
0% บาปไหมค่ะ
#1
โพสต์เมื่อ 29 May 2009 - 08:34 AM
#2
โพสต์เมื่อ 29 May 2009 - 11:39 AM

เบียร์ก็ต้องมีแอลกอฮอล์อยู่ประมาณ3-5%
แม้ว่าเสื่อมหรือเสียแล้วก็ต้องเหลืออยู่บ้าง
...
ถ้าดูว่าผิดศีลมั้ย เมื่อมันไม่ใช่น้ำเมา ก็ไม่ผิดศีล
แต่ด่างพร้อย เพราะคิดอยากกิน
(องค์แห่งศีล 1.รู้ว่าเป็นน้ำเมา 2.อยากกิน 3.ทำการกิน 4.ผ่านลำคอ)
ถ้าไม่รู้ แล้วเผลอกิน พอรับรสว่าเป็นน้ำเมา ก็คายออกมา .. จบ
...
บาปหรือไม่ ก็ใจเรารู้สึกยังไง ขุ่นมั้ย
ถ้ารู้สึกไม่ดี ขุ่น ก็บาป
แต่ก็คิดเสียว่า ผิดเพราะไม่รู้
และระวังไม่ให้ผิดซ้ำอีก ...
...
สำคัญว่า อยากรู้ไปทำไม??
ถ้ารู้เพื่อตะแบงอยากกินน้ำเมา
เพื่อจะได้ผิดศีลแบบสบายใจ
ก็ตัวใครตัวมันละครับ..
ไฟล์แนบ
#3
โพสต์เมื่อ 29 May 2009 - 11:52 AM
#4
โพสต์เมื่อ 29 May 2009 - 01:22 PM
ผมว่าบาปครับ เพราะชื่อก็บ่งบอกว่าเป็นน้ำเมา มีเจตนาดื่มน้ำเมายังไงก็บาปครับ...
#5
โพสต์เมื่อ 29 May 2009 - 01:48 PM
ไม่มีส่วนผสมที่ทำให้มึนเมา
อาจไม่บาปแต่อาจเป็น "เชื้อ" ให้ผิดอบายด้านอื่นได้นะครับ แค่ลองให้รู้พอแล้วครับ
#6
โพสต์เมื่อ 29 May 2009 - 01:50 PM
ว่าแต่กินอาหารจีนที่มีเหล้าจีนผสม คือมันก็น้ำเมา อยากกินเหมือนกัน
แต่รู้ว่ากินแล้วไม่เมานี่บาปมั้ยอะคะ
อาหารฝรั่งเศสอีกหละ
#7
โพสต์เมื่อ 29 May 2009 - 05:06 PM
แอลกอฮอล์มีจุดเดือดต่ำกว่าน้ำ จุดเดือดของแอลกอฮอล์จะอยู่ที่ ๗๘.๓ ํซ. ส่วนจุดเดือดของน้ำเท่ากับ ๑๐๐ ํซ.
ในไวน์จะมีแอลกอฮอล์อยู่ประมาณ 10-15 % ก็มีโอกาสแยะที่เจอความร้อนแค่ไม่นาน แอลกอฮอลล์ในไวน์จะระเหยไปหมด
ลองดูเค้กที่ใส่เหล้ารัม ต้องผ่านความร้อนประมาณ 250-350 ฟาเรนไฮต์ หรือ 121-176 องศา ซ. เป็นเวลาตั้งแต่ 10-50 นาที แล้วขนิดของเค้ก แล้วก็ไม่รู้อีกว่าเค้กแบบไหนที่ใส่ไวน์หรือเหล้าบ้าง
ยกตัวอย่างของหวานที่ใส่ไวน์ เช่นลูกแพร์ตุ่นไวน์แดง อันนี้ใช้ไวน์เป็นส่วนใหญ่ แต่ตุ่นด้วยไฟอ่อนๆ (อ่อนสุด) ก็ไ่ม่รู้ว่าแอลกอฮอล์จะระเหยไปหมดหรือเปล่า
คิดๆ แล้วปวดหัวค่ะ ถ้าอยากได้คำตอบแน่ๆ คงต้องใช้ความรู้ทางเคมี โดยการเอาไปตรวจสอบแอลกอฮอล์ ถ้าอันไหนไม่ชัวร์ก็เลี่ยงดีกว่าค่ะ
ปล. หาข้อมูลต่อไ่ม่ไหวแล้วค่ะ ปวดตาแล้ว
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#8
โพสต์เมื่อ 29 May 2009 - 06:06 PM
#9
โพสต์เมื่อ 29 May 2009 - 07:24 PM
#10
โพสต์เมื่อ 29 May 2009 - 08:17 PM
การดื่มแล้วเมา หรือไม่เมา เรียกว่าขาดสติตั้งแต่คิดจะดื่มแล้วค่ะ เพราะถ้ามีสติอยู่ย่อมไม่ดื่ม
บาปหรือไม่จึงขึ้นอยู่กับเจตนา เช่นถ้ากินยาแก้ไขเพื่อรักษาโรค แต่ยาเหล่านี้ใช้แอลกอฮอล์เป็นตัวละลายเนื้อยา แบบนี้ไม่บาป เพราะเจตนาคือให้หายไอ
แต่ถ้ากินอะไรก็ตาม ที่คิดว่าให้รสอร่อยเหมือนเบียร์ คืออยากดื่มเบียร์ แต่พยายามหลีกเลี่ยงดื่มอย่างอื่น ที่ใกล้เคียงกับเบียร์แทน แบบนี้เจตนาคืออยากดื่มเบียร์ใช่ไหมค่ะ ก็ย่อมมีเชื้อบาปอยู่ค่ะ
#11
โพสต์เมื่อ 29 May 2009 - 09:18 PM
#12
โพสต์เมื่อ 29 May 2009 - 09:35 PM
" แล้วคุณจะไปหามาดื่มทำไมล่ะครับ ? " จริงๆนะครับ
อย่าไปหาทางที่จะกิน ไม่ว่ามันจะโนแอล หรือ แอลน้อย แอลมาก
ยังไงก็แล้วแต่ ถ้าคุณกิน + ดื่มเพราะความอยาก ยังไงก็ไม่ดีนะครับ
ดื่มนม + ดื่มน้ำเปล่า เย็นๆสบายๆดีกว่านะครับ ผมรับรอง ว่า อร่อยเหาะ ได้ประโยชน์อีกด้วยครับ
ปล.น้ำเมา ดื่มแล้วผิดศีลข้อ 5 แถมยังนำพาไปผิดศีลข้อ 1 - 4 ด้วยนะครับ ....

" ปราบมาร "
#13
โพสต์เมื่อ 29 May 2009 - 09:41 PM
#14
โพสต์เมื่อ 29 May 2009 - 09:50 PM
#15
โพสต์เมื่อ 30 May 2009 - 12:29 AM
ถ้าดื่มอะไรที่ไม่ทำให้เกิดความมึนเมา ก็ไม่บาปหรอกครับ และก็ไม่นำไปสู่การผิดศีลข้ออื่นด้วย
เพราะเราเราเมา ก็จะฆ่าสัตว์ทะเลาะกัน + ลักทรัพย์ ขโมยเงินไปซื้อเหล้า + เมาแล้วขาดสติ เป็นชู้ +
โกหก ว่า ไม่เมา และโกหกต่างๆนานา และสิ่งร้ายๆก็จะตามมาอีกมากมายรวมทั้ง " ความประมาท "
แต่ถ้าคุณดื่มสิ่งที่ไม่ก่อให้เกิดความมึนเมาก็ดื่มได้ล่ะคัรบ ไม่ผิดหรอก ไม่ก่อให้เกิดวิบากกรรมด้วย
แต่ติดนิดนึงครับ คุณดื่มที่ไหน ? ดื่มน้ำเปล่า แต่ดื่มที่ผับ บาร์ ยังงี้ก็มีสิทธิ์บาปได้ครับ
เพราะส่งยั่วยุเยอะ ของล่อหลอกมันเยอะ กรรมเก่าก็ทีสิทธิ์ดึงอีก
เอาเป็นว่า อย่าไปยุ่งเลยครับ ....

ปล. รอผู้รู้จริงๆมาตอบดีกว่านะครับ สาธุด้วยจ้า
" ปราบมาร "
#16
โพสต์เมื่อ 30 May 2009 - 07:37 AM
ถึงแม้ว่าจะตรงประเด็นหรือไม่ก็ตาม
#17
โพสต์เมื่อ 30 May 2009 - 10:09 AM
เบียร์ที่เขียนไว้ข้างกระป๋องว่าแอลกอฮอร์ 0 % ที่ว่านั้น(บางที่จะใช้ว่า น้อยกว่า 0 %) มีจริงๆครับ ลองมาแล้วหนึ่งกระป๋อง(ไปยืนอยู่หน้าป้ายทางเข้านรกแล้วยังมีหน้ามาอวดอีก) แต่ว่าถ้าถามว่า 0 % จริงหรือเปล่าต้องขอบอกนะครับว่า
ก่อนตอบมาทำความเข้าใจก่อนนะครับว่า ที่ต่างประเทศ มีเครื่องดื่มมึนเมา เป็นร้อยๆชนิดนะครับทั้งขายทั่วไปและเป็นสูตรเฉพาะของท้องถิ่น มีตั้งแต่หมักจากสมุนไพรเพื่อเป็นยา(?)จนถึงผลไม้ที่ปรับปรุงพันธ์พิเศษสุดเพื่อการทำน้ำเมาโดยเฉพาะขายขวดละเป็นแสน(พยายามสุดๆ) นี่ล่าสุดเห็นว่าผลิตเบียร์จากน้ำนมมารดาได้แล้ว คุยด้วยนะว่า ยังทรงคุณค่าเหมือนเดิมไม่ผิดเพี้ยน เด็กดื่มได้ ผู้ใหญ่ดื่มดี(ดูความพยายามของเขาซิ)
ข้อ1. ตอบ จริง เพราะเป็นน้ำอัดลมประเภทหนึ่งที่แต่งกลิ่นแต่งสี เลียนแบบเบียร์ธรรมชาติโดยใช้สารเคมีล้วนๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังคงกลิ่นและรสใกล้เคียงกลิ่นและรสชาติของเบียร์ที่คนคุ้นเคย โดยมีทั้งชนิดที่มีรสหวานเข้ามาช่วยให้ดื่มง่ายขึ้น และชนิดที่ไม่มีรสหวาน(เพื่อให้คุ้นเคยกับรสและกลิ่น เวลาดื่มเบียร์จริงๆจะได้ไม่ขมขื่นกับรสชาติมันนัก เป็นแผนการตลาดการขายที่ฉลาดจริงๆ อ้างว่าทำขึ้นเพื่อขายผู้หญิงและนักเรียนนักศึกษาที่อายุยังไม่ถึง 18 ปีที่ "อยาก"ดื่มเบียร์จะได้ไม่ผิดกฏหมายไง) -ส่วนตัว-อันที่ไม่มีน้ำตาลเนี้ยชอบมากเลย นอกจากจะรสชาติจะใกล้เคียงของจริงแล้ว เวลาจะเปิดกระป๋องให้เขย่าแรงๆก่อน พอเปิดออกมาปุ๊บก็จะมีฟองนุ่มๆล้นทะลักออกมาด้วย เหมื๊อน..เหมือนของจริง เลยหล่ะตัวเอง...เอิ๊ก...ม่ายมาวววด้วยยย
ข้อ2. ตอบ ไม่จริง ในทางปฏิบัติของบางยี่ห้อที่เป็นแบบสูตรธรรมชาติแล้ว จะมีแอลกอฮอร์อยู่ที่ น้อยกว่า 1 % เป็นส่วนใหญ่ครับ แล้วมันมาจากไหน ก็มาส่วนผสมตามสูตรของแต่ละบริษัทที่พยายามแต่งกลิ่นแต่งรสจากสารธรรมชาตินั่นแหละครับ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของตัวเองมีรสชาติที่ดีที่สุด ถูกปากถูกลิ้นผู้คนมากที่สุด แต่ก็ยังหน้าด้านเขียนข้างกระป๋องนะครับว่า Less Than 0%
ตานี้ มาถึงคำถามต้นเรื่องที่ว่า บาปหรือเปล่า
ถ้าดูที่ตัวผลิตภัณฑ์ ก็ไม่ถือว่าผิดศีล เพราะไม่มีแอลกอฮอร์ ไม่ก่อให้เกิดความมึนเมาขาดสติใดๆ เหมือนอาหารที่ปรุงด้วยแอลกอฮอร์เล็กน้อยเพื่อเพิ่มกลิ่นและรส เหมือนยาที่ใช้แอลกอฮอร์ในการทำละลาย(ของบางอย่างละลายในน้ำ บางอย่างละลายในแอลกอฮอร์ไม่ละลายน้ำ) หรือ อาหารหมักดองอื่นๆ ซอสบางชนิดตามขบวนการผลิตจะทำให้เกิดแอลกอฮอร์จากการหมัก แต่เมื่อถึงกระบวกการบรรจุก็มักจะมีการผ่านความร้อนเพื่อฆ่าเชื้อโรค ก็ทำให้แอลกอฮอร์บางส่วนระเหยไปได้ ขอย้ำ บางส่วน นะ บางส่วน
ทีนี้ต้องมาดูที่เจตนาของเราแล้วว่า เราเสพเพื่ออะไร ถ้ามีแอลกอฮอร์แล้วเสพเพื่อหวังให้เกิดความเคลิบเคลิมจากฤทธิ์แอลกอฮอร์ รื่นรมย์ในความเคลิบเคลิมนั้น ก็ตรงๆอยู่แล้ว ผิดศีล บาปหนัก วิบากกรรมมากมาย อันนี้ชัดเจน
แต่ที่ผู้ตั้งกระทู้ถามนั้น รู้ว่าไม่มีแอลกอฮอร์(เพราะเขาบอกไว้) และเสพเพื่อความเคลิบเคลิมตามฤทธิ์แห่งน้ำเมาไม่ได้ จะถือว่าผิดศีล ก็คงไม่ครบองค์แห่งการละเมิดศีล
แต่ในพระพุทธศาสนา ทุกเรื่องมีความสมดุลย์อยู่ในตัวเอง ไม่ได้มีแค่ผิดไม่ผิด ยังมีบาปไม่บาป มีวิบากกรรมไม่มีวิบากกรรมตามมาอีกมากมาย
ถ้าเราลองดื่มเฉยๆ ให้รู้รสแล้วหยุด ก็จบไป ไม่มีอะไร อย่างมากก็ติดนิสัยอยากรู้อยากเห็น แม้สิ่งไม่มีคุณ สร้างผังความกล้าได้กล้าเสียในแบบเสี่ยงๆ ไม่มีหลักยึดขึ้นมาในใจ
แต่ถ้าดื่มเพราะติดใจในรสชาติ ดื่มไปเรื่อยๆ เพราะถือว่าไม่ใช่น้ำเมา เลี่ยงการผิดศีล เราก็ได้สร้างผังแห่งความพร้อมจะล่วงละเมิดศีลขึ้นมาแล้วในใจ เหมือนกับสร้างความคุ้นเคยขึ้นในตัวนั่นแหละ อย่าดูถูกความคุ้นเคยเชียวนะ ร้ายไม่แตกต่างจากวิบากกรรมอย่างอื่นทีเดียว
เหมือนที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตะชีโว ท่านได้เคยเทศนาล้ำค่าไว้ว่า
วันนี้กล้าตบยุงบี้มดได้ วันหน้าก็ใจก็กล้าตีแมลงสาบ
วันนี้กล้าตีแมลงสาบได้ วันหน้าใจก็กล้าฆ่าหนู
วันนี้ฆ่าหนูได้ วันหน้าใจก็กล้าฆ่าไก่ ฆ่าหมู ฆ่าวัว
เมื่อนั้น สักวันหนึ่งเมื่อใจที่คุ้นเคยมากเข้า ก็จะกล้าฆ่าคน ทำร้ายพ่อแม่ ทำลายพระศาสนาเข้าได้สักวัน
ในทำนองเดียวกัน วันนี้รสชาติแบบนี้กล้าดื่มได้ วันหน้าก็ไม่เห็นจะยากเย็นอะไรที่จะดื่มแบบมีแอลกอฮอร์ จริงไหมครับ
เพราะอย่างนั้น พุทธศาสนาของเราถึงได้มีคำสอนให้เรารู้เท่าทัน รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสไงครับ เมื่อเรารู้เท่าทัน ใจเราก็จะได้ไม่คุ้นเคย ไม่หลงใหล ไม่ยึดติด ทำให้ขาดสิ่งรบกวนจิตใจ พร้อมที่จะพัฒนาจิตใจให้นิ่ง สงบ ระงับ สูงส่งยิ่งๆขึ้นไปครับ
สรุปตบท้าย เครื่องดื่มเลียนแบบเบียร์-เหล้าแต่แอลกอฮอร์ 0 % ไม่ผิดศีล แต่ก็นั่นแหละครับ จะดื่มไปหาพระแสง ด้ามสั้นด้ามยาวอะไรล่ะครับ จริงไหม
จบ
#18
โพสต์เมื่อ 30 May 2009 - 09:03 PM
เมื่อก่อนตอนยังไม่เข้าวัด ก็ดื่ม ginger beer ที่เขาเอาไว้ขายเด็กๆ ในผับตามเมืองนอก ที่ดื่มเพราะเราไม่ชอบดื่มแอลกอฮอร์เพราะมันไม่อร่อย ไปผับแล้วไม่รู้จะดื่มอะไร แต่เข้าวัดแล้ว ก็ไม่เคยดื่ม ginger beer อีกเลย เพราะถึงแม้ว่า เขาบอกว่าไม่มีแอลกอฮอร์ แต่มันมีขายแค่ในผับ เราไม่ไปผับแล้วเพราะมันเป็นที่อโคจร ก็เลยเลิกดื่มไปโดยปริยาย
#19
โพสต์เมื่อ 30 May 2009 - 09:25 PM
คุณ ณ 072 ด้วยค่ะ
คือขอโทษคุณเจ้าของกระทู้ด้วยค่ะ
ที่ออกนอกประเด็น ที่ถามถึงอาหารฝรั่งเศส กับจีนเพราะว่า
หากจำเป็นต้องไปเรียน หรือทำงาน
ที่ประเทศเหล่านี้ ถ้าไม่บาปจะได้กินได้อย่างสบายใจ
เพราะทราบมาว่า อาหารเกือบทุกอย่าง ใส่ไวน์หมดเลย
เลยกลัวว่าถ้าไปจะต้องทำอาหารกินเองน่ะค่ะ
#20
โพสต์เมื่อ 30 May 2009 - 11:12 PM
รู้ทเบียร์ ชื่อมันเป็นเบียร์ แต่จริงๆ มันก็คือน้ำอัดลม แบบแป๊บซี่นั่นแหละครับ กินได้ สบายใจ
#21
โพสต์เมื่อ 31 May 2009 - 03:06 AM
#23
โพสต์เมื่อ 02 June 2009 - 12:59 PM
แล้วจะเข้าใจ
#24
โพสต์เมื่อ 06 June 2009 - 09:13 AM
แต่ ...... ลองดื่มอย่างอื่นดูใหมครับ เอาอะไรที่มันไม่ก่ำกึ่งอย่างนี้
#25
โพสต์เมื่อ 12 June 2009 - 10:53 PM