ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

การเดินนั้น สำคัญไฉน ?


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 7 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 25 April 2006 - 11:33 PM

การเดินนั้น สำคัญไฉน ?

สืบเนื่องจาก ความเห็นของคุณ VCO ในกระทู้


http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=3968

http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=4046



QUOTE
ขอเสริมนิดหนึ่งค่ะเรื่องวัฒนธรรมการเดินค่ะ

คือว่าตอนถวายไทยธรรมให้แก่พระภิกษุสงฆ์ 10.000 วัด นั้นเป็นช่วงน่าปลิ้มใจมากค่ะ แต่ในขณะที่กำลังสวดมนต์อยู่ก๊ได้ยินเสียงรองเท้าลาก แกรกกกกกกก แกรกกกกกกกกกก เสียสมาธิไปหน่อยนึง ลองแลตาดูเห็นเป็นน้อง ๆ เจ้าหน้าที่เขากำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขัน เราก็เข้าใจ

จึงมาเล่าสู่กันฟังค่ะ และอยากรบกวนผู้ที่เกี่ยวข้องให้สร้างวัฒนธรรมการเดินเบา เดินไม่ลากเท้า เดินให้เงียบเชียบประดุจช้างย่างกรายไปบนปุยนุ่น (ช้างเป็นสัตว์ใหญ่ที่เดินเงียบที่สุดในพงไพร) โดยเฉพาะกับท่านเจ้าหน้าที่ ที่ต้องมีกิจเดินไปมาระหว่างพิธีการค่ะ พิธีการจะได้ศักดิ์สิทธ์ยิ่งขึ้นไปอีกค่ะ

ขอบคุณค่ะ นำบุญมาฝากทุกทุกท่านด้วยเช่นกันค่ะ
VCO




เรื่องการเดิน ดูผิวเผินก็ไม่สำคัญนัก
ทั้งที่จริงแล้ว การเดินมีผลต่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างมาก

โดยเฉพาะการเดินแบบสมณะ พระผู้สงบ สำรวม สง่างาม
สามารถยกใจผู้พบเห็น สะดุดตา สะดุดใจ ให้บังเกิดความเลื่อมใส ศรัทธา
ใจอ่อนโยน ยินดีมีฉันทะจะฟังธรรม กระทั่งได้บรรลุ เข้าถึงสภาวะธรรมอันอมตะ
ซึ่งเป็นอมตะรสที่ชุ่มชื่นชุ่มเย็น ชำระดวงจิตให้ผ่องใส เข้าถึงสันติสุขอันไพบูลย์


การเดินแบบสมณะ ต้องสำรวม สงบ สง่างาม
เป็นการเดินที่มีผลมาก ต่อความศรัทธา เลื่อมใส ในพระรัตนตรัย
เป็นการเดินที่มีผลมาก ต่อการบรรลุอมตธรรม
เป็นการเดินที่มีผลมาก ต่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ยาวนานกว่าสองพันปี


ขอยกตัวอย่าง สักเล็กน้อยนะครับ

1 ) การเดินของสมณะ พระใหม่ รูปหนึ่งคือ พระอัสสชิ
หนึ่งในห้า ของภิกษุชุดแรกในบวรพุทธศาสนา
เป็นการเดินแบบสมณะพระแท้ที่บรรลุอมตรสในอมตธรรม
เป็นการเดินที่สำรวม สงบ สง่างาม
ซึ่งตอนนั้นพระอัสสชิ เป็นพระบวชใหม่ได้ไม่นานนัก เดินภิกขาจารตามอริยะประเพณีของพุทธวงศ์
เป็นเหตุให้อุปปติสสะปริพพาชก บังเกิดความเลื่อมใสในเบื้องต้น
และนำไปสู่การบรรลุอมตธรรม ในเบื้องปลาย


2 ) การเดินของสามเณรนิโครธ
เป็นการเดินที่สำรวม สงบ สง่างาม ตามธรรมชาติของบุคคลผู้บรรลุสันติสุขภายใน
เป็นเหตุให้ อโศกมหาราช บังเกิดความเลื่อมใสในครั้งแรกที่เห็น
นำไปสู่การได้ฟังธรรม สนทนาธรรม นับถือพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุด
และเป็นมหาราชองค์เอก ทรงทำนุบำรุงและเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างดียิ่ง
แม้กาลล่วงมากว่าสองพันปี พระนามของ พระเจ้าอโศกมหาราช ยังเป็นที่รู้จักและแซ่ซ้องสาธุการ


3 ) พระเดชพระคุณ พระภาวนาวิริยะคุณ ( หลวงพ่อ ทตฺตชีโว ) ได้กล่าวถึง
คุณยายอาจารย์ มหารัตน อุบาสิกา จันทร์ ขนนกยูง ว่า
คุณยายให้ความสำคัญ ของการเดินมากๆ
ถึงขั้นว่า คุณยายต้อง แนะนำ สั่งสอน อุบาสก อุบาสิกา
และนักปฏิบัติธรรม เรื่องการเดินกันเลยทีเดียวนะครับ


เพราะการเดินไม่ได้มีผลต่อ ความศรัทธาเลื่อมใส ในพระรัตนตรัยเท่านั้น

แต่การเดินที่ไม่ดี เช่น การเดินลงส้นเท้า เดินลากเท้าเสียงดัง ยังมีผลต่อการขวางการบรรลุธรรม
ของผู้ที่กำลังนั่งปฏิบัติธรรมอีกด้วย

ในเมื่อการสนับสนุนผู้อื่นให้บรรลุธรรม เป็นมหากุศล มีอานิสงส์มาก
เช่นกัน การขวางการบรรลุธรรมของผู้อื่น ไม่ว่าด้วยกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม
ถ้ามีเจตนา ก็ปาปมาก ถ้าไม่มีเจตนา ก็ย่อมเป็นมีวิบาก ทำให้ตน บรรลุธรรมยาก หรือเนิ่นช้าเช่นกัน


ระเดชพระคุณ หลวงพ่อ ทตฺตชีโว เคยกล่าวว่า
ก่อนพระเดชพระคุณ หลวงพ่อ ธมฺมชโย จะบวช คุณยายให้ท่านซ้อมเดินบนแผ่นกระดานกว้างสักคืบ
ซ้อมเดินทุกวัน วันละกว่าครึ่งชั่วโมง เป็นเวลา 2 – 3 เดือนก่อนถึงวันบวช

คิดดูนะครับว่า พระเดชพระคุณท่าน เป็นพระราชาสุขุมาลย์ชาติ เป็นสมณะมากมายชาติ
อิริยาบทที่องอาจ สำรวม สงบ สง่างาม ติดตัวมานับชาติไม่ถ้วน

ถึงกระนั้นคุณยาย ยังต้องให้ท่านฝึกการเดิน แบบสมณะ
แสดงว่า การเดิน ไม่ใช่เรื่องพอดีพอร้าย


จากสมัยบ้านกัลยาณมิตรหมายเลข 1 มาถึงยุคบ้านธรรมประสิทธิ์
ผู้มีบุญมากในยุคนั้น ย่อมทราบดีว่า
บนเรือนไม้ พื้นเป็นแผ่นกระดานไม้ มีนักปฏิบัติธรรมนั่งธรรมะกันเต็มบ้าน
การเดินเบาๆ ไม่ให้มีเสียงดังเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก
แต่ก็เป็นเรื่องราวกล่าวขานกันมากว่า คุณยายและพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ธมฺมชโย เดินได้เงียบเชียบมาก
เวลามีใครลืมตาไม่เห็นท่านในที่นั่งประจำ แสดงว่าท่านไปเข้าห้องน้ำ
นั่งต่อสักพัก ลืมตาอีกครั้งก็เห็นท่านนั่งธรรมะประจำที่เดิมแล้ว
ไม่มีใครได้ยินเสียงคนเดิน สักนิด เหมือนว่าไม่มีใครลุกเดินกันเลย


แต่ถ้าสาธุชนลุกเข้าห้องน้ำ จะได้ยินเสียงการเดินแผ่วๆบ้าง

อย่าว่าแต่การให้ความสำคัญต่อการเดินต้องระวังไม่ให้เกิดเสียงดังเลย
แม้การขยับตัวเปลี่ยนท่านั่ง ก็มีผลต่อการเข้าถึงสภาวะธรรมที่ละเอียดภายในด้วย


คุณยายและพระเดชพระคุณก็ให้ความสำคัญมากเช่นกัน
เหตุเพราะว่า

ถ้าขยับมีเสียงดังก็กระเทือนถึงผู้อื่น
แต่แม้ขยับตัวไม่เกิดเสียงดัง แต่ถ้าไม่สำรวมใจให้ดี
ความละเอียดของใจเราก็หยาบลงได้ ต้องมาปรับใจกันใหม่ ซึ่งอาจใช้เวลาสั้นหรือยาวก็แล้วแต่บุคคล


มาถึงยุคบุกเบิกสร้างศูนย์พุทธจักรปฏิบัติธรรม วัฒนธรรมการเดินแบบสมณะ
การเดินแบบนักปฏิบัติธรรมของคุณยาย สาธุชนยังสืบทอด ปฏิบัติกันเคร่งครัดดี

แต่ยุคนี้ คงมีแต่สมาชิก อาศรมบรรพชิต อาศรมอุบาสก อาศรมอุบาสิกา
ผู้อบรมในโครงการธรรมทายาทชาย/หญิงและ สมาธิแก้ว
รวมถึงผู้ไปปฏิบัติธรรมกับทีมดอกไม้บาน ที่พนาวัฒน์ ,ไร่อรุณวิทย์ , Mission Hill Resort และพังงา
อ้อ ตามศูนย์ปฏิบัติธรรมทั่วไทย ทั่วเทศ ทั่วโลก และบ้านกัลยาณมิตรด้วยกระมังครับที่ยังปฏิบัติกันดีอยู่
( ถ้าพื้นห้องปูพรม ก็ลดเสียงดังการการเดิน ได้ดีมาก )


ส่วนการเดินแบบนักปฏิบัติธรรม คงคาดหวังในสาธุชนทั่วไป และผู้มาร่วมงานเฉพาะงานบุญใหญ่
แต่หากมีการรณรงค์ ร่วมอนุรักษ์วัฒนธรรมคุณยาย
ชี้อานิสงส์ ชี้คุณและโทษ ประโยชน์ของการเดินแบบนักปฏิบัติธรรม
ให้ทุกศูนย์ปฏิบัติธรรม-บ้านกัลยาณมิตรทั่วไทย ทั่วเทศ ทั่วโลก

เชื่อว่าในงานบุญใหญ่ต่อๆไปและในศูนย์ปฏิบัติธรรมต่างๆทั่วโลก
เมื่อทุกคนเดิน ลุก นั่ง ด้วยความสำรวมกาย และสำรวมใจ จรดจ่อที่ศูนย์กลางกาย
จะมีบรรยากาศการปฏิบัติธรรม เป็นสมาคมที่น่าเลื่อมใส ทั้งมนุษย์และเทวา
และเอื้ออำนวยให้ทุกคนเกิดการบรรลุธรรม เข้าถึงสันติสุขอันไพบูลย์ภายใน ได้ในที่สุดครับ


ป.ล. ผมเองเกิดไม่ทันได้เห็นการเดินของ พระอัสสชิ และ สามเณรนิโครธ ในอดีต
แต่ผมก็ยังได้ทันเห็น การเดินแบบสมณะ ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อทั้งสองรูป
คือ
- การเดินของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ธมฺมชโย นั้น ยังประทับอยู่ในใจผมเสมอ
ท่วงท่า จังหวะการเดินของท่าน ดูผ่อนคลาย สง่างาม แต่ก็ดูองอาจ
รู้สึกได้ว่า เหมือนได้พบเห็นผู้ยิ่งใหญ่ ที่ไม่มีความกลัวสิ่งใด
รู้สึกอยากเข้าใกล้ แต่ก็รู้สึกเกรงขามอยู่ในที

แม้ยามที่ท่าน สุขภาพขาบวม เบ่ง คล้ำ จังหวะการเดินไม่ราบรื่น
ก็ยังดูองอาจ แต่ทำให้ผมเกิดความสะท้านใจอย่างไรบอกไม่ถูก


- ส่วนการเดินของพระเดชพระคุณ หลวงพ่อ ทตฺตชีโว นั้น ค่อนข้างไปทาง องอาจ
และเป็นการเดินที่ให้ความรู้สึกว่า ไม่มีอะไรขวางได้

ที่สำคัญคือ รอยยิ้มพิมพ์ใจและแววตา มีแววใจดี ที่ท่าน มีแบ่งปันให้ทุกคนเสมอ
ทำให้ผมอยากเข้าใกล้ท่าน
แต่พอได้ยินเสียงทรงพลัง น่าเกรงขามของท่าน ผมรู้สึกว่า อยู่ห่างไกลท่านหน่อยก็ดี 5555



แต่น่าแปลกนะ เวลาพระเดชพระคุณทั้งสองรูป เข้าต้อนรับ ปฏิสันถารพระมหาเถระ
ดูกริริยาที่องอาจ สง่างามของท่านที่เราคุ้นเคย
กลับอ่อนน้อม ดูอ่อนโยนเหมือนเด็กน้อยที่เข้าใกล้ ผู้ใหญ่ที่รัก เคารพและคิดถึงกันมาก
เป็นภาพที่เห็นแล้ว น้ำตาคลอ เพราะปลื้ม อบอุ่น น่าตื้นตันใจ


ป.ล. 2 ท่านใดมีคำชี้แนะ หรือ ทัศนะเกี่ยวกับการเดิน ในสถานที่ปฏิบัติธรรม
หรือฝากบอกถึงผู้เกี่ยวข้อง ดูแลรักษาบรรยากาศ ในสภาธรรมกายสากล หรือ
ในสถานที่ปฏิบัติธรรม อย่างไรบ้างครับ


ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ สาธุ ๆ ๆ ๆ ๆ

#2 xlmen

xlmen
  • Members
  • 978 โพสต์

โพสต์เมื่อ 26 April 2006 - 12:32 AM

QUOTE
ท่านใดมีคำชี้แนะ หรือ ทัศนะเกี่ยวกับการเดิน ในสถานที่ปฏิบัติธรรม
หรือฝากบอกถึงผู้เกี่ยวข้อง ดูแลรักษาบรรยากาศ ในสภาธรรมกายสากล หรือ
ในสถานที่ปฏิบัติธรรม อย่างไรบ้างครับ

คนเดินเร็ว เป็นคนใจร้อนครับ
คนเดินช้า เป็นคนสบายๆ ตามใจตัวเองเป็นหลัก
คนเดินกึ่งเร็ว กึ่งช้า เป็นคนวิตกจริต คิดมากขี้ตกใจ ตื่นเต้นง่าย
คนเดินฝีเท้าหนัก เป็นคนจริงจัง เจ้าอารมณ์ เจ้าโทสะ
คนเดินฝีเท้าเบา เป็นคนขี้เกรงใจ อลุ่มอล่วย ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง
คนเดินฝีเท้าหนักสม่ำเสมอไม่หนักหรือเบาเกินไป เป็นคนมีอุดมการณ์อันสูงส่งในชีวิต
คนเดินใช้ส้นเท้าลงก่อน เป็นคนไม่เกรงใจใคร
คนเดินปลายเท้าลงก่อน เป็นคนขี้เกรงใจ ใจเย็น ชอบทำตัวลึกลับ ชอบเรียกร้องความสนใจ
คนเดินกลางเท้าลงพอดี เป็นคนจริงใจเสมอต้นเสมอปลาย
คนเดินสันเท้าลงก่อน เป็นคนฉลาดแกมโกง มีเล่ห์เหลี่ยม
คนเดินสบัดปลายเท้า เป็นคนเชื่อมั่นในตนเองสูง มากโปรเจค เจ้าปัญญา ชอบความหรูหรา เรียกว่า เดินแบบจองหงวน
ฯลฯ
หยุดเหมือนรถเบรค นิ่งเหมือนน้ำในโอ่งที่ปราศจากลม แน่นเหมือนหลักที่ปักลงในเลน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน

#3 เป็นหนึ่ง

เป็นหนึ่ง
  • Members
  • 354 โพสต์

โพสต์เมื่อ 26 April 2006 - 02:33 AM

อนุโมทนาบุญกับพี่แดงครับ...สาธุ เอาเรื่องดีๆ มาฝากกันอีกแล้ว

QUOTE(dangdee)
แต่พอได้ยินเสียงทรงพลัง น่าเกรงขามของท่าน ผมรู้สึกว่า อยู่ห่างไกลท่านหน่อยก็ดี 5555


555+ อันนี้ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง

อ้อ...มีเรื่องเกี่ยวกับการเดินมาฝากเหมือนกันครับ สมัยที่อาผ่อง(สว.ผ่อง เล่งอี้) เข้าวัดใหม่ๆ อาผ่องพาพวกเจ้าหน้าที่ป่าไม้มาอบรม ซึ่งเดินลากเท้าเสียงดังแกรกๆ ปรากฎว่าหลวงพ่อทัตตะ ท่านมาพบเข้า ท่านจึงดุพวกเจ้าหน้าที่ป่าไม้ว่า เดินอย่างนี้เดินเหมือนพวกสัตว์เลื้อยคลาน ซึ่งตอนนั้นอาผ่องไม่ได้เดินด้วย แต่อยู่ในบริเวณนั้น ได้ยินเข้า นึกสะดุ้งในใจว่า ไอ้เราก็ยังเดินแบบนั้นอยู่เหมือนกัน ตั้งแต่นั้นมา อาผ่องเลิกนิสัยเดินลากเท้าไปเลยครับ
I just gotta get out of this prison cell.
Someday I'm gonna be free.

#4 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 26 April 2006 - 04:30 PM

คุณ Xlmen นี่ช่างสองแสนรู้จริง ไปทุกเรื่องเลยนะครับ 5555


นอกจากการเดินจะบ่งบอกนิสัยของผู้เดิน ตามที่คุณ Xlmen ให้ความรู้แล้ว
การเดิน ยังบ่งบอกถึงสุขภาพของผู้เดินได้ด้วยนะครับ เช่นว่า
เส้นเอ็นหลังหรือช่วงแนวหลังขา มีอาการยึด ตึง ลักษณะท่าทางการเดินก็บอกได้ด้วย


ขอยกตัวอย่างความช่างสังเกต ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ทตฺตชีโว สักเรื่อง คือ
คราวหนึ่งท่านเห็นอุบาสิกา เจ้าหน้าที่สุภาพสตรีในวัด มีลักษณะการเดิน ขาไม่สมดุล

จึงเรียกมาถาม ช่วยหาสาเหตุที่ทำให้ มีลักษณะการเดิน ขาไม่สมดุล
ท่านก็ถามเรื่องความเป็นอยู่ การลุก นั่ง การนอน การทำงาน
สิ่งแวดล้อมในที่อยู่อาศัยและที่ทำงาน ก็ดูปกติดี
ท่านซักถามไป จนทราบสาเหตุคือ

อุบาสิกาท่านนี้ มีจักรยาน ที่บันไดถีบของจักรยานหลวม แล้วไม่เอาไปซ่อมสักที
ฝืนถีบจักรยาน แบบต้องขย๊อกขแย๊ก นานเป็นเดือน
จึงก็ส่งผลมาที่เส้นเอ็นในร่างกาย สุดท้ายต้องเดินเป๋ไปนิดนึง


จากนั้นท่านก็เสนอแนวทางแก้ไข โดยรวม คือ
1 ) เอาจักรยานไปซ่อมก่อน
2 ) ไปหาหมอจับเส้น นวดคลายเส้นที่ผิดปกติ
3 ) แนะนำท่ากายบริหาร ออกกำลังกายยืดเส้น
แล้วก็คงสั่งสอน ให้โอวาทเรื่อง การฝึกเป็นคนช่างสังเกต
ในเรื่องสุขภาพ คน สัตว์ สิ่งของ เครื่องมือ อุปกรณ์ ที่ต้องใช้งาน
เรื่อยไปถึงสภาพภูมิอากาศ ฤดูกาล
ทั้งนี้ก็เพื่อให้ลูกๆของท่าน มีสุขภาพกายที่แข็งแรง
มีสติปัญญาประกอบการสร้างบารมีได้บุญกุศลเต็มที่
งานพระศาสนาก็เจริญ เป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยส่วนรวมในที่สุด.


พระเดชพระคุณท่านเป็นพหูสูต ทรงศีล ทรงธรรม เจนจัดเรื่องการค้นคว้าธรรมะ
ท่านจึงมีขุมทรัพย์แห่งความรู้และปัญญาทั้งทางโลกและทางธรรม
ที่สำคัญท่านไม่แล้งน้ำใจ ในการถ่ายทอดความรู้ดีๆที่มีให้ลูกๆเสมอ


ดังนี้ท่านจึงเป็นที่รัก เคารพ นับถือเกรงอกเกรงใจนัก ของลูกพระ ลูกสามเณร
ลูกอุบาสก ลูกอุบาสิกา และสาธุชน.


คิดถึงท่านแล้วสิครับ ต้องไปหาเสียงท่านมาฟังสักหน่อย ไปละครับ.


ไฟล์แนบ

  • แนบไฟล์  m22.jpg   12.38K   16 ดาวน์โหลด


#5 มองอย่างแมว

มองอย่างแมว
  • Members
  • 722 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:NYC

โพสต์เมื่อ 27 April 2006 - 03:10 AM

เดินทิ้งน้ำหนักลงเท้าไหนมากกว่า ทิ้งลงส้นเท้าหรือปลายเท้า
ตอนแรกก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองเดินลงน้ำหนักด้านไหน ส่วนไหน

พอมาดูพื้นรองเท้าแตะคู่ใจ (ใส่มา 5 ปี) เห็นชัดเจนเลย
พื้นรองเท้าสึกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
"ฉุดมันเอาไว้ หยุดมันเอาไว้ ไม่ให้มันรวนเร ต้องหยุดนิ่งสุดใจ หยุดมันเอาไว้ ฉุดมันเอาไว้ ไม่ให้มันซวนเซ ต้องฉุดให้ใจหยุด"
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)

#6 VCO

VCO
  • Members
  • 322 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 April 2006 - 02:26 PM

โอ้เพื่อน ๆ ชาว DMC อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่เล้ยค่ะ แค่อยากให้พิธีนั้น perfect เท่านั้นเอง ไม่ได้ตั้งใจจ้องจำผิดใครค่ะ ขอโทษค่ะหากทำให้ใครเสียใจ sad.gif

#7 BOG-BOG

BOG-BOG
  • Members
  • 293 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 April 2006 - 07:28 PM

เดินส้นรองเท้าสึกเหมือนกันอ่ะ....แฮ่ม ชอบเดินป่า ผจญภัยดีจ๊ะ





คนดีชอบแก้ไข คนจัญไรชอบแก้ตัว คนชั่วชอบทำลาย คนมักง่ายชอบทิ้ง คนจริงชอบทำ คนระยำชอบติ !!!!

#8 ปัจเจกชน บนทางสายกลาง

ปัจเจกชน บนทางสายกลาง
  • Members
  • 4109 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:จ. สงขลา

โพสต์เมื่อ 23 February 2007 - 04:31 PM

เป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ถ้าอยู่คนเดียวไม่อยู่รวมกับหมู่คณะ คงจะไม่หนักหนา สักเท่าไหร่ แต่ถ้าฝึกให้เป็นนิสัยได้ก็จะดีกว่าครับ