ณ.ริมรั้วบ้านของ ท่านเศรษฐี มีหมาตัวหนึ่ง ชื่อว่า ทองดี เป็นหมาที่ ท่านเศรษฐี รักมาก เลี้ยงดูเสมือน บุตรคนหนึ่ง เวลากินก็จะให้กินแต่อาหารดีๆ ถ้าเป็น เนื้อปลาก็ต้องเอาก้างปลาออก ถ้าเป็นเนื้อหมูเป็ดไก่ก็ต้องเอากระดูกออกก่อน เวลานอนก็ให้นอน แต่บนฟูกอย่างดี
ชีวิตทองดี ดูแล้วน่าจะมีความสุขกว่าหมาทั่วไป แต่วามจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น ทุกวันนี้ ทองดี มีแต่ความทุกข์กายทุกข์ใจ สายตาบ่งบอกถึงความสิ้นหวังในชีวิต ของหมา วันหนึ่ง ขณะยืนทอดสายตา มองออกไปนอกรั้วบ้าน ก็เห็นหมา ข้างถนน ตัวหนึ่งเดินผ่านมา ทองดีจึงทักขึ้นว่า
ทองดี..........เฮ้..เพื่อน ไปไหนมา สบายดีหรือ
หมาข้างถนน...ได้ยินเสียงทัก จึงหันไปดู แล้วทำหน้างงๆ คือไม่คิดว่า ระดับหมา ท่านเศรษฐีจะทัก ตัวเองลักษณะเป็นเหมือนเพื่อนจึงตอบว่า
หมาข้างถนน...เราสบายดี แล้วท่านหล่ะ คงสุขสบายสินะ เพราะอยู่บ้านออกจะใหญ่โต
ทองดี..........สบายตรงไหนล่ะ ทุกวันนี้เราอยู่อย่างลำบาก เราอยากจะใช้ชีวิตเป็นเหมือน อย่างเพื่อนจังเลย วันๆเพื่อนคงจะสบายสินะ
หมาข้างถนน...ชีวิตเราน่ะ วันๆไม่ต้องคิดอะไร ตื่นเช้าขึ้นมา ก็ออกไป คุ้ยเขี่ย หาอาหาร ตามถังขยะ พออิ่มแล้วก็เดินไปเรื่อย ง่วงเมื่อไหร่ก็ นอนตามท้องถนน น้ำท่าก็ไม่เคยอาบ สบายไม่ต้องมีใครมาบังคับ
ทองดี.........โห..น่าอิจฉาเพื่อนจังเลย ชีวิตเราสิ วันๆ เจ้านาย ให้อยู่แต่ในบ้าน นอนแต่บนฟูก ถึงเวลากินก็มีคนเอามาให้ กินก็กินแต่เนื้อกระดูกก็ไม่ให้ แทะ ถังขยะก็ไม่ให้ คุ้ยเขี่ย ข้างถนนก็ไม่ให้เรานอน
เจ้านายเรา เขาทำยัง กับเรา ไม่ใช่ หมา
อ่านนิทานเรื่องนี้แล้วให้ คติและข้อคิด ในทางธรรมะ กับท่านอย่างไรบ้าง
***หมาเศรษฐี ปรับทุกข์กับ หมาข้างถนน***
เริ่มโดย สาคร, Jun 13 2009 03:25 PM
มี 6 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 13 June 2009 - 03:25 PM
#2
โพสต์เมื่อ 13 June 2009 - 05:11 PM
ได้ข้อคิดว่า ถ้าคุณสาคร ไม่หยุดคิด(เรื่อยเปื่อย) ก็จะไม่เห็นธรรมะซักทีครับ
แซวเล่นน่ะครับ : )
แซวเล่นน่ะครับ : )
#3
โพสต์เมื่อ 13 June 2009 - 10:22 PM
อยู่ที่ความคิดล้วน ๆ คะ มนุษย์เรา ส่วนใหญ่(รวมถึงตัวเราด้วย) ไม่พอใจในสิ่งที่ตนมีและเป็นอยู่่ ทั้งที่ อาจดีสำหรับตัวเราแล้ว แต่ก็ไม่วาย หาเรื่องเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น แต่มันก็มีส่วนดี คือ การพยามดิ้นรนหาสิ่งที่ดีสำหรับตน
#4
โพสต์เมื่อ 14 June 2009 - 11:00 AM
สิ่งที่ดีที่สุดคือการทำให้ตนเองและคนอื่นๆหลุดพ้นจากความทุกทั้งปวง
#5
โพสต์เมื่อ 15 June 2009 - 08:55 AM
จะดีไม่ดีอยู่ที่เราคิด
#6
โพสต์เมื่อ 15 June 2009 - 11:04 AM
คุณสาครรู้ภาษาหมาด้วยหรือ ล้อเล่นน้าอย่าเพ่งแยกเขี้ยวซิ
ทุกสิ่งล้วนเป็นไปตามบุญตามกรรมที่ทำมา เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานก็เพราะกรรม
ส่วนที่จะอยู่อย่างมีสุขมากในทานหรือทุกข์ยากอัตคัดก็เพราะไม่เคยทำทานเป็นต้น
ในพระไตรปิฏกก็ยังเคยมีเรื่อง น้องหมาเลย
ที่มีคนยากจนเข็ญใจ อดยากมากๆ ไปทำงานในบ้านเศรษฐี เห็นว่าหมาในบ้านเศรษฐีกินอยู่ดีกว่าตัวเองเสียอีก
พอดีว่าตายลง ก็เลยไปเกิดเป็นหมาในบ้านเศรษฐี เป็นต้น
ท่านผู้รู้ จะช่วยอรรถาธิบายขยายรายละเอียดมากกว่านี้ให้ก็ดีค่ะ
ทุกสิ่งล้วนเป็นไปตามกรรม สูงสุดฟ้า ก็กลับคืนสู่สามัญ
ทุกสิ่งล้วนเป็นไปตามบุญตามกรรมที่ทำมา เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานก็เพราะกรรม
ส่วนที่จะอยู่อย่างมีสุขมากในทานหรือทุกข์ยากอัตคัดก็เพราะไม่เคยทำทานเป็นต้น
ในพระไตรปิฏกก็ยังเคยมีเรื่อง น้องหมาเลย
ที่มีคนยากจนเข็ญใจ อดยากมากๆ ไปทำงานในบ้านเศรษฐี เห็นว่าหมาในบ้านเศรษฐีกินอยู่ดีกว่าตัวเองเสียอีก
พอดีว่าตายลง ก็เลยไปเกิดเป็นหมาในบ้านเศรษฐี เป็นต้น
ท่านผู้รู้ จะช่วยอรรถาธิบายขยายรายละเอียดมากกว่านี้ให้ก็ดีค่ะ
ทุกสิ่งล้วนเป็นไปตามกรรม สูงสุดฟ้า ก็กลับคืนสู่สามัญ
#7
โพสต์เมื่อ 15 June 2009 - 01:26 PM
เคยฟังพระท่านเทศน่ะค่ะ ว่าคนจนจริงๆ แล้วเค้าไม่ได้เกิดมาลำบากแต่เค้าเกิดมาเพื่อสร้างขัติบารมี เพราะถ้าเค้าอดทนกับความยากลำบากได้แล้วภพต่อไปเค้าก็จะไม่เกิดมาจนอีก เป็นการบำเพ็ญบารมีอีกทัศนึงน่ะค่ะ ท่านว่าอย่างนั้น ส่วนคนที่เค้ารวยถ้าเค้าคิดว่าตัวเองรวยแล้วไม่ต้องทำอะไรอยู่เฉยๆ นั่นก็คือใช้ชีวิตด้วยความประมาท เพราะถ้าเผลอไปทำอบายผิดศีลเข้าเพราะความไม่รู้แล้วล่ะก็มีโอกาสที่จะตกนรกได้น่ะค่ะ ป.ล. ฟังพระท่านเทศน์มา
