
คิดไปคิดมา พระพี่เลี้ยงนี้ เป็นบุญใหญ่มากจริงๆ ครับ
#1
โพสต์เมื่อ 19 May 2010 - 10:57 AM
ปี 2541 ผมเคยบวช แล้วปฏิบัติธรรมที่สวนพนาวัฒน์
พอจ. ศุภมิตร (ชุดทำวิชชา) ท่านมาลงให้ธรรมะ ให้ผมและพระบวชใหม่ ทั้งร้อยกว่ารูป
ท่านบอกว่า ถ้าหลวงพี่ ลงให้ธรรมะ กับ อุบาสก อุบาสิกา ที่อยู่วัดมา 10 ปี บุญที่ได้ (ท่านคงเห็นดวงบุญ)
เอามาเทียบ กับบุญที่ หลวงพี่ ลงให้ธรรมะ กับพระภิกษุ บวชใหม่ เทียบกันไม่ได้เลย
หลวงพี่ จึงชอบมาก ที่จะมาลงให้ธรรมะ กับพวกเรา ถ้ามีโอกาส
ผู้ที่ มีโอกาส ทำหน้าที่ เป็นพระพี่เลี้ยง พระพี่ชาย (ในครั้งนี้ และครั้งอื่นๆ)
ก็จะมีโอกาส ได้ให้ธรรมะ คำแนะนำ กิจวัตร กิจกรรม ต่างๆ แก่พระบวช ใหม่ หลายๆ สิบรูป ตลอด 4 เดือน
บุญที่ได้ ก็คงจะมากมาย ทีเดียว
เมื่อก่อน พระพี่เลี้ยงธรรมทายาท ต้องบวช 3 พรรษา ขึ้นไป
แต่ตอนนี้ แค่บวชก่อน 1 เดือนก็ได้ทำหน้าที่นี้แล้ว
คิดแล้ว คงเป็นบุญพิเศษ (ที่หลวงพ่อท่านมอบให้) สำหรับผู้ที่มาทำหน้าที่พระพี่เลี้ยง
ที่จะได้บุญ บารมี เนกขัมมะบารมี อย่างก้าวกระโดด ภายในเวลา 4 เดือน นั่นเอง
ท่านใดอยากได้บุญ พิเศษอย่างนี้ ก็เชิญได้เลยนะครับ
ครั้งนี้ ผมเอง ก็คิดว่า จะไปทำหน้าที่พระพี่เลี้ยง รุ่นแสนนี้ ด้วยครับ
สำหรับ ท่านที่เป็นสตรี ก็รอเป็น ชาติต่อไปละกันนะครับ
#2
โพสต์เมื่อ 19 May 2010 - 12:30 PM
#3
โพสต์เมื่อ 19 May 2010 - 12:53 PM
#4
โพสต์เมื่อ 19 May 2010 - 03:01 PM
ส่วนตัวพี่เอง ก็จะรอชาติหน้าค่ะ ได้เกิดเป็นชายแท้ บวชแต่เยาว์วัย
#5
โพสต์เมื่อ 19 May 2010 - 04:45 PM
#6
โพสต์เมื่อ 19 May 2010 - 05:22 PM
เอามาเทียบ กับบุญที่ หลวงพี่ ลงให้ธรรมะ กับพระภิกษุ บวชใหม่ เทียบกันไม่ได้เลย
พระต้องรักษาศีล 227 ข้อ คิดเป็น 28 เท่าของคนรักษาศีล 8
พระต้องรักษาศีล 227 ข้อ คิดเป็น 45 เท่าของคนรักษาศีล 5
บุญของพระก็คงมากว่าคนรักษาศีล 8 อย่างน้อย 28 เท่า
บุญของพระก็คงมากว่าคนรักษาศีล 5 อย่างน้อย 45 เท่า
"การให้ธรรมมะ ชนะการให้ทั้งปวง" แสดงว่าการให้สอนธรรมมะ การสอนคนให้เป็นคนดีได้ เป็นบุญที่ยิ่งใหญ่มากๆๆๆ
แล้วถ้า มาเป็นพี่เลี้ยงพระบวชแสนล่ะ บุญนั้นจะเป็นกี่เท่ากัน บุญนั้นยิ่งใหญ่ขนาดไหน
บุญพระพี่เลี้ยงนั้น มากกว่าผู้บวชพระอีกหลายเท่านัก
เพราะเป็นพระพี่เลี้ยงนั้นต้องเสียสละแรงกาย แรงใจ เสียสละเวลาส่วนตัว เพื่อทำหน้าที่พี้เลี้ยง ต้องตื่นก่อนและนอนทีหลัง เวลาพักก็พักทีหลัง
ได้ยินได้ฟังมา ว่าไปเป็นอาสาสมัครที่วัด ช่วยงานบุญนั้น ได้บุญ 2-3 เท่า ของผู้ที่มาร่วมงานบุญ
เป็นพระพี่เลี้ยงนี่ น่าจะได้บุญมากกว่า เป็น อาสาสมัครแน่ๆ บุญก็ คูณ2, คูณ3 ไปอีก อย่างน้อยที่สุดก็ สองเท่า ของการบวชพระ
สรุปง่ายๆ (แบบเล่นๆ) เป็นพระพี่เลี้ยง ได้บุญเป็น 100-150 เท่า ของผู้รักษาศีล 5
เป็นพระพี่เลี้ยง ได้บุญเป็น 60-80 เท่า ของผู้รักษาศีล 8
เป็นพระพี่เลี้ยง ได้บุญเป็น 2-3 เท่า ของผู้รักษาศีล 227
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#7
โพสต์เมื่อ 19 May 2010 - 05:30 PM
#8
โพสต์เมื่อ 19 May 2010 - 07:13 PM
ทำทานกับผู้มีศีล ได้อานิสงส์แสนชาติ
ทำทานกับนักบวชฤาษีชีไพร ได้อานิสงส์แสนโกฏิชาติ
ทำทานกับพระผู้มุ่งบรรลุโสดาบัน ได้อานิสงส์นับชาติไม่ถ้วน
เมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้มีศีล 5 เทียบกับพระแล้วจะกลายเป็น = แสนชาติ : นับชาติไม่ถ้วน
#9
โพสต์เมื่อ 19 May 2010 - 07:45 PM
นี่ล่ะวิธีนับของจริง แยะกว่าที่นับเล่นๆ แยะเลย
แล้วถ้าพระในโครงการบวช นั้น นั่งธรรมมะได้ดี ได้เข้าถึงดวงปฐมมรรค ได้เข้าถึงพระธรรมกาย
หรือปราถนาที่จะเข้าถึงพระนิพพาน ปราถนาที่จะเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคต หรือปราถนาอรหันตผล
เท่ากับว่า พระพี่เลี้ยง ก็มีส่วนในบุญนั้นๆ ด้วย
ผู้ที่เข้าถึงดวงปฐมมรรค ได้บุญเท่าไหร่ พระพี่เลี้ยงก็ได้บุญนั้นด้วย
ผู้ที่เข้าถึงพระธรรมกาย ได้บุญเท่าไหร่ พระพี่เลี้ยงก็ได้บุญนั้นด้วย
โอ้.....อานิสงค์แห่งบุญนั้น นับไม่ไหวจริงๆ ค่ะ
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#10
โพสต์เมื่อ 20 May 2010 - 12:04 PM