
หนุ่มกตัญญู ดูแลแม่พิการตั้งแต่อายุ 3 ขวบ ครบอายุบวชแทนคุณยังเจียดเวลามาล้างแผลให้แม่ เปิดปูมชีวิตลำเค็ญตั้งแต่เกิด พ่อทิ้งไปไม่เหลียวแล แม่เกิดอุบัติเหตุดินถล่มทับจนพิการ แต่โชคดีลูกชายใฝ่ดี ตั้งใจเรียนและดูแลแม่อย่างดี จนได้รางวัลเยาวชนดีเด่น ปี 2546 แม่หลั่งน้ำตาปลื้มใจได้เกาะชายผ้าเหลืองลูกขึ้นสวรรค์
เรื่องราวดีๆ ของหนุ่มกตัญญู ที่วัยรุ่นปัจจุบันน่าดูไว้เป็บแบบอย่างรายนี้ เปิดเผยเมื่อช่วงเช้าวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวประจำ จ.พิษณุโลก รับแจ้งว่า นายเพชร เขียวดำ อายุ 21 ปี หนุ่มกตัญญู ที่ดูแลแม่พิการมานานกว่า 18 ปี จนได้รับรางวัลเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ ปี 2546 จากสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ได้มาอุปสมบทและจำวัดอยู่วัดหนองแขม หมู่ 4 บ้านหนองแขม ต.ปลักแรด อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก จึงเดินทางไปพบ
เมื่อไปถึงทราบว่า พระเพชร เดินทางกลับบ้าน เลขที่ 113 หมู่ 4 บ้านหนองแขม ซึ่งห่างจากวัดประมาณ 500 เมตร หลังทำวัตรเช้าและปฏิบัติกิจของสงฆ์เสร็จ เพื่อไปดูแลนางพลอย เขียวดำ อายุ 44 ปี มารดาที่ร่างกายพิการ ท่อนล่างเป็นอัมพาตตั้งแต่เอวไปถึงเท้า ไม่สามารถเดินไปมาได้
เมื่อผู้สื่อข่าวตามไปบ้านหลังดังกล่าว พบว่าบ้านเป็นเพิงพักเก่าๆ มีหลังคาพอกันแดดและกันฝนเท่านั้น ส่วนฝาบ้านใช้สังกะสีตีทับไว้โดยรอบ ส่วนในบ้านมีเพียงสิ่งของจำเป็นในการดำรงชีพ ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าใดๆ ทั้งสิ้น อีกทั้งไม่มีห้องสุขา ต้องไปขอใช้สุขาที่บ้านเพื่อนบ้านใกล้กัน ที่คอยให้ความช่วยเหลือมาตลอด ในบ้านพบพระเพชร กำลังทำความสะอาดบาดแผลบริเวณขาให้มารดา ที่เกิดจากแผลกดทับ เพราะไม่สามารถขยับขาได้ และทำอย่างนี้มาตั้งแต่อายุ 3 ขวบ กระทั่งปัจจุบันนานกว่า 18 ปีแล้ว
นางพลอย กล่าวว่า ขณะตั้งครรภ์ได้ประมาณ 5 เดือน พ่อของพระเพชรก็ทอดทิ้งไป ไม่กลับมาเหลียวแลอีกเลย เมื่อคลอดลูกก็เลี้ยงดูตามลำพัง โดยทำงานเป็นกรรมกรรับจ้างที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กระทั่งปี 2532 เกิดอุบัติเหตุดินถล่มทับขณะทำงานอยู่ ทำให้ท่อนล่างตั้งแต่เอวลงไปจนถึงขาเป็นอัมพาต ไม่สามารถเดินได้ ตั้งแต่นั้นมาฐานะของครอบครัวก็ย่ำแย่ลง ต้องพาลูกชายซึ่งขณะนั้นอายุเพียงแค่ 3 ขวบ กลับมาขออาศัยญาติ และได้อาศัยที่สาธารณประโยชน์ปลูกบ้านพักพออยู่ อาศัยคุ้มแดดคุ้มฝนมาจนถึงทุกวันนี้ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ได้รับความช่วยเหลือจากกลุ่มแม่บ้านบ้านหนองแขม ที่รวมกลุ่มทำดอกไม้ประดิษฐ์ นำวัตถุดิบมาให้ช่วยทำ ก็พอมีรายได้ประทังชีวิตไปส่วนหนึ่ง
"รู้สึกภูมิใจในตัวลูกชายอย่างมาก ดูแลตั้งแต่ยังเล็กๆ ไม่เดียงสาจนโตเป็นหนุ่ม ไม่เคยได้ใช้ชีวิตวัยรุ่นเหมือนคนอื่น ทำให้แม่ทุกอย่าง ตั้งแต่เช็ดตัว นวดขา ไม่ให้เป็นแผลกดทับ ทำความสะอาดบ้าน เตรียมอาหารให้กินทุกมื้อ กลางคืนก็จะกางมุ้งพาเข้านอน หลังจากนั้นจึงไปดูแลตัวเอง พออายุครบบวชก็ไปบวช โดยบอกว่าเพื่อทดแทนคุณพ่อแม่ รู้สึกดีใจปลื้มใจเป็นบุญอย่างมากที่ได้เห็นชายผ้าเหลืองลูก" นางพลอยกล่าวทั้งน้ำตา
ด้าน พระเพชร เล่าว่า ตั้งแต่เล็กก็มีหน้าที่ดูแลแม่มาตลอด ครั้งนั้นมีสื่อมวลชนทราบ ได้มาทำเรื่องไปเผยแพร่ ทำให้มีหน่วยงานราชการและผู้มีจิตกุศลมาช่วยเหลือจำนวนมาก ทำให้มีเงินพอส่งตัวเองเรียนจนจบชั้นมัธยมปีที่ 6 และปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 เอกรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จ.พิษณุโลก โดยทำงานในตำแหน่งลูกจ้างชั่วคราวแผนกรับส่งหนังสือ สำนักงานเทศบาลตำบลปลักแรด อ.บางระกำ ควบคู่ไปด้วย ทำให้พอมีรายได้เลี้ยงดูมารดาและเรียนหนังสือต่อ
จนกระทั่งเมื่ออายุครบบวชพระ จึงตัดสินใจลาบวช 7 วัน เพื่อทดแทนคุณให้มารดาและบิดา ที่แม้จะไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลยในชีวิต แต่ระหว่างปฏิบัติศาสนกิจก็ยังต้องกลับไปดูแลมารดาที่บ้านทั้งช่วงเช้าและเย็น จากนั้นจึงกลับมาจำวัดตามปกติ ส่วนความหวังในอนาคตนั้น อยากสร้างบ้านหลังใหม่ให้แม่ได้อยู่อย่างสุขสบาย เพราะลำบากมามากแล้ว