไรให้มันเสร็จ ให้มันสำเร็จทันใช้” เพราะอายุมันก็ล่วงเลยมาเยอะแล้วนี่ ๖๐ กว่าปี ไม่ว่าจะสร้างวัดก็ดี ไม่เคยคิดว่า ตอนนี้เราจะทำประตู กำแพง โบสถ์ หรืออะไรอย่างนี้ หลวงพ่อไม่ค่อยได้คิดอย่างนั้น คิดว่า จะสร้างวัดให้มันเสร็จ ปฏิบัติธรรม สอนธรรมะ ชวนคนทำความดี แสวงหาพระรัตนตรัยในตัว คิดสั้น ๆ แค่นั้นนะ
และเมื่อสร้างวัดเสร็จ ก็ถึงช่วงขยายพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกายไปทั่วโลก ก็คิดเอาโลกใบนี้มาตั้งไว้ในใจ คิดว่า เราก็จะต้องขยายไปให้ได้ ซึ่ง เป็นประโยชน์ต่อเพื่อนมนุษย์ และมันเป็นไปตามความตั้งใจของพระเดชพระคุณหลวงปู่ (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย ที่ท่านอยากให้พระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกายขยายไปทั่วโลก กับเป็นความเป็นพระประสงค์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พุทธประสงค์ที่จะให้มนุษย์และเทวดาทั้งหลาย ได้เข้าถึงธรรมะด้วยคำสอนของพระองค์ท่าน
คำว่า “มนุษย์” ในที่นี่ก็แปลว่า ทุกคน ทุกยุค ทุกสมัย เกิดกันมากี่ยุคก็ตาม คำสอนของพระองค์มีไว้เพื่อมนุษย์ทุกคน รวมทั้งเทวดาด้วย เราคงยังไม่มีความสามารถไปถึงตรงนั้น เทวดา แต่ว่ามนุษย์เราสามารถที่จะขยายความรู้ ไปถึงตรงนั้นได้
เพราะ ฉะนั้น การสร้างสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา ไม่ใช่เพื่อความอยากเด่นอยากดังหรืออยากอะไรเลย นอกจากอยากให้มนุษย์ทุกคนในโลกนี้ ไม่ตายฟรี เกิดมาชาตินี้ให้รู้ว่ามีพระรัตนตรัยในตัว เขาสามารถสมหวังในชีวิตได้ ด้วยวิธีง่ายที่สุด ไม่มีอะไรง่ายไปกว่านี้ คือการทำสมาธิ ฝึกใจให้หยุดนิ่งภายใน ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ อย่างที่พวกเราทุกคนได้ปฏิบัติกัน
ที่ นี้เราลองนึกดูว่า ถ้าพุทธบุตรมารวมกัน สิ่งเหล่านี้มันเกิดขึ้นได้ไหม มันเป็นเพียงความเพ้อฝันหรือเกิดขึ้นได้จริง ซึ่งเราก็สรุปได้ว่ามันสามารถเกิดขึ้นได้จริง เพราะพุทธบุตรที่บวชมาท่านมีบุญบวชต่อเนื่องมายาวนานหลายชาติ แม้จะอยู่กระจัดกระจายกันไปตามหลากนิกาย ตามข้อวัตรปฏิบัติที่ได้ศึกษามาจาก บูรพาจารย์ก็ตามเถอะ แต่ ท่านก็เป็นผู้มีบารมี แล้วก็มีความคิดที่เหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง คือ มาบวชเพื่อสอนตนเอง แล้วก็จะแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ภายในสั่งสอนเพื่อนมนุษย์ นี่คือความในใจของพุทธบุตรทั่วโลกเลย แม้จะหลากนิกาย แต่ว่าตอนนี้ต่างคนต่างคิด ต่างคนต่างพูด ต่างคนต่างทำกันไป จึงได้รับประโยชน์ไม่เต็มที่
เพราะ ฉะนั้นถ้าหากว่า มารวมกันแล้วก็มาศึกษาคำสอนดั้งเดิมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน ประโยชน์สุขก็จะเกิดขึ้นกับท่านและต่อโลกด้วยอย่างแท้จริง ท่าน อยากจะมารวมกันนี่นานแล้ว แต่หาสถานที่รวมไม่ได้ ไม่ใช่ว่า ท่านไม่สามารถหาปัจจัยหรือรวมญาติโยมมาสร้างได้ แต่บางทีติดที่เงื่อนไขของแต่ละท้องที่ แต่ละประเทศ ทำให้ท่านไม่สามารถทำอย่างนั้นได้
ในภาวะนี้ เรายังอยู่ในสถานะที่ทำได้ เมื่อ ใครยังทำไม่ได้ เราทำไปก่อนนะจ้ะ เราจะเป็นยุคในการสถาปนาสิ่งนี้ให้เกิดขึ้น ซึ่งก็จะเป็นบุญใหญ่เละความปีติภาคภูมิใจของเรา ในยามที่เราตามระลึกนึกถึง

การ สร้างหลังคานี้ ไม่ใช่งานยาก ไม่ใช่ลำบาก เหมือนสร้างกำแพงเมืองจีน ปิรามิด หรือสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่เขายกย่องกัน เราแค่บริจาคทรัพย์ด้วยตนเอง และไปชวนคนอื่นให้เขามารับบุญนี้ ให้มีส่วนแห่งบุญนี้ด้วยเท่านั้น
เห็นไหมจ้ะว่า มันไม่ได้ยาก แต่ว่ามันยากอยู่ที่ใจเราคิดว่า “มันยาก” ถ้าคิดว่า “ทำได้และทำง่าย” มันก็ง่ายและได้ด้วย ขอเพียงเรามีความคิดแค่นี้ว่า “มันทำได้และทำได้อย่างง่าย ๆ” ความง่าย ๆ และความได้มันก็จะบังเกิดขึ้น
แต่ ว่าเราไปมัวเสียเวลากับการวิตกกังวลว่า เราจะไปหาทรัพย์นี้มาจากไหน ซึ่งหลวงพ่อก็บอกไปแล้วว่า มันก็มีอยู่ในโลกนี้แหละ กระเป๋าเราบ้าง กระเป๋าคนอื่นบ้าง เพราะฉะนั้นหน้าที่ของเรา คือ ถ้าเราทำตามลำพัง ดูแล้วนี่ มันยังไม่ถึงเป้าหมายที่เราตั้งใจไว้ เราก็ยอมเหนื่อยกันหน่อย ไปทำหน้าที่ผู้นำบุญยอดกัลยาณมิตร เอาชีวิตเป็นเดิมพันเลย เหมือนการสร้างสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่ได้กล่าวมาแล้วนั้นแหละ
เอา ชีวิตเป็นเดิมพันเลย เราเดินไปหาเขา ก็จะเจอคน ๓ ประเภทดังกล่าวที่เคยพูดบ่อย ๆ อินทรีย์แก่กล้า อินทรีย์ปานกลาง อินทรีย์อ่อนหย่อนลงมา แก่กล้าเราก็ไปชวนเขาง่ายนิดเดียว เพราะเขาพร้อมแล้วที่จะทำ อินทรีย์ปานกลางก็ยังเฉย ๆ อยู่ ขอคิดดูก่อน อินทรีย์อ่อนก็อาจจะพูดอะไรที่ทำให้เราลำบากใจ ไม่สบายใจบ้าง แต่ถ้าเราเรียนรู้สิ่งเหล่านี้แล้วว่า เราจะต้องไปเผชิญสิ่งเหล่านี้ มันก็ไม่ใช่เรื่องยาก ไม่ว่าเราจะเจอ อินทรีย์ในระดับไหน แก่ ปานกลางหรืออ่อน และเจอกิริยาท่าทางถ้อยคำอะไรต่าง ๆ
เรา ก็รู้แล้วว่า มันมาจากที่ตรงไหน แหล่งแห่งความคิดของเขาบริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์ ถ้าแหล่งแห่งความคิดเขาบริสุทธิ์ เวลาเราไปชวนเขาทำบุญมันก็ง่าย เขาคิดง่าย พูดง่าย ทำง่ายนะจ๊ะ ถ้าแหล่งแห่งความคิดเขายังไม่บริสุทธิ์เราต้องช่วยเหลือเขา พูดไปเถิด ชักชวนเขาไปเรื่อย ๆ
อย่า ไปเสียเวลาเลยกับความคิดอย่างนั้น ตอนนี้คิดว่า ทำอย่างไรให้มันเสร็จไปเลย ทำยังไงให้มันเสร็จ เรารู้จำนวนตารางเมตรแล้ว เรารู้จำนวนโมดูลว่า มี ๘๖๐ โมดูล เราก็ตั้งเป้าไว้เลยว่า เราจะต้องทำให้มันเสร็จ คิดอย่างนี้ ทำยังไงก็ได้ ให้มันเสร็จ ให้มันสำเร็จ ให้มันเสร็จ ให้มันสำเร็จ
เหมือน การไปตีเอาแคว้นต่าง ๆ ในสมัยก่อนหรือแม้แต่สมัยนี้ การรบเพื่อแย่งชิงทรัพยากรดินแดน ก็ส่งทหารไปสู่สมรภูมิ ทหารทุกคนไม่สามารถจะเลือกว่าจะเจออาวุธของข้าศึกแบบไหน รู้แต่ว่าจะต้องเอาชีวิตเป็นเดิมพัน อาจจะพิการ คืออวัยวะ แล้วก็มีความคิดอยู่ในใจว่า ไม่ได้ไม่มี ไม่ได้ไม่ได้ ไม่ได้ก็ต้องเอาให้ได้ และก็ต้องให้ได้ดีกว่าดีที่สุด เป็นความคิดที่อยู่ในใจของทุก ๆ คน
ถ้า ตายส่งไปตาย ๑๐๐ จงเพิ่มศพอีกพันหนึ่ง เป้าหมายคือชัยชนะ นี่เราไม่ตายนะจ๊ะ ทุกย่างก้าวเป็นบุญเป็นกุศล ซึ่งสามารถวัดเป็นระยะทางได้ เราเดินเท้าไปหาเขา ในแต่ละคน ๆ นะมันยาวเท่าไหร่ มันกี่ก้าว เราลองเอามาต่อกันดูสิว่า มันรอบโลกไหม นึกแล้วเราจะได้ปลื้มเห็นไหมจ๊ะ เพราะฉะนั้นนี่ ใน ใจให้คิดว่า เราจะต้องทำให้สำเร็จให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ เพราะเวลาของชีวิตไม่มีนิมิตหมาย สร้างเสร็จท่านก็มารวมได้เร็วนะจ๊ะ ตอนนี้ยังรวมกันได้ในโลกนี้มีเพียงที่เดียว คือผืนแผ่นดินไทย แล้วก็บนผืนแผ่นดินไทยนี้ สะดวกที่สุดก็ตรงนี่นะจ๊ะ ที่อื่นเขาก็สะดวกแต่ว่า มันก็มีข้อจำกัดหลาย ๆ อย่าง แม้เขาจะเตรียมสถานที่เอาไว้ก็ตามนี่
เพราะ สิ่งนี้ ต้องทำด้วยหัวใจ จะเป็นมนุษย์เงินเดือนทำไม่ได้นะจ้ะ ต้องมนุษย์รายวันอย่างเรานี่แหละ คือ คิดมีชีวิตอยู่ทำความดีเป็นวัน ๆ คิดไปวันต่อวันนะจ้ะ พรุ่งนี้เราไม่รู้ว่า เราอยู่หรือเปล่า แต่วันนี้ยังอยู่นี่ ลุยเข้าไปเลยนะลูกนะ ไปทำให้มันสำเร็จเป็นอัศจรรย์