
ความอาภัพ 18 ประการมีอะไรบ้างครับ
#1
โพสต์เมื่อ 25 May 2006 - 03:47 PM
#2
โพสต์เมื่อ 25 May 2006 - 04:11 PM
" จริงอยู่ นับตั้งแต่ได้ก่อสร้างพระกฤษฎาภินิหารมา (บุญอันยิ่งที่ทำไว้)
จนกระทั่งได้รับสัทธยาเทศคำพยากรณ์ จากสำนักแห่งองค์สมเด็จพระชินวรสัมมาสัมพุทธเจ้าว่าเป็น นิยตโพธิสัตว์
คือพระโพธิสัตว์ผู้เที่ยงแท้ ที่จักได้สำเร็จแก่พระปรมาภิเษกสัมโพธิญาณในอนาคตกาลแล้ว ในขณะที่ก่อสร้างอบรมบ่มพระพุทธบารมีอยู่อย่างมโหฬาร ต้องสังสรณาการท่องเที่ยวเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในสายธารแห่งห้วงมหรรณพภพสงสาร นับด้วยแสนโกฏิชาติเป็นประมาณหรือมากยิ่งกว่านั้น
พระบรมโพธิสัตว์ผู้เที่ยงที่จะได้บรรลุพระโพธิญาณทั้งหลาย ย่อมได้รับอานิสงส์แห่งพระพุทธบารมีที่ตนบำเพ็ญเป็นหลักเกณฑ์แน่นอน ๑๘ ประการ
๑. ไม่เป็นคนมีจักษุบอดมาแต่กำเนิด
๒. ไม่เป็นคนหูหนวกมาแต่กำเนิด
๓. ไม่เป็นคนบ้า
๔. ไม่เป็นคนง่อยเปลี้ย
๕. ไม่เป็นคนใบ้
๖. ไม่เกิดในประเทศป่าเถื่อน
๗. ไม่เกิดในท้องแห่งนางทาสี
๘. ไม่เป็นคนมีความเห็นผิดเป็นนิยตมิจฉาทิฐิ
๙. ไม่เป็นสตรีเพศ
๑๐. ไม่ประกอบกรรมอันเป็นอนันตริยกรรม
๑๑. ไม่เป็นคนมีโรคเรื้อน
๑๒. เมื่อไปเกิดในกำเนิดแห่งสัตว์เดียรฉาน ย่อมเป็นสัตว์ที่จัดอยู่ในประเภทมีกายไม่เล็กกว่านกกระจาบ และมีกายไม่ใหญ่กว่าช้าง
๑๓. ไม่ไปเกิดในกำเนิดแห่งขุปปิปาสิกเปรต นิชฌามตัณหิกเปรต แลกาลกัญชิกาสุรกาย
๑๔. ไม่ไปเกิดในอเวจีมหานรก และโลกันตนรก
๑๕. เมื่อไปเกิดเป็นเทวดาในกามาวจรสวรรค์ คือสวรรคเทวโลก ๖ ชั้น ก็ไม่เกิดเป็นเทวดาซึ่งนับเนื่องเข้าในเทวดาจำพวกหมู่มาร
๑๖. เมื่อเกิดเป็นองค์พระพรหม ณ เบื้องบรมรูปาพจรพรหมโลก ก็ไม่ไปเกิดในปัญจสุทธาวาสพรหมโลก ทั้งนี้ก็เพราะว่าพรหมโลกชั้นปัญจสุทธาวาสนี้ เป็นภูมิที่อยู่แห่งพรหมอนาคามีอริยบุคคลโดยเฉพาะ
๑๗. ไม่ไปเกิดใน อรูปพรหมโลก เลยเป็นอันขาด
๑๘. ไม่ไปเกิดในจักรวาลอื่นเลยเป็นอันขาด "
อย่าไปดูถูก....ว่าเธอสร้างไม่ได้ หรือเธอไม่ได้สร้าง
ไม่มีใครทราบ....เพราะแผนภูมินี้หลวงพ่อเป็นคนวาง
เราไม่มีสิทธิ์ทราบ.....ว่าเราจะเดินไปตรงนั้นตรงนี้แล้วเราจะเจอใคร
อย่างเดียวที่ทำ คือทำตามคำสั่ง และทำด้วยความเต็มใจเท่านั้นเอง
ร่างกายมีไว้สร้างบารมี.....ไม่ได้มีไว้โชว์ชาวบ้าน
เนื้อหนังมีไว้ให้แข็งแรง.....เพื่อเป็นทางผ่านของกระแสบุญ
และจะได้ฉายแสงออกมาได้.....ไม่ได้เอามาเปิดโชว์คนอื่นเขา
แต่งตัวให้งามแต่งยาก......แต่งตัวให้สวยแต่งง่าย
พระจันทร์ส่องแสงเองไม่ได้
แล้วจะไปนึกทำไหม.....จะหยิ่งไปทำไมกัน
แสงที่มา คือแสงของตะวัน
สิ่งที่เราทำได้ คือสะท้อนแสงให้ดีที่สุด
.........ธรรมะจากป้าใส.........
"An ounce of action is worth a ton of theory"
#3
โพสต์เมื่อ 25 May 2006 - 05:02 PM

=> http://forums.dmc.tv...?showtopic=2244
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
[/color]
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."
พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒
"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"
"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"
#4
โพสต์เมื่อ 25 May 2006 - 05:37 PM
ยังมีข้อสงสัยอยู่ค่ะคือ อันนี้ค่ะ ใครคือนางทาสี
#5
โพสต์เมื่อ 25 May 2006 - 05:46 PM
นางทาสีหมายถึงทาสครับ
#6
โพสต์เมื่อ 25 May 2006 - 05:51 PM
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
[/color]
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."
พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒
"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"
"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"
#7
โพสต์เมื่อ 25 May 2006 - 05:53 PM

DMC The only one
ประกอบเหตุ สังเกตผล ทนเอาเถิด ประเสริฐนัก
ไม่หยุดไม่ถึงพระ ตัวหยุดนี้แหละเป็นตัวสำเร็จ
ผลไม้ดกนกชุม น้ำเย็นปลาชอบอาศัย
คติธรรม พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)
#8
โพสต์เมื่อ 25 May 2006 - 06:24 PM
เฮ้อ ชาตินี้อาภัพจริงๆ

น้าจี้
#9
โพสต์เมื่อ 25 May 2006 - 07:00 PM
ร้ายแรงแค่ไหนคะ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#10
โพสต์เมื่อ 25 May 2006 - 08:10 PM
๑. ไม่เป็นคนมีจักษุบอดมาแต่กำเนิด
- ร่างกายไม่เอื้อต่อการสร้างบารมี
๒. ไม่เป็นคนหูหนวกมาแต่กำเนิด
- ร่างกายไม่เอื้อต่อการสร้างบารมี
๓. ไม่เป็นคนบ้า
- ร่างกายไม่เอื้อต่อการสร้างบารมี
๔. ไม่เป็นคนง่อยเปลี้ย
- ร่างกายไม่เอื้อต่อการสร้างบารมี
๕. ไม่เป็นคนใบ้
- ร่างกายไม่เอื้อต่อการสร้างบารมี
๖. ไม่เกิดในประเทศป่าเถื่อน
- ทำให้สร้างบารมีไม่สะดวก
๗. ไม่เกิดในท้องแห่งนางทาสี
- ขาดอิสระภาพในการสร้างความดีเพราะต้องเป็นลูกทาส
๘. ไม่เป็นคนมีความเห็นผิดเป็นนิยตมิจฉาทิฐิ
- ทำให้เห็นผิดเป็นชอบ ไม่สร้างบารมี
๙. ไม่เป็นสตรีเพศ
- จิตใจ ไม่เด็ดเดี่ยว สร้างบารมีอย่างเข้มข้นได้ลำบาก
๑๐. ไม่ประกอบกรรมอันเป็นอนันตริยกรรม
- ทำให้ต้องไปอเวจี เสียเวลาสร้างบารมี
๑๑. ไม่เป็นคนมีโรคเรื้อน
- ร่างกายไม่เอื้อต่อการสร้างบารมี
๑๒. เมื่อไปเกิดในกำเนิดแห่งสัตว์เดียรฉาน ย่อมเป็นสัตว์ที่จัดอยู่ในประเภทมีกายไม่เล็กกว่านกกระจาบ และมีกายไม่ใหญ่กว่าช้าง
- ร่างกายใหญ่กว่าช้าง วันๆ ต้องเอาแต่หากินเพราะตัวใหญ่ต้องการอาหารปริมาณมาก ไม่มีเวลาสร้างบารมี แต่ถ้าตัวเล็กร่างกายก็ไม่เหมาะแก่การสร้างบารมี
๑๓. ไม่ไปเกิดในกำเนิดแห่งขุปปิปาสิกเปรต นิชฌามตัณหิกเปรต แลกาลกัญชิกาสุรกาย
- ไม่ทราบครับ
๑๔. ไม่ไปเกิดในอเวจีมหานรก และโลกันตนรก
- เสียเวลาในการสร้างบารมี เพราะอายุในนรกขุมนี้นานมาก
๑๕. เมื่อไปเกิดเป็นเทวดาในกามาวจรสวรรค์ คือสวรรคเทวโลก ๖ ชั้น ก็ไม่เกิดเป็นเทวดาซึ่งนับเนื่องเข้าในเทวดาจำพวกหมู่มาร
- ทำให้เห็นผิดเป็นชอบ ไม่สร้างบารมี
๑๖. เมื่อเกิดเป็นองค์พระพรหม ณ เบื้องบรมรูปาพจรพรหมโลก ก็ไม่ไปเกิดในปัญจสุทธาวาสพรหมโลก ทั้งนี้ก็เพราะว่าพรหมโลกชั้นปัญจสุทธาวาสนี้ เป็นภูมิที่อยู่แห่งพรหมอนาคามีอริยบุคคลโดยเฉพาะ
- ถ้าเป็นพรหมปัญจสุธาวาส ก็เป็นอริยบุคคลในระดับพระสาวกแทน ไม่ใช่พุทธภูมิ
๑๗. ไม่ไปเกิดใน อรูปพรหมโลก เลยเป็นอันขาด
- ทำให้เสียเวลาสร้างบารมี เพราะอรูปพรหมมีอายุขัยยืนยาวมาก
๑๘. ไม่ไปเกิดในจักรวาลอื่นเลยเป็นอันขาด
- เพราะได้รับพุทธพยากรณ์ว่าจะต้องเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในจักรวาลที่ได้รับพุทธฎีกา
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
#11
โพสต์เมื่อ 25 May 2006 - 10:23 PM
ร้ายแรงแค่ไหนคะ
๑. ไม่เป็นคนมีจักษุบอดมาแต่กำเนิด
อยากต่อการได้เห็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและอริยสงผู้เป็นเนื้อนาบุญ
๒. ไม่เป็นคนหูหนวกมาแต่กำเนิด
อยากต่อการฟังธรรม
๓. ไม่เป็นคนบ้า
อยากต่อการเข้าใจธรรม
๔. ไม่เป็นคนง่อยเปลี้ย
อยากในการส้รางบารมี
๕. ไม่เป็นคนใบ้
อยากต่อการแสดงธรรมให้ผู้อื่นบรรลุธรรม อยากต่อการถามข้อสงสัยในการปฏิบัติธรรม
๖. ไม่เกิดในประเทศป่าเถื่อน
อยากต่อการพบผู้มีศีลธรรม
๗. ไม่เกิดในท้องแห่งนางทาสี
ต้องเป็นทาสให้ผู้อื่นใช้งาน ไม่มีเวลาศ฿กษาธรรม
๘. ไม่เป็นคนมีความเห็นผิดเป็นนิยตมิจฉาทิฐิ
บรรลุไม่ได้
๙. ไม่เป็นสตรีเพศ
บางสิ่งบางอย่างที่บุรุษทำได้หรือมีสิทธิ์ แต่สตรีเพศทำไม่ได้หรือไม่มีสิทธิ์
๑๐. ไม่ประกอบกรรมอันเป็นอนันตริยกรรม
นานเกิน จนเสียเวลาการสร้างบารมี
๑๑. ไม่เป็นคนมีโรคเรื้อน
ไม่เอื้อต่อการสร้างบารมี
๑๒. เมื่อไปเกิดในกำเนิดแห่งสัตว์เดียรฉาน ย่อมเป็นสัตว์ที่จัดอยู่ในประเภทมีกายไม่เล็กกว่านกกระจาบ และมีกายไม่ใหญ่กว่าช้าง
กายเล็กกว่านกกระจาบเป็นพวกกรรมเยอะ อีกนานถึงจะเกิดเป็นมนุษย์และบรรลุธรรมได้
๑๓. ไม่ไปเกิดในกำเนิดแห่งขุปปิปาสิกเปรต นิชฌามตัณหิกเปรต แลกาลกัญชิกาสุรกาย
นี้ก็นานไป ไม่มีเวลาสร้างบารมี
๑๔. ไม่ไปเกิดในอเวจีมหานรก และโลกันตนรก
นี้ก็เช่นกัน
๑๕. เมื่อไปเกิดเป็นเทวดาในกามาวจรสวรรค์ คือสวรรคเทวโลก ๖ ชั้น ก็ไม่เกิดเป็นเทวดาซึ่งนับเนื่องเข้าในเทวดาจำพวกหมู่มาร
มารเป็นพวกมิจฉาทิฐิ ไม่ดี อยากต่อการยอมรับและเข้าใจ ธรรมะของพระศาสดา
๑๖. เมื่อเกิดเป็นองค์พระพรหม ณ เบื้องบรมรูปาพจรพรหมโลก ก็ไม่ไปเกิดในปัญจสุทธาวาสพรหมโลก ทั้งนี้ก็เพราะว่าพรหมโลกชั้นปัญจสุทธาวาสนี้ เป็นภูมิที่อยู่แห่งพรหมอนาคามีอริยบุคคลโดยเฉพาะ
ลงมาเกิดไม่ได้ บรรลุชั้นนั้นเรย พระโพธิสัตว์ทุกองค์ไม่เกิด
๑๗. ไม่ไปเกิดใน อรูปพรหมโลก เลยเป็นอันขาด
นานไป สร้างบารมีไม่ทัน
๑๘. ไม่ไปเกิดในจักรวาลอื่นเลยเป็นอันขาด "
อธิษฐานที่จะตรัสรู้จักรวาลนี้ ก็เรยสร้างบารมีที่นี้ ไปสร้างที่อื่นก็คนละสายกัน
----------
พอ. . .แล้วกับความรู้สึกที่ว่าอยากมีอยากเป็น
One word will suffice.
#12
โพสต์เมื่อ 26 May 2006 - 01:18 AM
พ่อ...คือเมฆขาวบนผืนฟ้าใส
พ่อ...คือริ้วคลื่นโถมซบทราย
พ่อ...คือร่มไม้บนทางฝัน
พ่อ...คือสายลมเย็นในวันร้อน
พ่อ...คือบทกลอนปลุกปลอบขวัญ
พ่อ...คือความงดงามของคืนวัน
พ่อ...คือความภาคภูมิใจของฉันทั้งชีวิต
Add มาสนทนาธรรมกันได้นะคร้าบ :--> [email protected]
#13
โพสต์เมื่อ 26 May 2006 - 08:10 AM
#14
โพสต์เมื่อ 26 May 2006 - 09:44 AM
- ทำให้สร้างบารมีไม่สะดวก
...ขออย่าให้ประเทศไทยเราหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของประเทศ เข้าไปอยู่ในสภาวะเช่นนั้นเล๊ย...สาธุ ๆ ๆ
#15
โพสต์เมื่อ 27 May 2006 - 06:48 AM
มีแก่พระโพธิสัตว์ นิตยกะเท่านั้น
#16
โพสต์เมื่อ 27 May 2006 - 09:30 PM
มีแก่พระโพธิสัตว์ นิตยกะเท่านั้น
???
นิยตโพธิสัตว์คือพระโพธิ์สัตว์ที่ได้รับการพยากรณ์แล้วนะคะ
ส่วนอนิยตโพธิสัตว์คือพระโพธิสัตว์ที่ยังไม่ได้รับการพญากรณ์ค่ะ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#17
โพสต์เมื่อ 28 May 2006 - 04:12 AM
ถือว่ายังคงเสี่ยงทึ่จะเกิดมาเป็นผู้หญิงได้ค่ะ แม้นมีกรรมกาเมอยู่น้อยก็ตาม
(แม้นไม่ได้สร้างกรรมกาเม บวชตลอดชีวิตมาหลายชาติ ก็ยังมีเชื่อกรรมคอยส่งผลอยู่
แต่ถ้าอธิษฐานจิตอย่างแน่นเหนียว ก็มีโอกาสไม่ถูกพลัดไปเป็นผู้หญิงได้ในชาตินั้นๆ
ยังไงเมื่อมาเกิดใหม่อีก ก็มีสิทธิโดนปรับคดีเก่าตั้งแต่หลายอสงไขย ให้มาเกิดเป็นหญิงได้อีก)
แต่ถ้าบ่มบารมีมาเต็มที่ จนเรียกว่าล้น 30 ทัศ แม้นไม่ไปขอพุทธพยากรณ์
ยังคงเป็นอนิยตโพธิสัตว์อยู่ก็ตาม โอกาสที่จะเกิดเป็นหญิงก็แทบไม่มีเลยค่ะ
เพราะว่าการบ่มบารมี 30 ทัศนั้น นักสร้างบารมีต้องมีจิตใจเด็ดเดี่ยวเข้มแข็งหนักแน่นมาก
พึ่งตนเอง มีความซื่อตรงสูง คุณสมบัติทางจิตเหล่านี้แหละที่ไปกันท่า ป้องกันไว้ให้
เวลาที่จะเกิดแม้นมันจะเอากรรมเก่าอะไรมาไส่ความ ก็มีโอกาสได้เกิดเป็นชายทุกชาติ
ผู้ที่มีจิตใจเข้มแข็งที่สุด ย่อมเป็นผู้ที่สุภาพนุ่มนวลที่สุด
#18
โพสต์เมื่อ 29 May 2006 - 04:04 PM
แสดงว่าถึงแม้จะเป็นสัตว์เดรัจฉานที่ไม่เล็กกว่านกกระจาบและไม่ใหญ่กว่าช้าง ก็ยังเป็นผู้ไม่อาภัพเหรอครับ ตรงนี้ไม่ค่อยเคลียร์ แสดงว่าดีกว่าเกิดเป็นผู้หญิงหรือเปล่าครับ
#19
โพสต์เมื่อ 07 June 2006 - 08:58 PM
#20
โพสต์เมื่อ 06 March 2007 - 01:42 PM
#21
โพสต์เมื่อ 11 March 2008 - 11:48 AM