Mobile VersionCase studyแม่พาไปขายตัวเรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMCกราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง
ลูก เป็นชาวจังหวัดนครสวรรค์ เตี่ย กับ แม่ มีลูกทั้งหมด 7 คน ลูกเป็นคนที่ 5 ตั้งแต่จำความได้ ลูกเห็นว่าเตี่ยเป็นคนขยัน ทำมาหากินเลี้ยงครอบครัวด้วยการทำลอดช่องสิงคโปร์ขาย ไม่เคยเห็นเตี่ย ทำเรื่องไม่ดีเลย แต่แม่มักจะด่าว่าเตี่ยเป็นประจำ เตี่ยป่วยเป็นโรคมะเร็งในกระดูก เสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ.2516 อายุเพียง 53 ปี แม่เป็นคนชอบเล่นการพนัน และพูดโกหกเก่งมาก ตอน พี่ชายคนโต บวชพระครั้งแรก แม่และลูกได้ตามไปเป็นโยมอุปัฏฐากระยะหนึ่งเมื่อลูกมีอายุ 14 ปี ได้ทำงานเป็นกระเป๋ารถเมล์ และรู้จักกับ ผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นแฟนของคนขับรถเมล์คันที่ลูกเป็นกระเป๋ารถอยู่นั่นเอง วันหนึ่ง เขาทะเลาะกับแฟน ผู้หญิงคนนี้ก็มาหาลูกที่บ้าน แม่ของลูกจึงพาผู้หญิงคนนี้และลูกไปทำงานที่ซ่อง แต่ยังไม่ทันได้ทำงาน ทางครอบครัวของผู้หญิงคนดังกล่าว ได้แจ้งความจับแม่ ข้อหาหลอกลวง แม่ให้ลูกรับความผิดแทน ทำให้ลูกต้องอยู่ในห้องขัง อยู่ได้สี่วัน แม่ก็พาพี่สาวคนนั้น ไปบอกกับตำรวจว่า เธอไม่ได้ถูกหลอก แต่เต็มใจหนีมากับลูกเอง ลูกจึงถูกปล่อยตัวออกมาเมื่อออกจากห้องขัง ชายสองคนที่แม่และลูกเคยรู้จัก เมื่อครั้งที่พี่ชายคนโตบวชได้มาตามหาแม่และลูกถึงที่บ้าน แม่เปิดโอกาสให้เขาทั้งสองคน ขึ้นไปหาลูกถึงบนบ้าน เพื่อบังคับขืนใจลูก แต่ลูกไม่ยอม จึงหนีออกจากบ้าน ไปอยู่กับพี่สาว ที่จังหวัดขอนแก่นจากนั้นไม่นาน แม่ก็ไปตามลูกกลับมาอยู่กับแม่ที่จังหวัดนครสวรรค์อีก โดยที่ลูกมีข้อแม้ว่า “จะไม่ยอมแต่งงานกับผู้ชายคนนั้น (หนึ่งในสองคนที่เคยจะข่มขืนลูก) เป็นอันขาด” พอกลับมาอยู่บ้านได้สักพัก แม่ก็พาลูกไปขายบริการกับเสี่ยคนหนึ่ง ลูกจึงต้องเสียความบริสุทธิ์ ด้วยราคา 1,000 บาท จากนั้นแม่ ได้เริ่มพาลูก ออกให้บริการตามสถานบริการหลายครั้ง หลายจังหวัด ครั้งละหลายๆวัน ลูกต้องทำงานขายบริการใช้หนี้สินที่เกิดจากการพนันที่แม่ก่อไว้แม้ใช้หนี้หมดแล้ว แม่ก็ส่งลูกไปขายตัวอีก ลูกต้องรับแขกวันละ หลายคน มันเป็นความทุกข์ใจของลูกเสมอ แต่ลูกก็ไม่รู้ว่าจะไปทำงานอะไร เพื่อใช้หนี้ให้แม่ได้ เพราะตนเองมีความรู้น้อย อีกทั้งทุกคนในครอบครัว ก็รอรับเงินจากการทำงานของลูกทั้งนั้น และลูกก็คิดว่ามันเป็นทางเดียวที่ลูกจะหาเงินให้แม่ เพื่อทดแทนบุญคุณของแม่ได้ลูกทำงานขายบริการแบบอิสระอยู่ระยะหนึ่ง พี่สาว ก็โทรศัพท์มาชวนไปทำงานเป็น Partner (ผู้หญิงทำงานตามสถานบันเทิง เป็นคู่เต้น คู่กิน และ ถ้าถูกใจก็เป็นคู่นอนด้วย) อยู่กับพี่สาวที่มีครอบครัวแล้ว ในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งพี่สาวก็ต้องทำงานนี้ด้วย เพื่อเลี้ยงครอบครัว ตอนนั้นลูกมีอายุได้ 20 ปี และที่ทำงานนี้ ลูกได้พบกับ แฟนคนแรก เป็นช่างไฟฟ้า ทำงานที่เดียวกับลูก ตอนนั้นลูกคิดแต่เพียงว่า ต้องหาหลักให้กับตัวเอง และครอบครัว และเลี้ยงน้องกับแม่ แต่อยู่ได้ 2 ปี ก็แยกทางกัน ลูกจึงได้มีแฟนใหม่ แฟนคนที่สอง เป็นลูกชายคนจีนฐานะดี แต่ทางพ่อแม่ของเขาไม่ชอบลูก จึงอยู่ด้วยกันเพียง 3ปี พอแยกทางกับเขา ลูกเสียใจมากคิดฆ่าตัวตาย และทำร้ายตัวเองอยู่หลายครั้ง แต่ก็รอดตายมาได้ โดยมีแผลเป็น ติดตัวมาจนถึงปัจจุบันจากนั้น ลูกก็ตัดสินใจเข้ามาทำงานที่กรุงเทพฯ ทำให้เจอกับ แฟนคนที่สาม เป็นเจ้าของกิจการ เป็นฝรั่ง ลูกอยู่กับเขาได้ 4 ปี ก็เลิกกัน ก่อนที่เขาจะบอกเลิกกับลูก เขาได้พาลูกไปปฏิบัติธรรม รักษาศีลที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดนครสวรรค์ จากการปฏิบัติธรรมครั้งนี้ ทำให้ลูกทำใจได้ เมื่อเขาขอแยกทางกับลูกลูกกลับไปบ้านที่นครสวรรค์ เพื่อทำงานอาชีพเดิมอีกครั้ง ลูกเป็นคู่นอนของนายทหารหลายคน จนกระทั่งได้เป็นเมียน้อยของผู้จัดการศูนย์บริการรถแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี ผู้ชายคนนี้มักจะทำร้ายร่างกายลูกตลอดเวลา จนลูกทนอยู่ด้วยไม่ได้ เมื่อมีคนชวนไปทำงานที่สิงคโปร์ ลูกจึงขอแยกทางกับเขาและเดินทางมาทำงานที่สิงคโปร์ลูกทำงานเป็นนางทางโทรศัพท์ (ผู้หญิงบริการ ที่แขกจะโทรศัพท์ติดต่อมา แล้วจะมีรถพาผู้หญิงไปให้แขกเลือกตัว ถ้าถูกใจก็จะใช้บริการ) มีทั้งบริการแบบชั่วคราวและค้างคืนทุกครั้งที่กลับเมืองไทย ลูกต้องตามใช้หนี้ที่แม่ก่อขึ้นทุกครั้ง เพราะแม่ติดการพนันมาก ลูกอยู่สิงคโปร์ได้ 5 ปี ก็พบกับ สามีคนปัจจุบัน ซึ่งเป็นชาวญี่ปุ่นที่ไปทำงานระยะสั้นที่สิงคโปร์ เขาเป็นแขกประจำ ของสถานบริการที่ลูกทำงานอยู่ หลังจากที่เขาเจอลูกครั้งแรก ตั้งแต่นั้นมา เขาก็กลายเป็นแขกประจำของลูกทันที และจองตัวลูกคนเดียวทุกครั้ง จนกระทั่งลูกใช้หนี้ส่วนตัวกับเถ้าแก่หมดแล้ว เขาจึงชวนลูกมาอยู่กับเขาที่บ้านในสิงคโปร์ โดยไม่ต้องกลับไปขายบริการอีก จนกระทั่งเขาต้องกลับญี่ปุ่น เขาให้เงินลูกจำนวน 1 แสนบาท ซึ่งเป็นเงินจำนวนมากที่สุดในชีวิตที่เคยได้รับ แต่ลูกไม่สนใจเงินของเขาเลย เพราะลูกรักเขาซะแล้ว ในตอนแรกเขาคิดว่า ลูกอยู่กับเขาเพราะเงินของเขามากกว่า พอเขาเห็นลูกไม่สนใจเงินที่เขาให้ เขาจึงเดินเรื่องขอจดทะเบียนสมรสกับลูกที่เมืองไทย และพาลูกมาอยู่ที่ญี่ปุ่นกับเขาลูกมาถึงญี่ปุ่นพร้อมกับสามีในวันที่ 18 กันยายน พ.ศ.2539 เมื่อมาอยู่ ที่ญี่ปุ่นทั้งลูกและสามีก็ยังคงสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า และเล่นการพนัน ทุกชนิดเป็นปกติ จนกระทั่ง ลูกได้มีโอกาสพบกับกัลยาณมิตรท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าของร้านอาหารไทยในญี่ปุ่น เธอได้ชักชวนลูกให้มาร่วมบุญ ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรม ตั้งแต่นั้นมา ลูกและสามีก็ได้มาร่วมบุญใหญ่ ที่ศูนย์ฯเป็นประจำ ทำให้ได้มีโอกาสอ่าน หนังสือจากความทรงจำ ของคุณป้าถวิล จึงเกิดแรงบันดาลใจให้ลูก เลิกดื่มเหล้าได้โดยเด็ดขาดปี พ.ศ.2540 ลูกได้เดินทางมาสร้างองค์พระ ที่วัดพระธรรมกาย ที่เมืองไทย ปี พ.ศ.2544 ลูกได้มีโอกาสฟังประวัติของคุณยาย ทำให้ลูกรู้สึกเคารพ และศรัทธาในตัวคุณยายมาก จึงตัดสินใจหักดิบเลิกสูบบุหรี่ ซึ่งติดมานานกว่า 28 ปีได้สำเร็จ ด้วยความอดทนอย่างมาก ช่วงแรกลูกมาศูนย์ฯเดือนละครั้งสองครั้ง ระยะหลังๆก็มาบ่อยขึ้น และได้นำแผ่น MP3 CD ไปเปิดฟังและดู แล้วก็จะโทรกลับไปพูดบอกให้แม่ฟัง และสอนแม่ให้อนุโมทนาบุญในทุกๆบุญที่ลูกได้ทำ แม่ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร แต่ลูกก็ไม่ละความพยายาม จะโทรพูดบอกบุญแม่เกือบทุกวัน บางทีก็ขอให้พระอาจารย์ที่ศูนย์ฯ ช่วยพูดอธิบายให้แม่เข้าใจขึ้นบ้าง แล้วแม่ก็พูด อนุโมทนาบุญ และสาธุเป็นจนกระทั่ง มีจานดาวธรรมมาถึงญี่ปุ่น ลูกก็จองเป็นคนแรก ดูแล้วก็คิดถึงแม่ พอกลับไปเมืองไทย ก็รีบติดให้แม่ทันที แม่จะดูจานดาวธรรม ตั้งแต่เช้าจนมืดใครจะเปลี่ยนช่องไม่ได้เลย พี่ชายที่พิการ ตอนแรก พอเปิดจานดาวธรรมจะเดินไปข้างบ้านแล้วก็จะคอยเปลี่ยนช่อง พอระยะหลังๆกลับมานั่งดูด้วย แล้วก็ไม่เปลี่ยนช่องเลย พนมมือไหว้และสาธุเป็นอีกด้วย พี่ชายคนนี้ของลูก ทั้งดื่มเหล้า สูบบุหรี่ และ เล่นการพนัน ที่พิการก็เพราะ เมาสุราเกิดอุบัติเหตุปัจจุบันนี้ ลูกได้มาปฏิบัติธรรม และร่วมบุญทุกๆบุญที่หลวงพ่อบอกอย่างเต็มกำลัง สามีลูกเองก็ไม่เคยห้ามเลย ยังร่วมบุญอีกด้วย ลูกได้พยายามช่วยปิดอบายให้แม่ ตอนนี้แม่อายุได้ 75 ปีแล้วค่ะ เดินไม่ได้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย แต่ตั้งแต่ดูจานดาวธรรม แม่เปลี่ยนไปมาก อารมณ์ดี อารมณ์เดียว อารมณ์สบาย ไม่โกรธง่าย เหมือนเมื่อก่อน เข้าใจเรื่องกฎแห่งกรรมและการทำบุญมากขึ้น แต่แม่และตัวลูกเอง ก็ยังมีเรื่องในอดีตที่ยังคิดติดค้างอยู่ในใจจึงอยากจะขอความเมตตาของหลวงพ่อช่วยฝันในฝันเรื่องของลูกให้ด้วย1. เตี่ยมีบุพกรรมอะไรจึงเป็นมะเร็งในกระดูก เสียชีวิตแล้วไปไหน และลูกควรทำบุญอะไรไปให้ เตี่ยจึงจะได้รับคะ2. เพราะเหตุใดในจำนวนลูกสาว 3 คน แม่จึงนำลูกไปขายเพียงคนเดียว และแม่จะได้รับกรรมอย่างใดหรือเปล่า3. ด้วยกรรมอันใด ทำให้ลูกยินยอมเอาตัวเองเข้าแลก เพื่อที่จะเอาเงินมาให้แม่ และการที่ลูกตอบแทนพระคุณแม่ด้วยการให้เงินเพียงอย่างเดียว ลูกจะได้บุญมากเท่ากับน้องสาวที่คอยปรนนิบัติแม่ไหมคะ4. ทำไมลูกถึงต้องดูแลเลี้ยงดูทั้งแม่ พี่ชาย และน้องสาว รวมถึง หลานด้วย เป็นเพราะมีบุพกรรมใดร่วมกันมาคะ5. น้องสาวที่ดูแลแม่ในปัจจุบัน มีอาการปวดศีรษะมาก มีบุพกรรมอย่างไร ทำอย่างไรจึงจะหายจากอาการนี้ได้คะ6. ลูกได้นำเงินจากการขายบริการ มาจัดงานบวชให้น้องชาย และหลานชาย ลูกจะได้บุญอย่างไรบ้างคะ7. กรรมใดที่ทำให้ลูกและสามีได้มาพบกัน และสามีได้เลือกลูก เป็นคู่ชีวิตคะ8. ลูกและสามี เคยร่วมบุญกับหมู่คณะมาก่อนหรือไม่ และลูกกับสามี จะมีสิทธิ์ไปดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ ไหมคะ เพราะเงินทั้งหมด ที่ลูกทำบุญนั้น ก็เป็นเงินที่สามีให้มา เพราะตั้งแต่แต่งงานมา สามีของลูก ไม่เคยให้ลูกต้องไปทำงานนอกบ้านอีกเลย9. พ่อของสามีตกเขาตาย ตอนอายุ 72 ปี เป็นด้วยบุพกรรมใด ตอนนี้อยู่ที่ไหน บุญที่ลูกและสามีทำไปให้ ท่านได้รับหรือเปล่าคะฝันในฝันหลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ทีแล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากัน นะจ๊ะ1. เตี่ยเป็นมะเร็ง เพราะกรรมในอดีต เป็นข้าราชการชอบรับสินบนและฉ้อราษฎร์บังหลวง รวมกับกรรมปาณาติบาต ฆ่าสัตว์ทำอาหาร
http://goo.gl/KYg3l
พิมพ์บทความนี้
