ช่วยให้คำแนะนำหน่อยค่ะ
#1
โพสต์เมื่อ 19 January 2006 - 09:01 PM
ตอนเช้าอ่ะค่ะ มีการเข้าแถวหน้าเสาธง ก็ต้องมีจัดแถวแล้วนู๋อ่ะ อยู่หน้าสุดเลยของผู้หญิงแต่ก็ต้องอยู่หลังพวกผู้ชายเพราะว่าเป็นแถวเดียว เกือบทุกวัน นู๋ ต้องคอยบอกเพื่อนๆว่าให้จัดแถว เพราะว่าเวลานั่งลง มันจะลำบากเพื่อนๆข้างหลัง เพราะเค้าจัดแถวกันดีอยู่แล้ว เวลานั่งก็ต้อง ขยับๆ ไปเรื่อย ไม่มีระเบีบยเท่าไหร่ อาจารย์ก็คอยบ่นทุกวัน แล้ววันนี้ เพื่อนผู้ชายทั้งหลายที่ยืนอยู่หน้านู๋ เค้านั่งไม่ได้ เหตุมาจาก เพลงชาติขึ้นพอดี พวกเค้าก็แล่นมายืนข้างหน้านู๋ ถึงคราวนั่ง นู๋ก็ไม่ได้ถอยลงไปให้พวกเค้า แตต่ได้เว้นที่ให้พวกเค้าได้ยืนกัน แล้วพวกเค้าก็นังลง แต่เบียดกันบ้าง เค้าบอกให้นู๋ถอยลงไปอีก แต่นู๋ก็ไม่ได้ถอย จนเพื่อนที่นั่งข้างหน้านู๋ต้องเสียสละไปนั่งต่อจากนู๋เรพาะมีที่ว่างเหลืออยู่ 1 ที่ เพราะว่า อยู่ในช่วงกิจกรรมตอนเช้า ที่ต้องทำสมาธิ ซึ่งหนู่ก็ ทำสมาธิไป เลยไม่อยากพูดมาก ปล่อยให้เค้าพูดไป หลังจากนั้น เค้าก็ นินทาว่าร้ายหนู ว่าเห็นแกตัวบ้าง สารพัดโดยที่ตัวเค้าก็ไม่ไดอะไรหนักหนา หนีเรียนอีกด้วยซํา หลายอย่างเรา ตรงกันข้าม ถ้าเป็นเด็กเรียนนู๋จะไม่ว่าสักคำ แต่เพื่อนคนนี้ กริยาไม่น่ารักจริงๆค่ะ ไม่ค่อยมีคนชอบเค้า แทบไม่ชอบทั้งห้อง
แล้วทั้งวันนี้นู๋ก็ทน กับคำว่า ด่า ของเค้า โดยที่ทำเป็นไม่ได้ยิน แต่แค้นมาก ตอนเช้าเค้าว่านู๋ ว่าเห็นแก่ตัว นู๋ได้แต่ตอบคำเดียวว่า "ขอบใจ" แบ้วก็ "ช่วยไม่ได้ที่ไม่ยอมจัดแถวกันเอง" เค้าก็ว่ามาตูมใหญ่ แต่นู๋ไม่สน
ใจจริงอยากจะด่ากลับเพราะนู๋เป็นคนปากไว แต่ เมื่อได้เข้าวัดมา ก็เย็นลงมากๆๆ ถึงกับเพื่อนๆแปลกใจที่ไม่ตอบโต้ แต่ครั้งนี้นู๋ทนไม่ไหวแต่ก็ยังทนอยู่ อยากจะขึ้นตลอดเวลา อยากจะถามความเห็นว่า ควรทำไงถึงจะบอกเค้าด้วยวาจาสุภาพแต่แฝงด้วยคำที่(ทำให้เจ็บใจอยู่บ้าง)ดีๆหน่อยอ่ะค่ะ ไม่หยาบคาย เพราะกลัวตัวเองจะติดเศษกรรมกับเรื่องแค่เนี่ย แล้วทำยังไงถึงจะทำให้ใจเราเย็นลงได้ทันทีบ้างค่ะ
ใครเคยเป็นบ้างทำยังไงถึงจะหาย
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
#2 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 19 January 2006 - 09:31 PM
#3
โพสต์เมื่อ 19 January 2006 - 09:58 PM
................................................................
เมื่อมีเหตุการณ์อย่างนี้ให้นึกถึงคำสอนยายไว้นะครับ.......
.............................................
อดทนและปรับปรุง
เราอุตส่าห์เสียสละทุกอย่างมาแล้ว เพื่อ มาสร้างบารมี มาสร้างความดี ต้องอดทน ใครจะว่าอะไรก็อดทน พยายามปรับปรุงแก้ไข ตนเองให้ดี ดูอย่างยายพยายามตรวจตรา แก้ไขตัวเอง ให้เหมาะกับเหตุการณ์ ให้สร้าง บารมีได้สะดวกที่สุด ภพชาตินี้เราต้องพยายามอดทน ปรับ ปรุงแก้ไขให้ดี ให้มีแต่สิ่งที่ดีๆ ติดตัวไป ถ้าภพ ชาตินี้แก้ไขได้ ภพชาติต่อๆ ไปก็มีแต่ที่ดีๆ ลอดไป แต่ถ้าแก้ไขไม่ได้ ก็ต้องติดไปแก้ภพ ชาติต่อไป อย่างนี้ไม่ดี เพราะฉะนั้นต้องแก้ไข ปรับปรุงตัวเองให้ดีที่สุด
( ๒๐ สิงหาคม ๒๕๒๕ )
.......................................................
ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม
#4
โพสต์เมื่อ 19 January 2006 - 10:46 PM
ตั้งแต่ยายเข้าวัดมา มีคนดูถูกมากมาย แต่ที่ยายก้าวขึ้นมาได้ขนาดนี้ ก็เพราะทำอะไร ทำจริง ยายคิดแต่จะเอาธรรมะ คิดแต่จะตอบ หลวงพ่อวัดปากน้ำให้ได้ ใจจรดธรรมะไม่ถอย เลย เรื่องอื่นๆ ยายมองข้ามไป ไม่สนใจ ใคร จะแกล้ง ใครจะดูถูกเหยียดหยาม ก็ช่างเขา ยายก็ทนได้ ถ้ามัวแต่อิจฉาริษยา แก่งแย่งชิงดีกัน ก็เสียเวลาไปเปล่าๆ คนที่คิดว่าตัวเองเก่ง ก็มัวต่อสู้กันต่างๆ นานา แต่ยายมุ่งเอาแต่ธรรมะ ถ้าคนเก่งจริงไม่ต้องไปสู้กับใคร ยายไม่ เสียเวลาในเรื่องเหล่านี้ จึงมีเวลาค้นธรรมะ ละเอียดมากขึ้น
( ๑๗ สิงหาคม ๒๕๒๓ )
ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม
#5
โพสต์เมื่อ 19 January 2006 - 11:20 PM
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
#6
โพสต์เมื่อ 20 January 2006 - 12:21 AM
เห็นมั้ยว่าน้องเป็นผู้มีปัญญา เป็นผู้มีบุญที่มีโอกาสได้เรียนรู้ ได้ฝึกตัวเองได้เร็วกว่าพี่ขนาดไหน
สู้ต่อไปค่ะคุณน้อง (สู้กับความโกรธ) ^-^
#7
โพสต์เมื่อ 20 January 2006 - 01:54 AM
#8
โพสต์เมื่อ 20 January 2006 - 07:42 AM
อย่างน้อย ก็ได้ทำดี (พยายามทำตามกฎระเบียบของการเข้าแถวจัดแถว)
และไม่พูดในสิ่งที่ไม่ดี (ไม่ทะเลาะหรือพูดเหน็บแนมเพื่อนคนนั้น)
ตอนนี้เหลืออีกอย่างเดียวค่ะ คือ "คิดดี"
ซึ่งวิธีการก็มีหลายอย่างตามคำแนะนำข้างบนที่พี่ๆ เขาบอกมา
อีกอย่างที่จะเพิ่มเติมคือ "นี่เป็นกรรมเก่าของเรา ยอมรับมันโดยยิ้มรับด้วยใจที่เปิดกว้าง
และพัฒนาตนเองโดยการสั่งสมขันติบารมี"
หลวงพ่อถามเราทุกวัน จะได้ตอบได้ว่า "ยิ้มแล้วค่ะ"
#9
โพสต์เมื่อ 20 January 2006 - 11:56 AM
#10 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 20 January 2006 - 12:31 PM
ดีมากเลยครับได้ความรู้..
.................
อนุโมทนาบุญด้วยครับ..
#11
โพสต์เมื่อ 20 January 2006 - 12:34 PM
แล้วชอบมากเลยครับ..ตรงกับความคิดผมที่ว่าต้องเริ่มที่เราก่อน..ครับ
............................................................................
แบบพัฒนาตนเอง
หากเรามีคุณสมบัติเป็นคนพาล
ชีวิตเราย่อมเต็มไปด้วยคนพาล
หากเรามีคุณสมบัติเป็นมิตรเทียม
ชีวิตเราย่อมพบแต่คนเทียมมิตร
หากเรามีคุณสมบัติเป็นมิตรแท้
ก็จะมีแต่มิตรแท้เคียงข้างคู่ชีวิต
ดังนั้น จงพัฒนาคุณสมบัติความเป็นมิตรแห่งตนอยู่เนืองๆ
ประเมินคุณสมบัติตัวเองแบบวันต่อวัน
แล้วปรับปรุงนิสัยตนเองเสมอให้สมบูรณ์
SELF DEVELOPMENT
If we are the ruffians, we will surround by the
ruffians.
If we are the insincere friends, we only find
similar friends.
If we are the true companions, we then easily
accompany all true ones.
Consequently, evaluate and evolve your own qualification.
Day by day evaluate yourself,
and try to become a true companion towith
selective ones you accompany.
(ดัดแปลงและเรียบเรียงโดย เกียรติก้องธรณินทร์)
.........อนุโมทนาบุญกับท่าน.เกียรติก้องธรณินทร์..ครับ
ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม
#12
โพสต์เมื่อ 20 January 2006 - 02:36 PM
พี่เห็นด้วย และชื่นชม มาก ๆ คราบ
ที่น้อง หัดใช้ ความอดทน อดกลั้น
แล้วใช้เหตุผลในการพิจารณา ในเหตุที่เกิดขึ้นคราบ
ไม่แนะนำ ให้ คุ่นคิดหาคำไป ตอบโต้กลับครับ
เพราะเรายิ่งไปตอบโต้ ก็จะเป็นการไปเขี่ยไฟที่กำลังมอดลุกขึ้นมาอีกครั้ง
ถ้าเค้า นินทาว่าร้าย เราก็ปล่อยให้ผ่านไป อย่าเอาไปคบคิด
หนีเข้ากลาง เลยคราบ นึกถึง องค์พระ ดวงแก้ว ใสๆ ครับ
นอกจากจะไม่ได้กรรม แต่กลับได้บุญ คราบ
ขออนุโมทนาบุญ กับ ข้อความอื่นๆ ด้วยนะคราบ ...สาธุ ... ครับ ^^~*
วันนี้ยิ้ม กันหรือยังคราบ....^^
เ มื่ อ เ ร า ส ว่ า ง * * * โ ล ก * * * ก็ ส ว่ า ง ด้ ว ย ^^~*
ส า ธุ . . . ค รั บ ^^~*
#13
โพสต์เมื่อ 20 January 2006 - 06:07 PM
ใจใสๆๆ
ยิ้มกันทุกวันอย่าเก็บไว้
ย่อมมีแสงอรุณขึ้นก่อน
เป็นบุพนิมิตฉันใด
ความเป็นกัลยาณมิตรก็เป็นตัวนำ
เป็นบุพนิมิตแห่งการเกิดขึ้น
ของหนทางพระนิพพาน ฉันนั้น"
#14
โพสต์เมื่อ 21 January 2006 - 02:58 AM
ผมขอคำปรึกษาจากท่านผู้มีความชำนาญทางด้านไวยากรณ์ภาษาอังกฤษทุกท่านด้วยนะครับว่า ควรเปลี่ยนประโยคนี้เป็น So, evaluate and evolve your own qualification. จะดีกว่าหรือไม่? อย่างไรครับ?
#15
โพสต์เมื่อ 21 January 2006 - 10:36 AM
...............อย่างนี้ผมว่าน่าจะดีกว่า <So> นะครับ
สละสลวยดีครับ เป็นภาษาชั้นสูงดีครับ...
Con se quent ly ... ดังนั้น.....เป็น adverb ..
.......ผมก็ไม่ค่อยชำนาญ..ขอความเห็นเพิ่มเติมด้วยนะครับ...
ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม
#16
โพสต์เมื่อ 21 January 2006 - 10:42 AM
#17
โพสต์เมื่อ 21 January 2006 - 04:54 PM
ย่อมมีแสงอรุณขึ้นก่อน
เป็นบุพนิมิตฉันใด
ความเป็นกัลยาณมิตรก็เป็นตัวนำ
เป็นบุพนิมิตแห่งการเกิดขึ้น
ของหนทางพระนิพพาน ฉันนั้น"
#18
โพสต์เมื่อ 22 January 2006 - 11:02 AM
อนุโมทนากับทุกคนครับ
#19
โพสต์เมื่อ 22 January 2006 - 04:30 PM
#20
โพสต์เมื่อ 23 January 2006 - 11:55 AM
#21
โพสต์เมื่อ 05 October 2006 - 04:27 PM