ผมอยากรู้ประวัติอเนกวรรณเทพบุตรครับ เคยอ่านหนังสือ เผอิญรู้มาว่าพระอินทร์ท่านกลัวอเนกวรรณเทพบุตร อยากรู้ว่าทำไมอะครับ
ใครรู้ตอบหน่อยนะครับ
มาทางนี้หน่อยนะ
เริ่มโดย เพียงพอ, Feb 12 2006 09:00 PM
มี 6 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 12 February 2006 - 09:00 PM
#2
โพสต์เมื่อ 12 February 2006 - 09:40 PM
เพราะว่าเขามีรัศมีสว่างกว่าใครๆ ในภพดาวดึงส์ ทำให้พระอินทร์อายน่ะครับ
ตอนหลังพระอินทร์จึงปลอมตัวไปใส่บาตรพระพุทธเจ้าในกาลนั้น เพื่อให้บุญเพิ่มขึ้น ทำให้รัศมีมากกว่า ตอนหลังจึงกล้าโชว์ตัวกับเทพบุตรนั้นครับ
ตอนหลังพระอินทร์จึงปลอมตัวไปใส่บาตรพระพุทธเจ้าในกาลนั้น เพื่อให้บุญเพิ่มขึ้น ทำให้รัศมีมากกว่า ตอนหลังจึงกล้าโชว์ตัวกับเทพบุตรนั้นครับ
#3
โพสต์เมื่อ 12 February 2006 - 09:45 PM
ลองดูนี้สิครับละเอียดเลย
http://www.radio-dha...2546-m03-31.asf
ธรรมะเพื่อประชาชน วันที่ 31 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2546 อเนกวรรณเทพบุตร
พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) วัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี
http://www.radio-dha...2546-m03-31.asf
ธรรมะเพื่อประชาชน วันที่ 31 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2546 อเนกวรรณเทพบุตร
พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) วัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี
#4
โพสต์เมื่อ 13 February 2006 - 05:53 AM
Therefor we should do lots of metta and light lots of maga phra teep
Sa thu kah!

คุณครูไม่ใหญ่ บอกว่า :
1. อดีตที่ผิดพลาด ลืมให้หมด 2. บาปทุกชนิดไม่ทำเพิ่มเด็ดขาด 3. หมั่นนึกถึงบุญอย่างสม่ำเสมอ
4. บุญทุกบุญทำให้เข้มข้นทับทวี 5. ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย
ขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ _/|\_ สาธุ สาธุ สาธุ
ด้วยรักจากใจ ด้วยห่วงใย จากใจจริง
1. อดีตที่ผิดพลาด ลืมให้หมด 2. บาปทุกชนิดไม่ทำเพิ่มเด็ดขาด 3. หมั่นนึกถึงบุญอย่างสม่ำเสมอ
4. บุญทุกบุญทำให้เข้มข้นทับทวี 5. ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย
ขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ _/|\_ สาธุ สาธุ สาธุ

#5
โพสต์เมื่อ 13 February 2006 - 09:50 AM
แก้ไขครับ...ไม่ใช่แอบใส่บาตรพระพุทธเจ้าครับ แต่แอบปลอมตัวมาเป็นคนแก่ยากจนไปใส่บาตรกับพระมหากัสสปะเถระที่พึ่งออกจากนิโรธสมาบัติครับ แถมแอบเอาน้องสุชาดาลงไปด้วยกัน 2 องค์
แต่พอใส่บาตรเสร็จ กลิ่นอาหารก็หอมฟุ้งผิดสังเกต พระมหากัสสปะจึงสอดญาณดู ก็ถึงรู้ว่าชายแก่นี้เป็นท้าวสักกะปลอมตัวมา จึงต่อว่าว่าท้าวสักกะว่าพระองค์มีบุญเยอะอยู่แล้วเป็นถึงจอมเทพของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ยังมาใส่บาตรของท่านเป็นการขัดบุญของคนยาก
แต่ท้าวสักกะตอบว่า ตนนี้แหละคนยาก เพราะได้ชื่อว่าเป็นจอมเทพของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์แต่กลับออกจากวิมานไม่ได้เพราะรัศมีด้อยกว่าเอนกวรรณะเทพบุตรครับ
กรณีนี้ถือว่าเป็นกรณีที่เกิดขึ้นได้น้อยจริงที่เทวดาลงมาสร้างบุญเพิ่มเพราะถ้าพระมหากัสสปะสอดญาณตรวจสอบก่อนที่ท้าวสักกะจะแอบใส่บาตร ท่านก็จะไม่รับบิณฑบาตรครับ เพราะคุณครูไม่ใหญ่ก็เล่าให้ฟังว่าพอพระมหากัสสปะเปิดฝาบาตรปั๊ป ท้าวสักกะก็รีบใส่บาตรทันที แต่กลิ่นอาหารที่หอมฟุ้งผิดสังเกตทำให้พระมหากัสสปะใช้ญาณตรวจสอบทันทีเช่นกัน แต่พอรู้ว่าเป็นท้าวสักกะปลอมตัวมาก็ปิดฝาบาตรไม่ทันแล้วครับ
แต่พอใส่บาตรเสร็จ กลิ่นอาหารก็หอมฟุ้งผิดสังเกต พระมหากัสสปะจึงสอดญาณดู ก็ถึงรู้ว่าชายแก่นี้เป็นท้าวสักกะปลอมตัวมา จึงต่อว่าว่าท้าวสักกะว่าพระองค์มีบุญเยอะอยู่แล้วเป็นถึงจอมเทพของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ยังมาใส่บาตรของท่านเป็นการขัดบุญของคนยาก
แต่ท้าวสักกะตอบว่า ตนนี้แหละคนยาก เพราะได้ชื่อว่าเป็นจอมเทพของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์แต่กลับออกจากวิมานไม่ได้เพราะรัศมีด้อยกว่าเอนกวรรณะเทพบุตรครับ
กรณีนี้ถือว่าเป็นกรณีที่เกิดขึ้นได้น้อยจริงที่เทวดาลงมาสร้างบุญเพิ่มเพราะถ้าพระมหากัสสปะสอดญาณตรวจสอบก่อนที่ท้าวสักกะจะแอบใส่บาตร ท่านก็จะไม่รับบิณฑบาตรครับ เพราะคุณครูไม่ใหญ่ก็เล่าให้ฟังว่าพอพระมหากัสสปะเปิดฝาบาตรปั๊ป ท้าวสักกะก็รีบใส่บาตรทันที แต่กลิ่นอาหารที่หอมฟุ้งผิดสังเกตทำให้พระมหากัสสปะใช้ญาณตรวจสอบทันทีเช่นกัน แต่พอรู้ว่าเป็นท้าวสักกะปลอมตัวมาก็ปิดฝาบาตรไม่ทันแล้วครับ
สิ่งอัศจรรย์ ปรากฏ บนผืนหล้า
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
รักษ์ร่างพอสร่างร้าย ..... รอดตน
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
คำสอนของเดชพระคุณหลวงพ่อ
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
#6
โพสต์เมื่อ 14 February 2006 - 05:05 PM
สาธุ
เพียง. . .เพื่อดำรงชีวิตอยู่ให้มีคุณค่า
พอ. . .แล้วกับความรู้สึกที่ว่าอยากมีอยากเป็น
One word will suffice.
พอ. . .แล้วกับความรู้สึกที่ว่าอยากมีอยากเป็น
One word will suffice.
เพียงพอ
#7
โพสต์เมื่อ 06 February 2007 - 03:13 PM
นึกว่า กายมนุษย์เป็นกายเดียวที่ทำบุญได้ซะอีก ที่แท้กายละเอียดก็ทำบุญได้ด้วยเหมือนกัน กราบอนุโมทนาบุญครับ สาธุ