แม่ไปสวรรค์ไม่ถูก

Case study

แม่ไปสวรรค์ไม่ถูก

เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC

 

 

กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงค่ะ

 

    ลูกเข้าวัดพระธรรมกาย และทำบุญทุกบุญมาอย่างตลอดต่อเนื่อง ตักบาตรทุกวันไม่เคยขาดแม้แต่วันเดียวถึง 23 ปีแล้วค่ะ วันนี้ลูกขอส่ง Case Study เพราะคิดว่าเรื่องราวของลูก น่าจะเป็นประโยชน์ต่อนักเรียนโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา เพื่อจะได้สามารถตอบแทนพระคุณบุพการี ได้อย่างถูกหลักวิชชา ในขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ค่ะ

 

    คุณแม่ของลูก เป็นคนจีนแท้ๆที่มีความเข้าใจในเรื่องพุทธศาสนา และเรื่องการทำบุญน้อยมาก คุณแม่ทำการเชือดไก่ไหว้เจ้าเป็นประจำ รวมถึงการฆ่าสัตว์ทำอาหารด้วยตัวเองเป็นจำนวนมาก ท่านทำโดยไม่รู้ว่าสิ่งนี้เป็นบาป ครั้นเมื่ออายุมากขึ้น คุณแม่หกล้มเนื่องจากน้ำหนักตัวมาก จึงเดินไม่ค่อยได้ ดังนั้นท่านจึงไม่ค่อยชอบเดิน และพอใจในการอยู่ในห้องของท่านเฉยๆ และก็ไม่ได้มาวัดด้วย ลูกจึงได้แต่มอบเงินใส่มือให้คุณแม่ และพูดว่า “เงินนี้ลูกให้แม่ เป็นเงินของแม่แล้วนะ ให้แม่ทำบุญ” และให้ท่านอธิษฐาน ซึ่งลูกได้ทำอย่างนี้มาตลอดในทุกครั้งและทุกบุญ และได้นำบุญไปให้ท่านอนุโมทนาที่บ้านตลอดอย่างไม่เคยลืมเลย ซึ่งบางครั้ง คุณแม่ก็เอาเงินของท่านเองทำบุญบ้าง แต่ก็ไม่มาก เพราะดูเหมือนท่านยังไม่ค่อยเข้าใจ แต่เมื่อลูกพูดให้ท่านทำบุญท่านก็เต็มใจทำตามทุกครั้ง เพราะคุณแม่รักลูกมาก

 

    ลูกเห็นว่าคุณแม่ต้องอยู่ในห้องของท่านเฉยๆ จึงติดจานดาวธรรมให้คุณแม่ดูเพื่อให้ท่านเข้าใจเรื่องบุญมากขึ้น แต่เนื่องจากท่านมีพื้นฐานความเข้าใจเรื่องบุญน้อยมาก ดังนั้นการสร้างความเข้าใจในเรื่องบุญจึงต้องอาศัยระยะเวลาที่มากกว่าคนอื่น แต่อนิจจา เวลาชีวิตของคุณแม่ไม่ได้มีมากเพียงพอ ที่จะอยู่ทำความเข้าใจในเรื่องบุญได้อย่างถูกต้อง ถูกหลักวิชชาทั้งหมด ก่อนที่ท่านจะจากโลกนี้ไป  เพราะคุณแม่เสียชีวิตอย่างกะทันหัน โดยนอนหลับไปเฉยๆ ในเช้าวันที่ 16 กันยายน พ.ศ.2547 พยาบาลแจ้งว่า เป็นเพราะหัวใจล้มเหลว

 

    ลูกจึงไม่ได้ตั้งตัวเลย และเป็นกังวลมากกลัวว่าท่านจะไปไม่ดี เพราะหลักวิชชาเกี่ยวกับ การใช้ชีวิตหลังความตาย ท่านยังไม่รู้ และพี่น้องของลูกบอกตรงกันว่า หลังจากที่ท่านตายแล้ว เหมือนคุณแม่ยังไม่ไปไหน ยังวนเวียนอยู่ในบ้าน เพราะยังได้กลิ่นแป้งที่คุณแม่ใช้ ซึ่งลูกก็สัมผัสได้เช่นกัน จึงทำให้ลูกนึกถึงหลักวิชชาที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อให้ไว้ คือ กายละเอียดจะยังคงวนเวียนอยู่ 7 วันก่อนที่เจ้าหน้าที่เขตจะมารับ ซึ่งลูกมั่นใจว่าคุณแม่ยังอยู่ และท่านไม่น่าจะรู้ตัวด้วยซ้ำว่าท่านได้เสียชีวิตแล้ว เพราะอาการป่วยของท่านไม่หนักมากพอ ที่จะทำให้ท่านคิดว่าตัวเองต้องตาย

 

    เมื่อลูกคิดอย่างนี้ลูกจึงตัดสินใจเดินเข้าไปในห้องของคุณแม่   แล้วยกเก้าอี้มาตั้ง ให้คุณแม่  1 ตัว และคุยให้คุณแม่มานั่งใกล้ๆลูก  เหมือนตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ลูกพูดว่า “คุณแม่คะ ลูกทุกคนรักแม่มาก ไม่มีใครอยากให้คุณแม่เสียชีวิต แต่ตอนนี้คุณแม่เสียชีวิตแล้วนะ คุณแม่ไม่ต้องห่วงลูก ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น ให้คุณแม่นึกถึงบุญที่เคยทำไว้ด้วยกัน ให้คุณแม่ไปสวรรค์นะคะ” และลูกก็หยิบรูปงานบุญที่ได้มาทำบุญที่วัดทุกบุญให้ท่านดู และทำอาการโอบกอดท่านด้วย ซึ่งลูกรู้สึกแปลกมาก ความรู้สึกตอนนั้น เหมือนลูกได้กอดคุณแม่จริงๆ เพราะได้กลิ่นแป้งที่ท่านใช้ จากนั้นจึงได้เปิด VCD งานบุญต่างๆที่ลูกได้มาทำ และทบทวนบุญทุกบุญให้คุณแม่ฟัง และที่สำคัญลูกบอกกับคุณแม่ว่า จะทำบุญกฐินจักรพรรดิให้โดยใช้ชื่อคุณแม่เป็นประธานกองให้ด้วย และจะไปทำบุญที่วัดให้ในเย็นวันนั้น ซึ่งเป็นวันหลังจากการตายของคุณแม่ได้ 4 วัน  

 

    ในคืนวันเดียวกันหลังจากที่ทำบุญนั้นเอง น้องสาวของลูกได้ฝันว่า คุณแม่มาถามว่า “ ไปสวรรค์ไปอย่างไร แม่ไปไม่ถูก”  ทำให้ลูกคิดว่า คุณแม่ยังคงวนเวียนอยู่ อาจจะยังนึกถึงบุญไม่ได้ ครั้นลูกจะชวนกายละเอียดคุณแม่ไปวัด ท่านคงไม่ยอมไป เพราะอัธยาศัยของท่านจะไม่ยอมไปไหน จะอยู่แต่ในห้อง ลูกจึงหาวิธีการนำบุญมาถึงที่บ้าน โดยจัดพิธีทำบุญถวายสังฆทาน ถวายภัตตาหารโดยนิมนต์พระมาที่บ้านที่เลยดีกว่า เพราะลูกคิดว่าหากนิมนต์พระมาที่บ้าน คุณแม่ก็จะได้ออกมาทำบุญ มารับบุญด้วยกัน อาจทำให้ท่านนึกถึงบุญออก และในห้องของคุณแม่ ลูกก็จะเขียนบัญชีบุญวางไว้ให้ท่านดู ว่าเคยชวนคุณแม่ทำบุญอะไรไปบ้างเขียนเป็นข้อๆให้ท่าน และคุยกับท่านว่า “คุณแม่ค่ะ คุณแม่ต้องท่องให้ได้นะคะว่า ทำบุญอะไรไว้บ้าง เวลาเขาถามจะได้ตอบได้”  พร้อมทั้งรูปถ่ายตอนทำบุญจำนวนมากวางเรียงไว้ในห้องท่าน และก็เปิด VCD บุญให้วนซ้ำๆ ทิ้งไว้ในห้องของท่าน และเมื่อครบกำหนดการตายของคุณแม่ในวันที่ 7 ลูกจึงนั่งสมาธิ(Meditation)ทบทวนบุญทั้งหมดที่เคยทำมา ตั้งแต่เข้าวัดมา 23 ปีอุทิศให้ท่าน จนกระทั่งได้ยินเสียงจากไหนก็ไม่ทราบแว่วมาว่า “ให้นอนได้แล้ว เพราะคุณแม่ไปดีแล้ว”

 

    ในช่วงเวลานั้น  คุณแม่สามีของลูก ได้เสียชีวิตก่อนคุณแม่ของลูกเพียง 5 วัน จากป่วยหนักต่อเนื่องถึง 2 ปี ด้วย โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ แต่คุณแม่สามีของลูก มีอัธยาศัยและความเข้าใจในเรื่องบุญแตกต่างจากคุณแม่ของลูกมาก คือ ท่านจะเข้าใจเรื่องการทำบุญได้ง่ายมาก อะไรๆ ก็เข้าใจไปหมด จะเห็นคุณค่าของการทำบุญ และจะรีบทำด้วยการขวนขวายทำด้วยตัวท่านเอง ซึ่งคุณแม่สามีจะพยายามมาวัดพระธรรมกาย เวลาทำบุญก็จะขอใช้เงินตัวเองทำ และจะทำด้วยทุกบุญ  แต่ในช่วงหลังจากที่ป่วย  คุณแม่สามีมาวัดไม่ไหว จึงได้แต่ฝากเงินมาทำบุญ  ซึ่งขณะนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลยังขอยืมเงินนางพยาบาลไปทำบุญ แล้วบอกว่า “เดี๋ยวลูกมาจะคืนให้” และน้ำผลไม้กล่อง ที่ทางโรงพยาบาลเขาจัดไว้สำหรับผู้ป่วย ท่านก็จะไม่ยอมกิน บอกว่าน้ำผลไม้นี้ของแม่ จะเก็บไว้ตักบาตรพระตอนเช้า   คุณแม่สามีเสียชีวิตเมื่อวันที่ 11 กันยายน พ.ศ.2547 อายุ 86 ปี

 

    ส่วน คุณพ่อสามีของลูก ขณะนี้ยังมีชีวิตอยู่ อายุได้ 94 ปี ปัจจุบันท่านมีอาการลอยๆ ไม่ยินดียินร้ายอะไร เวลาลูกหลานไปหา ก็เฉยเมย บางทีไม่พูด เวลาทำบุญจะเอาปัจจัยไปให้ท่านจบ ท่านก็จะเฉยๆ ไม่เหมือนเมื่อก่อนท่านจะอธิษฐานนานๆ ซึ่ง น้องชาย ที่เป็นหมอบอกว่าเป็นอาการของ โรคซึมเศร้า ต้องแก้โดยให้ลูกหลานเข้าไปคุยบ่อยๆ เอาเทปธรรมไปเปิด ตอนนี้ลูกและ สามี ก็พยายามไปหาท่านเล่าเรื่องบุญให้ฟังตลอด ให้ พี่สาว เตรียมของตักบาตรให้ท่านจบทุกวันตอนเช้า ซึ่ง ลูกเป็นห่วงท่านมาก เพราะท่านอายุมากแล้ว อยากให้ท่านเข้าใจ และรับรู้เรื่องบุญมากกว่านี้เจ้าค่ะ

 

ขอกราบเรียนถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อดังนี้ค่ะ 

 

1.หลังจากที่คุณแม่ตายแล้ว คุณแม่ยังวนเวียนอยู่ที่บ้านจริงหรือไม่ แล้วที่ลูกเข้าไปคุยกับท่านในห้อง  และจัดให้มีการทำบุญที่บ้านแม่รับรู้ได้มากน้อยแค่ไหน และที่คุณแม่มาเข้าฝันน้องสาวว่าไปสวรรค์ไปอย่างไร   ไปไม่ถูก   ทำไมคุณแม่ถึงไปไม่ถูกคะ เพราะอะไร

 

2.บุญกฐินจักรพรรดิที่ใส่ชื่อคุณแม่เป็นประธานกอง ท่านได้รับบุญนี้ไหมคะ การทำบุญภายใน 7 วันก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมารับตัวไปมีผลช่วยคุณแม่อย่างไรบ้าง ตอนนี้คุณแม่ไปอยู่ที่ไหน เป็นอย่างไรบ้าง และอยากฝากข้อความอะไรถึงลูกๆบ้างคะ

 

3.บุญจากการสร้างพระธรรมกายประจำตัว และบุญที่หลานชายได้บวชให้ จะส่งผลถึงคุณแม่อย่างไร และได้รับบุญนี้มากน้อยแค่ไหนอย่างไรคะ

 

4.คุณแม่สามีของลูกตายแล้วไปอยู่ที่ไหน อยากฝากข้อความอะไรมาถึงลูกๆ ของท่าน และสามีของท่านบ้างคะ

 

5.การที่คุณแม่สามี  มีอัธยาศัยการขวนขวายทำบุญด้วยตัวเอง อย่างเข้าใจ จะได้รับผลบุญและอานิสงส์ต่างจากคุณแม่ของลูกอย่างไร เพราะการทำบุญของคุณแม่ของลูกส่วนใหญ่จะเป็นการอนุโมทนา และเป็นเงินที่ลูกใส่มือให้ท่านทำบุญ

 

6.ทำไมคุณพ่อสามี ถึงมีอาการลอยๆ จะต้องแก้ไขได้อย่างไรคะ  และทำอย่างไรให้ท่านเข้าใจเรื่องบุญ และได้บุญมากที่สุดคะ

 

7.ครอบครัวทางบ้านของสามี  ต่างคนต่างนับถือศาสนาที่แตกต่างกัน เป็นเพราะบุพกรรมใดคะ และต้องแก้ไขอย่างไร เพราะลูกเชื่อว่าคุณแม่ของสามีจะไม่สบายใจ เมื่อลูกๆต้องขัดแย้งกันค่ะ

 

8.ลูก สามี สร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไรคะ และจะขอตามติดไปสร้างบารมีด้วยทุกชาติ จะต้องทำอย่างไรบ้างคะ

 

ฝันในฝัน

หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที

แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากัน นะจ๊ะ

 

1.คุณแม่ตายแบบไม่ทันตั้งตัว จึงยังวนเวียนอยู่ในบ้านด้วยความคุ้นเคย ที่ลูกเข้าไปคุยกับท่านในห้องและจัดให้มีการทำบุญที่บ้าน คุณแม่ท่านรู้เห็นและรับบุญได้ตามที่ท่านเข้าใจในระดับหนึ่ง

 

 

• แม่ได้ยินที่ลูกพูดว่าให้แม่นึกถึงบุญแล้วไปสวรรค์ แต่ท่านไม่เข้าใจและไม่รู้วิธีการไปสวรรค์ เพราะท่านไม่ได้เจริญภาวนา จึงได้ไปเข้าฝันน้องสาว แล้วบอกว่าไปสวรรค์ไม่ถูก

 

 

2.บุญกฐินจักรพรรดิที่ใส่ชื่อท่านเป็นประธานกอง ท่านได้รับบุญนี้วันที่ 7 จึงทำให้ไม่มีเจ้าหน้าที่เขตมารับตัวท่านไป และมีผลทำให้ท่านเห็นทางสว่าง

 

 

• ได้เดินไปตามทางสว่างนั้น ไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เฟส 3 หากไม่ได้ทำบุญกฐินจักรพรรดิจะต้องไปเป็นเทพธิดาสายคนธรรพ์มีวิมานทองขนาดปานกลาง ท่านมีปีติและซาบซึ้งในตัวลูก ได้ฝากขอบคุณมาถึงลูกว่าที่ท่านได้มาอยู่ตรงนี้เพราะลูก ได้เข้าใจในบุญมากขึ้น เพราะเห็นผลของบุญ

 

 

3.บุญที่สร้างพระธรรมกายประจำตัวและบุญบวชหลานชาย ทำให้ท่านปิดอบายภูมิ และมีวิมานเป็นทองเสวยสุขอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เฟส 3

 

 

4.คุณแม่สามีของลูกตายแล้วไปอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เฟส 2 เป็นเทพธิดามีวิมานทองขนาดปานกลาง เพราะบุญทุกบุญที่ท่านทำเองและที่ลูกของท่านทำให้

 

 

• ขณะนี้ท่านกำลังชื่นชมทิพยสมบัติอยู่และฝากบอกมาถึงสามีของท่านว่าอย่าเศร้าเหงาใจเพราะตัวท่านไม่อยู่ ให้สามีสั่งสมบุญให้เยอะๆ ละโลกแล้วจะได้มาอยู่ด้วยกัน

 

 

• อีกทั้งอยากให้ลูกๆของท่านได้สั่งสมบุญทุกบุญโดยเฉพาะบุญในพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นบุญใหญ่และแรงที่สุด ที่จะส่งผลให้มีความสุขมากๆ เพราะท่านเห็นผลแห่งบุญแล้ว

 

 

5.การที่คุณแม่สามีขวนขวายในการทำบุญด้วยตัวท่านเอง แต่คุณแม่ของลูกที่ได้แค่อนุโมทนาบุญ ก็จะทำให้คุณแม่สามีได้ไปอยู่บนสวรรค์ มีความสุขมากกว่า มีทิพยสมบัติมากกว่า และอายุยืนยาวกว่ามาก มีบริวารมากกว่า และไปสวรรค์ด้วยตัวเอง

 

 

6.ที่คุณพ่อสามีมีอาการลอยๆ เพราะท่านคิดถึงคุณแม่สามีมาก ท่านเลยเหงาบวกกับเป็นไปตามวัยของท่าน จะแก้ไขก็แนะนำให้ท่านทำบุญทุกบุญและฝากข้อความของคุณแม่สามีที่มีมาถึงท่าน

 

 

• อีกทั้งต้องคอยใกล้ชิดและพูดคุยกับท่านบ่อยๆ เรื่องบุญ ซึ่งก็จะทำให้ท่านเข้าใจมากขึ้นและทำบุญมากขึ้น

 

 

7.ครอบครัวทางบ้านของสามีที่นับถือศาสนาแตกต่างกัน เพราะศึกษาและสั่งสมบุญในทางพระพุทธศาสนามาน้อย เลยยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องความจริงแท้ของชีวิต ดังนั้นเมื่อใครมาแนะนำก็ถูกชักจูงเชื่อง่ายในสิ่งที่ไม่ใช่พระรัตนตรัย

 

 

• จะแก้ไขในตอนนี้ก็คือ เมื่อลูกทำบุญทุกบุญแล้วให้อธิษฐานจิตให้แต่ละคนได้หันมาศึกษาและทำความเข้าใจในพระรัตนตรัยให้ได้ เพราะแต่ละคนมีความเชื่อมั่นในตนเองสูงจนไม่ยอมให้โอกาสตัวเองมาศึกษาคำสอนในพระพุทธศาสนา

 

 

8.ลูก สามี ได้สร้างบารมีกับหมู่คณะด้วยกันทุกชาติ อย่าตกบุญเลยสักบุญ และเมื่อทำบุญทุกบุญแล้วให้อธิษฐานจิตตามติดกันไปทุกภพทุกชาติ ตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม

 

http://goo.gl/IJW1Y