
คนที่เคยฆ่าคนตายแต่กลับใจจะมีสิทธ์เข้าถึงองค์พระได้หรือไม่
#1
โพสต์เมื่อ 23 July 2006 - 06:49 PM
#2
โพสต์เมื่อ 23 July 2006 - 06:55 PM
นั่นฆ่าคนเป็นร้อยๆเลย (แต่ยังไม่ได้ทำปิตุฆาต มาตุฆาต) ยังสามารถบรรลุเป็นพระอรหันต์ได้
อดึตที่ผิดพลาดถ้าลืมให้หมด และไม่ได้ทำเพิ่มขึ้น
เป้าหมายใดๆ ถ้าตั้งใจแล้วก็ทำได้แน่นอนครับ
แก้ไข - เขียนชื่อผิด ต้องให้น้องขุนศึกฯมาเตือน

- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)
#3
โพสต์เมื่อ 23 July 2006 - 06:57 PM

ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
[/color]
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."
พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒
"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"
"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"
#4
โพสต์เมื่อ 23 July 2006 - 07:34 PM
2. บาปใหม่ทุกชนิด ก็งดทำด้วย ไม่ทำเพิ่มอีกเด็ดขาด
3. บุญทุกบุญทำให้เข้มข้นทุกที่ทุกเวลา
4. หมั่นนึกถึงบุญที่ทำอยู่เสมอ
5. ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย
#5
โพสต์เมื่อ 23 July 2006 - 07:52 PM
ทำให้ยิ่งยวด
หมั่นทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนาให้ยิ่งยวด จนเข้าถึงธรรมกายครับ
#6
โพสต์เมื่อ 23 July 2006 - 11:35 PM
พระที่บวชอยู่ในวัดนี้ หลายๆ รูปที่เคยเป็นทหารมาก่อนก็มี เคยออกรบก็มี อยู่ประจำหน่วยปืนใหญ่ก็มี เชื่อได้ว่าเคย "ฆ่า" มากันแล้วทั้งนั้น
#7
โพสต์เมื่อ 24 July 2006 - 11:45 AM
หรือบุคคลอย่าง เพชรฆาตเคราแดง
เมื่อละกรรมชั่วแล้ว
ทำใจให้สงบได้ ทำใจหยุดนิ่งได้แล้ว
ก็มีสิทธิ
.................................................
ดำเนินชีวิตในสังสารวัฏ พึงไม่ประมาทในกาลทุกเมื่อ
#8
โพสต์เมื่อ 24 July 2006 - 04:19 PM
#9
โพสต์เมื่อ 24 July 2006 - 05:01 PM
นายตัมพทาฐิกะนั้น ( เพชฆาตเคราแดง )ฆ่าโจร (คราวละ) ๕๐๐ ๆ ซึ่งเขานำมาแต่ทิศปัศจิมบ้าง ทิศอุดรบ้าง. เขาฆ่าโจร (สิ้น) ๒ พันคน ซึ่งนำมาแต่ทิศทั้ง ๔ ด้วยอุบายอย่างนั้น จำเดิมแต่นั้น เมื่อฆ่ามนุษย์ที่เขานำมา ๆคือ " คนหนึ่ง สองคน" ทุกวัน ๆ ได้กระทำโจรฆาตกรรมสิ้น ๕๕ ปี.
ในเวลาเป็นคนแก่ เขาไม่อาจจะตัดศีรษะด้วยการฟันทีเดียวได้, ต้องฟัน๒-๓ ที ทำให้มนุษย์ทั้งหลายลำบาก. พวกชาวเมืองคิดกันว่า " คนฆ่าโจร
แม้อื่นจักเกิดขึ้น, ผู้นี้ทำมนุษย์ทั้งหลายให้ลำบากเหลือเกิน, จะต้องการอะไรด้วยผู้นี้" จึงถอนตำแหน่งนั้นของเขาเสีย.
( ต่อมาได้เจอพระสารีบุตรเถระ และได้ถวายทาน พระเถระก็บอกว่าให้ท่านทำจิตให้ผ่องใสเสียก่อน ตอนแรกทำไม่ได้ต่อมา พระเถระให้กุศโลบายแก่นายตัมพทาฐิกะนั้น ทำให้ตรองตามธรรมนั้นได้)
อุบาสกเป็นคนธาตุทึบ ถูกพระเถระกล่าวอย่างนั้น มีความสำคัญว่า" อกุศลไม่มีแก่เรา" จึงกล่าวว่า " ท่านผู้เจริญ ถ้ากระนั้น ขอท่าน
จงกล่าวธรรมเถิด. " อุบาสกนั้น เมื่อพระเถระทำอนุโมทนาอยู่, มีจิตมีอารมณ์เป็นหนึ่ง ฟังธรรมอยู่ ยังขันติเป็นไปโดยอนุโลม (แก่อริยสัจ)
ภายในแห่งโสดาปัตติมรรค ให้บังเกิดแล้ว.
ภิกษุทั้งหลายสนทนากันในโรงธรรมว่า " บุรุษฆ่าโจร กระทำกรรมหยาบช้าสิ้น ๕๕ ปี พ้นจากกรรมนั้นในวันนี้แล ถวายภิกษาแก่ พระเถระก็ในวันนี้เหมือนกัน กระทำกาละก็ในวันนี้นั่นแล, เขาบังเกิดในที่ไหนหนอแล?"
พระศาสดาเสด็จมาแล้ว ตรัสถามว่า " ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้พวกเธอนั่งสนทนากันด้วยถ้อยคำอะไรหนอ?" เมื่อภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า " ด้วยถ้อยคำชื่อนี้" จึงตรัสว่า " ภิกษุทั้งหลาย บุรุษนั้นบังเกิดในดุสิตบุรี. " ภิกษุทั้งหลายทูลถามว่า " พระเจ้าข้า พระองค์ตรัสอะไร? บุรุษนั้นฆ่ามนุษย์เท่านี้สิ้นเวลาเท่านี้ แล้วบังเกิดในวิมานดุสิต."
พระศาสดาตรัสว่า " อย่างนั้น ภิกษุทั้งหลาย, บุรุษนั้นได้กัลยาณมิตรผู้ใหญ่, เขาฟังธรรมเทศนาของสารีบุตร ยังอนุโลมญาณให้
บังเกิดแล้ว เคลื่อนจากโลกนี้แล้ว บังเกิดในวิมานดุสิต"
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่มที่ ๑ ภาคที่ ๒ มก.41 น.418
#10
โพสต์เมื่อ 24 July 2006 - 05:51 PM
แต่คู่กรรมคู่เวร(บุคคลที่เราเคยไปฆ่า) คงมากวนเป็นครั้งคราวถ้าได้โอกาส จนกว่าจะอโหสิกรรมกันไปครับ
ถ้าประกอบกุศลกรรมมากๆ เขาก็ไม่มีโอกาสนะครับ
เปรียบเสมือนการหมั่นเติมน้ำเพื่อเจือจางน้ำเกลือไปเรื่อยๆน่ะครับ
#11
โพสต์เมื่อ 24 July 2006 - 06:58 PM
#12
โพสต์เมื่อ 25 July 2006 - 07:49 PM
ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยใจค่ะ
#13
โพสต์เมื่อ 26 July 2006 - 09:49 AM
จะมีสิทธิ์เข้าถึงได้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับบุญและวาสนาในปางหลังด้วย ว่าเคยทำมามากน้อยเพียงไร อย่างองคุลีมาลท่านทำมาเต็มแล้ว
เพียงแต่รอพระพุทธเจ้ามาโปรดเท่านั้น เจ้ากรรมนายเวร ก็มาก่อกวนได้ดังเช่นตอนที่ท่านออกบวชแล้ว ก็มีคนมาคอยทำร้ายท่าน
เนื่องจากท่านไปฆ่า พ่อแม่ ญาติพี่น้องของเขา แต่เมื่อท่านได้บรรลุธรรม สิ่งเหล่านี้ก็ค่อยๆหายไป
#14
โพสต์เมื่อ 27 July 2006 - 02:29 PM
#15
โพสต์เมื่อ 16 March 2007 - 07:11 AM