เพราะเหตุใดจึงไม่มีภิกษุณีในเมืองไทย
#1
โพสต์เมื่อ 27 November 2006 - 08:52 PM
#2
โพสต์เมื่อ 27 November 2006 - 10:30 PM
(ไม่ว่าที่ใด ๆ ในโลกครับ ไม่ใช่แค่ในไทย)
#3
โพสต์เมื่อ 28 November 2006 - 12:57 AM
So we don-t have any more ภิกษุณี in Thailand
1. อดีตที่ผิดพลาด ลืมให้หมด 2. บาปทุกชนิดไม่ทำเพิ่มเด็ดขาด 3. หมั่นนึกถึงบุญอย่างสม่ำเสมอ
4. บุญทุกบุญทำให้เข้มข้นทับทวี 5. ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย
ขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ _/|\_ สาธุ สาธุ สาธุ
#4
โพสต์เมื่อ 28 November 2006 - 06:09 AM
ผู้หญิงกับการบวช (มี link ย่อยลงไปอีก 4 link ในกระทู้นี้)
http://www.dmc.tv/fo...wtopic=4385&hl=
คิดอย่างไรเมื่อผู้หญิงต้องการบวชเป็นภิกษุณี
http://www.dmc.tv/fo...wtopic=7014&hl=
ทำไมเป็นผู้หญิงถึงบวชไม่ได้ค่ะ ในสมัยพระพุทกาลก็ยังมีภิกษุณี
http://www.dmc.tv/fo...owtopic=409&hl=
#5
โพสต์เมื่อ 28 November 2006 - 08:36 AM
ไม่อยากให้บอกว่าไม่มีเลยค่ะ เพราะ มันแปลได้ว่า เราไม่รู้ว่ามี หรือ เราปิดตา ปิดหูของตัวเอง ไม่รับรู้ และไม่ยอมรับต่างหาก
koonpatt เชื่อว่า การตั้งใจที่จะถือศีล เป็นเรื่องดีทั้งนั้น เพียงแต่ แตกต่างกันไปในเรื่องของรูปแบบเท่านั้นเอง การไม่ยอมรับ และ ปฏิเสธการมีตัวตนของภิกษุณี ผู้ถือศีลเหล่านั้น เราจะมีวิบากกรรมหรือไม่คะ แล้วคนที่โจมตี และให้ร้ายผู้ถือศีลเหล่านั้น จะมีวิบากกรรม หรือไม่ อย่างไรคะ
รบกวนขอคำชี้แนะด้วยนะคะ
แด่
เธอ...ผู้นำแสงสว่างสู่...กลางใจ
#6
โพสต์เมื่อ 28 November 2006 - 10:33 AM
#7
โพสต์เมื่อ 28 November 2006 - 11:20 AM
เรื่องเกี่ยวกับการพยากรณ์อายุกาลแห่งพระศาสนา ๕๐๐๐ ปี
พอจำได้นิดหน่อยว่า
เมื่อศาสนาล่วงไปถึง พ.ศ. ๕๐๐ ภิกษุณีสงฆ์จะหมดไป
เมื่อศาสนาล่วงไปถึง พ.ศ. ๑๐๐๐ พระอรหันต์ปฎิสัมภิทาผู้เหาะเหินเดินอากาศจะหมดสิ้นไป
เมื่อศาสนาล่วงไปถึง พ.ศ. ๒๐๐๐ พระอรหันต์สุกขวิปัสสกะจะหมดสิ้นไป
เมื่อศาสนาล่วงไปถึง พ.ศ. ๓๐๐๐ จะหาพระภิกษุมาประชุมลงฟังพระปาฎิโมกข์ไม่มี
เมื่อศาสนาล่วงไปถึง พ.ศ. ๔๐๐๐ จะหาพระภิกษุผู้ครองไตรจีวรครบ ๓ ผืนไม่มี
เมื่อศาสนาล่วงไปถึง พ.ศ. ๕๐๐๐ เป็นอันสิ้นกาลแห่งศาสนาของพระสมณะโคดมด้วยประการฉะนี้แล
ดังนั้นในปัจจุบัน พ.ศ. ๒๕๔๙ ถ้าเป็นไปตามคำพยากรณ์ ภิกษุณีก็น่าจะสูญสิ้นไปแล้วครับ
อย่าว่าแต่ในเมืองไทยเลยครับ แม้แต่ในที่อื่น ที่ทางพระไม่ให้การยอมรับก็เพราะหลักฐานการสืบสายของภิกษุณียังมีปรากฎไม่ชัดเจน
ส่วนเรื่องการโจมตีกันในเรื่องนี้ ก็คงเป็นเวรกรรมของทั้งฝ่่ายที่โจมตี และฝ่าที่ถูกโจมตี น่าจะเคยโจมตีกันมาแล้วในอดีตชาติ มาเกิดใหม่ก็เลยตามมาว่ากันอีก
#8
โพสต์เมื่อ 28 November 2006 - 11:28 AM
วาจาใดที่กล่าวนอกเหนือจากความตั้งใจของพระพุทธองค์ ลูกขออโหสิกรรมค่ะ
#9
โพสต์เมื่อ 28 November 2006 - 12:32 PM
แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็จะเข้าใจว่า ก็มันทำไม่ได้ มันก็เลยไม่มีไง ง่ายๆ แค่นี้แหละครับ
#10
โพสต์เมื่อ 28 November 2006 - 06:40 PM
#11
โพสต์เมื่อ 29 November 2006 - 09:11 AM
ทีนี้ ปรากฏว่า ภิกษุสงฆ์ได้หมดไปจากอินเดียประมาณหลังพุทธปรินิพพานได้ 500 ปี
ส่วนในลังกา เมื่อโปรตุเกสเข้ามาครอบครอง ก็ได้ไล่รุกจนภิกษุและภิกษุณีในลังกาหมดไปเหมือนกัน
ต่อมาเมื่อศรีลังกาเริ่มฟื้นฟูพระพุทธศาสนาหลังจากศาสนบุคคลหมดสิ้นไปจากลังกา ก็ได้นิมนต์พระจากพม่าบ้าง
จากสยามบ้าง (ตั้งสยามวงศ์ในลังกา) ไปให้การอุปสมบทกุลบุตรในลังกาจนพระพุทธศาสนาค่อยๆ ฟื้นฟูขึ้นมาได้
แต่ปรากฏว่าในประเทศดังกล่าวนั้น ไม่ว่าจะเป็นสยามหรือพม่า ก็ไม่มีสงฆ์ฝ่ายภิกษุณีครับ ฉะนั้นจึงเป็นอันว่า ไม่สามารถ
จะฟื้นฟูภิกษุณีสงฆ์ขึ้นมาได้ เพราะต้องมีการอุปสมบทจากสงฆ์สองฝ่าย
บางคนอาจจะคิดว่า น่าจะอนุโลมให้บวชได้นะ ไม่น่ามีปัญหาอะไรถ้ากุลสตรีเหล่านั้นสามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขต่างๆ ได้
แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ตรงที่บุคคล ปัญหาอยู่ที่ธรรมและวินัย สิ่งใดที่พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงบัญญํติไว้คณะสงฆ์และพระเถระในกาลก่อนท่านจะไม่บัญญัติเพิ่มเติมเด็ดขาดครับ โดยเฉพาะการเกิดขึ้นของภิกษุณีบริษัท พระองค์ระมัดระวังมาก
#12
โพสต์เมื่อ 29 November 2006 - 10:32 AM
#13
โพสต์เมื่อ 29 November 2006 - 01:03 PM
#14
โพสต์เมื่อ 01 December 2006 - 12:15 AM
แต่มองในมุมพระธรรมวินัยก็ลำบากใจแทนครับ
เห็นด้วยกับคุณหัดฝันนะครับ
แม้เป็นชายก็ใช่ง่ายหากคิดจะบวชที่วัดพระธรรมกาย
หมายถึงบวชเป็นพระลูกวัดจริงๆ ตลอดชีวิต
ยังต้องได้รับการทดสอบอย่างยาวนานนะครับ
(ยกเว้นบวชธรรมทายาทหรือบวชระยะสั้น)
เพราะคนที่คิดจะบวชเพื่อสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาจริงๆนั้น
ส่วนตัวผมคิดว่า ต้องเข้าใจพระพุทธศาสนาให้ดีก่อนถึงบวช
ก็เห็นด้วยกับคุณ Ladaratd นะครับในส่วนที่ว่าถ้าหญิงมีใจมั่นจริงกฎ 300 กว่าข้อคงไม่ยากเกินไป
ขอยกตัวอย่าง มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ( คุณยายอาจารย์)
ส่วนตัวผมคิดว่า สำหรับท่านแล้วกฎ 300กว่าของภิกขุณี ท่านถือได้อย่างแน่นอน
แล้วคนที่ได้ผ่านการทดสอบและมีผลการปฏิบัติธรรมที่เห็นชัดอย่างท่าน
ยังไม่สามารถบวชเป็นภิกขุณีได้เลยครับ
ดังนั้นประเด็นคงไม่ใช่แค่ว่าถือศีลได้หรือไม่อย่างเดียว นะครับ..
แต่ถ้าหากจะสามารถให้บวชภิกขุณีได้ในปัจจุบันอย่างถูกต้องไม่ขัดบัญญัติของพระพุทธเจ้าแล้ว
กระผมก็ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ...












