มี 12 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

[ศ.ฤาษี (TreneteSiyaraya)]

สวัสดีครับ พี่ๆสาธุชนทุกท่าน

ผมมีเรื่องใคร่ถามอย่างหนึ่งครับ

คือว่า ปัจจุบันผมเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งครับ

เดี๋ยวนี้รอบอาณาบริเวณสถานศึกษาของผม มีป้ายสติกเกอร์ที่อิงหลักคำสอนในพระไตรปิฎก เรียกร้องไม่ให้ถวายเงินแก่พระภิกษุ สามเณร ดังนี้ครับ
 File0022.jpg   362.46K   105 ดาวน์โหลด

จึงใคร่ถามผู้รู้ทางด้านพระวินัยครับว่า ที่จริงแล้วการถวายเงิน-ทองแก่พระภิกษุ สามเณรนั้น ถูกหรือไม่ถูกต้องอย่างไรครับ

และถ้าไม่ถูกต้อง เราควรจะอธิบายต่อผู้ที่มีความเห็นตรงกับในป้ายประกาศนั้นอย่างไรบ้างครับ

ขออนุโมทนาบุญครับ

หากต้องการทราบสิ่งใดเพิ่มเติม โปรดส่งเมลติดต่อได้ที่ [email protected] ครับ

[PTDL]

น่าจะมีสติกเกอร์ชวนทำบุญกับวัดอยู่คู่กัน ไม่อยากถวายพระก็ขอให้ถวายวัดแทน ไม่งั้นใครจะจ่ายค่าไฟ

[Tree]

เงิน+ทอง ที่เราถวาย จะเปลี่ยนเป็นปัจจัย ในพระศาสนา
อนึ่ง ในสมัยนี้เราให้การแลกเปลี่ยนโดยใช้เงิน(ธนบัตร ที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย)เป็นหลักครับ

ศีล 10 ของสามเณรก็ห้ามเรื่องเงิน

แต่ด้วยเหตุผลดังกล่าว ผมจะยังถวายเงิน ให้พระศาสนาสืบไปครับ

[tnawut]

นำความจริงด้านเดียวมากล่าว เหมือนจงใจทำร้ายพระพุทธศาสนาเลย เห็นด้วยกับคุณ DPTL นะ ถ้าจะพูดเรื่องพระธรรมวินัย ก็ควรจะบอกเรื่องการทนุบำรุงพระศาสนาด้วย

มิจฉาฑิฐินะอันตรายมากๆ เข้าใจอย่านั้นเชื่ออย่างนั้นและทำอย่างนั้น ว่าร้ายพระภิกษุ ... ในขณะที่ตนเองยังมีศีลห้าไม่บริบูรณ์... ถ้าลองไปค้นเคสเก่าๆจะเข้าใจ

[จันทร์ยิ้ม]

อ้า???????..

1. รถ บขส. รถปรับอากาศให้พระท่านขึ้นฟรีๆๆหรือเปล่า หรือท่านต้องเดินเท้ามาจากเชียงใหม่

แล้วเครื่องบิน ไทยอินเตอร์ให้ขึ้นฟรีหรือเปล่า หรือท่านเหาะมาจากสกลนครได้เอง

นิมนต์พระ 9 รูปมาทำบุญบ้าน เราไม่มีรถไปรับ ให้ท่านหารถมาเอง ถวายปัจจัยค่ารถไม่ได้หรือ?????

นี่เรียก....ค่ายานพาหนะ....ใช่ไหม

2. พระป่วยเข้าโรงพยาบาลผ่าตัดต้องใช้เงินจำนวนมาก โรงพยาบาลทุกแห่งให้ใช้ฟรีหรือเปล่า

นี่เรียก...ปัจจัยสี่ คิลานเภสัชไหม

3. แล้วค่านำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ หน่วยงานของรัฐให้วัดใช้ฟรีๆๆหรือเปล่า

น่าไปถามพระใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้เนอะ ว่าลำบากแค่ไหน เขาเป็นอยู่อย่างไร ถ้าไม่มีเงินปัจจัยสี่ไปช่วย

[Ozeria]

เห็นด้วยกับคุณจันทร์ยิ้มค่ะ

เราถวายปัจจัยให้ท่านนำไปบำรุงพระพุทธศาสนาของเรา เช่น

ให้ท่านใช้เป็นค่าพาหนะเดินทางมาโปรดญาติ โยม,

สร้างศาสนสถานให้เราได้ใช้ปฏิบัติธรรม บุรณะวัด และสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ภายในวัด,

ค่านำ ค่าไฟในวัดต่าง ๆ,

[kissy]

โอ้........

[WISH]

ควรศึกษาที่มาให้ถ่องแท้...ว่าต้นบัญญัติกระทำการใด พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงต้องบัญญัติสิกขานั้น

สิกขาบทที่ ๘ โกสิยวรรค ในนิสสัคคิยกัณฑ์(ห้ามรับทองเงิน)

เจ้าของบ้านที่พระอุปนนทะ ศากยบุตร เข้าไปฉันเป็นนิตย์ เตรียมเนื้อไว้ถวายเวลาเช้า แต่เด็กร้องไห้ขอกินในเวลากลางคืน จึงให้เด็กกินไป รุ่งเช้าจึงเอากหาปณะ (เงินตรามีราคา ๔ บาท) ถวาย พระอุปนนทะก็รับ มีผู้ติเตียน พระผู้มีพระภาคจึงทรงบัญญัติสิกขาบท ห้ามภิกษุรับเอง ใช้ให้รับทอง เงิน หรือยินดีทอง เงิน ที่เขาเก็บไว้เพื่อตน๑ ทรงปรับอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์แก่ภิกษุผู้ล่วงละเมิด

อย่างไรก็ตาม รบกวนผู้เชี่ยวชาญทางปริยัติมาให้ธรรมทานกันดีกว่า

[ไปพนาวัฒน์กันเถิด]

เจตนาสำคัญ เราต้องการถวายเป็นของสงฆ์ย่อมได้อานิสงส์สูง

[ยิ้มอิ่มบุญ]

อืม บอกยากนะครับ มันขึ้นอยู่กับยุคสมัยด้วย หากเป็นสมัยพุทธกาลที่เงินไม่มีความจำเป็นเท่าไหร่กับพระภิกษุนักก็คงไม่มีปัญหานะครับ
แต่ในยุคสมัยนี้ เป็นยุคสมัยที่เรียกได้ว่าตัวใครตัวมัน ไม่เว้นแม้พระภิกษุ เงินก็มีความจำเป็นเหมือนกัน

ขอยกตัวอย่างเปรียบเทียบนะครับ
ในสมัยพุทธกาล จัดได้ว่าเงินทองแทบไม่มีความจำเป็นสำหรับพระภิกษุเลย พระภิกษุเดินไปไหนมักจะมีแต่คนกราบไหว้บูชา ให้ความเคารพ
คอยอำนวยความสะดวกสบายให้
แต่เมื่อเปรียบเทียบกับในยุคสมัยนี้ ขนาดขึ้นรถเมล์ที่นั่งสำหรับที่จัดไว้ให้พระภิกษุ คนธรรมดากลับเห็นแก่ความสะดวกสบายไปนั่งซะอย่างนั้น
ทั้งที่มีเขียนไว้ตัวโตๆว่า ที่นั่งสำหรับพระภิกษุ หรือบางทีขับรถเจอพระภิกษุยืนรอที่ป้ายรถเมล์มีใครบ้างที่จะจอดรับมีใครบ้างที่จะอาสาพา
ท่านไปส่ง อย่างการซื้อของก็เหมือนกัน คิดว่าหากพระภิกษุไปซื้อของใช้ที่จำเป็น คิดว่าจะมีสักกี่ร้านที่ไม่คิดเงินกับพระภิกษุ จะมีสักกี่ร้าน
ที่จะบอกกับพระภิกษุว่า "หากพระคุณเจ้าต้องการของใช้ที่จำเป็นขอเชิญพระคุณเจ้าหยิบเอาไปเลย" คิดว่าจะมีไหมครับ

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ยังเคยตรัสกับพระอานนท์ไว้ว่า หลังจากที่พระองค์ปรินิพพานไปแล้ว มนุษย์จะมีกิเลสมากขึ้น เมื่อนั้นพระภิกษุ
ในพระธรรมวินัยจะมีความลำบากมากขึ้น หากสิกขาบทเล็กน้อยบทใดที่เห็นว่าไม่จำเป็นสำหรับยุคสมัยนั้น พระองค์ก็ทรงอนุญาติให้ตัดทิ้งได้
จึงได้เกิดความคิดเห็นที่แตกต่างขึ้นในหมู่พระภิกษุ เหล่าพระภิกษุที่เป็นพระอรหันต์ก็เห็นควรว่าไม่ควรตัดทิ้ง เหล่าพระภิกษุที่ยังไม่บรรลุธรรม
หรือยังมีฌานอ่อนก็มีความเห็นว่าควรตัดทิ้งบ้าง พระภิกษุในพระพุทธศาสนาจึงได้แบ่งออกเป็น2นิกายนับแต่นั้นเป็นต้นมา นิกายหนึ่งถือ
พระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างเคร่งครัด อีกนิกายหนึ่งได้ตัดทอนสิขาบทบางส่วนออกไปเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม
ความเป็นอยู่ทางสังคมในปัจจุบัน เช่น พระภิกษุที่อยู่ในเมืองหนาว ก็จะสามารถมีผ้าได้มากกว่า3ผืนเพื่อให้เหมาะสมกับภูมิประเทศเขตหนาว
พระภิกษุที่อยู่ห่างไกลจากบ้านเรือนผู้คน หรืออยู่ในป่าเขาไม่มีคนบิณฑบาตร ก็สามารถหุงหาอาหารกันเองได้ และอื่นๆอีกมากมาย เป็นต้น

เรื่องการอธิบายนั้น หากเป็นผู้ที่เคร่งสุดโต่ง คงจะไปอธิบายให้เขาเข้าใจได้ยากอ่ะครับ ดีไม่ดีเราจะเดือดร้อนอีก ถ้าเป็นผม ผมจะย้อนเขาไป
ว่า
หากคุณคิดว่าคุณสามารถไปบริการให้พระภิกษุทั่วประเทศเกิดความสะดวกสบายทุกวันได้จนกระทั่งพระภิกษุทั่วประเทศไม่มีความจำเป็น
ที่จะใช้เงินทองได้ ผมก็จะสนับสนุนในเรื่องนี้กับเขา บอกเขาแค่นี้แหล่ะครับ จบ อย่าไปต่อความยาวสาวความยืดกับเขาต่อนะครับ ไม่งั้นเดี๋ยว
เป็นเรื่อง ^ ^

[Pete]

รู้จัก ทอง ไหมครับ บาทละ หมื่นกว่าๆ

รู้จัก เงิน ไหมครับ (เวลาแข่ง กีฬา ได้ที่ 2 แล้วเขา ให้เหรียญ เงิน น่ะครับ)


เรา ไม่ถวาย ทอง-เงิน (โลหะ)

เรา ถวาย ธนบัตร ก็ย่อมไม่ผิด แน่นอนครับ

[kasaporn]

สาธุ.....ทำให้เข้าใจได้มากยิ่งๆขึ้นค่ะ

[vior]

ในวินัย มีต่ออีกหน่อย คือ ให้ถวายเงินและทอง ผ่านไปทางอุปัฏฐาก โดยให้เขียนใบปวารณา ถวายพระว่า ได้ฝากสิ่งนั้น สิ่งนี้จำนวนเท่านั้น ไว้แก่อุปัฏฐากชื่อนี้ ถ้าพระคุณเจ้ามีความต้องการใช้ ก็ให้ไปเบิก แล้วยุคนี้ บางวัดจะฝากใครได้ล่ะ

มันก็คล้าย ๆ เช็ค ในสมัยนี้นะครับ ธนบัตร ก็คือกัน มันก็ไม่ได้ต่างกันตรงไหน อยู่ที่เจตนามากกว่า คนที่ขึ้นคัตเอาท์ มีความคิดอะไร ต้องการหยุดการเติบโตของพระพุทธศาสนาหรือ หรือว่า ต้องการชำระศีลให้บริสุทธิ์ ก็น่าจะเขียนให้หมด