ฝึกสมาธิจำเป็นต้องใช้นิมิตรหรือไม่
#1
โพสต์เมื่อ 13 November 2006 - 02:53 AM
การฝึกสมาธิ เพื่อเข้าถึงปฐมมรรคนั้น
จำเป็นหรือไม่ต้องฝึกดูนิมิตร เช่น นั่งดูดวงแก้วนาน ๆ บ่อย ๆ หรือนั่งดู
องค์พระเป็นแก้วบ่อย ๆ เช่นเดียวกับการฝึกกสิณแสงสว่าง เป็นต้น
ที่วัดจะมีสอนให้นึกถึงองค์พระแล้ววางใจที่ ฐานที่๗ ก่อน แล้วทำใจนิ่ง ๆ เท่านั้น
อยากรู้ว่าท่านอื่น ๆ ที่มีประสบการณ์ ฝึกแบบเดียวกับเพ่งกสิณหรือเปล่า
นั่นคือ ใช้เพ่งดวงแก้ว หรือ องค์พระ จนเป็นภาพนิมิตติดตา มาแต่ต้นแล้ว
ปฏิภาคนิมิตคืออะไร
อุคหนิมิตรหรืออะไร
และการติดในนิมิตรหมายถึงอะไร
#2
โพสต์เมื่อ 13 November 2006 - 09:15 AM
#3
โพสต์เมื่อ 13 November 2006 - 10:28 AM
แต่ทำไมเข้าดูไม่ได้เลย
#4
โพสต์เมื่อ 13 November 2006 - 10:37 AM
ที่ผมเคยได้รับคำแนะนำจากพระอาจารย์มาการนึกนิมิตรเป็นเพียงการกำหนดใจให้อยู่ในความคิดเพียงความคิดเดียว ป้องกันไม่ให้ใจลื่นไหลไปตามกระแสของนิมิตรอื่นๆ หลายท่านที่นั่งสมาธิคงทราบกันดี เมื่อเรานั่งสมาธิใหม่ๆ จะมีภาพนิมิตรมากมายเกิดขึ้นตามจิตที่เราเป็นห่วงเป็นใย เช่นห่วงเรื่องงาน ภาพนิมิตรเรื่องงานก็จะมาฉายให้เราเห็น แล้วมั่นใจได้เลยว่าไม่ใช่แค่เรื่องเดียว มีเป็นร้อยเป็นพันเรื่องจริงไหมครับ ห่างเรามัวแต่นั่งดูสนใจอยู่แต่ภาพนิมิตรที่ค่อยๆเกิดขึ้นให้เราเห็น นั่งทั้งวันก็คงไม่เข้าถึงธรรม ดังนั้น แทนที่จะให้ใจคิดไปเรื่อยๆหลายๆเรื่อง สู้ให้มันคิดเพียงเรื่องเดียวดีกว่า นั่นก็คือนั่งนึกนิมิตรเป็นองค์พระหรือดวงแก้ว
แต่ทีนี้บางคนมีเรื่องคิดมากมายใจไม่ละเอียดพอ หรือเริ่มนั่งแรกๆคงนึกองค์พระหรือดวงแก้วไม่ได้ เพราะนิมิตรอื่นคอยบดบัง ท่านจึงมีเทคนิคคือ ให้มององค์พระหรือดวงแก้ว แล้วจดจำรูปร่างลักษณะเอาไว้ ไม่ได้เพ่งนะครับ ดูอย่างสบายๆเหมือนดูทีวี เพื่อให้เราสามารถจำรูปร่างองค์พระหรือดวงแก้วได้ เวลาเรานึกนิมิตรเราจะได้นึกได้ง่าย เหมือนกับการท่องจำ หรือเหมือนกับการถ่ายวีดีโอ จากที่เคยถ่ายมามากมายหลายอย่างเราก็มาถ่ายให้มีแต่องค์พระหรือดวงแก้วแทน
ทีนี้ทำไมผมถึงบอกว่าหลายท่านเข้าใจผิด เพราะเท่าที่ผมเห็นมีหลายท่านเลยทำผิดวิธี แม้แต่ผมเองก็เคยเป็น นั่นก็คือ พอนึกถึงองค์พระหรือดวงแก้วไม่ออก ก็ไปนั่งจ้องมององค์พระหรือดวงแก้ว บางคนจ้องอยู่นานเป็นชั่วโมง ยิ่งจ้องก็ยิ่งเพ่งยิ่งเพ่งก็ยิ่งเครียด เอาเป็นเอาตายจะให้นึกถึงนิมิตรองค์พระหรือดวงแก้วให้ได้ เหมือนกับการท่องจำเตรียมสอบ ยิ่งเคร่งเครียดกับการท่องจำมากก็จำไม่ได้ จำตรงนี้ได้ตรงนั้นลืม โดยที่หลักที่แท้จริงแล้วแค่มองดูสบายๆ เหมือนเรานั่งดูทีวีหรืออ่านการ์ตูน และนี่เองครับเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมผู้ที่นั่งสมาธิถึงเรียนเก่งขึ้นหรือทำงานได้ดีขึ้น
อยากให้หลายๆท่านไปลองทดสอบกันดูก็ได้ ลองไปดูนักเรียนเตรียมสอบเถอะครับ ส่วนมากพวกที่สอบได้ที่หนึ่งมักไม่ค่อยเคร่งเครียดกับการเรียนหรืออ่านหนังสือสักเท่าไหร่อ่านไปเรื่อยๆสบายๆ แต่พวกที่ครําเคร่งจนเกินไปนี่สิ มักจะเครียดและสอบได้คะแนนน้อยกว่าพวกที่อ่านแบบสบายๆเสียอีกครับ ดังนั้น หากท่านใดที่ยังไปนั่งจ้ององค์พระหรือดวงแก้วอย่างเอาเป็นเอาตาย หรือพยายามจะจำลักษณะขององค์พระหรือดวงแก้วให้ได้หมดทุกสัดส่วนแล้วล่ะก็ ผมขอแนะนำให้เลิกเถอะนะครับ ถ้าจะดู ขอให้ดูแบบสบายๆเหมือนเรากำลังนั่งดูทีวีดูละครอยู่ที่บ้าน หรือดูความสวยงามเหมือนดูแหวนเพชร หากดูแล้วยังนึกไม่ออกไม่เป็นไร ก็ให้นึกเป็นรูปร่างตัวคนขึ้นมาจะชัดหรือไม่ชัดจะเห็นหมดทุกส่วนหรือไม่เห็นทุกส่วนก็ตามแล้วให้อุปมาว่าเป็นองค์พระหรือดวงแก้ว อย่าไปนั่งจ้องนั่งเพ่งนะครับ นั่งจ้องนั่งเพ่งให้ตายก็ไม่มีทางนึกออก เชื่อผมเต๊อะ
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#5
โพสต์เมื่อ 13 November 2006 - 11:00 AM
พอเข้าใจ การทำให้มองเห็นนิมิตรนั้น ต้องทำใจสบาย ๆ มองแบบธรรมดาไม่พยายามใช้ความจำหรือ
พยายามจำลักษณะต่าง ๆ ให้ครบใช่ไหมครับ ดูแล้วทำใจเฉย ๆ
เป็นเทคนิคช่วยให้เห็นง่ายขึ้นใช่หรือเปล่า
#6
โพสต์เมื่อ 13 November 2006 - 12:21 PM
อยากให้คุณSmilingCat ลองทดสอบและสังเกตุดูด้วยตัวเองก็ได้ครับ คิดว่าคุณSmilingCat คงเคยอ่านการ์ตูนมาก่อน ถ้าเป็นตอนเรียนด้วยคงต้องมีอ่านแน่ ลองนึกพิจารณาดูนะครับ ตอนเราอ่านหนังสือเรียน เราตั้งใจอ่านมากเคร่งเครียดกับการเรียนใช่ไหมครับ อ่านกี่รอบๆก็จำได้ไม่หมดสักที แล้วยิ่งตั้งใจมากก็ยิ่งรู้สึกเหมือนกับว่าเวลามันผ่านไปนานเหลือเกิน เราใช้เวลาอ่านไปนานขนาดนี้ทำไมจำไม่ได้สักที อ่านตรงนี้เสร็จตรงนั้นลืมไปแล้ว นึกเท่าไหร่ก็ไม่ออก จริงไหมครับ แล้วลองมาเปรียบเทียบดูกับการอ่านการ์ตูนดูสิครับ เราอ่านไปสบายๆ ไม่เคร่งเครียดไม่ซีเรียส แปปๆจบเรื่องแล้ว อะไรกันทำไมเวลาผ่านไปเร็วจัง แล้วอ่านแค่รอบเดียว เราจำได้ทั้งเล่ม อืม เล่มนี้ถึงตอนนี้นะ เรื่องมันเป็นอย่างนี้ๆ บรรยายให้เพื่อนฟังได้เป็นฉากๆ แต่ลองให้เพื่อนมาช่วยสอนหนังสือให้ล่ะก็ รอแปปนะ เดี๋ยวขอเปิดหนังสือทบทวนดูก่อน จริงไหมครับ
การที่เราจ้องมององค์พระหรือดวงแก้วก็เหมือนกัน หากเราไปจ้องเคร่งเครียดกับมันมากเกินไป เราจะเก็บรายละเอียดได้เพียงบางส่วน พอเราไปนั่งหลับตานึก จะนึกได้เป็นบางส่วนเท่านั้น อืม เศียรพระต้องเป็นแบบนี้นะ แขนพระต้องเป็นแบบนี้นะ นึกแขนพระออก อ้าว นึกเศียรพระไม่ออกอีกละ จริงไหมครับ หุหุ แต่หากเราไม่ไปเพ่งจนเคร่งหรือเครียดจนเกินไป แค่ดูผ่านๆหรือดูสบายๆ แล้วเราไปนึกนิมิตเป็นตัวองค์พระขึ้นมาจะนึกได้ง่าย แรกๆอาจไม่ชัดเห็นเหมือนร่างๆเป็นเงาร่างคนก็ไม่เป็นไร ยังไงเราก็เห็นทั้งร่างแล้วเพียงแต่ยังไม่ชัด หากดูไปเรื่อยๆ สบายๆ ไม่ไปเค้นให้ชัดขึ้นมา สักพักรูปพระจะที่เราเห็นตอนที่เราลืมตามองนั้นจะซ้อนทับนิมิตรของเราเองทำให้เห็นชัดมากขึ้น เหมือนกับการซ้อนฟิมล์ภาพนั่นแหละครับ เมื่อใจผ่อนคลายถึงขีดสุด ความสุขจะบังเกิดขึ้นเองอัตโนมัติครับ หุหุ
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#7
โพสต์เมื่อ 13 November 2006 - 01:18 PM
ฝึกเพ่งกสิณเสียอีก ผมเคยจ้ององค์พระอยู่นานและก็ยังไม่สมบูรณ์และ ไม่นานอยู่ดี ( คงเพราะเครียด )
สาธุครับ เดี๋ยวจะลองทำดู
แล้วที่เคยได้ยินว่ามีคนเห็นองค์พระกันหลังจากฝึกไม่นาน เช่น เด็กนั่งสมาธแล้วเห็นองค์พระ
หมายถึงนิมิตรประเภทไหนครับ
#8
โพสต์เมื่อ 13 November 2006 - 03:03 PM
หมายถึงนิมิตรประเภทไหนครับ
อันนี้อยากให้คุณSmilingCat ลองนึกถึงสภาวะและสภาพจิตใจของเด็กสักนิดนะครับ คือเด็กจะมีนิสัยประจำตัวอยู่ คือสนใจและอยากเรียนรู้ ที่สำคัญเด็กนั้นรักสนุกจึงไม่มีความคิดจริงจังมากเหมือนผู้ใหญ่ ด้วยประการเช่นนี้จิตใจเด็กจึงไม่เคร่งเครียดมากจนเกินไปทำให้เรียนรู้และเข้าใจในสิ่งต่างๆได้ง่าย และเมื่อเรียนรู้ได้ง่ายโดยไม่เคร่งเครียดแล้ว เขาก็จำได้ติดใจของเขาตลอด และแน่นอนเมื่อเราให้เขานึกนิมิตเขาย่อมนึกได้อย่างง่ายดาย ส่วนเป็นนิมิตชนิดไหนนั้นผมต้องขอโทษด้วยเพราะจำไม่ได้อ่า หุหุ นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กสามารถเห็นองค์พระหรือดวงแก้วได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่ไงครับ คุณครูไม่ใหญ่ท่านยังเคยมีสอนเลยนะครับว่า อยากเข้าถึงธรรมะภายในได้เร็วต้องทำใจให้อินโนเซ็นท์เหมือนเด็ก นั่นเพราะอะไร เพราะควมคิดของเด็กไม่ซีเรียสเหมือนผู้ใหญ่ไงครับ
คุณSmilingCat อย่าลืมสิครับ คุณครูไม่ใหญ่ท่านสอนไว้ อย่าไปลุ้น เร่ง เพ่ง จ้อง การเพ่งกระสินชื่อก็บอกอยู่แล้วนะครับว่า เพ่ง ดังนั้นจึงไม่ใช่วิธีที่ถูกที่ควรเท่าไหร่ การลุ้น การเร่ง การเพ่ง การจ้อง ก็เหมือนกับการที่เราตอกตะปูยึดติดสติเรากับสิ่งของ แน่นอนอาจจะทำให้เรามีสมาธิจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ แต่หากเราตอกติดจนแน่น ยากที่จะถอนออกมาได้นะครับ ซึ่งผมเองก็เคยลองมาก่อน นั่งเพ่งนั่งจ้อง สุดท้ายไม่ได้เห็นองค์พระเต็มตัวสักที หาศูนย์กลางกลายขององค์พระได้ยากอีกต่างหาก กว่าจะกลับไปนึกถึงองค์พระได้เต็มตัวเหมือนเมื่อก่อน ต้องใช้เวลาให้ตะปูนั้นย่อยสลายหรือผุพังไปเสียก่อน จึงจะค่อยๆมานึกนิมิตสร้างร่างองค์พระใหม่ได้ แนะนำนะครับ หากคุณSmilingCat นึกองค์พระไม่ออกให้ลืมตาขึ้นมามองดูองค์พระประธานแบบสบายๆ ทำใจเหมือนกำลังมองหน้าแฟนหรือคนรัก หรือเหมือนกับมองดูลูกของตัวเองยามเมื่อเกิดมาใหม่ๆ เรามองลูกเราอย่างทะนุทะนอมยังไงให้มองแบบนั้น เหมือนมองสิ่งที่เราชื่นชอบด้วยความรู้สึกที่ชื่นชม แล้วหลับตาลองนึกนิมิตอีกครั้ง เหมือนดูหนังดูทีวี ไม่ต้องถึงขั้นพิจารณารายละเอียดนะครับ หุหุ
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#9
โพสต์เมื่อ 14 November 2006 - 01:09 AM
จะลองทำดูครับ
ขออนุโมทนาบุญด้วย สาธุ
#10
โพสต์เมื่อ 14 November 2006 - 02:58 PM
May I suggest to read this click here ?
I'd also like to quote a saying that "Practise makes perfect"
Sathu Sathu Sathu to all of you



ขอเชิญร่วม อนุโมทนาบุญ งานบุญกฐินพระราชทาน ที่ วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก คลิ๊กที่นี้
Who am I?__>>> CLick Here <<< to see my answer Post # 7
.
รวมภาพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า: คลิ๊กที่นี้คลิ๊กที่นี้ เพื่อ D/L 58 files, 120.99 MB, for easy listening dharmas.
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ D/L 121 really-good-to-read e-books, 295.67 MB.
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ Download โปรแกรม Free Download Manager ช่วย Download ไฟล์ใหญ่ๆ ต่างๆ ฟรีครับฟรี
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ Download โปรแกรม Acrobat Reader V.5
.
The basic knowledge of Buddhism to become a better buddhist Edition 2 คลิ๊กที่นี้
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
-= Hillary Clinton =-.... >>>>>>> CLicK HeRe <<<<<< To Be wisher, To Be smarter, and To Know Better !!!
#11
โพสต์เมื่อ 15 November 2006 - 01:26 PM
มิทราบเป็นที่เครื่องผม หรือ เป็นที่ WEB คนอื่นที่เข้าไปดูมีปัญหาหรือเปล่าครับ
อนุโมทนาบุญ ท่าน Peacfulness ด้วย สาธุ สาธุ สาธุ
ปล. เนตเสียบ่อย ๆ ด้วยกดไม่ค่อยไป ( เป็นบางครั้ง )