ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 1 คะแนน

เมื่อเช้ามืดเกือบตาย


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 15 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 สิริปโภ

สิริปโภ
  • Members
  • 1766 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:เรื่องลึกลับ

โพสต์เมื่อ 09 January 2008 - 09:35 AM

นอนครึ่งหลับครึ่งตื่น มีอาการวูบๆปากสั่นสลึมสลือขยับตัวไม่ได้ ทั้งๆที่พยามสุดตัวอยู่พักใหญ่ๆ แล้วก็เห็นเหมือนมีคนตัวดำๆมายืนที่ปลายเตียง กลัวมาก ก็เลยนึกถึงบุญที่ทำมาแล้วตะโกนออกไปว่า พุทโธ ก็ไม่หาย พอจะตะโกนว่าสัมมา ยังไม่ทันสิ้นเสียงอะระหัง สติก็กลับคืนมาแล้วอาการก็ค่อยๆคลายหายไปเลยครับ น่ากลัวจริงๆผมไม่รู้ว่าเป็นอาการเกี่ยวกับความดันหรือป่าว ที่ปากสั่นสลึมสลือแล้วมันวูบในหัวเหมือนใจจะดับ เกี่ยวกับเส้นเลือดในสมองหรือป่าว เพราะเคยเป็นแบบนี้หลายครั้งแต่ช่วงนี้หายไปนานก็กลับมาเป็นอีก ใครมีความรู้ช่วยวินิจฉัยโรคให้ทีครับ




#2 *YTTRA*

*YTTRA*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 09 January 2008 - 10:12 AM

วิญญานตามรังควานป่าว? หรือยมบาลมาเยี่ยม? เอสบายดีไหม..ท่านคงคิดถึงน่ะครับอย่าคิดมาก
ไปทำบุญดีกว่า..แล้วอุทิศบุญไปให้เจ้ากรรมนายเวร

#3 อภินิหารธรรม

อภินิหารธรรม
  • Members
  • 170 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 January 2008 - 10:29 AM

เคยเป็นเหมือนกันครั้งแรกในชีวิตละ เหมือนมีเงาดำยึดตัวเราไว้ ดิ้นไม่ได้เลย ครึ่งหลับครึ่งตื่นนี่แหละ นั่งอยู่ข้างข้างก้มลงจะ ทำอะไรกับหน้าเราปากเราละ น่ากลัวมาก จะเอาหนอนมาใส่ปล่าวก็ไม่รู้ น่ากลัวหนอ น่ากลัวหนอ

#4 ฟ้ายังฟ้าอยู่

ฟ้ายังฟ้าอยู่
  • Members
  • 2511 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 January 2008 - 11:03 AM

เคยเป็นเช่นกันค่ะ เมื่อสิบปีที่แล้ว ก็ไม่รู้เหมือนกัน กึ่งหลับกึ่งตื่นนี่แหล่ะค่ะ
"เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว พบแล้วไม่กำจะเกิดมาทำไม
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)


#5 หยุดถูกส่วน

หยุดถูกส่วน
  • Members
  • 15 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 January 2008 - 11:06 AM

ขอให้คลายความกังวล เกิดจากการเพลียทางสมองและสัณญานติดขัดในสมองมักเกิดกับคนนอนหลับไม่พอหรือพักผ่อน ไม่เต็มที่ ระบบภายในไม่สัมพันธ์ ถ้าพักผ่อนน้อยกรุณาดื่มน้ำให้มากกว่าเดิมสัก ๒ แก้ว หลังอาหารออกเดินปรับร่างกายสักระยะก่อนทำงานหรือนั่งสมาธิ ตลอดวันฝึกหยุดใจให้สนิทฝึกบ่อยๆ ก็ดีขึ้นครับ

#6 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 09 January 2008 - 11:20 AM

อย่าพึ่งคิดเป็นตุเป็นตะไปเลยครับ อาการวูปเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ เช่น เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ หรือเลือดไปเลี้ยงสมองมากเกินไป ซึ่งจะส่งผลต่อประสาทสัมผัสในหลายๆด้าน เช่น ทำให้ตาลาย หน้ามืด หรือแม้แต่การทำงานของกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายตา หากมีเลือดไปเลี้ยงไม่พออาจจะส่งผลให้เกิดจุดบอดของสายตาที่เรียกว่า Blind spot ซึ่งจะทำให้เห็นเป็นเงาดำเป็นบางจุด อุปมาเหมือนกับเอากระดาษสีดำไปปิดหน้าจอทีวีไว้บางส่วน ทำให้เราเห็นภาพได้แค่บางส่วนเท่านั้น แต่เนื่องจากยังพอมีเลือดไปหล่อเลี้ยงอยู่บ้าง ภาพที่เราเห็นจึงไม่ชัดเจนเท่าที่ควรเหมือนเงาลางๆ และเมื่อเลือดไปหล่อเลี้ยงสมองไม่พอนี่เองจึงส่งผลให้การทำงานของสมองผิดปกติ หรือที่เลี้ยงว่าสมองชาด้าน ลักษณะเหมือนกับอาการชาตามแขนขาทั่วไป ซึ่งส่งผลโดยตรงกับกล้ามเนื้อของเราทำให้ไม่สามารถขยับตัวได้ ท่านใดที่เคยผ่าตัดโดยใช้ยาชาหรือยาสลบจะรู้ถึงลักษณะอาการดี จะมีอาการดังนี้คือ ยังมีความรู้สึกตัวอยู่แต่ความรู้สึกนั้นจะมึนงง มองอะไรไม่ชัดเจน คล้ายคนง่วงนอน แขนขามีความรู้สึกเล็กน้อยแต่ขยับไม่ได้

ดังนั้น ก่อนที่จะคิดเป็นตุเป็นตะไป ผมอยากให้พี่สิริปโปลองตรวจสอบดูดังนี้ก่อนนะครับ

1. ลักษณะท่านอนของเรา เวลานอนหัวยกสูงเกิดไปไหม หรือกดตําเกินไปหรือไม่
2. หมอนที่เราใช้ แข็งไปหรือนุ่มเกินไปหรือเปล่า
3. การหนุนหมอนรู้สึกติดขัดตรงท้ายทอยหรือไม่ อันนี้สำคัญ เพราะท้ายทอยเป็นศูนย์รวมของระบบประสาทที่ส่งผลต่อกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย หากถูกทับนานๆจะส่งผลทำให้ไม่มีแรงในการขยับตัว
4. ห้องที่เรานอนพักอากาศถ่ายเทได้สะดวกหรือไม่ โดยเฉพาะห้องเล็กๆที่ปิดมิดชิด เพราะหากอากาศถ่ายเทไม่สะดวกจะทำให้เกิดอาการพิษคาร์บอนไดออกไซด์ หรืออาการขาดออกซิเจน ซึ่งจะส่งผลต่อสมองทำให้สมองชาด้านได้ และหากเป็นหนักอาจเกิดอาการไหลตายได้ครับ
5. ไม่ควรทำอาหารในห้องที่เราใช้นอน เพราะความร้อนเป็นตัวทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

ส่วนวิธีแก้ไข

1. เวลานอนแม้จะเปิดแอร์หรือพัดลมก็ตาม ควรเปิดหน้าต่างแง้มไว้สักเล็กน้อย เพื่อให้มีอากาศภายนอกเข้ามาถ่ายเท
2. เวลานอน จุดที่เรานอนไม่ควรตรงกับช่องลมแอร์
3. หากเกิดอาการ ให้ทำใจเย็นๆ สูดลมหายใจลึกๆ เพื่อให้ร่างกายรับอ๊อกซิเจนที่เหลืออยู่ให้ได้มากที่สุด
4. ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงที่นอนและท่านอนของเรา

แลงไปแก้ไขดูก่อนนะครับ หุหุ
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#7 panu

panu
  • Members
  • 530 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 January 2008 - 12:40 PM

ฟังแล้วน่ากลัว เพราะดูแล้วเป็นกันหลายคน (แต่ผมไม่เคยเป็น)

ซึ่งถ้าคิดดูอาจจะถึงกับเสียชีวิตได้ เหมือนที่เขาว่าไหลตาย ส่วนสาเหตุที่แท้จริงก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเกิดจากอะไร



#8 suppy001

suppy001
  • Members
  • 2210 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 January 2008 - 01:54 PM

คุณเคยเข้าวัดแนะนำได้ละเอียดดีครับ อย่างไรก็ตามขอให้บุญรักษาคุณสิริปโภ นะครับ สาธุ

#9 สิริปโภ

สิริปโภ
  • Members
  • 1766 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:เรื่องลึกลับ

โพสต์เมื่อ 09 January 2008 - 02:14 PM

ลืมเล่าไปครับ พอหลังจากหายแล้วลืมตาดูก็พบว่า เงาดำๆทะมึนที่ปลายเตียงก็คือเงาของTVนั่นเอง




#10 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 09 January 2008 - 06:08 PM

ผมก็เคยเป็นอย่างพี่สิริปโปมาก่อนน่ะครับ เรื่องมีอยู่ว่า ตอนที่ผมย้ายมาอยู่ที่ทำงานใหม่ ผมมีอาการเหมือนอย่างพี่สิริปโปหรือที่เรียกว่าถูกผีอำบ่อยมาก ซึ่งตอนแรกผมก็คิดเช่นนั้น ต่อมาได้ฟังหลวงพ่อทัตตะเกี่ยวกับเรื่องธาตุ4ประกอบกับกำลังศึกษาหลักฮวงจุ้ย ทำให้ผมฉุกคิดขึ้นมาจึงเริ่มทำการตรวจสอบห้องพักของผมทันที ซึ่งห้องพักของผมนั้นผิดหลักฮวงจุ้ยทั้งหมด นั้นก็คือ เป็นห้องปิดมีหน้าต่างบานเลื่อนเล็กๆ ไม่มีมุ้งลวด เวลานอนผมจึงต้องปิดประตูหน้าต่างทั้งหมดเพราะกลัวยุงเข้าห้อง จึงทำให้ห้องนอนผมกลายเป็นห้องอับ ยิ่งตอนช่วงหน้าร้อนผมจะเป็นแทบทุกคืน เพราะอากาศร้อนทำให้ห้องอบอ้าว ส่งผลต่อธาตุในตัว และยิ่งสำรวจดูที่นอนก็พบว่าที่นอนของผมเก่ามากยุบกลางมำให้เวลานอนช่วงสะโพกของผมรับนําหนักมากขึ้นแม้แต่การนอนตะแคงก็ยังทำให้กระดูกสันหลังผมกดทับไขสันหลัง ไม่เพียงแค่นั้น เนื่องจากห้องนอนผมเป็นห้องเล็กๆแคบๆ เวลาผมทำอาหารจึงต้องทำในห้องนอน ซึ่งผิดหลักฮวงจุ้ยเป็นอย่างยิ่งที่ว่าไม่ควรให้ห้องนอนตรงกับห้องอาหาร หลังจากที่ได้เรียนรู้ได้ศึกษา ผมก็ปรับแก้มาเรื่อยๆ จนเดี๋ยวนี้ผมหายจากอาการผีอำโดยสิ้นเชิง (พอหายจากอาการนี้โรคขี้เกียจก็ถามหา - -" )

มีเรื่องน่าขันเกี่ยวกับอาการนี้อยู่เรื่องครับ คือ ช่วงที่ผมย้ายอยู่ใหม่ๆ มีอยู่วันหนึ่งผมซื้อชั้นวางของมาใหม่กะว่าจะใช้ตั้งของในห้อง แต่อนิจจามันดันเอาเข้าจุดที่ผมจะวางไม่ได้ ผมเลยตั้งเอาไว้ปลายเตียงก่อนกะว่าจะปรับแก้ให้เรียบร้อยก่อน ว่าแล้วก็อาบนําชำระร่างกาย พอเสร็จเรียบร้อยผมเอาผ้าเช็ดตัวผึ่งไว้ที่ชั้นวางของ โดยวางคุมชั้นวางของไว้ พอเข้านอนเท่านั้นแหล่ะครับ กำลังเคลิ้มได้ที่ อาการผีอำก็เกิดขึ้นกับผมทันที รู้สึกมือเท้าหนักจะยกก็ยกไม่ขึ้น จะพลิกตัวก็ทำไม่ได้ จะลืมตาก็ลืมได้นิดเดียว เหมือนคนทำตาปรือๆ ช่วงที่ตาผมปรือๆอยู่นั้น ผมไปสะดุดกับเงาๆหนึ่งที่ปลายเตียง ตอนนั้นผมรู้สึกขนลุกทันที สติเริ่มกระเจิง สักพักเงานั้นค่อยๆชัดขึ้นเป็นหน้าคน ใหญ่มากเลยครับอยู่ที่ปลายเตียง ผมตกใจกลัวอย่างเป็นที่สุด เลยหายใจลึกๆกลั้นหายใจสวดมนต์แบบไม่หมดลมไม่หยุดหรือลืมหายใจไปเลยครับ ทันทีพอสวดจบน่าแปลกนะครับสติผมเริ่มกลับคืน ตัวเริ่มหายหนัก ตาค่อยๆลืมได้ ผมก็เลยลุกจากเตียงขึ้นมาสำรวจดูตัวเองและห้องผม สิ่งที่ผมเห็นเป็นหน้าคนก็คือ ชั้นวางของที่ผมซื้อมาใหม่นั่นเองครับ ด้ายบนโค้งทำให้ดูเหมือนหัวคน มีผ้าเช็ดตัวผมคลุมอยู่ทำให้ดูเหมือนผม เท่านั้นแหล่ะครับ ปริศนาทั้งหมดก็กระจ่าง ดึงผ้าเช็ดตัวออกจากชั้นวางของทันที

ตั้งแต่นั้นมาผมเวลาผมถูกอาการนี้ปุ๊บ ผมจะนอนหลับตาทำใจสบายๆทันที แล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ หากหายใจลำบากก็จะพยายามฝืนเพื่อให้ร่างกายได้ออกซิเจนอย่างเต็มที่ แล้วอาการนั้นก็จะค่อยๆหายไปครับ
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#11 somchet

somchet
  • Members
  • 900 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 January 2008 - 06:56 PM

อาการผีอำ
เคยเป็นเหมือนกัน

ไม่ใช่ยมฑูตมาเยี่ยมหรอกครับ : )

#12 num_r

num_r
  • Members
  • 365 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 09 January 2008 - 08:12 PM

สงสัยได้เวลาดูแลสุขภาพอย่างจริงจังแล้วล่ะครับ ร่างกายส่งสัญญาญออกมาชัดเจนขนาดนี้ nerd_smile.gif



ไฟล์แนบ

  • แนบไฟล์  web01_2.jpg   132.46K   62 ดาวน์โหลด


#13 lee072d

lee072d
  • Members
  • 265 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 January 2008 - 10:17 PM

ฝันร้ายไปแล้ว เดี๋ยวฝันดีก็มา

#14 samana072

samana072
  • Admin_Article_Only
  • 109 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:วัดพระธรรมกาย

โพสต์เมื่อ 10 January 2008 - 09:07 AM

ลองดูเรื่องการบริโภคอาหารก่อนที่จะเข้านอนดูนะครับ น่าจะมีส่วน
<a href="http://www.dmc.tv/im...0-02-14-18.jpg" target="_blank">
</a>

#15 DJ.

DJ.
  • Members
  • 1212 โพสต์

โพสต์เมื่อ 10 January 2008 - 11:22 AM

น้องๆหลานๆน่ารักกันมากเลยทีเดียว
มีความเอื้ออาทรดูแลเอาใจใส่กันเป็นอย่างดี
มีความจริงใจเปิดเผยปิยะวาจาต่อกันและกันดีมาก
และประกอบด้วยสติปัญญามีเหตุผลดี
เห็นอย่างนี้แล้วก็สบายใจ
อนาคตของวัดพระธรรมกายที่เรารักยิ่งนี้
ต้องสดใสรุ่งโรจน์โชติช่วงชัชวาลยิ่งๆขึ้นไปอย่างแน่นอน

#16 ยึดมั่นความดี

ยึดมั่นความดี
  • Members
  • 183 โพสต์

โพสต์เมื่อ 11 January 2008 - 04:04 PM

เราก็เคยโดน อำ โดนอยู่บ่อยๆ เลยค่ะ แต่ตอนหลังๆ เข้ากลางอย่างเดียวค่ะ คือ ทำสมาธิน้อมจิตสู่ศูนย์กลางกาย ไม่ถึงวินาทีค่ะ ขยับตัวได้สบายสบายเลย

ใครยังเป็นอยู่ หรือยังโดนอำ ก็ใช้วิธีนะ รับรองผล 100% ค่ะ

(เมื่อมีสติ สิ่งที่ไม่จริง ย่อมมลาย หายไปในบัดดล)

happy.gif