
สุวรรณนิธิ
#2
โพสต์เมื่อ 11 October 2008 - 10:39 PM
#4
*innerspot*
โพสต์เมื่อ 11 October 2008 - 10:49 PM
ยังไม่ใช่การหล่อจริง
ขั้นตอนจริงๆมันไม่ได้ทำเสร็จแค่นี้หรอก
พระทองคำนะครับ หล่อจริงๆอ่ะ ใช้เวลาร่วมครึ่งปีแหละครับ
#5
โพสต์เมื่อ 11 October 2008 - 10:55 PM
#6
โพสต์เมื่อ 11 October 2008 - 11:15 PM
#7
โพสต์เมื่อ 11 October 2008 - 11:41 PM
การหล่อหลวงปู่เป็นการหล่อด้วยทองคำ แต่มหาสุวรรณนิธิคืออะไร แต่ไม่ใช่ทองคำแน่นอน
แล้วเกี่ยวข้องยังไงกับการหล่อหลวงปู่ครั้งนี้ อยากทราบเช่นกัน วานผู้รู้ช่วยชี้แจงหน่อยเถอะค่ะ
จะได้เป็นประโยชน์ เป็นข้อมูลเพื่อนำไปบอกกล่าวกับคนภายนอกที่ยังไม่เข้าใจ ให้เข้าใจได้ตรงกันต่อไป
#8
โพสต์เมื่อ 11 October 2008 - 11:48 PM
แต่แปลกกว่า..ว่าเดี๋ยวนี้คิดได้แล้วคิดดีและสบายใจกว่า คิ๊...ดดดถึงทีไรก็ปลื้มใจไม่หายสักทีก็เพราะการได้ร่วมบุญและมีกิจกรรมนั้น ๆ ในพิธีกรรมนั้น ๆ ให้ทำจริงน่ะสิถ้าไม่ได้ทำกับมือคงปลื้มไม่เท่าไหร่ อาจจะเป็นแค่การถวายปัจจัยแล้วก็จบกันไปเหมือนกับนำเงินใส่ซองกฐิน ผ้าป่าที่ทำผ่าน ๆ ไปกับที่อื่นๆ น่ะ
หลวงพ่อท่านต้องการให้ผู้มีบุญทุกคนได้รู้สึกปลาบปลื้ม ปีติใจและจดจำภาพการมีส่วนร่วมในบุญที่ตนเองได้ทำกับหมู่คณะแห่งดุสิตบุรีวงบุญพิเศษนี้ไม่มีวันลืมค่ะ ก็เหมือนกับตอนหล่อคอนกรีตที่มหาธรรมกายเจดีย์ หรือตอนหล่อคอนกรีตพื้นใต้สภา หรือจะตอนตอกเสาเข็ม เราก็ไปหล่อไปตอกกับมือเราเองนี่แหละ รู้ทั้งรู้ว่าปูนในถังใกล้จะแข็งตัวแล้วจะต้องผ่านมือผู้มีบุญแต่ละคน ๆไป สาธุชนเป็นหมื่นเป็นแสนเหมือนกันกว่าปูนแต่ละถัง แต่ละแถวจะส่งมาถึงหลวงพี่ที่รอเทปูนหล่ออยู่ บางกระป๋องก็เทไม่ออก เคาะไม่ออกแล้ว หลังเสร็จพิธีก็ต้องรื้อเพื่อทำใหม่ตามวิธีการก่อสร้างจนเสร็จสมบูรณ์มาให้เห็นนี่แหละ คือทั้งหมดทั้งมวลที่เราทุกคนได้ลงมือทำกันเองเพราะเหตุผลที่กล่าวมาแล้วค่ะ หลวงพ่อท่านยอมที่จะเสียตรงนี้เพื่อหวังจะให้เจ้าของบุญและสาธุชนผู้มีบุญทุกคนได้มีส่วนร่วมไม่ใช่สักแต่ส่งเงินส่งทองส่งปัจจัยมาทำบุญแล้วก็มานั่ง ๆ นอน ๆ กันเฉย ๆ เวลาจะสิ้นลมหายใจก็นึกถึงบุญไม่ออก นึกออกก็ไม่ชัดเจน
ดังนั้น เรื่องการหล่อทองแล้วก็เช่นเดียวกันอีกอย่างลองคิดดูสิว่าถ้าเปลี่ยนจากแจกมหาสุวรรณนิธิเป็นทองคำแท้มาแจกทุกคนเพื่อเอาไปหล่อคุณคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น (ฮากันล่ะสิ..เหอ เหอ)
คุณWB มาทัน Case Study ไหมอ่ะ ที่มีแม่ค้าปลาคนหนึ่งไม่บอกก็รู้ว่ามือของเธอต้องผ่านชีวิตปลามากี่นับร้อยพันหมื่นชีวิต แต่เธอก็ยังมีจิตใจเป็นกุศลบ้างได้ร่วมบุญตอกเสาเข็ม (ไม่แน่ใจว่าเสาต้นไหน ..ต้นแรกหรือต้นสุดท้าย) ชีวิตของเธออยู่มาได้ไม่นานนักเธอก็จากโลกนี้ไป และด้วยวิบากกรรมที่เธอกระทำเป็นอาจิณก็ส่งให้เธอไปสู่อบาย อบาย อบาย ขอเล่าสั้นๆ นะ ช่วงเวลาอันแสนเจ็บปวดทรมานของเธอที่เป็นสัตว์นรกอยู่ ระหว่างเสียงดังของโลหะกระทบกันดังเช้..ง ซึ่งก็เป็นแวบหนึ่งซึ่งเหมือนเสียงโลหะอันเป็นทิพย์กระทบกันเป็นเสียงดัง เช้..งเช่นเดียวกันกับตอนที่เธอเป็นมนุษย์และเสียงนั้นก็เป็นเสียงของเหตุการณ์ในวันที่เธอได้ทำบุญและเธอได้ลงมือตอกเสาเข็มไปพร้อม ๆ กันกับปั้นจั่นของจริงที่ตอกเสาเข็มต้นใหญ่จริง ๆ อยู่ ปั้นจั่นก็ตอกเสาเข็มต้นจริงไป เราทั้งหลายรวมถึงพระภิกษุสามเณรที่อยู่ในที่นั้นก็ก้มหน้าก้มตาตอกเสาเข็มไม้เล็กๆ ไป เสียงฆ้อนที่ตอกแทนปั้นจั่นในมือเราก็ดังกรุ๊กกริ๊ก ๆ อืม์ช่างเป็นวันแห่งความสุขที่สุดในชีวิตซะจริง ๆ ...... ทันใดนั้นร่างเธอที่กำลังรับทุกขเวทนาอยู่ก็พลันเปลี่ยนสภาพจากสัตว์นรกไปเป็น อืมมม เอ..อะไรล่ะใครจำได้ช่วยต่อให้ทีได้โปรด Please Please !!!
ดังนั้น ได้โปรดอย่าเอาใจที่กำลังใส ใส มานั่งสงสัยกันอยู่ใย รีบเร่งเร็วไวต่อสายบุญกัน



#9
โพสต์เมื่อ 12 October 2008 - 12:08 AM
#10
โพสต์เมื่อ 12 October 2008 - 10:44 AM

#11
โพสต์เมื่อ 12 October 2008 - 02:23 PM
#12
โพสต์เมื่อ 12 October 2008 - 04:19 PM
...SMILE.... SMILE.... SMILE...
...ยิ้ม... ใส... ปิ๊ง...
#13
*innerspot*
โพสต์เมื่อ 12 October 2008 - 08:48 PM
#14
โพสต์เมื่อ 12 October 2008 - 09:04 PM
เคยสงสัย แต่ตอนนี้เลิกสงสัยแร้ววว
#15
โพสต์เมื่อ 12 October 2008 - 09:30 PM
คำตอบที่เป็นความรู้สึกแบบนี้แหละค่ะ ที่จำเป็นสำหรับนักสร้างบารมีที่จะนำไปตอบบุคคลภายนอก ที่เราต้องไปบอกบุญเขา หรือคนใหม่ ๆ ที่เขามาร่วมงาน รวมถึงผู้ที่ผ่านมาสังเกตุการณ์บนบอร์ดแห่งนี้ ซึ่งถามว่าเขาสงสัยไหม แน่นอนว่าต้องสงสัย และพวกเราก็ควรมีคำตอบที่เหมาะสมสำหรับการชี้แจงด้วยเช่นกัน
ความสงสัยเหล่านี้คือช่องทางให้เราได้มีโอกาสพูดคุยธรรมะกับพวกเขาได้มากขึ้นด้วยนะคะ

#16
โพสต์เมื่อ 13 October 2008 - 11:33 AM
ทำบุญแล้วอย่าสงสัยครับ (เพียงแค่สงสัยว่าเอาปัจจัยไปทำอะไรบุญก็หกหล่นแล้ว)
ช่วยกันบอกต่อคนใหม่ด้วยครับ
#17
โพสต์เมื่อ 13 October 2008 - 03:01 PM
พิธีการในงานบุญใหญ่ ทุกงานบุญ
พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ท่านปราถนา ให้พวกลูกๆทุกคน มีกิจกรรมอย่างหนึ่งอย่างใด..
ที่จะได้ประกอบพิธี ร่วมไปกับพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ ไม่มาก ก็น้อย
จะได้จดจำได้ง่าย เวลานึกทบทวนบุญ ให้ใจปลื้ม ได้นานแสนนาน
...
สังเกตไหมล่ะว่า..
ยิ่งเราลำบาก มอมแมม ร้อน เหนื่อย คนแน่น ยิ่งจำแม่น
นำมาย้อนคุยกันที่ไร ก็ยิ่งสนุก เล่ากันเป็นวันๆ เบิกบาน...
ไม่เชื่อ ก็ดูแค่ งานบุญวันที่ 10ในเว็บบอร์ดสิ กระทู้ปลื้มๆๆๆๆๆ เป็นสิบแล้ว
...
ที่สำคัญรู้มั้ย ...ท่านให้ไว้ เอาไว้เป็นเครื่องมือ เวลาชิงช่วงกัน..ในวาระสุดท้ายของชีวิต
แม้ในอบาย อย่างที่คุณ akkhara เล่า เห็นไหม ว่ามี่ผลดีนับไม่ได้ทีเดียว
ลองนึกดูสิ...
..
ท่านให้เราตอกเสาเข็มอันน้อยๆพร้อมกับเสาจริง
ให้เราปลูกต้นไม้ใน พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ในวัด ด้วยมือที่ต้องเลอะโคลน
ให้เราเดิน ลงไปชุบตัวในบ่อน้ำรอบมหาวิหารหลวงปู่
เดินลุยโคลนรอบพระธรรมกายเจดีย์ กันนับงาน ไม่ถ้วน..
ภาพ ก็ยังตราตรึงติดตาติดใจ
...
นี่คือ ความเมตตา ต่อลูกๆของท่านจ้ะ
อย่างอื่น ก็แค่เรื่อง วิธีการ ที่ตอบโจทย์ ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ
โดยดูตามความเป็นไปได้ และความเหมาะสมของงานจ้ะ
...
ฟังแล้วรัก พระเดชพระคุณหลวงพ่อของเราจังนะ
ท่านห่วงเราทุกวันยังไม่พอ วางแผนให้จนเราหมดอายุขัย
แล้วข้ามชาติไปอีก เป็นพันชาติ ถึงที่สุดแห่งธรรมเลย
#19
โพสต์เมื่อ 13 October 2008 - 05:29 PM
ยิ่งเราลำบาก มอมแมม ร้อน เหนื่อย คนแน่น ยิ่งจำแม่น
นำมาย้อนคุยกันที่ไร ก็ยิ่งสนุก เล่ากันเป็นวันๆ เบิกบาน...
เห็นจะจริง......
เอาบุญมาฝากทุกท่านค่ะ
อย่าืลืม
มาร่วมหล่อแผ่นฌานวันงานกฐินที่หลวงปู่เป็นประธานกันนะคะ สาู๊ธุ๊
พระผุดผ่านทุกวัน สะอาดเกลี้ยง
นิวรณ์หมดสุขสันต์ สดชื่น
ชีพรื่นธรรมหล่อเลี้ยง ผ่องทั้งกายใจ
สุนทรพ่อ
#20
โพสต์เมื่อ 13 October 2008 - 06:07 PM

#21
โพสต์เมื่อ 13 October 2008 - 06:07 PM
เพราะสี่สิบปีกว่าที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อกับคุณยายอาจารย์สร้างวัดมาก็เห็นเป็นรูปธรรมกันแล้ว
วัดพระธรรมกาย สร้างวัดให้เป็นวัดแท้ สร้างพระให้เป็นพระแท้ สร้างคนให้มีศีล มีธรรม และสร้างบุญบำรุงพระพุทธศาสนากันตลอดเวลาคับ
เลือกเอา ใจใสๆ