แม่ไปดำน้ำ...เป็นเจ้าหญิงนิทรา, พ่อตายไม่รู้สาเหตุ

Case study

แม่ไปดำน้ำ...เป็นเจ้าหญิงนิทรา,

พ่อตายไม่รู้สาเหตุ

เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC

 

กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง

 

    คุณพ่อ และ คุณแม่ มีบุตรทั้งหมด 4 คน ท่านทั้งสองเป็นคนใจบุญ ชอบทำบุญทำทาน ไม่ว่าจะเป็นบุญเล็กบุญน้อยท่านก็ทำหมด  ครอบครัวของผมทำธุรกิจเมล็ดพลาสติก ซึ่งคุณพ่อเป็นคนดูแลกิจการ และธุรกิจก็ไปได้เรื่อยๆ เนื่องจากคุณพ่อทำงานเก่งและหมุนเงินเก่ง

 

    แต่แล้วความราบรื่นของครอบครัวก็เปลี่ยนแปลงไป เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ.2541ตรงกับวันตรุษจีน คุณพ่อกับคุณแม่และญาติๆฝ่ายคุณพ่อ ได้ไปเที่ยวกับบริษัททัวร์ ที่เกาะกูด จังหวัดตราด คุณพ่อเล่าให้ฟังว่า เช้าวันที่ 30 มีโปรแกรมไปหัดดำน้ำดูปะการัง มีการสาธิตการใช้หน้ากากดำน้ำ และให้ทุกคนทำตาม โดยมีการสาธิตบริเวณชายหาดความลึกประมาณแค่เอว ในช่วงที่ทุกคนกำลังก้มลงดูผิวน้ำอยู่นั้น คุณแม่ได้ก้มลงดูน้ำ ท่านได้ขาดอากาศหายใจ และได้จมลงไปโดยไม่มีใครเห็น จนกระทั่งคุณพ่อได้เห็นว่า ร่างของคุณแม่ได้ลอยอยู่อย่างผิดสังเกต และได้ช่วยคุณแม่ขึ้นจากน้ำ ปั๊มหัวใจให้ฟื้น ก็ไม่เป็นผล เรือเร็วได้นำร่างของคุณแม่ไปขึ้นฝั่งที่จังหวัดตราด โดยมีคุณพ่อนั่งไปด้วย หมอบอกกับคุณพ่อว่า “โอกาสน้อยมากที่จะฟื้น” คุณพ่อได้ตัดสินใจเอาเฮลิคอปเตอร์ มารับคุณแม่ไปส่งที่โรงพยาบาลกรุงเทพฯ หมอบอกว่า “สมองของคุณแม่ตายบางส่วน” คุณแม่พูดไม่ได้ ต้องเจาะคอ ทานอาหารเหลวทางสายยางที่จมูก ไม่รับรู้อะไร ขยับแขนขาไม่ได้ คุณแม่นอนป่วยเป็นเจ้าหญิงนิทราจนถึงปัจจุบันนี้ เป็นเวลา 6 ปีแล้ว

 

    หลังจากวันที่คุณแม่เป็นเจ้าหญิงนิทรามาประมาณ 10 เดือน ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2541 คุณพ่อเริ่มมีอาการเพ้อ พูดคนเดียว ญาติได้พาคุณพ่อไปส่งโรงพยาบาลธนบุรี ตรวจร่างกายแล้วก็ไม่มีอะไรผิดปกติ มีเพียงอาการเจ็บคอ กินอะไรไม่ได้ เจ็บหัวเข่าข้างขวา โดยไม่มีสาเหตุแน่ชัด วันหนึ่ง ผมได้อยู่เฝ้าคุณพ่อที่โรงพยาบาล เวลาประมาณ 4-5 ทุ่ม คุณพ่อเริ่มมีอาการเพ้อมาก พูดจาวกวน ตามองเพดาน ท่านพูดกับใครไม่ทราบ ไม่ยอมนอน พยาบาลได้ให้ยานอนหลับทาน 1 เม็ด ในเวลาประมาณเที่ยงคืน ทานแล้วคุณพ่อก็ยังไม่หลับ ยังคงเพ้อหนักขึ้น ลุกจากเตียงเดินรอบห้องพูดเสียงดังจนผมคุมท่านไม่ไหว พยาบาลคนเดิมได้นำยานอนหลับมาฉีดให้ท่านอีก 1 เข็ม ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณตี 5 คุณพ่อก็หลับไป ตอนเช้าพยาบาลคนเดิมได้มาปลุกผมให้ตื่นดูคุณพ่อ ตอนนั้นผมตกใจมาก ตัวของคุณพ่อแข็ง เย็น เสียชีวิตไปแล้ว โดยไม่รู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุอะไร ผมได้เสียคุณพ่อไปในวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ.2541

 

    ในปีนั้นทั้งปี มีแต่เรื่องร้ายๆ คุณแม่นอนป่วยเป็นเจ้าหญิงนิทรา คุณพ่อเสียชีวิต และพอดีกับเวลานั้นเป็นช่วงค่าเงินบาทลอยตัว ทำให้ธุรกิจซึ่งไม่มีคุณพ่อดูแลต้องกระเทือนไปด้วย ตอนนั้นผมอายุได้ 25ปี เรียนอยู่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปี 3 และน้องๆก็ยังเรียนหนังสือไม่จบ มันเป็นความสูญเสียที่หนักสำหรับผม และน้องๆอีก 3 คน ผมและน้องๆทุกคนต้องช่วยกันดูแลกิจการที่บ้านต่อจากคุณพ่อและคุณแม่ พร้อมกับต้องรับภาระหนี้สิน เป็นเงินเบิกเกินบัญชีธนาคาร และเงินที่คุณพ่อไปเล่นแชร์ไว้เป็นสิบๆวง

 

    ผม จำได้ตอนสมัยเรียนอยู่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้มี เพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่ง เป็นผู้หญิง เธอนับถือเจ้าแม่กวนอิม และสามารถทรงเจ้าได้ด้วย โดยเวลาทรงก็จะมี “เซียวเหลี่ยงนึ้ง” มาเข้า และหากใครถามคำถามอะไร เธอจะสามารถตอบได้หมด และตอบถูกด้วย เด็กผู้หญิงคนนี้ได้ชวนผมและเพื่อนๆรวม 4คน ไปช่วยกันสร้างตำหนักของเจ้าแม่กวนอิม ที่ปากช่อง จังหวัดโคราช ซึ่งน้องคนนี้ต้องการคน 8 คน เพื่อไปช่วยกันสร้างตำหนักดังกล่าว โดยการมาร่วมกันนั่งสมาธิ(Meditation) และจัดหาทุนในการก่อสร้าง แต่หาได้เพียง 4 คนเท่านั้น คือ ผมและเพื่อนอีก 3 คนที่เรียนด้วยกัน และในครั้งนี้ได้มีการสาบานร่วมกันโดยมีเด็กผู้หญิงคนนี้เป็นคนนำว่า “หากว่าใครปลีกตัวแยกออกจากกลุ่มก็ขอให้มีอันเป็นไปต่างๆนานา” ต่อมาแม่ของเพื่อนหนึ่งในนั้น ป่วยเป็นโรคมะเร็ง แต่ก็หาย เพราะเด็กคนนี้ได้ใช้พลังจิตช่วยไว้ แม่ของเพื่อนอีกคนหนึ่ง เสียชีวิตจากการเป็นมะเร็งปากมดลูก ส่วนผมเองนั้นถือว่าเจอสภาวะที่หนักที่สุด

 

ผมขอกราบเรียนถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อดังนี้ครับ

 

1.ก่อนที่จะเสียชีวิต ทำไมคุณพ่อจึงมีอาการเพ้อ คุณพ่อโดนของใช่หรือไม่ครับ คุณพ่อเสียชีวิตด้วยสาเหตุใดครับ

 

2.ผมมีโอกาสได้บวชหน้าไฟให้กับคุณพ่อเป็นเวลา 2 เดือน คุณพ่อได้รับบุญที่ผมบวชให้หรือไม่ครับ และท่านได้ไปอยู่ที่ไหน มีความเป็นอยู่อย่างไร ผมจะสามารถช่วยคุณพ่อได้อย่างไร เพื่อจะให้ท่านได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นครับ

 

3.คุณพ่อกับคุณแม่ได้ทำกรรมอะไรร่วมกันมาหรือไม่ หรือว่าเป็นกรรมของแต่ละคนครับ คุณแม่มีวิบากกรรมอะไรครับ และผมควรทำอย่างไรต่อไปดี จึงจะช่วยให้คุณแม่มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นทั้งทางกายและทางใจ และควรทำบุญอะไรให้ท่าน จึงจะหายเป็นปกติได้ครับ

 

4.กรรมจากการสาบาน ในการสร้างตำหนักของเจ้าแม่กวนอิมนั้น มีผลอะไรกับผมบ้างหรือไม่ครับ

 

5.ผมควรดำรงชีวิตอย่างไร จึงจะสามารถที่จะดูแลกิจการของคุณพ่อคุณแม่ให้มีความเจริญรุ่งเรือง และสามารถดูแลน้องๆให้มีความเป็นอยู่อย่างมีความสุขเหมือนสมัยที่คุณพ่อยังมีชีวิตอยู่ และคุณแม่ยังเป็นปกติครับ

 

กราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่ออย่างสูง

 

ฝันในฝัน

หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที

แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากัน นะจ๊ะ

 

1.ก่อนเสียชีวิต คุณพ่อไม่ได้เพ้อ แต่เป็นบุพกรรรมของท่าน ที่เคยมอมเหล้าเพื่อน

 

 

• เรื่องมีอยู่ว่า ในอดีตท่านเป็นพ่อค้า ได้ทำการลงทุนร่วมกับเพื่อนคนหนึ่ง

 

 

• ซึ่งต่อมาคุณพ่อได้คิดที่จะฮุบกิจการทั้งหมดเป็นของตนเอง  จึงวางแผนที่จะจัดการเก็บเพื่อน โดยมอมเหล้าเพื่อนที่บ้านของตัวเอง จนเพื่อนหมดสติ

 

 

• แล้วจึงเอาผ้ามาปิดปาก ปิดจมูก และรัดคอ จนเพื่อนขาดใจตาย เป็นการฆ่าอย่างแนบเนียน

 

 

• ด้วยวิบากกรรมนี้ ก่อนที่คุณพ่อจะเสียชีวิตจึงขาดสติและเพ้อ ท่านเสียชีวิต เพราะหัวใจวาย

 

 

2.คุณพ่อตายแล้ว ในช่วงแรกก็คล้ายๆคนขาดสติ กายละเอียดเดินเรื่อยเปื่อยอย่างไร้จุดหมาย บุญจึงยังไม่ได้ช่อง

 

 

• กระทั่งได้บุญจากการบวชของลูก จึงทำให้กรรมค่อยๆคลาย แล้วได้สติกลับคืนมา กอปรกับบุญของท่านได้ช่อง จึงได้ไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เฟส 3 เป็นเทพบุตร มีวิมานทอง
• ภายหลังก็ได้รับบุญทุกๆบุญที่อุทิศไปให้ ทำให้ท่านมีสภาพดีขึ้น
• ให้ทำบุญไปให้ท่านเรื่อยๆทุกบุญ ท่านก็จะยิ่งมีสภาพดีขึ้นไปอีก

 

 

3.คุณแม่ มีบุพกรรมในอดีต ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับคุณพ่อ เป็นกรรมส่วนตัวของท่าน เรื่องมีอยู่ว่า ในชาตินั้น ท่านเกิดเป็นผู้ชาย ได้มีเรื่องระหองระแหงกับภรรยา

 

 

• วันหนึ่ง ท่านไปอาบน้ำกับภรรยา ขณะที่อาบน้ำ ได้มีปากเสียงกัน ตัวท่านโกรธ จึงกดภรรยาให้จมลงไปในน้ำ โดยไม่ได้มีเจตนาที่จะฆ่า ต้องการแค่สั่งสอนเท่านั้น

 

 

• แต่ปรากฏว่ากดนานเกินไป ทำให้ภรรยาขาดอากาศ

 

 

• แล้วก็กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา ซึ่งตัวเองก็เสียใจมาก เพราะไม่ได้มีเจตนาจะฆ่าให้ตาย จึงดูแลภรรยาเป็นอย่างดี กระทั่งภรรยาเสียชีวิต

 

 

• ด้วยวิบากกรรมนี้  ชาตินี้จึงมีอาการคล้ายๆภรรยาในชาตินั้น  คือ อยู่ๆก็เกิดหน้ามืดในน้ำ เพราะกรรมตามมาทัน แล้วก็ได้กลายเป็นเจ้าหญิงนิทราจนถึงปัจจุบันนี้

 

 

• ลูกก็ควรทำใจให้สงบ  แล้วก็คิดว่า  มันเป็นวิบากกรรมของท่านที่ท่านทำมาเอง
• และก็หมั่นสั่งสมบุญทุกบุญ แล้วอธิษฐานจิตให้ท่าน หนักก็จะเป็นเบา 
• แต่ชาตินี้คงไม่หาย ถ้าท่านหมดอายุขัยก็ให้ท่านไปดี
• ในภาวะอย่างนี้ ตอนนี้ลูกก็คงทำได้แค่นี้

 

 

4.การที่แม่ของเพื่อนแต่ละคน  เจ็บไข้ได้ป่วย และตายไป ก็ไม่ได้เกี่ยวกับการสาบานกัน ระหว่างเพื่อนๆทุกคนกับน้องผู้หญิงที่เป็นร่างทรงของเจ้าแม่กวนอิม หรือ เซียวเหลี่ยงนึ้ง เพราะแต่ละคนก็มีกรรมเป็นของตัวเอง ตัวลูกเองก็เป็นเช่นเดียวกัน ที่มาอยู่ในสภาวะลำบาก  ต้องรับผิดชอบสูงในขณะนี้  ก็เพราะกรรมส่วนตัวของลูกเอง

 

 

• ในอดีตลูกเป็นคนเก่ง ซึ่งเกิดในครอบครัวนักธุรกิจซึ่งมีความเชื่อมั่นในตนเองสูงมาก

 

 

• เวลาพ่อแม่ในชาตินั้นแนะนำ อะไรก็ตามด้วยความปรารถนาดี  ก็มักจะบอกกับท่านทั้งสองว่า  รู้แล้ว  พ่อกับแม่ไม่ต้องมายุ่งหรอก  เพราะผมก็โตแล้ว  สามารถรับผิดชอบงานได้ไม่ต้องมายุ่ง  มาเกี่ยว  แม้ไม่มีพ่อแม่ผมก็สามารถทำงานได้

 

 

• พูดบ่อยๆ จึงทำให้พ่อแม่ เสียใจ

 

 

• ด้วยวจีกรรมนี้  กอปรกับวิบากกรรมของคุณพ่อคุณแม่ในชาตินี้ตามมาทัน จึงต้องมาเหนื่อยสักหน่อย

 

 

5.ให้ลูกอดทน ด้วยกำลังใจอันสูงส่ง และก็ใช้ดวงปัญญาแก้ไขปัญหา พร้อมกับอยู่ในบุญให้มากๆ อีกทั้งต้องมีความกตัญญูด้วย ดูแลคุณแม่ที่ยังมีชีวิตอยู่ให้ดี ก็จะค่อยๆดีขึ้นไปเรื่อยๆ

 

http://goo.gl/j3gWa