ขณะที่เราและทุกท่านกำลังง่วนกับการบอกบุญกฐินหลวงปู่
และบางท่านก็ง่วนกับการเตรียมงานกฐินหลวงปู่..
หลังจากเรากับคุณแม่เดินไปทำบุญกฐินหลวงปู่เสร็จจำนวนนึง.. ยังไม่เต็ม..
เราและแม่ก็เดินดูพระติดเข็มกลัดไปเรื่อยๆ.. เพราะคุณแม่ท่านชอบสะสม เอาไปให้ลูกหลาน..
เดินไปเดินมา.. ยังไงไม่รู้.. เดินลึกเข้าไปข้างในโต๊ะของเขาแก้วเสด็จ..
น้องอุบาสิกาท่านนึง.. จู่ๆก็เข้ามาบอกว่า.. พี่ๆ.. รับเป็นประธานกองกฐินเขาแก้วเสด็จมั๊ยคะ.. ?
เนี่ย.. สร้างอาคารอบรมพระภิกษุ-สามเณร ธรรมทายาทนะ.. ในอาคารมีหมดทุกอย่าง เหมือนสร้างวัดๆนึงเลยนะ..
น้องเค้าน่าสงสารมาก.. บรรยากาศวังเวง เพราะทุกคนทุ่มงานอื่นอยู่..
น้องเค้าบอกกับเราว่า.. พี่.. สะสมได้ถึงสิ้นปีเลยนะ..
เราสงสารทีมงานมาก และอยากทำบุญสร้าง"พระเป็น"นี้มากๆ
เราก็.. OK ง่ายๆเลย.. รับกล่องบริจาค+โบชัวร์+ผ้าไตรกลับมานั่งอธิษฐานที่บ้าน..
ตอนนั้นคุณแม่ยังดูพระติดเข็มกลัดอยู่มั๊ง.. หรือไปไหนไม่รู้.. พอมาเจอกันอีกที..
โดนเป็นชุดเลย.. (ประมาณนี้นะ.. อาจจะไม่เป๊ะ เพราะนานแล้ว ความจำไม่ค่อยดี.. 555..)
"นี่.. เอ็งยังเป็นคนอยู่มั๊ยเนี่ย.. ตกงานมา.. 5 เดือนแล้ว.. ตังค์ผ่อนบ้านก็ยังไม่รู้จะหาจากไหน..
แล้วยังต้องปิดยอดกฐินหลวงปู่อีก.. แล้วพ่อเอ็งก็มาเข้าโรงพยาบาลผ่าตัดอีก..
แล้วยังมาทำเพลงงานบุญอีก.. ยังไม่พอ.. ยังจะมาเป็นประธานกองกฐินอีก.. มีความคิดมั๊ยเนี่ย.. ?"
โอยยย.. มึน..
ได้แต่ค่อยๆตอบคุณแม่ไปว่า..
"แม่รู้มั๊ย.. ทำไมเค้ารับเป็นประธานกองกฐิน(กองเล็กๆ).. ?"
"เพราะฝั่งตรงข้ามบีบคั้นเราเรื่องเศรษฐกิจ.. เขาไม่ต้องการให้เราสั่งสมบุญ..
เขากลัวเรา.. จึงพยายามขัดขวางเรา.. เราต้องพยายามเอาชนะเขาให้ได้..
ถ้าเรายอม.. เราก็แพ้.. เป็นไปตามเกมส์ของเขา.."
"แล้วเค้านะ.. ปีที่แล้ว.. เค้าก็ตกงานแบบนี้แหละ.. เค้ายังรับกฐินของธุดงคสถานล้านนามาเลย.. 1 กอง..
แล้วเค้าก็ทำได้.. แม่จำได้มั๊ย.. ปีที่แล้วเค้าทำได้.. ปีนี้.. เค้าก็ต้องทำได้.."
"แล้วที่แม่ว่าเค้าสารพัดน่ะ.. เค้ายังเป็นคนอยู่.. มีความคิดดีด้วย..
ถึงพยายามทำความดี.. สวนกระแสวิบากกรรม..
ถ้าวิบากกรรมมันเล่นงานเรา.. คนรอบตัวเรา.. แล้วเรายอมมัน.. แล้วถามว่าเมื่อไรเราจะหนีมันพ้น..
ทำไมเราไม่พยายามทำบุญให้มาก.. เพื่อหนีวิบากกรรมล่ะ..
มันก็เหมือนกับน้ำเต็มตุ่ม ย่อมไม่รู้รสเค็มของเกลือ 1 ช้อนชาในตุ่ม.. จริงไหม.. ?"
"เค้าน่ะ.. ไม่สนใจหรอกนะ.. ถ้าแม้เค้าทำบุญกับหลวงปู่.. แม้เค้าพยายามสั่งสมบุญ..
และแม้ว่าบุญจะยังไม่ช่วยเค้า.. แม้หลวงปู่จะไม่ช่วยเค้า.. เค้าก็ยังรักหลวงปู่อยู่เสมอ.. ไม่เปลี่ยนแปลง..
มันไม่จำเป็นเลย.. ว่าหลวงปู่จะต้องมาให้อะไรเค้าก่อน.. เค้าถึงจะทำเพื่อท่านได้..
ยังไงเค้าก็ยังรักหลวงปู่เหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง.."
เท่านั้นยังไม่พอ.. เราโดนท่านแม่ตลอดทางทีขับรถกลับบ้านของเย็นวันนั้น..
สุดท้าย.. เราได้แต่ตอบท่านไปว่า.. เอาน่ะแม่.. เค้ารับผิดชอบเอง.. แม่คอยดูอยู่เฉยๆละกัน..
เชื่อไหมว่า.. ช่วงหล่อหลวงปู่ และกฐินหลวงปู่..
เราสองแม่ลูกได้ไปบอกบุญคนสารพัด.. ท่านแม่ถึงกับ Knock Door เพื่อนบ้านในหมู่บ้านเลย..
(อย่างที่อาราเล่บอกไว้เลยว่า.. หากแม้ไม่มีปัจจัยนะ.. ก็ไม่เป็นไร.. 555..)
(แต่เราอยู่คนละบ้านนะ) ส่วนหมู่บ้านเรา เพียงบอกบุญไม่กี่หลังใกล้เคียง
แต่มางานนี้.. ท่านบอกว่า..
"เอ็งจัดการคนเดียวเลย.. แม่ไม่เกี่ยว.. แม่เข็ดแล้ว.."
คุณแม่บอกว่า..
"ไปบอกบุญนะ.. บอกเดี๋ยวหยิบหนังสือให้.. พี่แกเล่นหนีเข้าบ้านปิดไฟเลย.."
เราก็บอกคุณแม่ว่า..
"ทำไมแม่ใส่ใจกับคนพวกนี้ไม่กี่คนล่ะ.. แล้วลูกหลานหลวงปู่อีกมากมายที่รอแม่ไปบอกบุญ..
เค้าจะทำยังไง.. ถ้าแม่หยุดอยู่แค่นี้.. เพียงเพราะการกระทำที่ไม่เข้าท่าของใครบางคน..
ทำให้คนอีกหลายคนหมดสิทธิ์ในบุญนี้หรือ.. ?"
ตอนนั้นคุณแม่ถึงพอจะมีกำลังใจเหมือนเดิมได้..
และทำให้เฉพาะเราสองแม่ลูก ได้ทำบุญกับหลวงปู่ไปทะลุแสนแล้ว.. เป็นครั้งแรกในชีวิต..
แต่ครั้งนี้.. ท่านบอกว่า.. เอ็งจัดการเองเลย.. แม่ไม่ยุ่งด้วย..
ใจเราตอนนั้น.. ยังเข้มแข็ง.. มุ่งมั่นว่า ยังไงเราตัดสินใจไม่ผิด..
เพราะขณะที่ทุกคนมุ่งไปยังกฐินหลวงปู่.. แล้วถ้าเราไม่รับงานบุญนี้.. แล้วใครจะรับ..
(แม้ของเราจะเป็นเพียงกองเล็กๆ 1 กองก็เถอะ..)
ก็งานนี้น่ะ.. ออกจะเงียบเชียบ.. ไร้การโปรโมทใดๆสู่คนหมู่มาก..
ไม่เหมือนกฐินล้านนาที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดคนอยู่แล้ว.. จึงคิดว่ายังไงก็ต้องทำ.. เพื่อสร้างพระเป็น..
มาถึงวันนี้.. งานกฐินหลวงปู่ได้ผ่านมาแล้ว.. พวกเราทุกคนต่างปลื้มปีติใจมากมาย..
สิ่งที่ไม่คาดคิด.. แต่เป็นสิ่งที่ดีได้เกิดขึ้น.. เมื่อคุณครูไม่ใหญ่รับเป็นประธานใหญ่ฝ่ายสงฆ์..
เรียกว่า หมดกฐินหลวงปู่.. เราก็ได้ทอดกฐินหลวงพ่อ ติดต่อกันเลย.. เยี่ยมมาก..
ทีนี้พอคุณครูไม่ใหญ่ท่านมาเอง.. การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ การจัดรถ.. การร่วมแรงร่วมใจ..
ก็เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมทันตาเห็น..
เป็นเรื่องมหัศจรรย์ ถ้าเราจะย้อนดูความแตกต่างระหว่าง ก่อนท่านรับ กับหลังท่านรับเป็นประธานฝ่ายสงฆ์..
จะมีสักกี่คนบนโลกนี้.. ที่แค่เพียงคิด.. ทุกอย่างก็สำเร็จได้ง่ายๆแบบนี้..
มาถึงวันนี้.. เรารู้สึกดีใจมากๆ.. และโล่งใจมากๆ..
ก็ไม่รู้สินะ.. เราก็เป็นแค่คนนอกวัดคนนึง.. ทำไมมาเป็นห่วงอะไรมากมายแบบนี้..
ทีแรกคิดว่า.. งานนี้ยากมากๆสำหรับทีมงานเขาแก้วเสด็จ.. เพราะผู้มีบุญเจองานบุญใหญ่มา 2 งานติดๆกัน..
แต่ตอนนี้.. เราสบายใจมากๆ..
แม้กองที่จองไว้แต่แรก.. น่าจะได้ถือผ้าไตรอยู่แล้ว.. (ไม่งั้นจะได้เอากลับมาบ้านเหรอ..)
แต่มาถึงตอนนี้.. ท่าทางจะไม่พอแล้ว.. ต้องมากกว่านั้น.. แต่เราก็คิดว่า.. เป็นเรื่องที่ดี..
เป็นโอกาสที่ดีที่ท่านมอบให้เพื่อขยายใจเราอีก Step..
เราไม่เกี่ยงงานใหญ่อยู่แล้ว.. ชอบทำอะไรให้มันสะใจอยู่แล้ว..
เพราะถ้าทำเท่าใจที่มีอยู่เดิม.. ความปลื้มจะลดน้อยถอยลง.. กระทั่งต่อมปลื้มอักเสบได้.. 555..
แต่ถ้าเราท้าทายตัวเอง.. ถ้าสำเร็จ.. ความปลื้มจะทวีคูณ.. จริงไหม.. ?
ดังนั้น.. เราต้องท้าทายตัวเองอยู่ตลอดเวลา..
ได้ไม่ได้.. เป็นอีกเรื่องนึง..
พรุ่งนี้เจอกันที่เขาแก้วเสด็จ..
