
อยากได้แผนภาพพรหมโลกครับ
#1
โพสต์เมื่อ 21 June 2008 - 08:35 PM
อนุโมทนาบุญครับ
#2
โพสต์เมื่อ 21 June 2008 - 09:03 PM

รูปาวจรภูมิ ๑๖
(ชั้นที่ท่องเที่ยวอยู่ในรูป, ชั้นรูปพรหม — form-planes)
ก. ปฐมฌานภูมิ ๓
(ระดับปฐมฌาน — first-Jhana planes)
๑) พรหมปาริสัชชา
(พวกบริษัทบริวารมหาพรหม — realm of great Brahmas ’ attendants)
๒) พรหมปุโรหิตา
(พวกปุโรหิตมหาพรหม — realm of great Brahmas’ ministers)
๓) มหาพรหม
(พวกท้าวมหาพรหม — realm of great Brahmas)
ข. ทุติยฌานภูมิ ๓
(ระดับทุติยฌาน — second-Jhana planes)
๔) ปริตตาภา
(พวกมีรัศมีน้อย — realm of Brahmas with limited lustre)
๕) อัปปมาณาภา
(พวกมีรัศมีประมาณไม่ได้ — realm of Brahmas with infinite lustre)
๖) อาภัสสรา
(พวกมีรัศมีสุกปลั่งซ่านไป — realm of Brahmas with radiant lustre)
ค. ตติยฌานภูมิ ๓
(ระดับตติยฌาน — third-Jhana planes)
๗) ปริตตสุภา
(พวกมีลำรัศมีงามน้อย — realm of Brahmas with limited aura)
๘) อัปปมาณสุภา
(พวกมีลำรัศมีงามประมาณหามิได้ — realm of Brahmas with infinite aura)
๙) สุภกิณหา
(พวกมีลำรัศมีงามกระจ่างจ้า — realm of Brahmas with steady aura)
ง. จตุตถฌานภูมิ ๓—๗
(ระดับจตุตถฌาน — fourth-Jhana planes)
๑๐) เวหัปผลา
(พวกมีผลไพบูลย์ — realm of Brahmas with abundant reward)
๑๑) อสัญญีสัตว์
(พวกสัตว์ไม่มีสัญญา — realm of non-percipient beings)
(*) สุทธาวาส ๕ (
พวกมีที่อยู่อันบริสุทธิ์ หรือ ที่อยู่ของท่านผู้บริสุทธิ์ คือ ที่เกิดของพระอนาคามี — pure abodes)
คือ
๑๒) อวิหา
(เหล่าท่านผู้ไม่เสื่อมจากสมบัติของตน หรือผู้ไม่ละไปเร็ว, ผู้คงอยู่นาน
— realm of Brahmas who do not fall from prosperity)
๑๓) อตัปปา
(เหล่าท่านผู้ไม่ทำความเดือดร้อนแก่ใคร หรือผู้ไม่เดือดร้อนกับใคร
— realm of Brahmas who are serene)
๑๔) สุทัสสา
(เหล่าท่านผู้งดงามน่าทัศนา
— realm of Brahmas who are beautiful)
๑๕) สุทัสสี
(เหล่าท่านผู้มองเห็นชัดเจนดี หรือผู้มีทัศนาแจ่มชัด
— realm of Brahmas who are clear-sighted)
๑๖) อกนิฏฐา
(เหล่าท่านผู้ไม่มีความด้อยหรือเล็กน้อยกว่าใคร, ผู้สูงสุด
— realm of the highest or supreme Brahmas)
อรูปาวจรภูมิ ๔
(ชั้นที่ท่องเที่ยวอยู่ในอรูป, ชั้นอรูปพรหม — formless planes)
๑) อากาสานัญจายตนภูมิ (
ชั้นที่เข้าถึงภาวะมีอากาศไม่มีที่สุด — realm of infinite space)
๒) วิญญาณัญจายตนภูมิ
(ชั้นที่เข้าถึงภาวะมีวิญญาณไม่มีที่สุด — realm of infinite consciousness)
๓) อากิญจัญญายตนภูมิ
(ชั้นที่เข้าถึงภาวะไม่มีอะไร — realm of mothingness)
๔) เนวสัญญานาสัญญายตนภูมิ
(ชั้นที่เข้าถึงภาวะมีสัญญาก็ไม่ใช่ ไม่มีสัญญาก็ไม่ใช่
— realm of neither perception nor non-perception)
ปุถุชน พระโสดาบัน และพระสกทาคามี ย่อมไม่เกิดในสุทธาวาสภูมิ;
พระอริยะไม่เกิดในอสัญญีภพ และในอบายภูมิ;
ในภูมินอกจากนี้ ย่อมมีทั้งพระอริยะ และมิใช่อริยะไปเกิด.
Comp.137. สังคห.๒๕
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับ ประมวลธรรม พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)
แนะนำให้ศึกษา หนังสือ ธรรมะเพื่อประชาชน ฉบับ ปรโลก
#3
โพสต์เมื่อ 21 June 2008 - 09:06 PM
#4
โพสต์เมื่อ 22 June 2008 - 10:07 AM
#5
โพสต์เมื่อ 22 June 2008 - 01:47 PM
#6
โพสต์เมื่อ 22 June 2008 - 06:33 PM

#7
โพสต์เมื่อ 23 June 2008 - 10:44 AM
#8
โพสต์เมื่อ 23 June 2008 - 05:35 PM
#9
โพสต์เมื่อ 23 June 2008 - 07:03 PM
#10
โพสต์เมื่อ 23 June 2008 - 08:18 PM
#11
โพสต์เมื่อ 24 June 2008 - 01:20 PM
#12
โพสต์เมื่อ 24 June 2008 - 04:41 PM
#13
โพสต์เมื่อ 24 June 2008 - 06:20 PM
แต่เป็น คำกล่าวที่ หนัก สำหรับผม ครับ
เพราะผมเป็นเพียงผู้ที่สนใจศึกษาความรู้แจ้งของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ที่ปรากฏเป็นหลักฐานในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย เท่านั้นครับ
แค่รู้มั่ง มิได้รู้มาก
แค่ทรงจำและทำความเข้าใจความรู้อันประเสริฐ ได้บ้างเพียงบางธรรมขันธ์
ส่วน ความประพฤติและการปฏิบัติ ให้ถึงขั้นเห็นแจ้ง จึงรู้แจ้ง ในธรรมะนั้น
ผมยังห่างไกลมากๆ
แต่ก็ยังใฝ่ดี และได้ฝึกประพฤติดีและปฏิบัติตาม ได้บ้างนิดๆ
พูดตรงๆ คือ ผมยังเอาตัวไม่รอด ไม่หลุดพ้นสังสารวัฏ์ คุกแห่งภพอันบัดซบนี้
และอนุโมทนา คุณ อริย 072 ที่มาร่วมแบ่งปัน สนทนาธรรม
โดยเฉพาะเรื่องธรรมปฏิบัติ
ผมยังนึกถึงและประทับในใจ ถ้อยคำที่ว่า
เพียงกิริยาเดียว
ที่คุณกล่าวไว้ดีแล้วในกระทู้เก่า มาเป็นข้อคิดในการนั่งธรรมะ ถึงวันนี้ครับ
ป.ล.
อุปมาเหมือนเป็นนักเรียนอนุบาล ที่ผ่านการคลานมาเดินเตาะแตะ
จึงมีเพียงความรู้จากการอ่าน การฟัง
และความเข้าใจการไตร่ตรองตามสติปัญญา กายมนุษย์หยาบเท่านั้น
ความเห็นที่นำเสนอ เป็นทรรศนะและความเข้าใจส่วนตัว
ที่ได้มาจากสุตมยปัญญาและจินตมยปัญญา มิใช่จากภาวนามยปัญญาชั้นสูง
วัตถุประสงค์หรือเจตนาที่ข้าพเจ้าเข้ามาโพสต์ธรรมะ ใน www.dmc.tv คือ
1 ) เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ที่เคยศึกษามา
โดยคิดว่าจักเป็นประโยชน์ต่อ บางท่านหรือหลายท่าน จึงนำมาเสนอครับ
2 ) เป็นการแลกเปลี่ยนความเห็นและความเข้าใจซึ่งกันและกัน ในองค์ความรู้ต่างๆ
เป็นการสนทนาธรรมแบบบัณฑิตในกาลก่อน คือ
เจตนาสะอาด วจีสะอาดและสุภาพ + ประกอบด้วยเมตตา กรุณาจิตให้คู่สนทนาธรรมและทุกท่าน
เพื่อข้าพเจ้าและท่านอื่น เข้าใจธรรมะ หรือองค์ความรู้นั้นๆให้ยิ่งขึ้นไป
ฉะนั้นขอทุกท่านอย่าเพิ่งเชื่อข้อมูลที่ข้าพเจ้านำเสนอไว้
ข้าพเจ้ามิบังอาจและมิได้บังคับให้เชื่อ
ในข้อมูลและความเห็นที่ข้าพเจ้านำเสนอแต่อย่างใด
บัณฑิต ควรพิจารณาให้ถ้วนถี่ ตามหลักกาลามสูตร +
ควรค้นคว้าเพิ่มเติม เทียบความถูกต้องในพระธรรมวินัย พระไตรปิฎก
เพื่อความเข้าใจในธรรมะข้อนั้นๆอย่างถ่องแท้
และควรศึกษาเพิ่มเติมจากครูบาอาจารย์และผู้รู้ื่ท่านอื่น
เพื่อตรวจสอบทิศทางให้ถูกต้อง ไม่หลงทาง เป็นความรอบคอบอีกชั้น
และประเสริฐที่สุด คือ
หมั่นขยันประพฤติธรรม หมั่นขยันปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงสภาวะธรรมอันบริสุทธิ์และประณีตที่มีภายในตน
เพื่อความเข้าใจธรรมะข้อนั้นๆให้แจ่มแจ้งยิ่งๆ แบบเห็นแจ้งเอง จึงรู้แจ้งได้ด้วยตนเอง
สมดังพุทธภาษิต
อตฺตา หิ อตฺโน นาโถ
ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน
หากความรู้ธรรมะและความเห็นของข้าพเจ้าที่นำเสนอ ไม่ถูกต้อง ผิดพลาด
ข้าพเจ้าขออภัยทานและขออโหสิกรรมต่อพระรัตนตรัยและทุกท่าน มา ณ ที่นี้ด้วยครับ
และขอความกรุณาจากกัลยาณมิตรทุกท่าน
ทักท้วง ชี้แนะและแก้ไข ให้ถูกต้องตามความเป็นจริงในกระทู้นั้นๆ ด้วยนะครับ
ขอกราบอนุโมทนาบุญ กับทุกๆท่านด้วยครับ สาธุ ๆ ๆ
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=8744
#14
โพสต์เมื่อ 26 June 2008 - 10:47 AM
#15
โพสต์เมื่อ 26 July 2009 - 04:14 PM