

อย่าลืมไปให้กำลังใจและปัจจัย "พี่โน้ต อุดม" ในเดี่ยว 7
#1
โพสต์เมื่อ 06 November 2007 - 01:53 PM
#2
โพสต์เมื่อ 06 November 2007 - 02:09 PM
ตอนสมัยเด็ก ๆ ผมสงสัยเสมอเวลาแม่บ่นนอนไม่หลับ นอนหลับมันยากตรงส่วนไหนวะ? ก็แค่หลับตาแล้วก็อย่าคุย แค่เนี้ยะ ทำกันไม่เป็น
ผมมาหายสงสัยตอนโต ตอนที่ตนเองมีงาน มีภาระ มีเวลาว่างน้อย แล้วผมก็ได้รู้จักมัน “ไอ้นอนไม่หลับ” มันเหมือนมีรายการ MTV อยู่ในหัวผม มันยุ่งเหยิงสับสน หลายเรื่องตัดสลับไปมา ผมนอนบิดไปมาจนครบทุกท่าก็ยังหลับไม่ลง
สุดท้ายผมก็พบทางออก ผมนอนหลับได้ผลดีมากครับ กินยานอนหลับ หลับปุ๋ย ผมชอบมาก กินบ่อยมากกว่าวิตามินซี อยากหลับเวลาไหน เวลานั้น แต่พักหลัง ๆ กินอย่างไรก็ไม่หลับทำไมไม่รู้ หมอยงยุทธบอกว่าเพราะผมใช้มันพร่ำเพรื่อ กะประมาณที่กินมันตั้งแต่เริ่มจนถึงปัจจุบันสามารถทำให้คนทั้ง 2 ซอย หลับได้ 3 วันเต็ม ๆ ถึงวันนี้ให้ผมกิเป็นกำก็ไม่เกิดผล
อยากหลับมีอยู่ 2 ทาง
1. ใช้ยาสลบ
2. ถูกต่อยแรง ๆ
ข้อสองได้ผลดีมากแต่สิ้นเปลืองค่าปฐมพยาบาลสักหน่อย หมอยงยุทธบอกอีกว่า วิธีทำให้หลับง่ายและประหยัดค่าใช้จ่ายที่สุดก็คือ “สมาธิ”
สมาธิ โอ้...ใช่แล้ว
ผมสั่งหมอ 2 แผงทันที หมอตบกบาลผมหัวทิ่ม และบอกว่าอย่าเพิ่งตลก ตั้งใจฟังหน่อย สิ่งที่ผมตั้งใจฟังวันนั้นมีประโยชน์ต่อผมและครอบครัวมาถึงทุกวันนี้ เมื่อได้นอนอิ่มเราก็ตื่นอย่างกระปรี้กระเปร่าเหมือนแบตเตอรี่ 3k ที่พร้อมให้พลังงาน เปี่ยมไปด้วยกำลังในการคิดทำสิ่งต่าง ๆ ทุกประเภท หลังการตื่นเราจะแปรงฟันอย่างถูกวิธี เราจะไม่หงุดหงิดกับการถูกแม่บ่นว่าไม่ชอบพับผ้าห่ม เราจะกินข้าวได้มาก ซึ่งมันเป็นสิ่งที่คนอดนอนทำได้ยากที่สุด (ครูจุรีรัตน์เคยบอกไว้ในชั่วโมงสุขศึกษา)
สมาธิคืออะไร? สารภาพตรง ผมไม่ทราบครับ หมอตบหัวแรงทำให้จำไม่ได้ แต่คลับคล้ายคลับคลาว่าเป็นการนำใจของเราไปจรดอยู่กับสิ่งหนึ่งสิ่งใดเพียงสิ่งเดียว ด้วยความสบาย ๆ เบิกบาน ไม่บังคับบีบเค้นว่าแกต้องหยุดอยู่ตรงนี้นะ อย่าขัดขืน พวกเราล้อมไว้หมดแล้ว
คืนนั้น ผมลองไปชวนใจไปจรดอยู่กลางท้อง ผมจินตนาการว่าท้องผมเป็นกระป๋องอันใหญ่ๆ ในกระป๋องมีลำไยสีชมพูอยู่หนึ่งลูก
ผมหลับตาเบา ๆ ใช้ใจมองลำไยลูกนั้นเพียงอย่างเดียว บางครั้งอาจจะมีเงาะและสับปะรดแว่บมาแจมบ้าง แต่ผมไม่สนใจ ผมสนใจแต่ลำไยของผม ลูกกลม ๆ หนึ่งลูก ลูกนี้ แค่นี้เท่านั้น
เวลาผ่านไปประมาณ 30 นาที ผมรู้สึกสงบใจอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนตลอดชีวิต
โลกทั้งโลกเงียบ .........................
มีเพียงลำไยกลม ๆ ลูกนี้ลูกเดียวเท่านั้น
นี่กระมัง...ที่เขาเรียกสมาธิ
ผมคงไม่มีปัญญาพอที่จะอธิบายถึงคุณวิเศษของสมาธิได้กระจ่างเหมือนหมอยงยุทธ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกได้หลังการปฏิบัติก็คือ สมาธิ เป็นหัวใจหนึ่งในการดำรงชีวิต นอกจากกระเป๋ายี่ห้อแพง ๆ อย่างที่ผู้หญิงเข้าใจ
ชีวิตคนเราทุกวันนี้ต้องผูกพันกับคนอื่น ๆ นับสิบนับร้อย เรามักสนใจแต่เรื่องของคนอื่น ลูกน้องขี้โกง เจ้านายปากหมา เพื่อนร่วมงานชอบนินทา เลขาชอบป้ายสี แฟนนิสัยไม่ดี สามีนอกใจ อาไม่ยอมใช้หนี้ คนโน้นก็ไม่เข้าท่า ไอ้บ้านั่นก็ไม่เข้าที เกือบทุกคนเกือบทุกที่ มีแต่ถ่ายเทความหงุดหงิดให้แก่กัน เรามักสนใจเรื่องของคนอื่นมากกว่า ถ้ามีใครมาถามเราว่าคนนั้นคนนี้มีนิสัยไม่ดีอย่างไร เรามักจะตอบได้อย่างละเอียดลออ ยิ่งถ้าเป็นคนที่เราไม่ชอบขี้หน้าด้วยแล้ว เรื่องนั้นจะสนุกสนานโลดโผน เมามัน
แต่ถ้ามีใครมาถามข้อเสียของเราบ้าง ความจำจะเสื่อมทันที นึกไม่ค่อยออก นึกออกแต่เรื่องดี ๆ ทำไมเราถึงแสนดีอย่างนี้นะ?
ถ้าใจเราเป็นน้ำครำ เรื่องราวมากมายเปรียบเสมือนขุ่นโคลน ภายใน 24 ชั่วโมง เราน่าจะเจียดเวลาให้ใจของเราได้อยู่นิ่งเพื่อขุ่นตะกอนได้นอนก้นบ้างสัก 15 นาที เมื่อตะกอนได้นอนก้น น้ำข้างบนก็จะใส ใจใส ๆ มองปัญหาอะไรจะเห็นชัด เห็นใจเรา เห็นใจเขา เห็นความดีคนอื่น เห็นความชั่วตัวเองเด่นชัด เรียงลำดับปัญหาได้ถนัดว่าอันไหนสำคัญก่อนหลัง
ใจตกตะกอนนอนก็หลับสนิท เหมือนปิดสวิทช์ เหมือนถูกการไฟฟ้าตัดไฟ รายการ MTV หรือคอนเสิร์ตใจประสานใจ ก็ไม่สามารถออกอากาศกวนประสาทเราได้
หลับฝันดี มีขนมอร่อยกิน ได้ยินเพลงเพราะ และได้หัวเราะอย่างพอเพียง ประโยคนี้ผมพูดบ่อย เพราะมันคือ ทัศนคติในการดำเนินชีวิตของผม ชีวิตเป็นเรื่องสบาย ๆ แล้วแต่ใครจะชอบทำให้มันยุ่งยาก
~ อุดม แต้พานิช
#3
โพสต์เมื่อ 06 November 2007 - 02:21 PM
#4
โพสต์เมื่อ 06 November 2007 - 03:01 PM
</a>
#5
โพสต์เมื่อ 06 November 2007 - 03:23 PM
#6
โพสต์เมื่อ 06 November 2007 - 04:00 PM
#7
โพสต์เมื่อ 06 November 2007 - 04:38 PM
#8
โพสต์เมื่อ 06 November 2007 - 04:58 PM
ชอบจริงๆ อ่านแล้วเพลินเลย
ขออนุญาติ copy ส่งให้เพื่อนอ่าน
กราบอนุโมทนาบุญค่ะ
#9
โพสต์เมื่อ 06 November 2007 - 05:40 PM
ลูกพระธรรม
#10
โพสต์เมื่อ 06 November 2007 - 08:19 PM
และท่านก็ตรัสสรุป
ว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน
ตลอดจนหยุดตามท่าน
คือการมองเข้าข้างใน
และการหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน
คือสัญลักษณ์สำคัญของพุทธแท้
พุทธแท้จะรู้ว่าการพยายามมองออกข้างนอก
เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้จักประโยชน์สูงสุด
อันพึงมีพึงได้จากความเป็นมนุษย์
#11
โพสต์เมื่อ 06 November 2007 - 11:09 PM
คงมันน่าดูเลย
#12
โพสต์เมื่อ 08 November 2007 - 12:02 AM
สาธุ
#13
โพสต์เมื่อ 08 November 2007 - 08:05 PM

#14
โพสต์เมื่อ 08 November 2007 - 08:48 PM
เวลาทำอะไรพลาด อย่าคิดนำไปก่อน เพราะมารจะเข้าแทรกผัง ให้เราคิดได้เป็นเรื่องเป็นราวทันที ยิ่งคิด ยิ่งมีผลเสียแก่ตัวเราเอง ถ้าคิดอย่างนี้แล้วใจจะตก มารจะแทรกผังสำเร็จใส่ทันที ทำให้เรื่องที่ยังไม่มีอะไร กลับกลายเป็นเรื่องร้ายทันที ยิ่งคิดจะยิ่งเสีย ฉะนั้น เมื่อเกิดเรื่อง ให้เราทำใจหยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกายอย่างเดียว (ขุมทรัพย์จากคุณยาย)
#15
โพสต์เมื่อ 10 November 2007 - 02:42 PM
#17
โพสต์เมื่อ 11 November 2007 - 12:58 AM






ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิฯ
#18
โพสต์เมื่อ 11 November 2007 - 08:59 AM