ทำไมต้องมาวัดทุกวันอาทิตย์
#1
โพสต์เมื่อ 10 September 2006 - 09:22 PM
#2
โพสต์เมื่อ 10 September 2006 - 09:36 PM
#3
โพสต์เมื่อ 10 September 2006 - 09:47 PM
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ
เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี
#4
โพสต์เมื่อ 10 September 2006 - 09:47 PM
อาภรณ์ ชุดสุดท้าย กาสายะ<br /> ชีพสุดท้ายคือพระ ผ่องแผ้ว<br /> วิชชาสุดคือธรรมะ พุทธเจ้า<br />จารจดไว้ลูกแก้ว จักแคล้วบ่วงมาร<!--sizec--></span><!--/sizec--><!--colorc--></span><!--/colorc-->
#5
โพสต์เมื่อ 10 September 2006 - 10:12 PM
#6
โพสต์เมื่อ 10 September 2006 - 10:16 PM
#7
โพสต์เมื่อ 10 September 2006 - 10:24 PM
ก็เพราะไม่ได้ไปวันเสาร์จ๊ะ
"เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว พบแล้วไม่กำ เกิดมาทำอะไร"
http://www.dhammakaya.or.th
#8
โพสต์เมื่อ 10 September 2006 - 11:23 PM
#9
โพสต์เมื่อ 10 September 2006 - 11:41 PM
#10
โพสต์เมื่อ 10 September 2006 - 11:48 PM
วันไหนบุญไม่แรงบาปจะแรง เดี๋ยวจะหมดโอกาสไปวัด
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#11
โพสต์เมื่อ 11 September 2006 - 08:20 AM
#12
โพสต์เมื่อ 11 September 2006 - 09:20 AM
( และพิเศษ รู้สึกเหมือนกลับบ้าน ไปอยู่กับพี่น้องวงบุญ นั่งสมาธิกับหลวงพ่อ )
#13
โพสต์เมื่อ 11 September 2006 - 09:52 AM
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#14
โพสต์เมื่อ 11 September 2006 - 09:53 AM
#15
โพสต์เมื่อ 11 September 2006 - 10:03 AM
#16
โพสต์เมื่อ 11 September 2006 - 10:25 AM

แกล้งถามลูกว่าอาทิตย์นี้หยุดสักอาทิตย์มั๊ยคะลูก ลูกตอบว่า "ไม่ได้ หนูต้องไปทำหน้าที่อาสาสมัคร"
ไปแล้วก็ได้บุญ ได้ทำบุญ ได้แต่สิ่งดี ๆ ฯลฯ (ตามที่คนอื่นเขียน ๆ มาเลยค่ะ)
เคยมีคนพูดว่า "เก่งจัง มีความอดทนสูงกับการอยู่วัดได้ทั้งวันเลย" ลูกตอบว่า "หนูไม่เห็นต้องอดทนเลยนี่คะ ทำไมคุณลุงอดทนตากแดดตีกอลฟ์ทั้งวันกับเจ้านายแล้วไปเที่ยวกลางคืนต่อ คุณลุงยังทนได้เลย" คุณลุงขำ(ปนโกรธ) บอกว่า "อย่าไปให้ลูกพูดกับผู้ใหญ่คนอื่นเค้าแบบนี้นะ"


#17
โพสต์เมื่อ 11 September 2006 - 10:44 AM
1) คือวันที่ 1 ทำอะไรไป ก็จะจำได้ ประทับในความทรงจำและความรู้สึกได้อย่างมั่นคง แต่ก็จะค่อยๆอ่อนแรงลงไปตามลำดับวันที่ 2, 3, 4 จนถึงวันที่ 7 ก็น้อยลงมาก พอวันที่ 8 ก็แผ่ว พอวันหลังๆจากนั้นก็จางมาก ก็อาจจะคิดไปว่า ไม่เป็นไร ไม่ต้องทำก็ได้ หรือไม่ต้องมาวัดก็ได้
เมื่อทำบุญใจจะใสอยู่ระยะหนึ่ง ความรู้สึกความจำก็ยังชัดอยู่ แต่พอเลย 1 สัปดาห์ไปแล้วก็เริ่มเบลอๆ เริ่มจางๆ ไปค่ะ เรียกได้ว่ามาตอกย้ำกระแสบุญให้มั่นคงค่ะ จึงมาวัดกันทุก 7 วัน
ถ้าปล่อยตัวเองไม่มาวัดเป็นประจำสม่ำเสมอ โอกาสหลุดก็จะมี และจะมีมากขึ้นค่ะ เพราะในสังคมที่อยู่ๆกัน สภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการสร้างบารมีนั้นก็มีอยู่ ดึงอารมณ์ให้ขุ่นมัวบ้าง ท้อแท้บ้าง หลายๆอย่าง อันนี้ก็จึงประมาทไม่ได้ค่ะ
2) ในสมัยก่อน ที่การทำงานของประชาชนไม่มีกะเกณฑ์ต้องหยุดวันอาทิตย์ วันพระจะเป็นวันที่ประชาชนมาวัด มาทำบุญนั่งสมาธิกันที่วัด ซึ่งเป็นวันที่ยึดการโคจรของดวงจันทร์ข้างขึ้น-ข้างแรม จะมาทำบุญในวันพระเป๊ะๆ ซึ่งเป็นเรื่องในละเอียด คือต้องมาวัดทำบุญกันในวันพระ
แต่สมัยนี้ หน้าที่การงานในปัจจุบันทั้งนักเรียน นักศึกษา งานราชการ งานเอกชน ส่วนใหญ่ก็หยุดกันวันอาทิตย์ จึงปรับให้เข้ากับสถานการณ์วิถีชีวิตคนทำงาน มาวัดได้กันในวันหยุด ก็เลยมาวัดทุกวันอาทิตย์
#18
โพสต์เมื่อ 11 September 2006 - 12:44 PM
แต่ในปัจจุบัน วันพระไม่ใช่วันหยุด เพราะเหตุผลทางธุรกิจ ทางโลกสากล จึงกำหนดให้วันอาทิตย์ เป็นวันหยุดจากการทำงาน
หลายศาสนาจึงนิยมให้ มาวัดในวันอาทิตย์ เพราะคนส่วนใหญ่สามารถมีเวลามาได้ทั้งครอบครัว
#19
โพสต์เมื่อ 11 September 2006 - 01:02 PM
#20
โพสต์เมื่อ 11 September 2006 - 01:44 PM
โก หิ นาโถ ปโร สิยา
อตฺตนา หิ สุทนฺเตน
นาถํ ลภติ ทุลฺลภํ . . . ฯ ๑๖๐ ฯ
เราต้องพึ่งตัวเราเอง
คนอื่นใครเล่าจะเป็นที่พึ่งได้
บุคคลผู้ฝึกตนดีแล้ว
ย่อมได้ที่พึ่งที่ได้แสนยาก
Oneself indeed is master of oneself,
Who else could other master be?
With oneself perfectly trained,
One obtains a refuge hard to gain
#21
โพสต์เมื่อ 11 September 2006 - 03:22 PM
ก็เป็นวันหยุด เป็นวันที่สะดวกที่เราจะได้มาทำกิจของชาวพุทธ
อีกข้อหนึ่งที่ได้พูดคุยกับ "กอล์ฟแก้ว ม.ค." เขาก็คิดอีกแง่มุมหนึ่งว่า
ก็ในเมื่อเราตายไปแล้ว จะมีช่วงเวลาวนเวียนอยู่ในโลก 7 วันก่อนที่จะไปภพภูมิที่แล้วแต่บุญกรรม การวนเวียนของเรานั้นก็มักจะทำอะไรที่เราคุ้นเคยอยู่แล้ว
ใน 7 วัน ต้องมีสักวันที่เป็น วันที่เรามาวัด ถ้าเรามาวัดบ่อยๆใจเรา ก็จะคุ้นกับสิ่งที่เราจะทำ เช่นตายวันพฤหัสฯ โดยไม่รู้ตัวว่าตายแล้ว แต่จิตก็ดำเนินวนเวียนกับการกระทำที่เป็นกิจวัตรประจำวันไปเรื่อยๆ พอถึงวันอาทิตย์ปั๊บ เป็นวันที่เรามาวัดพอดี เราก็จะได้รับบุญ บุญก็ส่งผลได้ง่าย ได้มาเวียนประทักษิณรอบมหาธรรมกายเจดีย์ ได้ตรึกระลึกนึกถึงบุญได้ง่ายด้วย
#22
โพสต์เมื่อ 11 September 2006 - 05:54 PM
ใช่เลยครับ เติมบุญที่เราใช้หมดไปทุกวินาทีด้วยนะครับ สาธุ...
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต้ อุกาสะ ขะมามิ ภันเตฯ
หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ด้วยกายก็ดี วาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ด้วยเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี
ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดยกโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ
#23
โพสต์เมื่อ 11 September 2006 - 08:55 PM
วันจันทร์จะได้กลับไปทำงาน/เรียนหนังสือ ด้วยจิตใจที่เป็นสุข
อย่างเราอยู่ร้อยเอ็ดยังมาวัดทุกอาทิตย์กันทั้งครอบครัวเลยนะคะ
(ไม่ได้จะอวดอะไรนะคะ แค่อยากจะให้กำลังใจคนในกทม.ให้มาวัดกันบ่อยๆค่ะ)
แต่ถ้าติดงานยังไงก็มาทุกต้นเดือนก็ยังดีค่ะ

#24
โพสต์เมื่อ 12 September 2006 - 08:29 AM
"การมาวัดวันหนึ่ง
ก็ได้บุญไปช่วงหนึ่ง
ถ้าไม่มา.. ก็ไม่ได้
ถ้ามาแล้ว.. ก็ได้บุญ
บุญจะสะสมทับทวี
เหมือนกับเก็บออมสิน"
คำสอนคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง
#25
โพสต์เมื่อ 12 September 2006 - 12:53 PM
ดวงอาทิตย์ หมายถึง ตะวัน
เราก็มาเอาดวงตะวันกลางกายกลับบ้าน
โดยทำตามคำสั่งสอนของตะวันธรรม งัยครับ
#26
โพสต์เมื่อ 12 September 2006 - 01:34 PM
#28
โพสต์เมื่อ 16 September 2006 - 07:33 AM
พี่แมรี่ เห็นด้วยกับน้องวิว ว่าเป็นการที่ไม่ได้ทำให้มีช่องบาป
แล้วการไปวัดก็ทำให้เราไปฝีกนิสัยการเป็นกัลยาณมิตรด้วย
รวมทั้งเริ่มเห็นด้วยกับความคิดอันลึกซึ้งของ คุณกอลฟ์แก้ว มค. ที่บอกว่า
ในเมื่อเราตายไปแล้ว จะมีช่วงเวลาวนเวียนอยู่ในโลก 7 วันก่อนที่จะไปภพภูมิที่แล้วแต่บุญกรรม การวนเวียนของเรานั้นก็มักจะทำอะไรที่เราคุ้นเคยอยู่แล้ว
ใน 7 วัน ต้องมีสักวันที่เป็น วันที่เรามาวัด ถ้าเรามาวัดบ่อยๆใจเรา ก็จะคุ้นกับสิ่งที่เราจะทำ เช่นตายวันพฤหัสฯ โดยไม่รู้ตัวว่าตายแล้ว แต่จิตก็ดำเนินวนเวียนกับการกระทำที่เป็นกิจวัตรประจำวันไปเรื่อยๆ พอถึงวันอาทิตย์ปั๊บ เป็นวันที่เรามาวัดพอดี เราก็จะได้รับบุญ บุญก็ส่งผลได้ง่าย ได้มาเวียนประทักษิณรอบมหาธรรมกายเจดีย์ ได้ตรึกระลึกนึกถึงบุญได้ง่ายด้วย
ผู้ที่มีจิตใจเข้มแข็งที่สุด ย่อมเป็นผู้ที่สุภาพนุ่มนวลที่สุด