เคยได้ยินในช่วงนำนั่งสมาธิ
ออกเสียงประมาณนี้ล่ะค่ะ ชาน-ลา-พี บุคคล
สงสัยว่าเขียนอย่างไร และหมายถึงอะไร
ใครทราบช่วยตอบหน่อยค่ะ ขอบคุณหลายๆ
ชาน-ลา-พี
เริ่มโดย นับดาว, Aug 02 2006 11:43 AM
มี 8 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 02 August 2006 - 11:43 AM
ถ้าใจใส
เรื่องดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน
เรื่องดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน
#2
โพสต์เมื่อ 02 August 2006 - 12:35 PM
ฌาณลาภี นะ (ไม่แน่ใจ)
หมายถึงผู้ที่ทำสมาธิจนได้ฌาณ ระดับต่างๆ เช่น พวก ฤาษี ชีปะขาว นักพรต สิทธา หรือพวกเซียนของจีน หรือ อาจเป็นพระภิกษุที่ได้ฌาณก็ได้ ถ้าทำบุญกับท่านเหล่านี้ก็จะได้บุญมาก เป็นพิเศษกว่านักบวชทั่วไป
เช่น ที่คุณครูไม่ใหญ่ เล่าในฝันในฝัน ที่มีบางท่านได้ทำบุญกับฌานลาภีบุคคล ตัวอย่างอย่างที่จำได้ ก็มี สุวรรณมธุระนาคราช ที่ปกครองนาคใต้แม่น้ำโขง ตอนเป็นมนุษย์ ก็ได้ ถวายน้ำผึ้งกับ ฌาณลาภีบุคคล พอละโลก เลยได้เป็นผู้ปกครองภพพญานาค
หมายถึงผู้ที่ทำสมาธิจนได้ฌาณ ระดับต่างๆ เช่น พวก ฤาษี ชีปะขาว นักพรต สิทธา หรือพวกเซียนของจีน หรือ อาจเป็นพระภิกษุที่ได้ฌาณก็ได้ ถ้าทำบุญกับท่านเหล่านี้ก็จะได้บุญมาก เป็นพิเศษกว่านักบวชทั่วไป
เช่น ที่คุณครูไม่ใหญ่ เล่าในฝันในฝัน ที่มีบางท่านได้ทำบุญกับฌานลาภีบุคคล ตัวอย่างอย่างที่จำได้ ก็มี สุวรรณมธุระนาคราช ที่ปกครองนาคใต้แม่น้ำโขง ตอนเป็นมนุษย์ ก็ได้ ถวายน้ำผึ้งกับ ฌาณลาภีบุคคล พอละโลก เลยได้เป็นผู้ปกครองภพพญานาค
#3
โพสต์เมื่อ 02 August 2006 - 12:59 PM
คำนี้ครับ "ฌานลาภี" ผู้ได้ฌาน โดยทั่วไปมักจะเรียกเป็นคำเต็มว่า "ฌานลาภีบุคคล" ส่วนใหญ่จะหมายถึงโลกิยฌาน
และคนทั่วไปไม่จำเป็นต้องเข้าป่าหรอกครับ ก็เป็นฌานลาภีบุคคลได้ ถ้าจำไม่ผิดก็มีเคสของคุณตาของเจ้าเคสฯ (อาจารย์ของเขาคือหลวงตาโปง) ทั้งที่ยังครองเรือนอยู่แต่ก็ฝึกกรรมฐานจนได้ปฐมฌานอ่อนๆ ละโลกไปก็ไปเกิดในภพของปาริสัชชาพรหม รายนี้ก็จัดเป็น ฌานลาภีบุคคลเหมือนกัน
และคนทั่วไปไม่จำเป็นต้องเข้าป่าหรอกครับ ก็เป็นฌานลาภีบุคคลได้ ถ้าจำไม่ผิดก็มีเคสของคุณตาของเจ้าเคสฯ (อาจารย์ของเขาคือหลวงตาโปง) ทั้งที่ยังครองเรือนอยู่แต่ก็ฝึกกรรมฐานจนได้ปฐมฌานอ่อนๆ ละโลกไปก็ไปเกิดในภพของปาริสัชชาพรหม รายนี้ก็จัดเป็น ฌานลาภีบุคคลเหมือนกัน
#4
โพสต์เมื่อ 02 August 2006 - 02:24 PM
อีกท่านหนึ่งที่คุณครูไม่ใหญ่เคยนำมาเล่าบ่อยๆ เพราะท่านเคยเขียนไว้ในหนังสือว่า ท่านลากรถไฟทั้งโบกี้ขึ้นภูเขาได้น่ะครับ ชื่อว่า หลวงพ่อกัสสปะมุณี ที่คุณครูของเราเคยเดินทางไปกราบพบ แล้วพอถามคนแถวนั้น เขาก็บอกว่า "ไป้เหรื่อยๆ" จนเป็นคำฮิตที่เอามาแซวกันอยู่พักหนึ่งว่า "ไป้เหรื่อยๆ" น่ะครับ
และแม้แต่ผู้สำเร็จ ที่คุณครูเคยฝันถึงในเคสบางเคส ก็จัดว่า เป็นฌานลาภีบุคคล เช่นเดียวกันครับ
และแม้แต่ผู้สำเร็จ ที่คุณครูเคยฝันถึงในเคสบางเคส ก็จัดว่า เป็นฌานลาภีบุคคล เช่นเดียวกันครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร
#5
โพสต์เมื่อ 02 August 2006 - 05:19 PM
ขอบคุณทุกท่านค่ะ
อ่านแล้วหูตาสว่างขึ้นเยอะ
สิ่งที่สงสัยและติดค้างอยู่ในใจมาระยะหนึ่งหายไปหมดแล้ว
ดีจัง อนุโมทนาบุญนะคะ
อืมม์..สงสัยอีกแล้วค่ะ..หมายถึงอะไรคะ ?
ฌาณที่เป็นโลกิยะ..ตรงกันข้ามกับฌาณที่เป็นโลกุตตระหรือเปล่า
อาจจะเป็นคำถามที่ต้องค้นคว้า..ถ้าบอกแหล่งที่ค้นก็จะดีค่ะ
เพราะคาดว่า หากมีคนตอบมาก็อาจจะมีคำถามอีกหลายคำถามเลย
ขอบคุณค่ะ
อ่านแล้วหูตาสว่างขึ้นเยอะ
สิ่งที่สงสัยและติดค้างอยู่ในใจมาระยะหนึ่งหายไปหมดแล้ว
ดีจัง อนุโมทนาบุญนะคะ
QUOTE
โลกิยฌาน
อืมม์..สงสัยอีกแล้วค่ะ..หมายถึงอะไรคะ ?
ฌาณที่เป็นโลกิยะ..ตรงกันข้ามกับฌาณที่เป็นโลกุตตระหรือเปล่า
อาจจะเป็นคำถามที่ต้องค้นคว้า..ถ้าบอกแหล่งที่ค้นก็จะดีค่ะ
เพราะคาดว่า หากมีคนตอบมาก็อาจจะมีคำถามอีกหลายคำถามเลย
ขอบคุณค่ะ
ถ้าใจใส
เรื่องดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน
เรื่องดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน
#6
โพสต์เมื่อ 02 August 2006 - 06:01 PM
โลกิยฌาณ = ฌาณลาภี หมายความว่า ผู้ที่นักสมาธิได้ผลดีในระดับของฌาน แต่ยังไม่พ้นจากภพสาม คือยังติดอยู่ในรูปภพ อรูปภพ
พูดง่ายๆว่า ปฏิบัติธรรมเข้าถึงกายอรูปพรหมเป็นอย่างมาก ยังไม่เข้าถึงกายธรรม ไปอ่านเพิ่มเติมได้ ในหนังสือ พระแท้/ธัมมจักรฯ ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตะ หรือ ๖๙ กัณฐ์ ของพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ หาหนังสือได้ที่ ห้องสมุด สถาบันธรรมกายนานาชาติ ตรงข้ามตึกสงฆ์นะครับ ศึกษาไปด้วยนั่งไปด้วยช่วยให้เข้าใจแจ่มแจ้งนะครับ
พูดง่ายๆว่า ปฏิบัติธรรมเข้าถึงกายอรูปพรหมเป็นอย่างมาก ยังไม่เข้าถึงกายธรรม ไปอ่านเพิ่มเติมได้ ในหนังสือ พระแท้/ธัมมจักรฯ ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตะ หรือ ๖๙ กัณฐ์ ของพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ หาหนังสือได้ที่ ห้องสมุด สถาบันธรรมกายนานาชาติ ตรงข้ามตึกสงฆ์นะครับ ศึกษาไปด้วยนั่งไปด้วยช่วยให้เข้าใจแจ่มแจ้งนะครับ
#7
โพสต์เมื่อ 02 August 2006 - 06:08 PM
โอ้....จะได้สว่างยิ่งกว่านี้ ไปสมัครเรียนพระอภิธรรมที่โรงเรียนพระปริยัติฯ เลยครับ
เอาคร่าวๆ ก็แล้วกัน โลกิยฌาน คือ ฌานของบุคคลที่ยังไม่ใช่พระอริยบุคคล
ส่วนโลกุตตรฌาน หมายถึง ฌานของพระอริยบุคคล อันนี้พระโบราณาจารย์ท่านจะหมายถึง พระอริยบุคคลตั้งแต่ชั้น อนาคามีขึ้นไป
ทีนี้ถ้าถามว่า "ฌาน คืออะไร" อีก ก็ขอแนะนำว่า รักการศึกษาพระพุทธศาสนามากอย่างนี้ ไปสมัครเรียน ธรรมศึกษาดีกว่าครับ เป็นความรู้ที่อยู่ชั้นธรรมศึกษาเอก
เอาคร่าวๆ ก็แล้วกัน โลกิยฌาน คือ ฌานของบุคคลที่ยังไม่ใช่พระอริยบุคคล
ส่วนโลกุตตรฌาน หมายถึง ฌานของพระอริยบุคคล อันนี้พระโบราณาจารย์ท่านจะหมายถึง พระอริยบุคคลตั้งแต่ชั้น อนาคามีขึ้นไป
ทีนี้ถ้าถามว่า "ฌาน คืออะไร" อีก ก็ขอแนะนำว่า รักการศึกษาพระพุทธศาสนามากอย่างนี้ ไปสมัครเรียน ธรรมศึกษาดีกว่าครับ เป็นความรู้ที่อยู่ชั้นธรรมศึกษาเอก
#8
โพสต์เมื่อ 03 August 2006 - 09:53 AM
QUOTE
ธรรมศึกษาดีกว่าครับ เป็นความรู้ที่อยู่ชั้นธรรมศึกษาเอก
แฮ่ะๆ อายจัง..จบธรรมศึกษาชั้นเอกมาแปดปีแล้ว แต่จำไม่ได้อ่ะค่ะ ความรู้คืนพระอาจารย์ไปหมดแล้ว ก็เลยต้องมาถามในกระทู้นี่แหละค่ะ
ขอบคุณที่ให้คำแนะนำนะคะ แจ่มแจ้งเหลือหลายจริงๆ
QUOTE
ไปอ่านเพิ่มเติมได้ ในหนังสือ พระแท้/ธัมมจักรฯ ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตะ หรือ ๖๙ กัณฐ์
ของพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ หาหนังสือได้ที่ ห้องสมุด สถาบันธรรมกายนานาชาติ ตรงข้ามตึกสงฆ์นะครับ ศึกษาไปด้วยนั่งไปด้วยช่วยให้เข้าใจแจ่มแจ้งนะครับ
ของพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ หาหนังสือได้ที่ ห้องสมุด สถาบันธรรมกายนานาชาติ ตรงข้ามตึกสงฆ์นะครับ ศึกษาไปด้วยนั่งไปด้วยช่วยให้เข้าใจแจ่มแจ้งนะครับ
ขอบคุณค่ะที่แนะนำหนังสือให้ ต้องลองไปค้นดูซะแร้ว...
เรื่องการนั่งไปด้วยอ่านไปด้วยนี่ก็เป็นคำแนะนำที่ดีมากๆค่ะ
แต่..อ่านจากหนังสือจะเร็วกว่ามั๊ยคะ...อิอิ(แซวเล่นน่ะค่ะ)
ก็ต้องนั่งกันต่อไป..สักวันหนึ่งคงจะรู้ได้อย่างแจ่มแจ้งแท้จริง..ขอบคุณมากๆค่ะ
ถ้าใจใส
เรื่องดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน
เรื่องดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน
#9
โพสต์เมื่อ 04 August 2006 - 09:06 AM
เพียงหยุดนิ่ง ทำใจสบาย
ความรู้อันประเสริฐมากมาย จะพร้อมเข้ามาหาเรานะครับ
ความรู้อันประเสริฐมากมาย จะพร้อมเข้ามาหาเรานะครับ