เทวดารักษาศีล 8 ได้หรือไม่ครับ
เริ่มโดย Dhamma Bot, Apr 17 2006 03:32 PM
มี 10 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 17 April 2006 - 03:32 PM
เคยได้ยินได้ฟังมาว่าเทวดาโดยทั่วไปจะรักษาศีล 5 เป็นปกติน่ะครับ จึงสงสัยว่า เทวดาจะทำบุญด้วยการรักษาศีล 8 ได้หรือไม่ครับ โดยเว้นจากการฟังดนตรีทิพย์ เว้นจากการชมการแสดงของเหล่าเทพอัปสร ไม่ประดับประดาร่างกาย และไม่นอนบนที่นอนสูงใหญ่ เป็นต้น เทวดาประเภทนี้จะมีอยู่บ้างหรือไม่ครับ
#2
โพสต์เมื่อ 17 April 2006 - 06:07 PM
มีครับ เทพยดาเหล่านี้ มักเป็นเทพยดาในสวรรค์ชั้นดุสิต และโดยมากมักเป็นพระบรมโพธิสัตว์นะครับ แต่ไม่ถือว่าการทำเช่นนั้น จัดเป็นการบำเพ็ญศีลบารมีนะครับ เพราะบนภพภูมิของสวรรค์นั้น
๑. ไม่มีสถานที่สำหรับทำกรรมชั่ว เนื่องจากเป็นภพภูมิแห่งการเสวยผลแห่งบุญที่ตนได้ทำไว้เมื่อครั้งเป็นมนุษย์
๒. ต้องเสวยทิพยสุธาโภชน์วันละ ๓ เวลา (หากลืมเสวย เตโชธาตุภายในจะผลาญเผาทิพยกายต้องถึงกาลจุติ (ตาย) ในทันที)
โดยสรุปก็คือ เมื่อมนุษย์ผู้นั้นตายลงแล้วไปดำรงสภาวะเป็นกายเทพ บุญกิริยาที่สามารถบำเพ็ญได้มีเพียง ๒ ประการ คือ
๑. การเจริญสมาธิภาวนา (ภาวนามัย)
๒. การทำปัตตานุโมทนามัย คอยชื่นชมอนุโมทนาในกองการกุศลที่หมู่ญาติของตนได้อุทิศไปให้
๑. ไม่มีสถานที่สำหรับทำกรรมชั่ว เนื่องจากเป็นภพภูมิแห่งการเสวยผลแห่งบุญที่ตนได้ทำไว้เมื่อครั้งเป็นมนุษย์
๒. ต้องเสวยทิพยสุธาโภชน์วันละ ๓ เวลา (หากลืมเสวย เตโชธาตุภายในจะผลาญเผาทิพยกายต้องถึงกาลจุติ (ตาย) ในทันที)
โดยสรุปก็คือ เมื่อมนุษย์ผู้นั้นตายลงแล้วไปดำรงสภาวะเป็นกายเทพ บุญกิริยาที่สามารถบำเพ็ญได้มีเพียง ๒ ประการ คือ
๑. การเจริญสมาธิภาวนา (ภาวนามัย)
๒. การทำปัตตานุโมทนามัย คอยชื่นชมอนุโมทนาในกองการกุศลที่หมู่ญาติของตนได้อุทิศไปให้
#3
โพสต์เมื่อ 17 April 2006 - 06:27 PM
ธรรมะดีจังเลย เป็นความรู้ใหม่อีกแล้ว
#4
โพสต์เมื่อ 18 April 2006 - 04:50 PM
ขอเสริมน้องเกียรติก้อง สักนิดนะครับ บางท่านอาจจะสงสัยว่า ทำไมเป็นเทวดาแล้ว สร้างบุญอย่างอื่นไม่ได้เลยเหรอ เช่น ทำทานทำไม่ได้เลยเหรอ
คำตอบก็คือ เทวดาทำทานกับเทวดาด้วยกันไม่ได้ครับ เพราะสวรรค์ที่เป็นเสวยผลบุญ ของของใครก็เป็นบุญของคนคนนั้น ให้แก่กันไม่ได้ ถ้าเทวดาองค์หนึ่งมีแหวนหลายวงค์ จึงยกแหวนให้กับเทวดาอีกองค์หนึ่ง ที่ไม่มีแหวน พอยกให้ปุ๊บ แหวนจะหายจากมือก็เทวดานั้น กลับมาอยู่ที่เจ้าของเดิมแทน เพราะองค์ที่ไม่มีแหวน ไม่มีบุญรองรับได้ไงล่ะครับ
หรือแม้เทวดาคิดจะทำทานกับมนุษย์ ก็ทำได้ยากมากๆ ครับ ต้องเป็นกรณีพิเศษจริงๆ เช่น ท้าวสักกะ หรือ พระอินทร์ ปลอมตัวมาเป็นคนยากจนหลอกใส่บาตรกับพระมหากัปสัปปะ ซึ่งเป็นพระอรหันต์ ทำให้ได้บุญมหาศาล
หลายท่านอาจจะสงสัยต่อว่า ทำไมต้องหลอกกันด้วย ก็ไปใส่ตรงๆ ไม่ได้หรือ แล้วทำไมพระอรหันต์ ถึงไม่รู้ล่ะว่า พระอินทร์ปลอมตัวมา
คำตอบคือ พระมหากัปสัปปะ ท่านชอบโปรดคนยากจนน่ะครับ จึงต้องปลอมตัวมา
ส่วนทำไมท่านไม่รู้ คุณครูไม่ใหญ่เคยฝันในฝันไว้ว่า ตอนนั้น พระอินทร์อธิษฐานเอาบุญทั้งหมดของตนเป็นที่ตั้ง ขอให้ปฏิบัติภารกิจสำเร็จ ทำให้บุญไปดลบันดาลให้พระมหากัปสัปปะท่านไม่ได้ใช้ตาทิพย์ ตรวจดูก่อนน่ะครับ ท่านเห็นเป็นคนจนก็รับบาตรเลย พอรับแล้วถึงได้รู้ แต่ก็คืนไม่ได้แล้ว บุญเกิดขึ้นแล้ว
ท่านตำหนิเล็กๆ ว่า ทำไมพระอินทร์ มาแย่งสมบัติของคนยากจน พระอินทร์ ก็ตอบว่า ตอนนี้ท่านกำลังยากจนมาก เพราะเทวดาที่เกิดขึ้นใหม่ มีรัศมีกายสว่างกว่าท่านซึ่งเป็นหัวหน้าเสียอีก เนื่องจากได้ทำบุญในพระพุทธศาสนา ท่านเลยมาใส่บาตรนี่แหละ
พระท่านจึงตัดบทว่า คราวหลังอย่าทำอีกก็แล้วกัน
เรื่องนี้ก็เป็นข้อคิดว่า ตอนนี้เรายังเป็นมนุษย์อยู่ ให้รีบหมั่นสั่งสมบุญเสีย เป็นเทวดาแล้ว ก็แทบหมดโอกาสแก้ตัวใดๆ แล้วนะครับ ยิ่งถ้าไม่ใช่เทวดาล่ะก็ เก็กซิม ทีเดียว
คำตอบก็คือ เทวดาทำทานกับเทวดาด้วยกันไม่ได้ครับ เพราะสวรรค์ที่เป็นเสวยผลบุญ ของของใครก็เป็นบุญของคนคนนั้น ให้แก่กันไม่ได้ ถ้าเทวดาองค์หนึ่งมีแหวนหลายวงค์ จึงยกแหวนให้กับเทวดาอีกองค์หนึ่ง ที่ไม่มีแหวน พอยกให้ปุ๊บ แหวนจะหายจากมือก็เทวดานั้น กลับมาอยู่ที่เจ้าของเดิมแทน เพราะองค์ที่ไม่มีแหวน ไม่มีบุญรองรับได้ไงล่ะครับ
หรือแม้เทวดาคิดจะทำทานกับมนุษย์ ก็ทำได้ยากมากๆ ครับ ต้องเป็นกรณีพิเศษจริงๆ เช่น ท้าวสักกะ หรือ พระอินทร์ ปลอมตัวมาเป็นคนยากจนหลอกใส่บาตรกับพระมหากัปสัปปะ ซึ่งเป็นพระอรหันต์ ทำให้ได้บุญมหาศาล
หลายท่านอาจจะสงสัยต่อว่า ทำไมต้องหลอกกันด้วย ก็ไปใส่ตรงๆ ไม่ได้หรือ แล้วทำไมพระอรหันต์ ถึงไม่รู้ล่ะว่า พระอินทร์ปลอมตัวมา
คำตอบคือ พระมหากัปสัปปะ ท่านชอบโปรดคนยากจนน่ะครับ จึงต้องปลอมตัวมา
ส่วนทำไมท่านไม่รู้ คุณครูไม่ใหญ่เคยฝันในฝันไว้ว่า ตอนนั้น พระอินทร์อธิษฐานเอาบุญทั้งหมดของตนเป็นที่ตั้ง ขอให้ปฏิบัติภารกิจสำเร็จ ทำให้บุญไปดลบันดาลให้พระมหากัปสัปปะท่านไม่ได้ใช้ตาทิพย์ ตรวจดูก่อนน่ะครับ ท่านเห็นเป็นคนจนก็รับบาตรเลย พอรับแล้วถึงได้รู้ แต่ก็คืนไม่ได้แล้ว บุญเกิดขึ้นแล้ว
ท่านตำหนิเล็กๆ ว่า ทำไมพระอินทร์ มาแย่งสมบัติของคนยากจน พระอินทร์ ก็ตอบว่า ตอนนี้ท่านกำลังยากจนมาก เพราะเทวดาที่เกิดขึ้นใหม่ มีรัศมีกายสว่างกว่าท่านซึ่งเป็นหัวหน้าเสียอีก เนื่องจากได้ทำบุญในพระพุทธศาสนา ท่านเลยมาใส่บาตรนี่แหละ
พระท่านจึงตัดบทว่า คราวหลังอย่าทำอีกก็แล้วกัน
เรื่องนี้ก็เป็นข้อคิดว่า ตอนนี้เรายังเป็นมนุษย์อยู่ ให้รีบหมั่นสั่งสมบุญเสีย เป็นเทวดาแล้ว ก็แทบหมดโอกาสแก้ตัวใดๆ แล้วนะครับ ยิ่งถ้าไม่ใช่เทวดาล่ะก็ เก็กซิม ทีเดียว
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร
#5
โพสต์เมื่อ 18 April 2006 - 08:17 PM
QUOTE
ตอนนี้ท่านกำลังยากจนมาก เพราะเทวดาที่เกิดขึ้นใหม่ มีรัศมีกายสว่างกว่าท่านซึ่งเป็นหัวหน้าเสียอีก
มาถึงตอนนี้ ใครยังจำฮีโร่ของผม ๓ องค์ได้บ้างครับ?
#6
โพสต์เมื่อ 19 April 2006 - 02:32 PM
ฮีโร่ 3 องค์ของน้องก้องเกียรติคือใครหนอ
ช่วยเฉลยเป็นธรรมทานด้วยค่ะ
ช่วยเฉลยเป็นธรรมทานด้วยค่ะ

#7
โพสต์เมื่อ 19 April 2006 - 02:39 PM
น่าจะหมายถึงเทวบุตร 3 องค์ที่ไปบังเกิดในดาวดึงส์ มีอเนกวรรณะเทวบุตรเป็นต้น โดยทั้ง 3 องค์นี้เอาเทวรถไปเฉิดฉายอยู่บนดาวดึงส์พิภพและมีรัศมีสว่างไสวยิ่งกว่าท้าวสักกะ ทำให้ท้าวสักกะถึงกับอาย ไม่กล้าออกมาภายนอกไพชยนปราสาทน่ะครับ เป็นเหตุให้ต้องแอบลงมาใส่บาตรพระมหากัสสปะกับนางสุชาดา ทำให้มีบุญมากขึ้น จนมีรัศมีมากกว่า เทวบุตรใหม่ทั้ง 3 องค์
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=2625
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=2625
สิ่งอัศจรรย์ ปรากฏ บนผืนหล้า
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
รักษ์ร่างพอสร่างร้าย ..... รอดตน
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
คำสอนของเดชพระคุณหลวงพ่อ
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
#8
โพสต์เมื่อ 19 April 2006 - 07:29 PM
QUOTE
น่าจะหมายถึงเทวบุตร 3 องค์ที่ไปบังเกิดในดาวดึงส์ มีอเนกวรรณะเทวบุตรเป็นต้น โดยทั้ง 3 องค์นี้เอาเทวรถไปเฉิดฉายอยู่บนดาวดึงส์พิภพและมีรัศมีสว่างไสวยิ่งกว่าท้าวสักกะ ทำให้ท้าวสักกะถึงกับอาย ไม่กล้าออกมาภายนอกไพชยนปราสาทน่ะครับ เป็นเหตุให้ต้องแอบลงมาใส่บาตรพระมหากัสสปะกับนางสุชาดา ทำให้มีบุญมากขึ้น จนมีรัศมีมากกว่า เทวบุตรใหม่ทั้ง 3 องค์
ถูกต้องนะคร้าบ พี่เขาตอบถูกไปหนึ่งองค์แล้ว อีก ๒ องค์ล่ะครับ ใครจะเป็นผู้อาสามาเฉลยหนอ?
#9
โพสต์เมื่อ 20 April 2006 - 02:21 AM
สาธุค่ะ
The Strongest is The Gentlest!
ผู้ที่มีจิตใจเข้มแข็งที่สุด ย่อมเป็นผู้ที่สุภาพนุ่มนวลที่สุด
ผู้ที่มีจิตใจเข้มแข็งที่สุด ย่อมเป็นผู้ที่สุภาพนุ่มนวลที่สุด
#10
โพสต์เมื่อ 20 April 2006 - 05:39 PM
จูฬรถเทพบุตร กับ มหารถเทพบุตร ครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร
#11
โพสต์เมื่อ 14 February 2007 - 12:33 PM
กราบอนุโมทนาบุญครับ สาธุ