
เมื่อเช้ามืดเกือบตาย
#1
โพสต์เมื่อ 09 January 2008 - 09:35 AM
#2
*YTTRA*
โพสต์เมื่อ 09 January 2008 - 10:12 AM
ไปทำบุญดีกว่า..แล้วอุทิศบุญไปให้เจ้ากรรมนายเวร
#3
โพสต์เมื่อ 09 January 2008 - 10:29 AM
#4
โพสต์เมื่อ 09 January 2008 - 11:03 AM
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#5
โพสต์เมื่อ 09 January 2008 - 11:06 AM
#6
โพสต์เมื่อ 09 January 2008 - 11:20 AM
ดังนั้น ก่อนที่จะคิดเป็นตุเป็นตะไป ผมอยากให้พี่สิริปโปลองตรวจสอบดูดังนี้ก่อนนะครับ
1. ลักษณะท่านอนของเรา เวลานอนหัวยกสูงเกิดไปไหม หรือกดตําเกินไปหรือไม่
2. หมอนที่เราใช้ แข็งไปหรือนุ่มเกินไปหรือเปล่า
3. การหนุนหมอนรู้สึกติดขัดตรงท้ายทอยหรือไม่ อันนี้สำคัญ เพราะท้ายทอยเป็นศูนย์รวมของระบบประสาทที่ส่งผลต่อกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย หากถูกทับนานๆจะส่งผลทำให้ไม่มีแรงในการขยับตัว
4. ห้องที่เรานอนพักอากาศถ่ายเทได้สะดวกหรือไม่ โดยเฉพาะห้องเล็กๆที่ปิดมิดชิด เพราะหากอากาศถ่ายเทไม่สะดวกจะทำให้เกิดอาการพิษคาร์บอนไดออกไซด์ หรืออาการขาดออกซิเจน ซึ่งจะส่งผลต่อสมองทำให้สมองชาด้านได้ และหากเป็นหนักอาจเกิดอาการไหลตายได้ครับ
5. ไม่ควรทำอาหารในห้องที่เราใช้นอน เพราะความร้อนเป็นตัวทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ส่วนวิธีแก้ไข
1. เวลานอนแม้จะเปิดแอร์หรือพัดลมก็ตาม ควรเปิดหน้าต่างแง้มไว้สักเล็กน้อย เพื่อให้มีอากาศภายนอกเข้ามาถ่ายเท
2. เวลานอน จุดที่เรานอนไม่ควรตรงกับช่องลมแอร์
3. หากเกิดอาการ ให้ทำใจเย็นๆ สูดลมหายใจลึกๆ เพื่อให้ร่างกายรับอ๊อกซิเจนที่เหลืออยู่ให้ได้มากที่สุด
4. ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงที่นอนและท่านอนของเรา
แลงไปแก้ไขดูก่อนนะครับ หุหุ
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#7
โพสต์เมื่อ 09 January 2008 - 12:40 PM
ซึ่งถ้าคิดดูอาจจะถึงกับเสียชีวิตได้ เหมือนที่เขาว่าไหลตาย ส่วนสาเหตุที่แท้จริงก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเกิดจากอะไร
#8
โพสต์เมื่อ 09 January 2008 - 01:54 PM
#9
โพสต์เมื่อ 09 January 2008 - 02:14 PM
#10
โพสต์เมื่อ 09 January 2008 - 06:08 PM
มีเรื่องน่าขันเกี่ยวกับอาการนี้อยู่เรื่องครับ คือ ช่วงที่ผมย้ายอยู่ใหม่ๆ มีอยู่วันหนึ่งผมซื้อชั้นวางของมาใหม่กะว่าจะใช้ตั้งของในห้อง แต่อนิจจามันดันเอาเข้าจุดที่ผมจะวางไม่ได้ ผมเลยตั้งเอาไว้ปลายเตียงก่อนกะว่าจะปรับแก้ให้เรียบร้อยก่อน ว่าแล้วก็อาบนําชำระร่างกาย พอเสร็จเรียบร้อยผมเอาผ้าเช็ดตัวผึ่งไว้ที่ชั้นวางของ โดยวางคุมชั้นวางของไว้ พอเข้านอนเท่านั้นแหล่ะครับ กำลังเคลิ้มได้ที่ อาการผีอำก็เกิดขึ้นกับผมทันที รู้สึกมือเท้าหนักจะยกก็ยกไม่ขึ้น จะพลิกตัวก็ทำไม่ได้ จะลืมตาก็ลืมได้นิดเดียว เหมือนคนทำตาปรือๆ ช่วงที่ตาผมปรือๆอยู่นั้น ผมไปสะดุดกับเงาๆหนึ่งที่ปลายเตียง ตอนนั้นผมรู้สึกขนลุกทันที สติเริ่มกระเจิง สักพักเงานั้นค่อยๆชัดขึ้นเป็นหน้าคน ใหญ่มากเลยครับอยู่ที่ปลายเตียง ผมตกใจกลัวอย่างเป็นที่สุด เลยหายใจลึกๆกลั้นหายใจสวดมนต์แบบไม่หมดลมไม่หยุดหรือลืมหายใจไปเลยครับ ทันทีพอสวดจบน่าแปลกนะครับสติผมเริ่มกลับคืน ตัวเริ่มหายหนัก ตาค่อยๆลืมได้ ผมก็เลยลุกจากเตียงขึ้นมาสำรวจดูตัวเองและห้องผม สิ่งที่ผมเห็นเป็นหน้าคนก็คือ ชั้นวางของที่ผมซื้อมาใหม่นั่นเองครับ ด้ายบนโค้งทำให้ดูเหมือนหัวคน มีผ้าเช็ดตัวผมคลุมอยู่ทำให้ดูเหมือนผม เท่านั้นแหล่ะครับ ปริศนาทั้งหมดก็กระจ่าง ดึงผ้าเช็ดตัวออกจากชั้นวางของทันที
ตั้งแต่นั้นมาผมเวลาผมถูกอาการนี้ปุ๊บ ผมจะนอนหลับตาทำใจสบายๆทันที แล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ หากหายใจลำบากก็จะพยายามฝืนเพื่อให้ร่างกายได้ออกซิเจนอย่างเต็มที่ แล้วอาการนั้นก็จะค่อยๆหายไปครับ
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#11
โพสต์เมื่อ 09 January 2008 - 06:56 PM
เคยเป็นเหมือนกัน
ไม่ใช่ยมฑูตมาเยี่ยมหรอกครับ : )
#12
โพสต์เมื่อ 09 January 2008 - 08:12 PM

ไฟล์แนบ
#13
โพสต์เมื่อ 09 January 2008 - 10:17 PM
#14
โพสต์เมื่อ 10 January 2008 - 09:07 AM
</a>
#15
โพสต์เมื่อ 10 January 2008 - 11:22 AM
มีความเอื้ออาทรดูแลเอาใจใส่กันเป็นอย่างดี
มีความจริงใจเปิดเผยปิยะวาจาต่อกันและกันดีมาก
และประกอบด้วยสติปัญญามีเหตุผลดี
เห็นอย่างนี้แล้วก็สบายใจ
อนาคตของวัดพระธรรมกายที่เรารักยิ่งนี้
ต้องสดใสรุ่งโรจน์โชติช่วงชัชวาลยิ่งๆขึ้นไปอย่างแน่นอน
#16
โพสต์เมื่อ 11 January 2008 - 04:04 PM
ใครยังเป็นอยู่ หรือยังโดนอำ ก็ใช้วิธีนะ รับรองผล 100% ค่ะ
(เมื่อมีสติ สิ่งที่ไม่จริง ย่อมมลาย หายไปในบัดดล)
