
ย้อนรอยหมู่คณะ ตอนที่ 4
#1
โพสต์เมื่อ 30 April 2010 - 12:59 PM
http://www.dmc.tv/fo...showtopic=23050
จากตอนที่แล้ว ผมก็เริ่มฝึกสมาธิโดยวิธีการนึกนิมิตที่ศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ด ซึ่งผมก็อดจะติดอาการตั้งใจมากเกินไปไม่ได้เสียที เพราะเป็นคนติดนิสัยเรียนหรือทำงานทางโลกก็จะทำจริงจัง ทำให้เวลามาปฏิบัติธรรมก็เผลอนำเอาวิธีการทางโลกมาใช้ คือ ถ้าไม่ได้ก็จะเอาให้ได้ ทำให้ตึงที่หัวคิ้วอยู่บ่อยๆ ครั้นพอเวลาผ่อนใจออกมาก็เผลอฟุ้งไปเป็นระยะๆ ต่อมา ก็เลยเปลี่ยนมาใช้เป็นการภาวนาเฉยๆ สลับกับการนึกนิมิตไปเรื่อยๆ ช่วงที่นั่งสมาธิดีก็จะผ่อนคลายสบายๆ ประสบการณ์สมาธิก็จะดีบ้าง แย่บ้างสลับๆ กันไป
ต่อมาไม่นาน ผมได้ไปอ่านพบบทความบางอย่างกล่าวถึง การนำนั่งสมาธิแบบที่มีพระภิกษุนำนั่งกล่าวสอนไปเรื่อยๆ โดยให้ทุกคนทำตาม บทความนี้บอกว่า วิธีการนี้ไม่ต่างอะไรจากการสะกดจิต
หา อะไรนะ สะกดจิต ตอนนั้นผมตกใจมาก ความกลัวว่าจะถูกหลอก ความกลัวว่าตนเองมาผิดทาง ได้ก่อตัวขึ้นในใจ และทับทวีกำลังแรงขึ้นจนกลายเป็นพายุดีเปรสชั่น (ว่าเข้าไปนั่น) ผมย้อนกลับไปนั่งสมาธิด้วยความกล้าๆ กลัวๆ อยู่หลายวัน ตอนนั้นนั่งฟังครูไม่ใหญ่ไปด้วย ระวังตัวไปด้วย ว่าจะเผลอถูกสะกดจิตอย่างมากๆ แต่ครั้นเมื่อเวลาผ่านไปหลายๆ ครั้งเขา เหตุผลเริ่มตั้งลำได้ ก็เลยเริ่มย้อนคิดใหม่ว่า สะกดจิตที่ไหนกัน หากสะกดจิตได้จริง หลวงพ่อมิสะกดให้ผมและทุกคนทำตามท่านไปเสียทุกอย่างไปแล้วหรือ แต่นี่เราก็ยังมีใจมามัวนั่งคิดอยู่ได้ว่า กำลังจะถูกสะกดจิต แล้วอย่างนี้มันจะไปเรียกว่า สะกดจิตตรงไหนกัน เออ พอคิดได้เช่นนี้ ใจก็คลายความกังวัลลง และแล้วเวลาก็ผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ภายหลังผมมานั่งย้อนคิดดู ทำให้รู้สึกว่า ความกลัว ซึ่งเป็นหนึ่งใน กิเลสมนุษย์นั้น ช่างน่ากลัวจริงๆ ขนาดผมได้ศึกษาเรื่องราวความตั้งใจจริงในการสร้างวัดของหมู่คณะมาพักใหญ่แล้ว (ดังที่เล่าๆ มา) ได้เห็นปฏิปทาของหลวงพ่อและหมู่คณะก็แล้ว จนมีจิตเลื่อมใสที่จะร่วมด้วยช่วยกันสร้างบารมีกับหมู่คณะก็แล้ว แต่เพียงแค่ความกลัว บังเกิดขึ้นในใจเท่านั้น ความกลัวก็ได้ทุบทำลายกำแพงแห่งเหตุผลทั้งหลายให้มลายสิ้นเลยล่ะครับ ต้องใช้เวลาอยู่หลายสัปดาห์ทีเดียว กว่าเหตุผลจะกลับลำขึ้นมาอยู่เหนือความกลัวได้อีกครั้ง
นึกถึงตอนนี้ ผมนึกรู้สึกโล่งอกว่า ดีนะเนี่ย ที่ตอนนั้น เรายังไม่พลาดไป มิฉะนั้น ถ้าปล่อยให้ความกลัวเข้าครอบงำเราแล้วล่ะก็ เราก็ต้องหลุดจากหมู่คณะผู้มีปฏิปทาที่ยิ่งใหญ่นี้ไปอย่างน่าเสียดาย
#2
โพสต์เมื่อ 30 April 2010 - 01:28 PM
Kay:) เป็นคนหนึ่งที่มีอาการตั้งใจมากกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำค่ะ
หนังสมาธิก็อดไม่ได้ที่จะตั้งใจมาก บางทีก็ปวดคิ้ว ปวดหัวตึ๊บเลยค่ะ
#3
โพสต์เมื่อ 30 April 2010 - 03:22 PM
#4
โพสต์เมื่อ 30 April 2010 - 06:43 PM
ให้เรตติ้งเป็น ดาว ไงคะ พี่แสงตะวัน
แล้วที่ตั้งตารออ่านตอนต่อไปเนี๊ยะ เพราะเจ้าของกระทู้ แอบสะกดจิตหรือป่าวคะ??


ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#5
*sky noi*
โพสต์เมื่อ 30 April 2010 - 07:25 PM
#6
โพสต์เมื่อ 30 April 2010 - 08:24 PM
#7
โพสต์เมื่อ 01 May 2010 - 03:27 PM
มาติดตามย้อนรอยหมู่คณะ ทุกตอนด้วยเช่นกัน
สรุปว่าคุณหัดฝันจะรวมเล่มไหมค่ะ ถ้าไม่จะได้ขออนุญาต Copy ไว้
แจ้งกลับด้วยน่ะค่ะ
ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ...
#8
โพสต์เมื่อ 01 May 2010 - 03:31 PM