
คุณคิดว่าจักรวาลหนึ่งใหญ่แค่ไหน
#1
โพสต์เมื่อ 18 November 2008 - 05:54 PM
จาก DOU...
1 จักรวาลมีมากมายนับไม่ถ้วน ทุกจักรวาลมีองค์ประกอบเหมือนกันหมด คือประกอบด้วย ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ เขาสิเนรุ(แกนกลาง) ทวีปทั้ง4 มหาสมุทรทั้ง4 สวรรค์ 6 ชั้น พรหม อรูปพรหม และ อบายภูมิ
2.กามภพ ประกอบด้วย 11 ภูมิ คือ มนุสภูมิ 1 + อบายภูมิ 4 และ เทวภูมิ 6 มีมนุษย์เป็นศุนย์กลาง อยู่ระดับเดียวกับ เขาสิเนรุ
จาก 2 ข้อ บน หมายความว่า
1. กามภพ เล็กกว่าจักรวาล และเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล?
2. มีอนันตกามภพ ใน 1 จักรวาล?
3. มีอนันตจักรวาล?
4. มีอนันตจักรวาล ในโลกธาตุ?
5. โลกธาตุ คืออะไร?
6. ทำไมในกามภพมีเขาสิเนรุเป็นแกนกลาง แล้ว ในจักรวาลก็มีกามภพเป็นแกนกลางอีกอ่ะ?
7. ป้าถวิลบอกว่า..."สุดเขตโลกธาตุเล็กๆ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสิ่งที่กล่าวมาแล้วนั้น ล้อมรอบไปด้วยภูเขาจักรวาล กั้นอาณาเขตเป็นที่สุด ภูเขานี้สูง ๑๖๔,๐๐๐ โยชน์ ครึ่งหนึ่งจมอยู่ในมหาสมุทร ความหนาของภูเขาหนา ๘๒,๐๐๐ โยชน์ ภายในเขตภูเขาจักรวาล ส่วนกว้างเท่ากับส่วนยาว คือ ๑,๒๐๓,๔๕๐ โยชน์ ด้านในโดยรอบยาว ๓,๖๑๐,๓๕๐ โยชน์ ภูเขาจักรวาลอยู่ห่างจากภูเขาสิเนรุ ๔๗๗,๗๒๕ โยชน์ แต่อยู่ห่างจากภูเขาอัสสกัณณะ ๓๐๙,๖๙๓.๗๕ โยชน์" .... ทำไมมันเล็กจังอะ? (5 แสน x 16 กิโลเมตร = 9 ล้านกิโลเมตรเอง)
ผม งงไปหมดแล้วอ่ะ งิงิ ใครก็ได้ จัดระบบใหผมที
#2
โพสต์เมื่อ 18 November 2008 - 06:14 PM

#4
โพสต์เมื่อ 18 November 2008 - 07:30 PM
ขอแก้ไขส่วนที่ผิด
กามภพ คือ ภพ 3 อันนี้ไม่ถูก... ที่ถูกคือ กามภพ เป็นส่วนหนึ่งของภพ3
จักรวาล ประกอบด้วย นิพพาน ภพ3 โลกันต์
1. กามภพ เล็กกว่าจักรวาล และเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล?
น่าจะใช่ ภพ3 เป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล และอยู่ในจักรวาล
2. มีอนันตกามภพ ใน 1 จักรวาล?
ไม่ใช่
3. มีอนันตจักรวาล?
ใช่
4. มีอนันตจักรวาล ในโลกธาตุ?
ไม่แน่ใจ
เคยได้ยินคำนี้ไม๊ หมื่นโลกธาตุ สั่นสะเทือน ...บลา..บลา..
เลยคิดว่า หนึ่งจักรวาล น่าจะมีหนึ่งโลกธาตุ (ความเห็นส่วนตัว)
5. โลกธาตุ คืออะไร?
ก็จักรวาลนี้ ภพ3 นี้ เกิดขึ้นด้วยธาตุ แม้แต่ร่างกายของเราก็เกิดจากธาตุ
ไปถามพระอาจารย์เถอะ
6. ทำไมในกามภพมีเขาสิเนรุเป็นแกนกลาง แล้ว ในจักรวาลก็มีกามภพเป็นแกนกลางอีกอ่ะ?
ก็กามภพอยู่ในจักรวาล
เหมือนเรามองลูกน้ำในขวด เราก็เห็นลูกน้ำ แต่พอเราเอาขวดน้ำไปใส่โอ่ง ลูกน้ำก็ยังอยู่ในขาดอย่างเดิม ใช่ว่าพอเอาขวดน้ำมาใส่ในโอ่ง แล้วลูกน้ำจะหายไป...จริงหรือไม๋?
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#5
โพสต์เมื่อ 18 November 2008 - 09:56 PM
ณ 072 ตอบได้ดีมากๆ..

โลกธาตุ คืออะไร?
เคยได้ยินคำนี้มั๊ย.. "หมื่นโลกธาตุ แสนโกฎิจักรวาล.."
ทำให้เราสงสัยเหมือนกันว่า.. 1 โลกธาตุ.. ใหญ่กว่าจักรวาลหรือเปล่า.. ?
เวลาเอ่ยถึง.. จึงแค่ "หมื่นโลกธาตุ.." แต่พอเอ่ยถึงจักรวาลมักบอกว่า "แสนโกฎิจักรวาล.."
แล้วอะไรอยู่ในอะไร.. ?
สรุป..
ไม่รู้เหมือนกัน.. ไปถามพระอาจารย์กันเถอะ..

ที่สุดแห่งธรรมนั้นเป็นเป้าหมาย..
โลกจะสุขสันต์เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกาย..
สว่างไสวทั่วทุกธาตุธรรม..
#7
โพสต์เมื่อ 19 November 2008 - 09:50 AM
1 จักรวาล ก็คือที่มีเขาสิเนรุเป็นศูนย์กลางของกามภพ.... สูงขึ้นไปนั้นเป็นพรหมและอรูปพรหม....
ในแบบฝึกของ จักรวาลวิทยา น่าจะทำให้เข้าใจมากขึ้นครับ... ส่วนอนันตจักรวาล น่าจะต้องหารายละเอียดเพิ่มขึ้น.. อนันตจักรวาล หาข้อมูลได้จากรายการทันโลกทันธรรม หลวงพี่ฐานะท่านให้ความรู้ไว้อย่างละเอียด ช่วงที่ผ่านมาเร็วๆนี้นะครับ...
#8
โพสต์เมื่อ 19 November 2008 - 10:14 AM
http://www.dmc.tv/pr...mma/page2.html#
11/11/2007 จักรวาลวิทยา ตอนที่ 2 ชม 435 | ดาวโหลด 395 | ส่งให้เพื่อน 0
4/11/2007 จักรวาลวิทยา ตอนที่ 1 ชม 596 | ดาวโหลด 472 | ส่งให้เพื่อน 0
1/7/2007 โลกกลมหรือโลกแบน (ต่อจากคราวที่แล้ว) ชม 201 | ดาวโหลด 176 | ส่งให้เพื่อน 0
22/6/2007 โลกกลมหรือโลกแบน ชม 292 | ดาวโหลด 213 | ส่งให้เพื่อน 0
25/7/2008 ความเชื่อเรื่องการกลับชาติมาเกิด ชม 657 | ดาวโหลด 216 | ส่งให้เพื่อน 0
18/11/2007 The Secret ชม 714 | ดาวโหลด 558 | ส่งให้เพื่อน 0
หลวงพ่อเคยสอนว่า เป็นเรื่อง อจิณไตย คือเกินกว่าจิณตนาการจะคิดได้.... ดังนั้นบางอย่างก็ยากที่จะเอาวิทยาศาสตร์มาประมาณครับ เพราะลำพังจักรวาลนี้ วิทยาศาสตร์ยังมีความรู้น้อยมาก(เพิ่งจะไปสำรวจแค่่ดาวอังคาร)... ถ้าสนใจจริงๆ ลองดูคำบรรยายของหลวงพี่ฐานะดูครับ ได้ความรู้ละเอียดมาก
#9
โพสต์เมื่อ 19 November 2008 - 11:03 AM
many galaxies = 1 cluster
cluster = โลกธาตุ
#10
โพสต์เมื่อ 19 November 2008 - 11:33 AM

ที่สุดแห่งธรรมนั้นเป็นเป้าหมาย..
โลกจะสุขสันต์เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกาย..
สว่างไสวทั่วทุกธาตุธรรม..
#11
โพสต์เมื่อ 19 November 2008 - 12:09 PM
ลองดูจากแผนภูมิจักรวารก็ได้ จะเห็นว่า กามภพ คือ ส่วนหนึ่งของจักรวาล ดูจากแผนภูมิแนวตั้งนะครับ ของคุณดูในแนวนอนมันเลยแปลกๆ ไปเอาแผนที่มาจากไหนนะ ผมไม่เคยเห็น
ไม่ใช่ครับ หนึ่งจักรวาล มีหนึ่งกามภพครับ
ใช่เลยครับ มากมายจนต้องใช้คำว่าอนันต์เลยหล่ะ
ไม่ใช่ครับ โลกธาตุ คือ จักรวาล อันเดียวกันครับ แล้วแต่จะเรียก ประมาณว่าภาษาเก่ากับภาษาใหม่นะครับ
บางตำราว่า จักรวาล คือ นับเฉพาะจักรวาลที่ต้องมีมนุษย์มาบังเกิดในทวีปทั้งสี่ด้วย
ส่วน โลกธาติ ก็คือ รวมถึงจักรวาลที่ยังไม่มีมนุษย์มาบังเกิดในทวีปทั้งสี่
เอ๊ะ...หรือสลับกันหว่า ชักไม่แน่ใจแล้วสิ แต่น่าจะประมาณนี้แหละ
สิ่งที่เกิดขึ้นเพื่อรองรับการอุบัติขึ้นของสรรพสัตว์
คร่าวๆนะ กามภพ คือ ส่วนหนึ่งของจักรวาล ดูจากแผนที่แนวตั้งในตำรา DOU ก็น่าจะเข้าใจ
ผมพยายามบอกหลายๆครั้งแล้วว่า อย่าพยายามเอาวิทยาศาสตร์มาพิสูจน์พุทธศาสตร์
เพราะนักวิทยาศาสตร์ทุกคนจะรู้ว่า ทุกทฤษฎี จะเป็นจริงอยู่ได้จนกระทั้ง มีทฤษฎีใหม่มาอธิบายได้ดีกว่า เพราะฉะนั้นในทางวิทยาศาสตร์ไม่มีอะไรที่เป็นความจริงเลย มีแต่สิ่งที่เรายอมรับให้มันเป็นความจริงเท่านั้น ส่วนจะจริงมากจริงน้อยหรือจริงได้นานขนาดไหนนั้นเป็นอีกเรื่องนึง
เรื่องของพุทธศาสตร์ เป็นเรื่องของมิติที่ทับซ้อนกันมากมาย จนบางครั้งมาตรฐานของมิติหนึ่ง อาจจะไม่ใช่ข้อเท็จจริงของอีกมิติหนึ่ง อย่างเช่น ขอยกตัวอย่างทางวิทยาศาสตร์ก็แล้วกัน ทดลองนำนาฬิกาสองเรือนที่เหมือนกันทุกอย่างมา เรือนนึงอยู่กับที่ กับอีกเรือนนึงอยู่ในยานพาหนะที่เคลื่อนที่เร็วมากๆๆๆ เมื่อสิ้นสุดการทดลอง กลายเป็นว่า นาฬิกาเรือนที่เคลื่อนที่ เข็มชี้บอกเวลาช้ากว่าเรือนที่อยู่กับที่ แต่เมื่อนำมาวางคู่กันทั้งสองเรือนก็เดินในอัตราเร็วเท่ากันเหมือนปกติ
ถ้าจะให้อธิบายก็คือ นาฬิกาทั้งสองเรือนอยู่ในมิติที่ต่างกัน ต่างเรือนก็เดินตามมาตรฐานของเวลาในมิติของตนเอง
ในขณะเดียวกัน ทางพุทธศาสนาก็ประกอบด้วยมิติที่หลากหลายมากมาย เริ่มตั้งแต่มิติที่มีเวลาเป็นศูนย์ อย่างเช่นความคิด คิดปุ๊บเห็นปั๊บ คิดปุ๊บรู้ปั๊บ บางครั้งสมองยังรับรู้ไม่ทันความคิดด้วยซ้ำ จนถึงมิติที่มีเวลาเป็นอนันต์ เช่น พระนิพพาน เป็นต้น
ดังนั้นความละเอียดการคาดคำนวณบางมาตรฐานก็ไม่อาจอ้างอิงกับอีกสภาวะได้ จึงมักพบเห็นคำที่ไม่สามรถคาดคำนวณได้มากมายในตำราทางพระพุทธศาสนา เช่น มากกว่าเม็ดทราย การกร่อนของศิลาแท่งทึบที่ถูกผ้าทิพย์ที่บางเบาดั่งเปลวควันที่นำมาลูบ หนึ่งวันสวรรค์ ร้อยปีนรก อะไรแบบนี้แหละ
ไม่ใช่ว่าจะนับประมาณไม่ได้ แต่ในบางสภาวะก็ไม่สามารถหาคำอธิบายให้เราเข้าใจอีกสภาวะได้
ไม่มีใครรับรองได้นี่ครับว่า โยชน์ของการมองเห็นของมนุษย์ กับโยชน์ของการมองเห็นจากกายต่างๆจะต้องมาตรฐานเดียวกัน คิดง่ายๆ คุณตัวสูงเท่านี้ มองได้ไกลหนึ่งกิโล ถ้าคุณต้องการมองให้ไกลกว่านี้กว้างกว่านี้คุณก็ต้องตัวใหญ่ขึ้นใช่ไหมครับเพื่อให้ระบบรับภาพใหญ่ขึ้นไปด้วย ก็คงเหมือนกันนั่นแหละครับ เมื่อตัวใหญ่ขึ้นมาตรฐานก็ต้องเปลี่ยนไปด้วย
และวิทยาศาสตร์ก็อธิบายเรื่องราวต่างๆที่เราเห็นในชีวิตประจำวันได้น้อยกว่าที่เราเข้าใจเสียอีก
อย่าไปใส่ใจกับมันนักเลยครับ
อ้อ แล้วก็ไม่มีตำราทางพุทธศาสตร์ไหนที่บอกว่า หนึ่งระบบสุริยะ หรือหนึ่งกาแลกซี่ คือหนึ่งจักรวาล อย่าเอามาเป็นเรื่องเดียวกันจ๊ะ
And what was there before God !!! (from the X-FILES all season)
#12
โพสต์เมื่อ 19 November 2008 - 12:16 PM
2 รูปนี้น่าจะตอบคำถามนี้ได้
ทำไมในกามภพมีเขาสิเนรุเป็นแกนกลาง แล้ว ในจักรวาลก็มีกามภพเป็นแกนกลางอีกอ่ะ?


ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#13
โพสต์เมื่อ 19 November 2008 - 01:20 PM
หนังสือป้าหวิน"ต้องเป็นให้ได้" ผมก็กำลังอ่านออกอากาศ(on air)อยู่ช่วงนี้ อ่านไปได้ครึ่งเล่มแล้ว อีกสัปดาห์ก็หมดเล่ม
พิมพ์ ๒๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๗ ครับ ผมอ่านตั้งแต่หนังสือเริ่มออกแล้วครับ
พวกเราลองหาหนังสือเก่าๆมาอ่านกันนะ จะได้เห็นวิวัฒนาการของสำนวนและสาระ ซึ่งอัพเดทขึ้นตลอดเวลาตามสถานการณ์บ้านเมืองทั้งทางโลกและทางธรรม แล้วจะชื่นชมในความสามารถของนักประพันธ์รุ่นครู ที่สามารถในสำนวนของการซ่อนนัยยะ(เพราะสถานการณ์ต่างกับปัจจุบัน)โดยคงสาระไว้ให้ได้มากที่สุด(เท่าที่จะทำได้ในเวลานั้น)
สาธุกับคุณทัพพีในหม้อด้วยครับ
วิทยาศาสตร์เป็นเพียง subset ของพุทธศาสตร์
1. ความรู้วิทยาศาสตร์ส่วนที่ส่องกล้องเห็นจริงๆพิสูจน์ได้แล้วจริงจึงจะสอดคล้องกับพุทธศาสตร์
2. ความรู้วิทยาศาสตร์ส่วนที่ยังเป็นแค่สมมติฐานทางทฤษฎี, "อาจไม่" สอดคล้องกับพุทธศาสตร์
3. X-file is only drama on tv., not the text book, even in text book, some = 1, some =2.
#14
โพสต์เมื่อ 19 November 2008 - 02:25 PM
ประโยคนี้ป้าหวิน บอกขนาดของภูเขาจักรวาลค่ะ ลองอ่านให้ดีๆ อีกครั้งซิคะ
เพราะจำได้ว่าตัวเองเคยคำนวณขนาดของโลกเรา ซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 12 ล้านกิโลเมตร (จากวิทยาศาสตร์ ,ที่ถูกต้องประมาณ 12 เมตร) เทียบกับขนาดจักรวาลทางพระพุทธศาสนาจากในหนังสือป้าหวิน ก็เห็นว่าสอดคล้องกัน คือขนาดจักรวาลใหญ่กว่ามาก คือมีขนาดประมาณ 1500 ล้านกิโลเมตร เดี๋ยวรอหาอ้างอิงนิดนึงนะคะ แล้วจะมายืนยันอีกทีค่ะ
ประโยคนี้มาจากกระทู้นึง บอกว่าเอามาจากหนังสือ เราคือใคร กล่าวว่า (ลองสังเกตุตัวหนังสือสีแดงดีๆ ในข้อ 2 จะเห็นว่ามีขนาด 15 ล้านกิโลเมตรแล้ว ) ส่วนที่เจ้าของกระทู้ยกมาคงจะเป็นตัวสีแดงๆ ในข้อ 11 และ 12
๒. ถัดขึ้นมาเป็นลม หนา ๙๖๐,๐๐๐ โยชน์ ๑๕,๓๖๐,๐๐๐ กิโลเมตร
๓. ถัดจากพื้นลม เป็นพื้นน้ำแข็ง หนาครึ่งหนึ่งของพื้นลม คือ ๔๘๐,๐๐๐ โยชน์
๔. ถัดจากพื้นน้ำแข็งขึ้นมาเป็นพื้นดิน หนาครึ่งหนึ่งของพื้นน้ำแข็ง คือ ๒๔๐,๐๐๐ โยชน์ เป็นดิน ๒ ชนิด ชั้นบนเป็นดินธรรมดา (ปังสุปถวี) ครึ่งหนึ่ง
ชั้นล่างเป็นหิน (สิลาปถวี) ครึ่งหนึ่ง
๕. แกนกลางจักรวาล เป็นภูเขาสิเนรุ มีความสูง ๑๖๘,๐๐๐ โยชน์ ครึ่งหนึ่งอยู่ในพื้นมหาสมุทร อีกครึ่งหนึ่งสูงพ้นมหาสมุทรขึ้นไป พื้นที่โดยรอบ ๒๕๒,๐๐๐ โยชน์
๖. บนยอดเขาสิเนรุ เป็นพื้นดินเต็มไปด้วยรัตนะทั้ง ๗ มีเส้นผ่าศูนย์กลาง ๘๔,๐๐๐ โยชน์ ลักษณะกลม
๗. รัตนะที่เกิดติดอยู่ที่ไหล่เขาแต่ละทิศแตกต่างกัน ทิศตะวันออกเป็นเงิน ทิศใต้เป็นมรกต ทิศตะวันตกเป็นแก้วผลึก ทิศเหนือเป็นทองคำ จึงเป็นเหตุให้สีของน้ำในมหาสมุทร อากาศ ต้นไม้ใบไม้ที่อยู่ตรงกับทิศนั้นๆ เป็นสีเดียวกับสีของรัตนะประจำไหล่เขาสิเนรุไปด้วย
๘. ตอนกลางของภูเขาสิเนรุลงไป จนถึงพื้นน้ำในมหาสมุทร มีบันไดเวียน ๕ ชั้น แถบชานบันไดของแต่ละชั้น เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ต่างๆ ดังนี้
- ชั้นล่างสุดภายใต้พื้นน้ำ เป็นที่อยู่ของพญานาค
- ชั้นที่ ๒ เหนือน้ำขึ้นมา เป็นที่อยู่ของเหล่าครุฑ
- ชั้นที่ ๓ เป็นที่อยู่ของกุมภัณฑเทวดา
- ชั้นที่ ๔ เป็นที่อยู่ของยักขเทวดา
- ชั้นที่ ๕ เป็นที่อยู่ของท้าวจตุมหาราชิกา ๔ องค์ และเหล่าบริวาร
๙. พื้นล่างที่เป็นรากฐานของภูเขาสิเนรุ มีลักษณะเป็นภูเขา ๓ ลูก ตั้งรองรับภูเขาสิเนรุอยู่ทั้ง ๓ ด้าน ฐานของภูเขาสิเนรุตั้งอยู่ในระหว่าง ช่องว่างระหว่างกลางภูเขาทั้ง ๓ นั้น ใต้พื้นฐานของภูเขาสิเนรุ มีที่ว่างเป็นอุโมงค์ใหญ่ กว้างถึง ๑๐,๐๐๐ โยชน์ เป็นที่อยู่ของเหล่าอสูร
๑๐. รอบภูเขาสิเนรุ มีภูเขาล้อมรอบอยู่ ๗ ชั้น (สัตตบรรพ์) ชื่อ ยุคนธร อิสินธร(อีสธร) กรวิกะ สุทัสสนะ เนมินธร วินตกะ และ อัสสกัณณะ ตามลำดับ ชั้นแรกภูเขายุคนธรนั้น มีระยะห่างจากภูเขาสิเนรุ เท่าความสูงของภูเขายุคนธรเอง และความลึกของมหาสมุทรที่อยู่ระหว่าง ภูเขาสิเนรุและยุคนธรจำนวนเท่าๆ กันคือ ๘๔,๐๐๐ โยชน์ ส่วนภูเขาชั้นต่อๆ ไป ลดระยะครึ่งหนึ่งตามลำดับทั้ง ระยะห่าง ความสูงและความลึกของมหาสมุทร
๑๑. สุดเขตโลกธาตุเล็กๆ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสิ่งที่กล่าวมาแล้วนั้น ล้อมรอบไปด้วยภูเขาจักรวาล กั้นอาณาเขตเป็นที่สุด ภูเขานี้สูง ๑๖๔,๐๐๐ โยชน์ ครึ่งหนึ่งจมอยู่ในมหาสมุทร ความหนาของภูเขาหนา ๘๒,๐๐๐ โยชน์ ภายในเขตภูเขาจักรวาล ส่วนกว้างเท่ากับส่วนยาว คือ ๑,๒๐๓,๔๕๐ โยชน์ ด้านในโดยรอบยาว ๓,๖๑๐,๓๕๐ โยชน์
๑๒. ภูเขาจักรวาลอยู่ห่างจากภูเขาสิเนรุ ๔๗๗,๗๒๕ โยชน์ แต่อยู่ห่างจากภูเขาอัสสกัณณะ ๓๐๙,๖๙๓.๗๕ โยชน์
มหาสมุทรที่อยู่ระหว่างภูเขา ๗ ชั้น เป็นมหาสมุทรภายใน ชื่อ นทีสีทันดร
ส่วนมหาสมุทรภายนอกคือ ที่อยู่ระหว่างภูเขาอัสสกัณณะ และภูเขาจักรวาลชื่อพหิทนที
ที่กล่าวแล้วนี้ คือลักษณะของจักรวาลโดยสังเขป เป็นที่ตั้งของภูมิทั้ง ๓๑
ที่ตั้งของมนุสสภูมิ หรือที่เรียกว่าโลกมนุษย์
ตรงกับไหล่ภูเขาสิเนรุตามทิศทั้ง ๔ ไกลออกไปในมหาสมุทรภายนอก ที่อยู่ระหว่างภูเขาชั้นที่ ๗ ที่ชื่ออัสสกัณณะกับภูเขาจักรวาล เป็นผืนแผ่นดินกว้างใหญ่มีน้ำล้อมรอบ ประจำอยู่ทิศละแห่ง แต่ละแห่งเรียกว่าทวีป รวม ๔ ทวีป หรือเรียกโดยง่ายว่า จักรวาลนี้มีโลกมนุษย์ ๔ โลก เฉพาะโลกที่เราอยู่ในปัจจุบัน อยู่ตรงกับไหล่เขาสิเนรุทางทิศใต้
ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดาวนักขัตทั้งปวง โคจรไปมารอบภูเขาสิเนรุ อยู่ในระดับเสมอกันกับยอดเขายุคนธร ห่างจากมนุษย์โลก ๔๒,๐๐๐ โยชน์
+ ปุพพวิเทหทวีป อยู่ตรงกับไหล่เขาสิเนรุ ด้านทิศตะวันออก ซึ่งเป็นเงิน สัญฐานของทวีปเหมือนพระจันทร์ครึ่งซีก
+ อปรโคยานทวีป อยู่ตรงกับไหล่เขาสิเนรุ ด้านทิศตะวันตก ซึ่งเป็นแก้วผลึก สัณฐานของทวีปเหมือนพระจันทร์วันเพ็ญ
+ ชมพูทวีป อยู่ตรงกับไหล่เขาสิเนรุ ด้านทิศใต้ ซึ่งเป็นมรกต มีสัณฐานของทวีปเหมือนรูปไข่
+ อุตตรกุรุทวีป อยู่ตรงกับไหล่เขาสิเนรุ ด้านทิศเหนือ ซึ่งเป็นทองคำ มีสัณฐานของทวีปเป็นรูปสี่เหลี่ยม
ในทวีปทั้ง ๔ จึงมีสีของต้นไม้ ใบไม้ น้ำในทะเล-มหาสมุทร ท้องฟ้า ฯลฯ ตามสีของรัตนะที่ไหล่เขาสิเนรุสะท้อนแสง แต่ละทวีปมีทวีปน้อย ๕๐๐ เป็นบริวาร คนที่อาศัยอยู่ในทวีปน้อย มีความเป็นไปต่างๆ ตามผู้คนที่อยู่ในทวีปใหญ่ รูปใบหน้าของมนุษย์มีลักษณะตามสัณฐานของทวีป
สำหรับคนที่อยู่ในชมพูทวีป คือโลกมนุษย์ของเรานี้ มีลักษณะพิเศษต่างออกไปจากอีก ๓ โลก ดังนี้คือ
๑. มีจิตใจกล้าแข็ง ทั้งในด้านประกอบกรรมดีและกรรมชั่ว ทางฝ่ายดีนั้นสามารถปฏิบัติตนให้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า อัครสาวก มหาสาวก ปกติสาวก พระเจ้าจักรพรรดิ ฌานลาภี อภิญญาลาภี ได้ ฝ่ายชั่วก็สามารถกระทำได้ถึง ฆ่ามารดา บิดา พระอรหันต์ ทำโลหิตุปบาท และสังฆเภท คนในอีก ๓ ทวีป ไม่สามารถกระทำกล้าแข็งได้ถึงเพียงนี้
๒. มีความเข้าใจในสิ่งที่เป็นเหตุ ทั้งที่สมควรและไม่สมควร รู้จักพิจารณาหาเหตุที่ทำให้
เกิดสิ่งต่างๆ โดยเฉพาะเป็นอย่างๆ ได้ทั้งฝ่ายที่เป็นนามธรรมและรูปธรรม มีความรู้ความเข้าใจได้ตามสมควร อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มีสิ่งใดบังคับ
๓. มีความเข้าใจในสิ่งที่มีประโยชน์ และมิใช่ประโยชน์ รู้จักทั้งโลกียประโยชน์และโลกุตตรประโยชน์ โลกียประโยชน์ ได้แก่ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข หรือมนุษย์สมบัติ เทวสมบัติ พรหมสมบัติ โลกุตตรประโยชน์ ได้แก่ กุศล ความรู้ในธรรมะ หรือเป็นพระอริยะ และสัปบุรุษ ตั้งแต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าลงมา
ส่วนความเข้าใจจะลึกซึ้งมากน้อยระดับใด แล้วแต่ศรัทธา วิริยะ ปัญญา บารมี และการคบหาสมาคม
๔. มีความเข้าใจในสิ่งที่เป็นกุศลและอกุศล ทั้งโลกียกุศลและโลกุตตรกุศล โลกียกุศล ได้แก่การบริจาคทาน รักษาศีล เจริญภาวนา โลกุตตรกุศล ได้แก่อริยมรรคทั้ง ๔ ที่เกิดขึ้น (คือโสดาปัตติมรรค สกิทาคามิมรรค อนาคามิมรรค และอรหัตตมรรค) และสามารถประหาร
กิเลสได้เด็ดขาด
คุณ DJ บอกว่าให้ลองหาหนังสือเก่าๆ มาลองอ่านดู ตอนนี้ก็กำลังอ่านหนังสือ "ต้องเป็นให้ได้" อยู่เหมือนกัน ส่วนอีกเล่มที่กำลังหาอยู่ตอนนี้ก็คือ เราคือใคร ไม่ทราบว่าคุณ DJ มีหนังสือเล่มนี้บ้างหรือไม่?
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#15
โพสต์เมื่อ 19 November 2008 - 03:39 PM
ได้ความรู้เรื่องโลกธาตุ ดังนี้ค่ะ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงเรื่องโลกธาตุขนาดต่างๆ ดังนี้
๑ สหัสสีจูฬนิกาโลกธาตุ โลกธาตุขนาดเล็กมี ๑,๐๐๐ จักรวาล
๒ ทวิสหัสสีมัชฒิมิกาโลกธาตุ โลกธาตุขนาดกลางมี ๑,๐๐๐,๐๐๐ จักรวาล
๓ ติสหัสสีมหาสหัสสีโลกธาตุ โลกธาตุอย่างใหญ่มี แสนโกฎิจักรวาล
จึงสรุปได้ดังนี้คือ จักรวาล เล็กกว่า โลกธาตุ และอยู่ในโลกธาตุ
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#16
โพสต์เมื่อ 19 November 2008 - 03:39 PM
หนังสืออ่านจบแล้ว ก็มักจะส่งต่อครับ, เล่มที่กำลัง on air อริยะ๐๗๒ให้ยืมมา,
เราคือใคร อ่านเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๑ ก็ส่งต่อไปแล้วครับ.
สามารถรับสาระใหม่ๆจากหนังสือของ DOU ได้ ซึ่งก็จะ update ดีนะครับ
ส่วนหนังสือเก่าๆก็หายาก ควรจะมีพิมพ์ใหม่อีก เพื่อการศึกษาวิวัฒนาการ ซึ่งน่าจะขายได้ดี
ปล. ประมาณ ๑๒ ล้านเมตรครับ(ไม่ใช่กิโลเมตร) สาธุ สาธุ สาธุ
#17
โพสต์เมื่อ 19 November 2008 - 03:50 PM
ส่วนเรื่องขนาดจักรวาล ยังหาอ้างอิงไม่เจอค่ะ แต่จำได้ว่าเคยอ่านเจอ บอกขนาดของจักรวาล และขนาดขอบจักรวาล แล้วก็เอามาคำนวณเทียบกับขนาดโลกค่ะ ก็สอดคล้องกัน
ปล. หนังสือ ต้องเป็นให้ได้ ขณะนี้ ยังมีให้ร่วมบุญที่สภาธรรมกายนะคะ ฝั่งตะวันตก
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#18
โพสต์เมื่อ 19 November 2008 - 03:54 PM
#19
โพสต์เมื่อ 19 November 2008 - 05:15 PM
#21
โพสต์เมื่อ 19 November 2008 - 05:53 PM
เรียงจากใหญ่ ไป เล็ก
โลกธาตุ --- จักรวาล(จักรวาลเป็นส่วนหนึ่งของโลกธาตุ) --- กามภพ(1จักรวาล มี 1ภพ3 แต่จักรวาล รวม รูปภพ และ อรูปภพไปด้วย) --- ชมพูทวีป (ชมพูทวีป อยู่ในจักรวาล)
ผม เคยได้ยินทาง dmc มา หลวงพ่อบอกว่า มี อนันตภพ3 มีอนันตนิพพาน แล้วก็มีอนันตโลกันต์ นอกจากนี้ยังเคยได้ยินว่า หมื่นโลกธาตุ แปลว่า ทั้งหมดของสรรพสิ่ง น่าจะมีแค่ 10000 โลกธาตุหนะ แต่กล่องใส่โลกธาตุทั้งหมด มีชื่อว่าอะไร ผมไม่เคยได้ยิน ใครทราบรวบกวนบอกด้วยครับ
จากทั้งหมด ผมขอตอบคำถามว่า
1. กามภพ เล็กกว่าจักรวาล และเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล?
ถูกต้อง
2. มีอนันตกามภพ ใน 1 จักรวาล?
ไม่ใช่ครับ เพราะว่า กามภพ อยู่ในภพ3 และ ทั้งหมดของจักรวาล คือกามภพเดียวครับ แต่บอกว่ามีอนันตกามภพ เพราะมีอนันตจักรวาล
3. มีอนันตจักรวาล?
ใช่ครับ แล้วก็มีหลายโลกธาตุด้วย ซึ่งทำให้ จักรวาลก็มากเป็นทวีคูณ
4. มีอนันตจักรวาล ในโลกธาตุ?
ไม่ใช่ครับ มีมากสุดแค่ 1 ล้านล้าน จักรวาล(แสนโกฏิ) ใน 1 โลกธาตุ นับได้ครับไม่ใช่นับไม่ได้
5. โลกธาตุ คืออะไร?
เหมือนกับ กล่องใส่จักรวาลอ่ะ
6. ทำไมในกามภพมีเขาสิเนรุเป็นแกนกลาง แล้ว ในจักรวาลก็มีกามภพเป็นแกนกลางอีกอ่ะ?
จากรูปข้างบน มีเขาสิเนรุ อันเดียวครับ อยุ่ตรงกลางจักรวาล ส่วนผมเข้าใจว่าภาพที่คุณเห็น อาจจะมองคนละมิติกัน เพราะว่า ภพ3ในภาพหนังสือ DOU นั่นคือ 1 จักรวาลแล้ว
7. ส่วนข้อ 7 ผมไม่ทราบจริงๆ เพราะอาจจะเป็นไปได้ว่าคนละหน่วย(คือโยชน์ของมนุษย์ กับ โยชน์ละเอียดอาจจะไม่เท่ากัน เหมือน ไมล์บก กับ ไมล์ทะเล)
เนื่องจากเป็นความรู้ใหม่ วิเคราะห์ด้วยความรู้น้อยๆของผม ด้งนั้น ถ้าผิด รบกวนแก้ไขให้ด้วย รับรองว่าไม่โกรธ เป็นการให้ความรู้ผมด้วยครับ
ปล จากรูป จักรวาลข้างบน ผมไม่ทราบว่า อบายภูมิ อยู่ตรงไหนอ่ะครับ เพราะว่า ผมเห็นว่าเขาแกนกลางจักรวาล ปักติดดิน ขอบล่างจักรวาลแล้วอ่ะ
#22
โพสต์เมื่อ 20 November 2008 - 08:33 PM
ส่วนทางปฏิบัติ ..จาก "ต้องเป็นให้ได้ (ดั่งเช่นพระพุทธเจ้า)" กล่าวไว้ว่า
ใต้ภูเขาสามเส้าที่รองรับเขาสิเนรุ เป็นอุโมงค์ใหญ่ มีที่อยู่สุขสบายเป็น อสูรพิภพ ใต้อสูรพิภพลงไปเป็นที่ตั้งของนรกใหญ่ทั้ง ๘ ขุม ( ภาคปฏิบัติ : ภาคปริยัติกล่าวว่า มหานรกอยู่ใต้แผ่นดิน ตรงกับชมพูทวีป)
ที่อยู่ของพวกเปรต อสุรกาย และดิรัจฉานส่วนใหญ่ อยู่ที่ชมพูทวีป ดิรัจฉานชั้นดีอยู่ที่ป่าหิมพานต์ ( แถบภูเขาหิมาลัย ในประเทศอินเดีย) เป็นพวกกายละเอียดไม่เห็นด้วยตามนุษย์
"ต้องเป็นให้ได้ (ดั่งเช่นพระพุทธเจ้า)" ที่นี่
http://www.kalyanamitra.org/daily/dhamma/index.php?option=com_content&task=view&id=966&Itemid=99999999
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#23
โพสต์เมื่อ 20 November 2008 - 10:00 PM

เนื่องจากขนาดของอายตนะนิพพาน เท่ากับขนาดของภพ3 (อ้างอิง http://www.dmc.tv/pr...s/510921tt.wmv) ...แล้วเท่ากับขนาดของโลกันต์หรือไม่?
จากข้อมูลนั้นก็คำณวนได้ดังนี้
อายตนะนิพพาน มีความกว้าง 141,330,000 โยชน์
ขอบทั้งสองด้าน มีความกว้าง 30,240,000 โยชน์
ดั้งนั้นอายตนะนิพพาน มีขนาด 141,330,000+30,240,000 = 171,570,000 โยชน์
คิดเป็น 2,745,120,000 กิโลเมตร หรือ 2,745.12 ล้านกิโลเมตร
ฉะนั้นขนาดของ ภพ3(เส้นผ่าศูนย์กลาง) ก็จะเท่ากับ 2,745.12 ล้านกิโลเมตร ด้วย
สุดท้าย เนื่องจากการไปค้นข้อมูล เพราะถ้าไม่ค้น มันก็คันในหัวใจน่ะค่ะ
ถ้าท่านใดมีเวลา(วันนี้ต้องไปนั่งธรรมะแล้วค่ะ วันนี้วันพระ ..ยังไม่ได้นั่งซักนิดเลย) ช่วยกรุณาตรวจสอบข้อมูลนี้ด้วยนะคะ (แม้ว่าจะเก่า แต่ก็มีคนนำไปอ้างอิงค่ะ)
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=4496
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=6169
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#24
โพสต์เมื่อ 21 November 2008 - 03:44 PM
เหมือนกับ กล่องใส่จักรวาลอ่ะ
จากที่ป้าถวิล เขียนเอาไว้ในหนังสือต้องเป็นให้ได้ ที่แนะนำมาข้างบน จักรวาล กับ โลกธาตุ คืออันเดียวกันครับ
แต่ไม่ตรงกับ DOU นะครับ เพราะ DOU บอกว่า โลกธาตุ ประกอบด้วย พัน, ล้าน, แล้วก็ แสนโกฏิ จักรวาล
อันนี้แล้วแต่จะคิดกันแล้วหละ
#25
โพสต์เมื่อ 21 November 2008 - 04:27 PM
จักรวาล ก็คือ จักรวาล
โลกธาตุ ก็คือ กลุ่มจักรวาล ส่วนเขาจะเรียกว่า กล่องใส่จักรวาล หรือ เรียกว่า หลายๆ จัึกรวาล ผมว่า ก็เหมือนกันอยู่ดี
#26
โพสต์เมื่อ 23 November 2008 - 06:59 PM