
ช่วยแนะนำแก้ไขอุปสรรคในชีวิต
#1
โพสต์เมื่อ 03 October 2006 - 10:24 AM
ขอบคุณค่ะ
รักดวงแก้ว
#2
โพสต์เมื่อ 03 October 2006 - 10:32 AM
#3
โพสต์เมื่อ 03 October 2006 - 10:54 AM



สำหรับสิ่งที่ข้าพเจ้าอยากจะเพิ่มเติมไว้ให้พริจารณา ก็คือ ให้พึงเจริญปัญญา รู้ตาม เท่าทัน กับสิ่งที่ทำให้ใจของท่านคุณพี่ชายขุ่นหมองใจ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ด้วยครับ แล้วลองแก้ปัญหาด้วย จิตที่ว่างๆ จิตที่ปราศจาก ตัวตนของตัว และรู้ธรรมะตามความเป็นจริง ดูก็ได้นะครับ เพราะจิตที่ว่างได้เช่นนั้นแล้ว จะพึงให้ก่อให้เกิดปัญญาอันสูงสุด เมื่อลองแล้ว จงพึงพยายามยอมรับกับสิ่งที่จะตามมาด้วยครับ เพราะได้ชื่อว่าได้ใช้ปัญญา ที่ผ่องใส ที่สุดแล้ว (จิตที่ว่างๆ จิตที่ปราศจาก ตัวตนของตัว) สำหรับจัดการ กับปัญหาเหล่านั้น ซึ่งผลนั้นอาจจะถูกใจ หรือไม่ถูกใจ ก็อาจเป็นไปได้ทั้งสองทางครับ



แล้วควรอย่างยิ่งที่จะพยายามนำจิตใจที่อาจยังขุ่นหมอง ไปติดกับสิ่งที่เป็น สาระกับสิ่งชีวิตที่แท้จริง มากขึ้นตามลำดับนะครับ



แล้วลองพิจารณาข้อคิดเห็นอันนี้ด้วยก็ดี น่าจะช่วยทำให้เข้าใจอะไรมากยิ่งขึ้นครับ คลิ๊กที่นี้

สุดท้าย ก็ขอให้พยายามเป็น ท่านรักดวงแก้ว กัลยาณมิตรที่ดี กับท่านพี่ชายอย่างอดทน ต่อไปครับ แล้ว พึงเรียนรู้จากประสบการณ์ของท่านพี่ชายด้วย ก็จักเป็นการดีเยี่ยมครับ

ขออนุโมทนาบุญ กับ ท่านเจ้าของกระทู้ และ ท่านทั้งหลาย ที่กำลังจะแสดงความคิดเห็น เพิ่มเติมที่เห็นว่าจะเป็นประโยชน์แก่ ท่านรักดวงแก้ว ต่อไปด้วยครับ สาธุ...สาธุ...สาธุ...ครับ



ขอเชิญร่วม อนุโมทนาบุญ งานบุญกฐินพระราชทาน ที่ วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก คลิ๊กที่นี้
Who am I?__>>> CLick Here <<< to see my answer Post # 7
.
รวมภาพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า: คลิ๊กที่นี้คลิ๊กที่นี้ เพื่อ D/L 58 files, 120.99 MB, for easy listening dharmas.
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ D/L 121 really-good-to-read e-books, 295.67 MB.
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ Download โปรแกรม Free Download Manager ช่วย Download ไฟล์ใหญ่ๆ ต่างๆ ฟรีครับฟรี
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ Download โปรแกรม Acrobat Reader V.5
.
The basic knowledge of Buddhism to become a better buddhist Edition 2 คลิ๊กที่นี้
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
-= Hillary Clinton =-.... >>>>>>> CLicK HeRe <<<<<< To Be wisher, To Be smarter, and To Know Better !!!
#4
โพสต์เมื่อ 03 October 2006 - 11:11 AM
หากพี่ชายคุณเจ้าของกระทู้ยังไม่ตัดใจ ก็จะไม่มีโอกาสได้สร้างบุญ หรือมีโอกาสก็น้อยเต็มที มีโอกาสที่ใจจะเศร้าหมองมากกว่าผ่องใส ให้พี่ชายคุณคิดเอาเถิดว่าจะเอาห่วงมาผูกคอ หรือจะหาสร้อยทองมาใส่คอดี
ใครที่ว่ามีแฟนแล้วเหมือนมีสร้อยทองมาคล้องใจก้ตามใจนะครับ แต่สำหรับผมแล้วมีแฟนเหมือนมีกุญแจมือ โซ่ตรวนมาคล้องมือของขาเอาไว้มากกว่า
ไอ้ที่ยากมันก็หลอก ไอ้ที่หยอกมันก็ลวง ทำให้ติดเป็นห่วงเป็นใย เลิกอยากลาหยอก รีบออกจากกาม เดินตามขันธ์3เรื่อยไป เสร็จกิจ16ไม่ตกกันดาร เรียกว่านิพพานก็ได้
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#5
โพสต์เมื่อ 03 October 2006 - 11:53 AM
ผมยังไม่มีคู่เลย ถ้ามีคู่แล้วใจจะไม่ใส จะเป็นทุกข์งั้นหรือครับ?

#6
โพสต์เมื่อ 03 October 2006 - 12:00 PM
พอ. . .แล้วกับความรู้สึกที่ว่าอยากมีอยากเป็น
One word will suffice.
#7
โพสต์เมื่อ 03 October 2006 - 12:22 PM
#8
โพสต์เมื่อ 03 October 2006 - 12:50 PM
สำหรับเรื่องนี้ หลายท่านได้แนะนำเกี่ยวกับเรื่องตัดใจจากคู่เสียถ้ามีอุปสรรค เตรียมให้ประพฤติพรหมจรรย์ ถ้าพี่ชายเจ้าของกระทู้ทำได้ ผมก็อนุโมทนาบุญด้วย เพราะเป็นชีวิตที่สุดประเสริฐทีเดียว แต่ถ้ายังทำไม่ได้ ผมมีธรรมะจากพระพุทธเจ้า สำหรับผู้คิดครองเรือนอย่างมีความสุขมาฝากแทนนะครับ ธรรมะของพระพุทธเจ้าแก้ปัญหาให้คนได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าเขาจะใช้วิธีแบบไหนก็ตาม
สำหรับเรื่องนี้ ขั้นแรกผมแนะนำให้พี่ชายคุณใจเย็นๆ ครับ รักผู้หญิง ก็ต้องอิงผู้ใหญ่ ควรทำตัวให้พ่อแม่ฝ่ายหญิงรักเรา แล้วทำไงล่ะ พระพุทธเจ้าสอนไว้แล้วครับ สังคหวัตถุ 4 ทาน ปิยวาจา อัตถจริยา สมานัตตา
ทาน ได้แก่ การให้ แบ่งปัน พอไปบ้านฝ่ายหญิง ก็ของฝากครับ ขนมนมเนย ของกินของใช้ ติดไม้ติดมือไปฝากผู้หลักผู้ใหญ่ มันเป็นมารยาทปรกติของปู่ย่าตายายอยู่แล้ว แต่เด็กๆ รุ่นหลังๆ มักลืมเลือน เพราะประเพณีทางตะวันตกเขาจะเฉยๆ ไม่ค่อยฝากอะไรกัน แต่เรามีของดีของคนโบราณอยู่แล้วเอาไปใช้ให้เป็นประโยชน์
ปิยวาจา ได้แก่ พูดจาดีๆ ต่อกัน แม้ผู้ใหญ่ ท่านอาจไม่ถูกชะตา พูดจาไม่ดี ก็อย่าไปโกรธครับ ให้พูดดีๆ ตอบ ลองสิครับ เดี๋ยวได้ผล
อัตถจริยา ได้แก่ บำเพ็ญประโยชน์ อาสาเลยครับ พ่อแม่ฝ่ายหญิงมีอะไรให้รับใช้ อาสาตัวเข้าไป แล้วทำให้ดี รับรอง ไม่รักแล้วกลุ้ม ต้องรักเราแน่นอน
สมานัตตตา ได้แก่ ดีเสมอต้นเสมอปลาย ไม่ใช่ช่วงนี้ทำคะแนน เลยดีพร้อม พอลับหลัง นินทาฉอดๆ อย่างนี้ ถ้าเขาจับได้ ก็แห้วครับ
ทีนี้เมื่อมีธรรมะให้คนรัก แล้วก็ต้องมีธรรมะ ประจำตัว เขาเรียกว่า ฆราวาสธรรม 4 คือ สัจจะ ทมะ ขันติ จาคะ เพราะผู้ใหญ่ ที่หวงลูกสาวนั้น ส่วนหนึ่งเพราะเขาไม่ไว้ใจว่า ไอ้หนุ่มคนนี้ มันจะดูแล ลูกเรารอดหรือเปล่า ฆราวาสธรรมนี่แหละ จะทำให้เรามีเครดิต ความน่าเชื่อถือ
1. สัจจะ เป็นคนจริง พูดอย่างไร ทำอย่างนั้น ทำอย่างไร พูดอย่างนั้น อย่างนี้ใครก็เชื่อถือ
2. ทมะ เป็นคนข่มใจ แม้บางครั้งไม่ถูกใจ ก็ไม่เจ้าอารมณ์ แต่ก็ฝืนไว้เพราะเห็นแก่ส่วนรวม อย่างนี้ ผู้ใหญ่มั่นใจว่า ปกป้องลูกเขาได้
3. ขันติ มีความอดทน ในเรื่องต่างๆ ความกดดันได้ดี อย่างนี้แม้มีปัญหาครอบครัวในอนาคต ก็อดทนแก้ไขได้ ผู้ใหญ่เชื่อถือ
4. จาคะ มีความเสียสละ ใครๆ ก็ชอบคนเสียสละ ไม่มีใครชอบคนเห็นแก่ตัว
ถ้าทำได้เช่นนี้ อย่าว่า ขอลูกสาวคนอื่นเลย แม้ทำกิจการงานใด ก็สำเร็จโดยง่ายเป็นอัศจรรย์ครับ
#9
โพสต์เมื่อ 03 October 2006 - 01:10 PM
#10
โพสต์เมื่อ 03 October 2006 - 01:36 PM
เห็นด้วยอย่างยิ่ง คะ
จะครองเรือนไปสักกี่ร้อยปีก็ครองไปเถิด งานเรื่องของคนอื่นเค้าทั้งนั้น เรื่องของพญามารทั้งนั้น ไม่ใช่เรื่องของตัว ไม่ใช่งานของตัว ไปทำงานให้พญามารเค้าทั้งวันทั้งคืน เอาเรื่องอะไรไม่ได้

ไฟล์แนบ
อาภรณ์ ชุดสุดท้าย กาสายะ<br /> ชีพสุดท้ายคือพระ ผ่องแผ้ว<br /> วิชชาสุดคือธรรมะ พุทธเจ้า<br />จารจดไว้ลูกแก้ว จักแคล้วบ่วงมาร<!--sizec--></span><!--/sizec--><!--colorc--></span><!--/colorc-->
#11
โพสต์เมื่อ 03 October 2006 - 03:00 PM
มีตัวอย่างมาหลายเคสแล้ว เช่น บางเคส เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ฝ่ายชายชอบฝ่ายหญิงมาก บอกว่า ต้องแต่งงานให้ได้ แม้ญาติพี่น้องทั้งสองฝ่ายจะห้ามปราม บอกว่า เป็นญาติกันไม่เหมาะสม แต่ทางฝ่ายชายยืนยัน จนฝ่ายหญิงใจอ่อนแต่งงานตาม สุดท้ายพอลูกออกมาพิการ (ซึ่งก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องญาติ เป็นกรรมของลูกเอง) แต่ฝ่ายชายยอมรับไม่ได้ แล้วทิ้งฝ่ายหญิงหนีไป
ผมว่า ถ้าเป็นฝ่ายชายประเภททำตามอารมณ์เป็นใหญ่ จะเอาให้ได้ตามที่ตัวต้องการให้ได้ แต่สุดท้ายเมื่อเกิดผลเสียก็ไม่รับผิดชอบกับผลที่เกิดขึ้น
ถ้าเป็นฝ่ายชายประเภทนี้ ผู้หญิงที่แต่งงานด้วยก็จะลำบากครับ ดังนั้น ต้องใจเย็นๆ และไม่ว่าภายหลังเมื่อตัดสินใจไปแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นก็ต้องรับผิดชอบกับการตัดสินใจนั้นครับ
#12
โพสต์เมื่อ 03 October 2006 - 03:35 PM
#13
โพสต์เมื่อ 03 October 2006 - 05:45 PM
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ
เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี
#14
โพสต์เมื่อ 03 October 2006 - 07:01 PM
#15
โพสต์เมื่อ 03 October 2006 - 09:59 PM
วิบากกรรม หรือผังชีวติของแต่ละบุคคล
#16
โพสต์เมื่อ 03 October 2006 - 10:23 PM
-------
พอ. . .แล้วกับความรู้สึกที่ว่าอยากมีอยากเป็น
One word will suffice.
#17
โพสต์เมื่อ 06 October 2006 - 05:47 PM
ต่อจากนั้นไม่ต้องพูดถึงกันล่ะ........

#18
โพสต์เมื่อ 06 October 2006 - 08:36 PM
ตอนรักกันมันก็สุขค่ะ
ตอนทะเลาะกันแต่ก็กลับมาดีกัน ก็สุขปนทุกข์ ทุกข์ปนสุข สลับไปสลับมา
ตอนเลิกกันก็ทุกข์ ค่ะ ทุกข์ แบบเข็ดขยาดแล้วค่ะ
#19
โพสต์เมื่อ 09 October 2006 - 10:16 AM