อยากถามท่านกัลฯทุกท่านครับ
ผมเองก็เป้นคนที่เรียนสายวิทย์มาบางครั้งก็ไม่เชื่อในเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ เเต่สำหรับเรื่องวิชาธรรมกายนั้นผมเชื่อครับ เเละมากๆด้วยเพราะตัวเองได้สัมผัสมาจริงๆ ผมมีปัญหานึงที่รู้สึกเเคลงใจมาก เรื่องพวกไพ่ทาโรส์ ไพ่ยิบซีครับ ผมสงสัยมากเลยว่ามันเป็นยังไงกันเเน่ ผมรู้สึกไม่ดีมากๆเลยเวลาเล่นกะมัน มันทำนายให้ผมไม่ดีสักกะเรื่อง รู้สึกท้อมากเหมือนกันครับ ผมไม่รู้จะทำไงดี พอมีคำเเนะนำให้ผมไหมครับ เเละผมก็ยังสงสัยพวกไพ่ยิบซีที่ทำนายตามเวป ว่ามันจะขนาดไหนเพราะเท่าที่ผมเรียนมาเกี่ยวกะการโปรเเกรมคอมพิวเตอร์ มันจะมีฟังชันก์เเรนดอมที่สุ่มตัวเลขขึ้นมาซึ่งเคยลองใช้มาก่อน ไม่เคยได้ตรงกันเสียที เเต่กับไพ่ยิบซีไม่รู้ว่ามันยังไงเเม่งๆอะครับ เเละไพ่ที่ทำนายโดยมืออะมันต่างอะไรกับความน่าจะเป็นรึป่าวครับ หรือมันมีอำนาจลึกลับจริงๆ

รบกวนกัลฯหน่อยครับ ผมมีเรื่องสงสัย
เริ่มโดย Mr.Kenji, Oct 18 2007 12:05 AM
มี 11 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 18 October 2007 - 12:05 AM
#2
โพสต์เมื่อ 18 October 2007 - 08:18 AM
ไม่ต้องกังวลหรอกครับ
คนมีบุญถึงคุณจะได้ไพ่ The death ก็อาจจะแค่แผลถลอก ถ้าได้ไพ่ The Tower ก็อาจขาดทุนร้อยสองร้อย
แต่ถ้าคนไม่มีบุญ ได้ไพ่ The death ก็อาจเคราะหนัก ป่วยไข้เลือดตกยางออก ได้ไพ่ The Tower ก็อาจเจ๊งปิดกิจารทีเดียว
ถ้าคนมีบุญได้ Wheel of fortune ก็อาจจะได้ลาภก้อนใหญ่หลักแสนล้าน
แต่ถ้าคนไม่มีบุญได้ไพ่ Wheel of fortune ก็อาจจะได้ลาภ ร้อยสองร้อย
เพราะฉนั้นเมื่อเรามีบุญก็ไม่ต้องกลัวอะไรครับ ถึงล้มก็ล้มบนฟูก แต่ถ้าโชคดีก็ดีแบบคาดไม่ถึงเหมือนกัน
ครูไม่ใหญ่ท่านเคยสอนว่า โหราศาสตร์ เป็นศาสตร์สถิติและศิลป แต่เอามาเป็นหลักในการดำเนินชีวิตไม่ได้
คนมีบุญถึงคุณจะได้ไพ่ The death ก็อาจจะแค่แผลถลอก ถ้าได้ไพ่ The Tower ก็อาจขาดทุนร้อยสองร้อย
แต่ถ้าคนไม่มีบุญ ได้ไพ่ The death ก็อาจเคราะหนัก ป่วยไข้เลือดตกยางออก ได้ไพ่ The Tower ก็อาจเจ๊งปิดกิจารทีเดียว
ถ้าคนมีบุญได้ Wheel of fortune ก็อาจจะได้ลาภก้อนใหญ่หลักแสนล้าน
แต่ถ้าคนไม่มีบุญได้ไพ่ Wheel of fortune ก็อาจจะได้ลาภ ร้อยสองร้อย
เพราะฉนั้นเมื่อเรามีบุญก็ไม่ต้องกลัวอะไรครับ ถึงล้มก็ล้มบนฟูก แต่ถ้าโชคดีก็ดีแบบคาดไม่ถึงเหมือนกัน
ครูไม่ใหญ่ท่านเคยสอนว่า โหราศาสตร์ เป็นศาสตร์สถิติและศิลป แต่เอามาเป็นหลักในการดำเนินชีวิตไม่ได้
#3
โพสต์เมื่อ 18 October 2007 - 09:15 AM
ดูขำๆนะผมไม่ค่อยจะเชื่ออยู่แล้ว โดยหลักก็คงเป็นการสอนคนไม่ให้ประมาท
เคยไปดูดวง *วิธีทำให้รวย หรือสะเดาห์เคราะห์ (มีคนลากไปดู)เค้าก็ให้คาถา
ทำพิธีอะไรไม่รุ ให้ท่องคาถาหลังสวดมนต์ ให้กตัญญูต่อพ่อแม่ ทำอะไรให้ระวัง
สรุปไม่ต้องทำพิธีอะไรแต่ไม่ประมาทถือศีลนั้นแหละชัวร์ที่สุดส่วนจะรวยไหมก็
ถ้าคุณมีบุญมารองรับก็รวยละเนอะ หุหุ
เคยไปดูดวง *วิธีทำให้รวย หรือสะเดาห์เคราะห์ (มีคนลากไปดู)เค้าก็ให้คาถา
ทำพิธีอะไรไม่รุ ให้ท่องคาถาหลังสวดมนต์ ให้กตัญญูต่อพ่อแม่ ทำอะไรให้ระวัง
สรุปไม่ต้องทำพิธีอะไรแต่ไม่ประมาทถือศีลนั้นแหละชัวร์ที่สุดส่วนจะรวยไหมก็
ถ้าคุณมีบุญมารองรับก็รวยละเนอะ หุหุ
#4
โพสต์เมื่อ 18 October 2007 - 09:54 AM
มันทายไม่ดี ก็เลิกทำนายสิ จะไปดูอยู่อีกทำไมละคะ แต่ก่อนฟ้าร้างก็เชื่อมากเลยล่ะ หมอดู หมอเดาไพ่ทาโรห์ ทาร๊อตเนี่ยแหล่ะ เชื่อแล้วบางทีก็กินไม่ได้นอนไม่หลับ มัวแต่ลุ้นว่าจะเป็นตามที่หมอบอกมั้ย เวลาหมอทายมาว่าช่วงนี้มีเคราะห์ ก็เครียดหนักไปเป็นเดือน สุดท้ายแล้ว ก็เหนื่อยนะ เหนื่อยใจ เพราะต้องลุ้นกันตลอด เสียตังค์อีกตะหาก (ค่าหมอ ค่าไพ่)
สุดท้ายแล้ว เลิกดูเหอะ
มาดูองค์พระภายในตัวกันดีกว่า...
เดี๋ยวนี้นะ ฟ้าร้างไม่มีหมอดูประจำตัว แต่มีลางสังหรณ์แม่นยำมากขึ้น ในหลายๆ เรื่อง ไม่เชื่อลองดูสิคะ สมาธินี่แหล่ะ องค์พระนี่แหล่ะหมอดูประจำตัวที่ดีที่สุดในโลก ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
สุดท้ายแล้ว เลิกดูเหอะ
มาดูองค์พระภายในตัวกันดีกว่า...
เดี๋ยวนี้นะ ฟ้าร้างไม่มีหมอดูประจำตัว แต่มีลางสังหรณ์แม่นยำมากขึ้น ในหลายๆ เรื่อง ไม่เชื่อลองดูสิคะ สมาธินี่แหล่ะ องค์พระนี่แหล่ะหมอดูประจำตัวที่ดีที่สุดในโลก ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
"เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว พบแล้วไม่กำจะเกิดมาทำไม
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#5
โพสต์เมื่อ 18 October 2007 - 10:54 AM
การทำนายก็จะใช้หลักสถิติโดยมักจะพูดสิ่งที่เป็นธรรมชาติของคนประกอบกับในขณะนั้นผู้ที่ให้ทำนายมักจะใจตกอยู่แล้วจึงทำให้รู้สึกว่าทายแม่น เช่น บอกว่าคุณเป็นคนที่ทำคุณคนไม่ขึ้น กำลังมีปัญหากับคนรัก กำลังมีปัญหาเรื่องเงิน มีญาติมิตรกำลังป่วย เป็นต้น แต่บางครั้งก็เป็นพวกสายวิทยาธร แต่ไม่ว่าอย่างไรอย่าไปสนใจเลยเดี๋ยวจะติดเชื้อไม่ดีไป ไม่คุ้มเลย ให้ยึดถือคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าดีที่สุด ฝึกสมาธิให้ใจใสๆ แล้วความลับของชีวิตก็จะถูกเปิดเผยออกมาเอง อนุโมทนาบุญกับทุกท่านนะครับ...สาธุ
#6
โพสต์เมื่อ 18 October 2007 - 11:19 AM
ไพ่ยิปซี จริงๆแล้วเป็นศาสตร์แห่งศิลป์อย่างหนึ่งน่ะครับ เป็นการถ่ายถอดอุปนิสัยของคนเราออกมาทางรูปภาพ เป็นศาสตร์แห่งการวิเคราะห์และเป็นศาสตร์แห่งการพูดอย่างหนึ่งเหมือนกันครับ
การอ่านไพ่ยิปซีหรือไพ่ทาโร่นั้น จริงๆแล้วในไพ่ใบหนึ่งสามารถตีความได้หลายกรณี จะเป็นร้ายก็ได้ หรือดีก็ได้ ขึ้นอยู่กับไพ่ข้างเคียงและสิ่งที่เราต้องการรู้เป็นหลักครับ ไม่จำเพาะเจาะจงว่า ไพ่Deathหมายถึงโชคร้ายอย่างเดียว หรือไพ่Tower หมายถึงกำลังจะโชคร้ายอย่างเดียว หรือไพ่ The Sunจะหมายถึงโชคดีเสมอไป แต่อาจจะมีความหมายในทางตรงข้ามด้วยก็เป็นได้ เช่น หากเราได้ไพ่Death แล้วไพ่ข้างเคียงเป็นThe Sun ซึ่งเป็นไพ่ที่มีความหมายตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง หากได้ไพ่2ใบนี้คู่กัน ผมมั่นใจได้เลยว่าผู้ที่เป็นมือใหม่ ทำนายไม่ถูกหรอกครับว่ามันหมายถึงอะไร หุหุ และแน่นอนว่าทุกคนต้องมุ่งไปที่ไพ่ Deathก่อนเพราะตามความหมายของรูปไพ่นั้นเหมือนเป็นความโชคร้าย แล้วก็จะทำนายไปตรงๆตามรูปไพ่เลย แต่ในความหมายที่แท้จริง หากเราจับไพ่Deathได้แล้วใบต่อไปเราได้The Sunล่ะก็ มันจะหมายถึงการกำเนิดเกิดใหม่หรือการเริ่มต้นใหม่นั่นเองครับ
วิธีสังเกตุการทำนายของหมอดูนะครับ ถ้าเป็นหมอดูไพ่ยิปซีที่เรียกได้ว่าเป็นวิทยาธรณ์แห่งการทำนายจริงๆ เขาจะไม่ถามผู้ที่จะดูหรอกครับว่าต้องการจะรู้อะไรบ้าง เขาจะบรรยายเป็นฉากๆๆไปเลย แต่สมัยนี้หายากครับ มีแต่หมอเดาเท่านั้น คือเดาตามตำรา เดาตามรูปแบบไพ่ ซึ่งจะทำนายได้นั้น ผู้ทำนายจะถามผู้ดูก่อนว่าต้องการทราบเรื่องอะไร เพราะตัวเองก็ไม่รู้ว่าจะทำนายไปในทางไหนบ้าง และที่สำคัญ กลัวว่าจะทำนายไม่ตรงกับที่ผู้ดูอยากทราบ นั่นก็คือจะทำให้หน้าแตกหมอไม่รับเย็บเอาง่ายๆ และหมอเดาตามตำรานั้น จะเดาตามตำราเป๊ะนั่นคือ ไพ่ตำแหน่งนี้บงบอกถึงเรื่องนี้ๆๆนะ ตำแหน่งนี้บอกเรื่องนี้ ซึ่งจะเหมือนในตำราเด๊ะๆเลย (ผมเคยไปดูเหมือนกัน พี่ท่านว่าตามในหนังสือเด๊ะ ผมยังนึกในใจ แบบนี้เราอ่านจากในหนังสือเอาเองก็ได้ฟ่ะ - -" ตอนนั้นผมก็ศึกษาเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน เหะๆ) แต่ถ้าเป็นหมอดูที่แท้จริงซึ่งหาได้น้อยคนนัก เวลาเขาดูเขาจะดูไพ่ทุกใบเลยครับและจะดึงความหมายของไพ่แต่ละใบมาโยงกันเป็นเรื่องเป็นราวของเราได้เลยครับ
ดังนั้น สำหรับคุณเจ้าของกระทู้ ผมขอถามคุณสักนิดว่า คุณเก่งเรื่องศิลป์ไหมล่ะครับ และคุณเก่งเรื่องการวิเคราะห์หรือไม่ ถ้าคุณเก่งทั้ง2ด้านนี้แล้วคุณดูดวงของคุณล่ะก็อันนี้ค่อยน่าเชื่อสัก40%ครับ แต่ถ้าคุณรู้ว่าคุณไม่เก่งทาง2ด้านนี้ และที่คุณทำนายออกมานั้นเป็นการทำนายตามตำแหน่งไพ่แบบอย่างในหนังสือคู่มือแล้วล่ะก็ นั่นคือคุณเดาเอาครับ ดังนั้นอย่าไปหลงงมงายกับสิ่งที่คาดเดาตามในหนังสือเลยครับโอกาสที่จะถูกหรือเป็นจริงมีแค่0.00001%เท่านั้น
ถ้าจะเสียเวลามานั่งเดาดวงของตัวเองนะครับ แนะนำให้เอาเวลาไปนั่งหลับตาทำสมาธิดีกว่า คุณเดาไพ่ยิปซี1ครั้งคุณทำให้สุขภาพจิตแย่ลง1วัน แต่หากคุณนั่งหลับตาทำสมาธิ 1วินาที คุณได้บุญเพิ่มนับจะประมาณมิได้ครับ เลือกเอาแล้วกันนะครับ หุหุ ^ ^
การอ่านไพ่ยิปซีหรือไพ่ทาโร่นั้น จริงๆแล้วในไพ่ใบหนึ่งสามารถตีความได้หลายกรณี จะเป็นร้ายก็ได้ หรือดีก็ได้ ขึ้นอยู่กับไพ่ข้างเคียงและสิ่งที่เราต้องการรู้เป็นหลักครับ ไม่จำเพาะเจาะจงว่า ไพ่Deathหมายถึงโชคร้ายอย่างเดียว หรือไพ่Tower หมายถึงกำลังจะโชคร้ายอย่างเดียว หรือไพ่ The Sunจะหมายถึงโชคดีเสมอไป แต่อาจจะมีความหมายในทางตรงข้ามด้วยก็เป็นได้ เช่น หากเราได้ไพ่Death แล้วไพ่ข้างเคียงเป็นThe Sun ซึ่งเป็นไพ่ที่มีความหมายตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง หากได้ไพ่2ใบนี้คู่กัน ผมมั่นใจได้เลยว่าผู้ที่เป็นมือใหม่ ทำนายไม่ถูกหรอกครับว่ามันหมายถึงอะไร หุหุ และแน่นอนว่าทุกคนต้องมุ่งไปที่ไพ่ Deathก่อนเพราะตามความหมายของรูปไพ่นั้นเหมือนเป็นความโชคร้าย แล้วก็จะทำนายไปตรงๆตามรูปไพ่เลย แต่ในความหมายที่แท้จริง หากเราจับไพ่Deathได้แล้วใบต่อไปเราได้The Sunล่ะก็ มันจะหมายถึงการกำเนิดเกิดใหม่หรือการเริ่มต้นใหม่นั่นเองครับ
วิธีสังเกตุการทำนายของหมอดูนะครับ ถ้าเป็นหมอดูไพ่ยิปซีที่เรียกได้ว่าเป็นวิทยาธรณ์แห่งการทำนายจริงๆ เขาจะไม่ถามผู้ที่จะดูหรอกครับว่าต้องการจะรู้อะไรบ้าง เขาจะบรรยายเป็นฉากๆๆไปเลย แต่สมัยนี้หายากครับ มีแต่หมอเดาเท่านั้น คือเดาตามตำรา เดาตามรูปแบบไพ่ ซึ่งจะทำนายได้นั้น ผู้ทำนายจะถามผู้ดูก่อนว่าต้องการทราบเรื่องอะไร เพราะตัวเองก็ไม่รู้ว่าจะทำนายไปในทางไหนบ้าง และที่สำคัญ กลัวว่าจะทำนายไม่ตรงกับที่ผู้ดูอยากทราบ นั่นก็คือจะทำให้หน้าแตกหมอไม่รับเย็บเอาง่ายๆ และหมอเดาตามตำรานั้น จะเดาตามตำราเป๊ะนั่นคือ ไพ่ตำแหน่งนี้บงบอกถึงเรื่องนี้ๆๆนะ ตำแหน่งนี้บอกเรื่องนี้ ซึ่งจะเหมือนในตำราเด๊ะๆเลย (ผมเคยไปดูเหมือนกัน พี่ท่านว่าตามในหนังสือเด๊ะ ผมยังนึกในใจ แบบนี้เราอ่านจากในหนังสือเอาเองก็ได้ฟ่ะ - -" ตอนนั้นผมก็ศึกษาเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน เหะๆ) แต่ถ้าเป็นหมอดูที่แท้จริงซึ่งหาได้น้อยคนนัก เวลาเขาดูเขาจะดูไพ่ทุกใบเลยครับและจะดึงความหมายของไพ่แต่ละใบมาโยงกันเป็นเรื่องเป็นราวของเราได้เลยครับ
ดังนั้น สำหรับคุณเจ้าของกระทู้ ผมขอถามคุณสักนิดว่า คุณเก่งเรื่องศิลป์ไหมล่ะครับ และคุณเก่งเรื่องการวิเคราะห์หรือไม่ ถ้าคุณเก่งทั้ง2ด้านนี้แล้วคุณดูดวงของคุณล่ะก็อันนี้ค่อยน่าเชื่อสัก40%ครับ แต่ถ้าคุณรู้ว่าคุณไม่เก่งทาง2ด้านนี้ และที่คุณทำนายออกมานั้นเป็นการทำนายตามตำแหน่งไพ่แบบอย่างในหนังสือคู่มือแล้วล่ะก็ นั่นคือคุณเดาเอาครับ ดังนั้นอย่าไปหลงงมงายกับสิ่งที่คาดเดาตามในหนังสือเลยครับโอกาสที่จะถูกหรือเป็นจริงมีแค่0.00001%เท่านั้น
ถ้าจะเสียเวลามานั่งเดาดวงของตัวเองนะครับ แนะนำให้เอาเวลาไปนั่งหลับตาทำสมาธิดีกว่า คุณเดาไพ่ยิปซี1ครั้งคุณทำให้สุขภาพจิตแย่ลง1วัน แต่หากคุณนั่งหลับตาทำสมาธิ 1วินาที คุณได้บุญเพิ่มนับจะประมาณมิได้ครับ เลือกเอาแล้วกันนะครับ หุหุ ^ ^
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#7
โพสต์เมื่อ 18 October 2007 - 11:25 AM
QUOTE
เเต่สำหรับเรื่องวิชาธรรมกายนั้นผมเชื่อครับ เเละมากๆด้วยเพราะตัวเองได้สัมผัสมาจริงๆ
- เชื่อแล้วต้องตั้งมั่น = เชื่อมั่น- พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ให้ตั้งใจไว้ที่ตรงนั้น จึงจะถูกเป้าหมายใจดำ ใจเป็นแดนเกษม อย่าไปนึกเรื่องอื่น
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC
#8
โพสต์เมื่อ 18 October 2007 - 12:08 PM
กำลังที่สำคัญที่สุด คือ กำลังศรัทธา และความเพียรครับ
เรื่องเคยมีมาแล้ว สมัยอดีตกาล เมื่อพระราชาเมืองเล็ก ถูกพระราชาเมืองใหญ่ยกกองทัพมาตี พระราชาเมืองเล็ก ไปถามพระฤษี ว่าตนมีสิทธิ์ชนะไหม พระฤษีถามเทวดา เทวดาบอกว่า แ้พ้สถานเดียว พระราชาเมืองเล็กหมดกำลังใจ ฝ่ายพระราชาเมืองใหญ่ ก็ไปถามพระฤษี(ท่านเดียวกัน) ว่าตนจะชนะไหม พระฤษีตอบว่า ชนะสถานเดียว พระราชาเมืองใหญ่ก็ลำพองใจ
พอเสนาบดีเมืองเล็กทราบเรื่อง บอกพระราชาเมืองเล็กให้สบายใจว่า ตนจะลองไปถามพระฤษีดูบ้าง พอไปถาม พระฤษีก็บอกแบบเดิมว่า เมืองเล็กแพ้สถานเดียว เสนาบดี(อดีตชาติพระสารีบุตร) ไม่หมดกำลังใจ ถามต่อว่า อะไรคือ สัญลักษณ์ของชัยชนะ พระฤษีตอบว่า วัว
เสนาบดีได้ฟังก็มั่นใจว่า ตนมีวิธีจะชนะ ว่าแล้วก็ไปคุยกับพระราชาว่า มีวิธีชนะ แต่ขอทุกคนทำตามตน พระราชาและทุกคนยินดี พอถึงวันแข่งขัน พระราชาทั้งคู่ยกทัพมาประจัญกัน เมืองเล็กมีกำลังเล็กน้อย เมืองใหญ่มีกำลังเหนือกว่ามาก พระราชาทั้งสอง เห็นวัว สัญลักษณ์ ของตนกำลังจะต่อสู้กัน (พระราชาเท่านั้นที่เห็น) วัวของเมืองเล็กตัวเล็กกว่า วัว ของเมืองใหญ่
ขณะที่วััว สัญลักษณ์ กำลังจะสู้กันนั้น เสนาบดี ก็บอกให้ทุกคนช่วยวัว แม้จะมองไม่เห็นก็ตาม ด้วยการบอกให้พระราชาเมืองเล็ก แทงไปที่วัว สัญลักษณ์ ของฝ่ายตรงข้าม (เพราะพระราชาจะเห็น) จากนั้นก็ให้ทหารแทงหอกตามพระราชาออกไป ทหารก็ทำตาม ทั้งที่มองไม่เห็นอะไร
ส่วนฝ่ายตรงข้ามก็หัวเราะว่า พวกเมืองเล็กแทงหอกไปกลางอากาศทำอะไรกัน ในที่สุด วัว สัญลักษณ์ เมืองใหญ่ ก็ถูกพระราชา และทหาร เมืองเล็กแทงตาย ตอนนี้แหละั เสนาบดีส่งซิกให้พระราชาเมืองเล็กสั่งบุก
ในที่สุด เมื่อวัว สัญลักษณ์(นำชัย) ตายแล้ว พระราชาและทหารเมืองใหญ่ก็แตกพ่ายไป
พระราชาเมืองใหญ่จึงไปต่อว่า พระฤษี ว่าทำนายผิด พระฤษีก็เลยไปต่อว่า เทวดา
เทวดา จึงบอกว่า ทำนายไม่ผิด แต่กำลังของผู้มีความเพียร มีกำลังเหนืออื่นใด ดวงดาวจะไปทำอะไรได้
เรื่องเคยมีมาแล้ว สมัยอดีตกาล เมื่อพระราชาเมืองเล็ก ถูกพระราชาเมืองใหญ่ยกกองทัพมาตี พระราชาเมืองเล็ก ไปถามพระฤษี ว่าตนมีสิทธิ์ชนะไหม พระฤษีถามเทวดา เทวดาบอกว่า แ้พ้สถานเดียว พระราชาเมืองเล็กหมดกำลังใจ ฝ่ายพระราชาเมืองใหญ่ ก็ไปถามพระฤษี(ท่านเดียวกัน) ว่าตนจะชนะไหม พระฤษีตอบว่า ชนะสถานเดียว พระราชาเมืองใหญ่ก็ลำพองใจ
พอเสนาบดีเมืองเล็กทราบเรื่อง บอกพระราชาเมืองเล็กให้สบายใจว่า ตนจะลองไปถามพระฤษีดูบ้าง พอไปถาม พระฤษีก็บอกแบบเดิมว่า เมืองเล็กแพ้สถานเดียว เสนาบดี(อดีตชาติพระสารีบุตร) ไม่หมดกำลังใจ ถามต่อว่า อะไรคือ สัญลักษณ์ของชัยชนะ พระฤษีตอบว่า วัว
เสนาบดีได้ฟังก็มั่นใจว่า ตนมีวิธีจะชนะ ว่าแล้วก็ไปคุยกับพระราชาว่า มีวิธีชนะ แต่ขอทุกคนทำตามตน พระราชาและทุกคนยินดี พอถึงวันแข่งขัน พระราชาทั้งคู่ยกทัพมาประจัญกัน เมืองเล็กมีกำลังเล็กน้อย เมืองใหญ่มีกำลังเหนือกว่ามาก พระราชาทั้งสอง เห็นวัว สัญลักษณ์ ของตนกำลังจะต่อสู้กัน (พระราชาเท่านั้นที่เห็น) วัวของเมืองเล็กตัวเล็กกว่า วัว ของเมืองใหญ่
ขณะที่วััว สัญลักษณ์ กำลังจะสู้กันนั้น เสนาบดี ก็บอกให้ทุกคนช่วยวัว แม้จะมองไม่เห็นก็ตาม ด้วยการบอกให้พระราชาเมืองเล็ก แทงไปที่วัว สัญลักษณ์ ของฝ่ายตรงข้าม (เพราะพระราชาจะเห็น) จากนั้นก็ให้ทหารแทงหอกตามพระราชาออกไป ทหารก็ทำตาม ทั้งที่มองไม่เห็นอะไร
ส่วนฝ่ายตรงข้ามก็หัวเราะว่า พวกเมืองเล็กแทงหอกไปกลางอากาศทำอะไรกัน ในที่สุด วัว สัญลักษณ์ เมืองใหญ่ ก็ถูกพระราชา และทหาร เมืองเล็กแทงตาย ตอนนี้แหละั เสนาบดีส่งซิกให้พระราชาเมืองเล็กสั่งบุก
ในที่สุด เมื่อวัว สัญลักษณ์(นำชัย) ตายแล้ว พระราชาและทหารเมืองใหญ่ก็แตกพ่ายไป
พระราชาเมืองใหญ่จึงไปต่อว่า พระฤษี ว่าทำนายผิด พระฤษีก็เลยไปต่อว่า เทวดา
เทวดา จึงบอกว่า ทำนายไม่ผิด แต่กำลังของผู้มีความเพียร มีกำลังเหนืออื่นใด ดวงดาวจะไปทำอะไรได้
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร
#9
โพสต์เมื่อ 18 October 2007 - 01:14 PM
คุณหัดฝัน สุดยอด
#10
โพสต์เมื่อ 18 October 2007 - 07:48 PM
แนวทางตามธรรมดาทั่วไป ใช้ได้กับทั่วๆไป
ถ้าไม่ธรรมดาแบบหลวงปู่หลวงพ่อและคณะที่ปฏิบัติในทางที่ดี ก็แหวกแนวหนีร้ายไปทางที่ดีได้ครับ
ถ้าไม่ธรรมดาแบบหลวงปู่หลวงพ่อและคณะที่ปฏิบัติในทางที่ดี ก็แหวกแนวหนีร้ายไปทางที่ดีได้ครับ
#11
โพสต์เมื่อ 19 October 2007 - 05:23 PM
ตามความเห็นของตัวเองนะคะ.. พวกดูไพ่ยิปซี ดูดวงให้คนอื่น ก็ไม่เห็นเค้าจะช่วยตัวเองให้ชีวิตดีขึ้นได้ยังไงเลย เค้าก็อาศัยตังเราทำมาหากิน บางคนมัวแต่ดูดวงคนอื่นไม่ดูดวงตัวเองก็เจ๊งมาเยอะนะคะ ไม่ต้องเครียดหรอกค่ะ เรามาทางนี้ทางสว่างก็รู้อยู่แล้วว่าชีวิตเรามีเบื้องหลังคือ บุญและบาป อย่างอื่นอย่าไปใส่ใจเลยค่ะ เอาเวลาที่นั่งไม่สบายใจเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ มานั่งคิดวิธีสั่งสมบุญบารมีให้เพิ่มพูน ให้ใจมีแต่ความสุขสดชื่นดีกว่านะคะ... สาธุๆ
~ สักวันฉันจะต้องโตใหญ่ เป็นตะวันสดใสดับความสลัว ในดวงใจชาวโลกที่หมองมัวส่องสว่างทั่วอนันต์จักรวาล ~
#12
โพสต์เมื่อ 24 October 2007 - 06:00 PM
Sa Thu Krub