
เวลาหัดนั่งสมาธิแล้วคิดตามที่หลวงพ่อสอนได้ไหมคะ
เริ่มโดย ใจใสสบาย, Mar 31 2008 04:25 PM
มี 3 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 31 March 2008 - 04:25 PM
อยากทราบว่าเวลาหัดนั่งสมาธิ (ตามรายการ DMC ) แล้วใจคิดตามที่หลวงพ่อท่านพูดสอนได้ไหมคะ.
กับอีกคำถามนึงค่ะคือจะพยายามนึกถึงดวงแก้วใสหรือองค์พระในบริเวณกลางท้องเหนือสะดือขึ้นมา 2 นิ้ว
พอนึกภาพได้ซักพักก็จะทิ้งภาพนั้นไว้ที่กลางท้องแล้วมานึกภาพดวงแก้วใสหรือองค์พระขึ้นใหม่ที่บริเวณตา
ทั้ง 2 ข้างได้ไหมคะ. เหมือนกับว่านึกเห็นที่กลางท้องก็ได้หรือขึ้นมาที่ตาก็ได้ไหมคะ. ถ้าการนั่งผิดพลาดหรือ
ผิดยังไงก็ขอท่านผู้รู้ช่วยแนะนำและสอนให้ด้วยเถิดค่ะ.
#2
โพสต์เมื่อ 31 March 2008 - 07:34 PM
QUOTE
อยากทราบว่าเวลาหัดนั่งสมาธิ (ตามรายการ DMC ) แล้วใจคิดตามที่หลวงพ่อท่านพูดสอนได้ไหมคะ.
ได้ครับ หากยังไม่เชี่ยวชาญหรือพึ่งเริ่มหัดนั่งได้ไม่นานก็ให้นึกน้อมใจไปตามเสียงของหลวงพ่อก็ได้ครับ
QUOTE
พยายามนึกถึงดวงแก้วใสหรือองค์พระในบริเวณกลางท้องเหนือสะดือขึ้นมา 2 นิ้ว
พอนึกภาพได้ซักพักก็จะทิ้งภาพนั้นไว้ที่กลางท้องแล้วมานึกภาพดวงแก้วใสหรือองค์พระขึ้นใหม่ที่บริเวณตา
ทั้ง 2 ข้างได้ไหมคะ.
พอนึกภาพได้ซักพักก็จะทิ้งภาพนั้นไว้ที่กลางท้องแล้วมานึกภาพดวงแก้วใสหรือองค์พระขึ้นใหม่ที่บริเวณตา
ทั้ง 2 ข้างได้ไหมคะ.
เวรกรรม แล้วไปทิ้งทำไมอ่าครับ ถ้ากำหนดใจไว้ที่เดิมต่อไปได้เข้าถึงแน่ เสียดายแทนจัง - -" อันนี้เป็นหลักฐานว่าใจของคุณเจ้าของกระทู้ไม่หยุดไม่นิ่งพอนะครับ ใจเลยคิดเปลี่ยนตำแหน่งที่วางใจ ในทางปฏิบัติจริงจะนึกตรงไหนก็ได้ แต่สุดท้ายต้องน้อมนำใจให้กลับมาอยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่7คือเหนือสะดือ2นิ้วมือ หากสามารถนึกไว้ที่ฐานที่7ได้ก็ควรประคองไว้ที่ฐานที่7ต่อไปเรื่อยๆ ไม่ควรเปลี่ยนครับ
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#3
โพสต์เมื่อ 01 April 2008 - 08:55 AM
อย่าคิดมากค่า ลองมาอ่านความเห็นแบบบ้าน ๆ ของอยู่กับยายบ้างนะคะ
(บังเอิญไม่ใช่นักวิชาการ เลยไม่เน้นหลักการอ่ะค่ะ)
การนั่งสมาธิ วัตถุประสงค์จริง ๆ ก็คือการทำใจหยุดใจนิ่ง เพราะหยุดเป็นตัวสำเร็จ ตอนนี้ยึดหลักแค่นี้เท่านั้นค่ะ
การเห็นหรือไม่เห็นก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แต่ถ้าได้เห็น ก็ถือว่าเป็นผลพลอยได้ อยู่กับยาย ลองเป็นมาแล้วทุกรูปแบบค่ะ ตั้งแต่ตอนหัดนั่งสมาธิใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นการพยายามนึกถึงดวงแก้ว องค์พระ หรืออย่างหนึ่งอย่างใด พยาย๊าม พยายาม
ที่จะปั้นให้เป็นรูปให้ได้ ควานหาอยู่นั่นแหละ กลางท้องเนี่ย มันอยูไหนหว่า ซึ่งผลลัพท์ก็คือ หน้านิ่ว คิ้วขมวด เหนื่อยเปล่าค่ะ พอไม่นึกอะไรก็ฟุ้งค่ะ เรื่องสัพเพเหระ เข้ามาในหัวไม่ได้หยุดได้หย่อน ฟุ้งจัดจนบางครั้งต้องลืมตาขึ้นมา สบัดให้มันหลุดไปจากหัวเลยค่ะ บางครั้งก็เอาใจมาหยุดฟังเสียงหลวงพ่อแล้วคิดตาม ซึ่งก็ดีค่ะ อย่างน้อยก็ไม่ฟุ้ง หยุดนิ่งกับเสียง ทำให้
เข้าใจในสิ่งที่หลวงพ่อเทศน์มากขึ้น ได้บุญด้วยนะคะ คุณทำถูกทางแล้วค่ะ เมื่อฟังไปเรื่อย ๆ เพลิน ๆ เดี๋ยวใจสงบ ใจก็
จะหยุดนิ่งได้เองค่ะ
ตอนนนี้อยู่กับยาย ไม่อยากเห็นนั่น ไม่อยากเห็นนี่แล้ว เพราะเชื่อตามที่หลวงพ่อบอก ให้หยุดค่ะ เหมือนตอนไปพนาวัฒน์
ลายมือหลวงพ่อท่าน เขียนจารึกไว้ในศิลา หน้าห้องปฏิบัติธรรม ตัวเบ่อเร่อเลยค่ะ ว่า "หยุดนิ่งเฉย ๆ ได้ไม๊" ย้ำตั้งหลายครั้ง หลวงพ่อท่านขอแค่นี้เอง ก็ทำแค่นี้ก็พอ รับรอง หยุดคิดแล้ว ไม่เหนื่อยเลยค่ะ ถึงแม้จะยังไม่เห็นอะไร แต่สิ่งที่ได้คือ
สุขใจ สบ๊าย สบาย ค่า

(บังเอิญไม่ใช่นักวิชาการ เลยไม่เน้นหลักการอ่ะค่ะ)
การนั่งสมาธิ วัตถุประสงค์จริง ๆ ก็คือการทำใจหยุดใจนิ่ง เพราะหยุดเป็นตัวสำเร็จ ตอนนี้ยึดหลักแค่นี้เท่านั้นค่ะ
การเห็นหรือไม่เห็นก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แต่ถ้าได้เห็น ก็ถือว่าเป็นผลพลอยได้ อยู่กับยาย ลองเป็นมาแล้วทุกรูปแบบค่ะ ตั้งแต่ตอนหัดนั่งสมาธิใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นการพยายามนึกถึงดวงแก้ว องค์พระ หรืออย่างหนึ่งอย่างใด พยาย๊าม พยายาม
ที่จะปั้นให้เป็นรูปให้ได้ ควานหาอยู่นั่นแหละ กลางท้องเนี่ย มันอยูไหนหว่า ซึ่งผลลัพท์ก็คือ หน้านิ่ว คิ้วขมวด เหนื่อยเปล่าค่ะ พอไม่นึกอะไรก็ฟุ้งค่ะ เรื่องสัพเพเหระ เข้ามาในหัวไม่ได้หยุดได้หย่อน ฟุ้งจัดจนบางครั้งต้องลืมตาขึ้นมา สบัดให้มันหลุดไปจากหัวเลยค่ะ บางครั้งก็เอาใจมาหยุดฟังเสียงหลวงพ่อแล้วคิดตาม ซึ่งก็ดีค่ะ อย่างน้อยก็ไม่ฟุ้ง หยุดนิ่งกับเสียง ทำให้
เข้าใจในสิ่งที่หลวงพ่อเทศน์มากขึ้น ได้บุญด้วยนะคะ คุณทำถูกทางแล้วค่ะ เมื่อฟังไปเรื่อย ๆ เพลิน ๆ เดี๋ยวใจสงบ ใจก็
จะหยุดนิ่งได้เองค่ะ

ตอนนนี้อยู่กับยาย ไม่อยากเห็นนั่น ไม่อยากเห็นนี่แล้ว เพราะเชื่อตามที่หลวงพ่อบอก ให้หยุดค่ะ เหมือนตอนไปพนาวัฒน์
ลายมือหลวงพ่อท่าน เขียนจารึกไว้ในศิลา หน้าห้องปฏิบัติธรรม ตัวเบ่อเร่อเลยค่ะ ว่า "หยุดนิ่งเฉย ๆ ได้ไม๊" ย้ำตั้งหลายครั้ง หลวงพ่อท่านขอแค่นี้เอง ก็ทำแค่นี้ก็พอ รับรอง หยุดคิดแล้ว ไม่เหนื่อยเลยค่ะ ถึงแม้จะยังไม่เห็นอะไร แต่สิ่งที่ได้คือ
สุขใจ สบ๊าย สบาย ค่า

#4
โพสต์เมื่อ 02 April 2008 - 12:16 PM
นึกง่าย ๆ สบาย ๆ ใจเย็น ๆ