เมื่อถูกคนนินทา/ภัยผู้ค้ำประกัน
คำถามจากทางบ้าน:
ปัจจุบันลูกสาวคนที่สองอายุ ๑๓ ปีแล้ว คราวใดที่เธอถูกเพื่อนนินทา เธอจะทนไม่ได้อย่างมาก แม้จะไม่แสดงออกที่โรงเรียน แต่จะกลับมาระบายและบ่นกับลูกที่บ้านเป็นประจำ ทำไมเขาจึงเป็นเช่นนี้ และจะแก้ไขได้อย่างไรคะ
พี่ชายเป็นคนใจดี รักพ่อแม่และน้องๆ ตั้งใจทำงานหาเงินช่วยแม่ส่งให้น้องๆ เรียน เป็นคนขี้สงสารเห็นใจคน รักเพื่อน แม้เพื่อนคนไหนที่ไม่มีใครคบ พี่ชายก็จะคบด้วย เป็นคนที่ประหยัดกับตัวเอง แต่ชอบช่วยเหลือคนอื่น เพราะอุปนิสัยนี้จึงทำให้พี่ชายถูกเพื่อนขอให้ช่วยค้ำประกันให้ เสร็จแล้วเขาก็หนีไป พี่ชายเลยต้องมารับผิดชอบแทน ถูกฟ้องร้องถึงขั้นล้มละลาย คดียังค้างอยู่จนปัจจุบันนี้
เพราะวิบากกรรมใดทำให้พี่ชายต้องมาเสียทีเพื่อน จนถูกดำเนินคดีถูกฟ้องล้มละลายยืดเยื้อมาถึงปัจจุบันนี้คะ
ที่นี่มีคำตอบ:
ลูกสาวคนที่สองมักจะทนการถูกนินทาไม่ได้ ต้องมาระบายให้ตัวลูกฟังเป็นประจำ เพราะเป็นธรรมชาติของมนุษย์อย่างหนึ่ง กับติดนิสัยทนไม่ได้มาข้ามชาติด้วย
เหตุที่ทำให้ลูกสาวคนที่สองมักจะทนการถูกนินทาไม่ได้
จะแก้ไข ก็ให้รู้จักปล่อยวาง แล้วหมั่นนั่งสมาธิแผ่เมตตาและให้อภัย เพราะคนยังมีกิเลสก็ต้องตกอยู่ในโลกธรรม ๘ ประการ ซึ่งเป็นธรรมประจำโลกหรือเป็นของคู่โลกนี้ เช่น เดี๋ยวมีลาภ เดี๋ยวเสื่อมลาภ เดี๋ยวมียศ เดี๋ยวเสื่อมยศ เดี๋ยวมีคนสรรเสริญ เดี๋ยวมีคนนินทา เดี๋ยวมีสุข เดี๋ยวมีทุกข์ เป็นเรื่องธรรมดา เพราะเราก็ทำมาอย่างนี้ ช่วงไหนที่เราสร้างมหาทานบารมี เราก็มีลาภ ช่วงไหนหยุดทำก็เสื่อมลาภ เพราะไม่มีบุญรองรับสมบัติ ยศก็เช่นเดียวกัน
ดังนั้น อย่าไปเสียเวลาที่จะแก้ไขคนอื่นเลย แก้ไขตนเองดีกว่า มนุษย์นี่เสียเวลามากไปกับการที่จะไปแก้ไขข้อผิดพลาดของเพื่อนมนุษย์ แต่กับตัวเองไม่ค่อยจะแก้ไข ทั้งๆ ที่หากแก้ไขตัวเราเองได้แล้วจะเป็นสุขใจ แต่มนุษย์ไม่ค่อยจะชอบแก้ไขตนเอง ชอบแก้ตัวมากกว่า
เหตุที่ทำให้พี่ชายต้องมาเสียทีเพื่อนจนถูกดำเนินคดีฟ้องล้มละลาย
พี่ชายเป็นคนดีแสนดี แต่ต้องมาเสียทีเพื่อนจนถูกดำเนินคดีฟ้องล้มละลายยืดเยื้อมาจนถึงปัจจุบัน เพราะกรรมในอดีตก็ได้เคยไปขอยืมเงินเขาแล้วไม่คืน โดยให้เพื่อนไปกู้เงินแทนตัวจากผู้อื่น แล้วตัวเองก็ไม่ยอมใช้คืน จนกระทั่งเพื่อนต้องไปรับผิดชอบแทน มาส่งผล ไม่สมกับกรรมดีในปัจจุบัน แต่สมกับกรรมดังกล่าวในอดีตที่ได้ทำ มาส่งผล
โดย คุณครูไม่ใหญ่
๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๐