อู้ฮู..อื้อฮือ ( พญานาค ขั้วโลกเหนือ )

CASE STUDY

อู้ฮู..อื้อฮือ ( พญานาค ขั้วโลกเหนือ )

เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC

 

 

 

กราบนมัสการคุณครูไม่ใหญ่ที่เคารพอย่างสูง

        ลูกเป็นนักเรียนของโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา จากประเทศนอร์เวย์ค่ะ หลังจากติดจานดาวธรรมแล้ว  ตัวลูกและสามีก็ติดใจ ตกเย็นมาไม่ไปไหนเลยค่ะ พากันมานั่งหน้าจอ สามีของลูกที่เป็นชาวนอร์เวย์ ถึงแม้จะฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่อง ก็ชอบดูหลวงพ่อมาก  ลูกต้องมาแปลให้เขาฟัง   เขาบอกว่าหลวงพ่อเป็นพระที่สง่างามมาก พอบอกว่าอายุ 62 เขาก็ “อื้อหือ...ทำไมเด็กจัง”   เขาบอกว่า บุคคลซึ่งมีพลังจิตมหาศาลและมีความเมตตารวมอยู่ด้วย ไม่ใช่จะหาเจอได้ง่ายๆ เขาประทับใจหลวงพ่อ  เขาถึงนั่งสมาธิค่ะ 

    ลูกและสามีกราบขออนุญาตเล่าเรื่องราวชีวิต เพื่อให้หลวงพ่อเมตตาฝันในฝันให้ดังต่อไปนี้ค่ะ
ลูกเกิดในครอบครัวเกษตรกร แม่ของลูกเป็นคนจังหวัดสุรินทร์  หลังจากที่คุณแม่คลอดออกมาได้ 10 วัน แม่ของท่าน(ยายของลูก)ก็เสียชีวิต แต่บุญมาวาสนาส่ง คุณแม่ได้คนมีฐานะ เพียบพร้อมด้วยทรัพย์สินและบริวาร แต่ไม่มีบุตร มาขอคุณแม่ไปเลี้ยง ทำให้คุณแม่กลายเป็นบุตรสาวเศรษฐีในทันที
เมื่อเติบโตเข้าสู่วัยสาวแม่ก็แต่งงานกับคุณพ่อของลูกซึ่งมีฐานะเสมอกัน  มีลูกด้วยกัน 9 คน แต่คนที่ 8 ซึ่งเป็นผู้ชายจมน้ำเสียชีวิตตั้งแต่อายุประมาณ 2 ขวบ แม่สะเทือนใจมาก ถึงกับบอกว่า “ไม่เอาอีกแล้ว   ฉันจะไม่มีลูกอีกแล้ว” 

ต่อมาแม่ก็ฝันว่า มีพระจันทร์ตกเข้ามาในบ้าน แม่เอามือไปโอบพระจันทร์นั้นไว้ แล้วเปิดออกมาดู ปรากฏว่าสิ่งที่อยู่ในมือนั้นไม่ใช่พระจันทร์ซะแล้ว แต่กลายเป็นพระพุทธรูปสีทอง แม่ได้นำเรื่องนี้ไปเล่าให้กับหลวงพ่อรูปหนึ่งที่อยู่วัดใกล้ๆบ้านฟัง หลวงพ่อท่านก็ทำนายว่า “ลูกคนนี้จะเป็นผู้หญิงเพราะเป็นพระจันทร์ และฝักใฝ่ในพระพุทธศาสนา รวมถึงจะได้ไปอยู่ต่างประเทศด้วย” หลังจากฟังคำทำนายจบ แม่ก็บอกว่า “อะไรจะเลิศขนาดนั้น” เพราะคุณแม่ตั้งใจแล้วว่าจะไม่มีลูกอีกเด็ดขาด ยิ่งมองผ่านท้องทุ่งไป เห็นแต่วัวกับควาย ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครได้ไปอยู่เมืองนอกเมืองนา  แต่หลังจากนั้น ท้องแม่ก็เริ่มโตขึ้นๆ พอครบ 9 เดือน ก็มีทารกเพศหญิง ‘อุแว้’ ออกมาจริงๆ...ซึ่งก็คือตัวลูกเองค่ะ

    ลูกจะมีอุปนิสัยที่ติดตัวมาตั้งแต่เล็กๆคือ ความใจกว้าง  หากมีสิ่งของอะไรก็ให้คนอื่นหมด ใครมาขออะไรก็ให้ จนแม่ตั้งชื่อให้ว่า “ออย” ซึ่งเป็นภาษาเขมรแปลว่า “ให้”  และมีใจฝักใฝ่ด้านการศึกษาเป็นอย่างมาก แม่บอกว่า ถ้าเรียนจบ ป.4  แล้วก็จะให้ครองเรือน ไม่อยากให้เรียนต่อ แต่ลูกก็ดันทุรังมุมานะที่จะศึกษาเล่าเรียน  ลูกชอบการเรียนมากค่ะ แม้แม่จะไม่ให้เงิน ลูกก็รับจ้างหาเงินเรียนเอง  จนกระทั่งจบ ป.7 แล้วก็ไปเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ ขณะที่เรียนอยู่ ปี 1 ก็ได้ทราบข่าวร้าย ว่าแม่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ ด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตก ด้วยอายุเพียง 59 ปีเท่านั้น คงเหลือแต่พ่อที่เป็นเสาหลัก เป็นขวัญกำลังใจให้กับลูกๆอยู่คนเดียว แต่ก็เหมือนกับที่ใครๆพูดกันว่า “พ่อกับแม่ไม่ได้อยู่ค้ำฟ้า”  “ชีวิตไม่จีรังยั่งยืน” เพราะอีก 2 ปีต่อมา ขณะที่ลูกเรียนอยู่ปี 3 พ่อก็ได้จากลูกๆไปเช่นเดียวกัน 

    พ่อของลูกจัดได้ว่า เป็นคนที่มีฐานะคนหนึ่ง มีอุปนิสัย เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และใจบุญ พ่อเคยบริจาคที่ดินเพื่อสร้างโรงเรียน และทำโต๊ะเก้าอี้ให้นักเรียนได้เรียนหนังสือทั้งโรงเรียนเลยค่ะ นอกจากบุญสงเคราะห์โลกแล้ว พ่อยังชอบไปวัดทุกวันพระ และเคยบวชพระด้วย เหตุผลที่บวช ท่านบอกว่า ‘บวชพระ หนีเหล้า’ เพราะเพื่อนๆชอบชวนคุณพ่อก๊งเหล้ากันอยู่เสมอๆ ประกอบกับคุณพ่อเป็นคนขี้เกรงใจ  ปฏิเสธใครไม่เป็น จึง ‘จัส เซย์ เยส’ ( JUST SAY YES) ทุกครั้ง แล้วก็กอดคอกันเมาทุกที  คุณพ่อจึงหาทางออก เพื่อปลีกตัวจากเพื่อนที่ชวนเมา ด้วยการมาบวชเป็นพระซะเลย และต่อมาหลังจากสึกมาแล้ว   ท่านก็ ‘จัส เซย์ โน’( JUST SAY NO )ไม่ดื่มอีกเลย เพราะท่านเชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรมมากๆ

ต่อมาวันหนึ่งขณะที่พ่อไปเอาไม้ไผ่มาทำรั้ว  พ่อโดนหนามของไม้ไผ่ตำที่ขา หลังจากที่เอาเข็มบ่งออกก็คิดว่า คงไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ แต่ทว่า 2 สัปดาห์ต่อมา ขาของพ่อก็บวมเป่งขึ้นมาด้วยพิษบาดทะยัก มีคนพาไปส่งโรงพยาบาล  แต่อาการถึงขั้นโคม่าแล้ว หมอพาเข้าห้องไอซียูโดยด่วน ลูกยังจำ 3 เฮือกสุดท้ายของคุณพ่อได้ไม่ลืม  พ่อมีอาการชักกระตุก แล้วก็สิ้นใจ จากลูกๆไปด้วยวัย 61 ปี 

ต่อมาหลังจากที่ลูกเรียนจบแล้ว ได้มีญาติชวนลูกมาทำงานที่ประเทศนอร์เวย์ เพราะสวัสดิการดี ลูกจึงมาทำงาน เป็นแม่ครัวทำอาหารให้กับสายการบินแห่งหนึ่ง  หลังจากนั้นก็ได้พบรักกับหนุ่มนอร์เวย์ เราจึงตัดสินใจแต่งงานกัน ขณะนั้นลูกมีอายุได้ 39 ปีแล้วค่ะ ก่อนที่จะพบกับสามีคนนี้ ลูกเคยอธิษฐานจิตว่า ถ้าลูกจะได้แต่งงานก็ขอให้ได้แต่งกับคนที่ฝักใฝ่ทางด้านจิตนิยม และได้พบกับสามีคนนี้แหละค่ะ  แม้จะแต่งงานแล้ว ลูกก็ยังหาเรื่องเรียนอยู่ตลอด ไม่รู้เป็นไรค่ะ ชอบเรียนมาก  เรียนอะไรก็ได้ ขอให้ได้เรียน ทำงานแล้วก็ต้องเรียน เรียนจนสามี บอกว่า “เธอเรียนไปทำไม ไม่ใช่ว่า จะเรียนเก่งหนักหนาอะไร” แต่ลูกก็ยังอยากเรียนอยู่ดีละค่ะ...

    สามีของลูก มีความเชื่อมั่นในเรื่องอำนาจของจิต เขาเล่าว่า ก่อนที่จะแต่งงานกับลูก ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงราวๆเดือนตุลาคม เขาเดินทางไปเที่ยวทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ ขณะที่กำลังขับรถผ่าน แม่น้ำสายหนึ่งของเมือง เซลยู (Seljord) ซึ่งเป็นแม่น้ำสายใหญ่ที่ขนาบด้วยภูเขาทั้งสองฝั่ง   เขามองเห็นผู้คนแถวนั้น พากันมุงดูบางสิ่งบางอย่างด้วยนัยน์ตาลุกวาว บางคนเอามือชี้ไปที่กลางแม่น้ำ ได้ยินคนอุทาน “อู้หู้”  ด้วยความสงสัย  เขาจึงจอดรถและมองไปยังตำแหน่งที่มีคนชี้นั้น และทันใด เขาแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง เพราะสิ่งปรากฏอยู่ตรงหน้า คือ งูตัวใหญ่อย่างมหาศาล กำลังว่ายอยู่กลางแม่น้ำ เป็นงูยักษ์ตัวสีดำ มีอาการดำผุด ดำว่าย ขึ้นลง ขึ้นลงๆ ที่แสนจะแช่มช้อย เขาตาค้างไม่เคยเห็นงูอะไรที่ยิ่งใหญ่อย่างนี้มาก่อน  มันมีลักษณะที่แตกต่างจากอนาคอนด้าที่เขาเคยรู้จัก เขาเสียดายมากที่ไม่มีกล้องถ่ายรูปติดมือไปเลย แต่ภาพนั้นยังคงติดตา ตรึงใจเขาอยู่มิรู้หาย  และเมื่อใดที่ต้องผ่านแม่น้ำสายนั้น เขาจะติดกล้องส่องทางไกลไปด้วยเสมอ โดยคาดหวังว่าอาจจะพบกับงูตัวนั้นอีกสักครั้งหนึ่ง และเมืองที่แม่น้ำสายนี้ผ่าน ผู้คนที่นี่คุ้นเคยกับงูยักษ์ตัวนี้มานานแสนนาน จนถึงกับได้นำงูยักษ์เป็นสัญลักษณ์ของเมือง มีชาวสวีเดนกลุ่มหนึ่งที่เคยไปพบ ถึงกับทำการค้นหาอย่างจริงจังว่างูตัวนี้อยู่ที่ไหน   แต่ก็คว้าน้ำเปล่ากลับบ้านไปทุกปี เพราะงูตัวนี้ นึกอยากจะโชว์ตัวก็โชว์ มีอารมณ์อยากให้เห็นก็เห็น ไม่มีสัญญาณแจ้งล่วงหน้า

หลังจากเห็นงูยักษ์ตัวนั้นแล้วเขาไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง กลัวคนจะคิดว่า เป็นเรื่องที่เพ้อเจ้อ แต่หลังจากแต่งงานกับลูกและได้ดู DMC เขาได้เห็นภาพพญานาคที่หลวงพ่อวาดมาให้ดู เขาตื่นเต้นมาก เขาจึงบอกว่า “ผมเคยเห็นพญานาคแล้ว ตัวมันเหมือนที่หลวงพ่อให้ดูใน DMC เลย เป็นอย่างนี้จริงๆ”  พอผ่าน...ตรงนั้นทีไร เขาต้องจอดรถดูทุกครั้ง แล้วก็บอกว่า “ผมเห็นพญานาคตรงนี้แหละ”..ฟังเขาบอกแล้ว..ปีนี้ลูกเลยอยากชวนเขามาเมืองไทยบ้าง...

จะพาเขามาที่พุทธอุทยานนานาชาติในช่วงออกพรรษาเพื่อจะได้มาเบิ่งบั้งไฟกัน
และเหตุที่สามีของลูกสนใจทางด้านจิตนิยมนั้น เค้าเคยเล่าว่า ตนเองมักจะรู้สึกได้เสมอว่าคนนั้น คนนี้ มีเจตนาหรืออุปนิสัยอย่างไร รู้สึกได้แม้เพียงแรกเห็น และมักจะไม่พลาด

    ครั้งหนึ่งเขาไปเที่ยวตกปลาในป่า ขณะที่นอนอยู่ในบ้านพัก เขาก็มีความรู้สึกว่า ได้ยินเสียงรถเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน เขาหยั่งรู้ได้ทันทีว่า คนนี้ ชื่อนี้มาหา ซึ่งเป็นบุคคลที่ไม่ได้พบกันมาเนิ่นนาน ต่อจากนั้นก็ได้ยินเสียงเปิดประตู แต่ก็ไม่ปรากฏร่างของใครสักคน เขาจึงเอ๊ะใจ แล้วเดินออกไปดูที่หน้าประตู ปรากฏว่า ไม่มีใคร .......... หลังจากผ่านไปประมาณ 30 นาที เขาก็ได้ยินเสียงรถจอด และคนๆนั้นก็มาจริงๆ 
หลังจากที่เขามาเล่าเรื่องนี้ให้ลูกฟัง ลูกก็เลยได้ช่อง จึงบอกเขาไปทันทีว่า “แสดงว่าเธอมีการนั่งสมาธิมาเมื่อชาติที่แล้ว  ทำให้เธอมีสัมผัสพิเศษในเรื่องนี้ ฉันสินั่งทุกวัน แต่...มืด..มืด..มืด...เธอให้ฉันเดินไปทางนี้คนเดียวด้วยความมืดอย่างนั้น เธอไม่เป็นห่วงฉันหรือ ทางนี้เธอเคยเดิน พาฉันไปสิ ให้ฉันเดินไปคนเดียวได้อย่างไร นำฉันไปเถิด.....”  เขาก็บอกว่า “ไป...เราจะไปด้วยกัน” แล้วเราก็เริ่มนั่งสมาธิมององค์พระภายในด้วยกัน

 
คำถาม

1.    แม่ของลูกทำกรรมอะไรมา จึงกำพร้าแม่ตั้งแต่คลอดได้๑๐วัน แต่บุญอะไรที่ทำให้ท่านได้แม่บุญธรรมซึ่งเป็นคนมีฐานะ มาขอไปเลี้ยง รวมถึงต่อมาก็ได้ยกสมบัติทั้งหมดให้ด้วย

2.    วิบากกรรมอะไรที่ทำให้คุณแม่เสียชีวิตด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตก คุณแม่ละโลกแล้วไปอยู่ที่ไหน ปัจจุบันมีความเป็นอยู่อย่างไรเจ้าคะ?

3.    ก่อนลูกจะมาเกิดทำไมแม่จึงฝันว่าโอบพระจันทร์ไว้ แล้วกลายเป็นพระพุทธรูป    และเหตุใดหลวงพ่อที่วัดข้างบ้านจึงทำนายถูกว่า แม่จะมีลูกสาว รวมถึงจะได้ไปต่างประเทศด้วย

4.    การที่พ่อหรือแม่ มีนิมิตความฝันว่าได้สิ่งนั้น สิ่งนี้ ก่อนที่จะมีลูกของตนนั้น ความฝันเหล่านี้เกิดขึ้นด้วยสาเหตุใดบ้างคะ    อะไรดลใจให้ฝัน?   ทำไมส่วนใหญ่คนที่เป็นแม่จะฝันมากกว่าคนที่เป็นพ่อคะ

5.    ความฝันเป็นเพราะกายมนุษย์ละเอียดหลุดออกจากกายหยาบไปทำสิ่งต่างๆ ตามที่ฝันใช่หรือไม่คะ ,  ถ้าใช่  ทำไมคนเราจึงมีชีวิตอยู่ต่อได้   ไม่ตายไปคะ  , ถ้าไม่ใช่  ตอนนั้นกายมนุษย์ละเอียดอยู่ที่ไหน    และกายที่เห็นในฝันคือกายอะไรคะ

6.    วิบากกรรมอะไรจึงทำให้พ่อของลูกขาบวมเป็นบาดทะยัก และเสียชีวิตในที่สุด พ่อมีคตินิมิตก่อนตายอย่างไร ตายแล้วไปไหน   บุญที่พ่อได้บริจาคที่ดินให้สร้างโรงเรียน และทำโต๊ะ เก้าอี้ ให้นักเรียนได้เรียน มีอานิสงส์ต่อท่านอย่างไรบ้าง และบุญที่ท่านบวชมาประคับประคองให้ท่านไปสู่สุคติได้ไหมค่ะ?

7.    ลูกและสามีได้ทำกรรมอะไรร่วมกันมาในอดีต ปัจจุบันถึงได้มาเจอกัน และแรงอธิษฐานที่ลูกบอกว่า ขอให้ได้แต่งงานกับสามีที่มีความเชื่อด้านจิตนิยม มีส่วนช่วยให้เราเจอกันหรือเปล่าเจ้าค่ะ?

8.    งูยักษ์ตัวสีดำที่สามีของลูกเห็นนั้นคืออะไร ใช่พญานาคหรือไม่ ถ้าใช่..ทำไมพญานาคจึงไปเกิดที่นั่น และมีตัวอื่นๆอีกไหม  พญานาคตัวนี้มีอายุมากหรือยัง ทำไมชาวเมืองนี้ถึงเชื่อเรื่องพญานาคตัวนี้กันมานานมาก จนถึงกับใช้รูปพญานาคเป็นสัญลักษณ์ประจำเมือง?

9.    เหตุการณ์ที่สามีของลูกรู้สึกว่า คนๆนี้จะมา และสัมผัสได้ว่า เขามาแล้ว และทำทีเหมือนว่าจะเปิดประตูเข้ามา แต่พอออกไปดูจริงๆกลับไม่มีใคร แต่ต่อมาคนๆนั้นก็มาจริงๆ สัมผัสเหล่านี้ที่เกิดจากอะไร ทำไมเกิดกับเขา ณ เวลานั้น?

10.    ทำไมลูกถึงมีนิสัยที่ชอบเรียนมากๆและเป็นคนที่รักการให้ ในอดีตลูกเคยมีอุปนิสัยด้านนี้มาก่อนหรือเปล่า

11.    ลูกและเพื่อนหญิงชาวไทยของลูกคนหนึ่ง ซึ่งทำหน้าที่เป็นกัลยาณมิตรด้วยกันที่นอร์เวย์ เรารักและสนิทสนมกัน มีอะไรคล้ายๆกันมาก ทั้งๆที่มีอุปนิสัยที่ต่างกัน เราเคยมีความผูกพันธ์กันมาในอดีตอย่างไรคะ

12.    ลูก, สามี และเพื่อนคนดังกล่าว เคยสร้างบารมีร่วมกันมากับหมู่คณะอย่างไร , เมื่อพุทธันดรที่แล้ว เราได้เจอหมู่คณะไหมคะ , มีผลการปฏิบัติธรรมเป็นอย่างไร , มีความผิดพลาดอะไรในระหว่างการสร้างบารมีหรือไม่ ,และในชาตินี้ เราจะแก้ไขตัวเองอย่างไร จึงจะสามารถติดตามสร้างบารมีกับหลวงพ่อและหมู่คณะได้ตลอดรอดฝั่ง และมีที่พักระหว่างทางกลับดุสิตบุรีวงบุญพิเศษได้เจ้าคะ ?

กราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อด้วยความเคารพอย่างสูงค่ะ

 

ฝันในฝัน

หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที  แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ

1.    คุณแม่ของลูกกำพร้าแม่เมื่อคลอดมาได้  10  วัน   เพราะ.....ในอดีตได้เกิดเป็นคนยากจน   ได้มีวัวตัวเมียที่ตั้งท้องตัวหนึ่ง ด้วยความจำเป็นเมื่อวัวคลอดลูกออกมา   ก็นำแม่วัวไปขายให้เขาฆ่าทั้ง ๆ ที่ลูกยังไม่หย่านม   วิบากกรรมนี้มาส่งผลจ่ะ !

 

• แต่ต่อมาได้แม่บุญธรรมซึ่งเป็นคนมีฐานะมาขอไปเลี้ยง แถมต่อมายังยกสมบัติให้อีก   เพราะ.....ในชาตินั้นเมื่อขายแม่วัวไปแล้วก็ได้เงินมา     ต่อมาคิดว่าที่เราลำบากยากจนนี้เพราะชาติในอดีตเราไม่ได้ทำทานมา  ,  ดังนั้นจึงได้นำเงินส่วนหนึ่งไปทำบุญ    แล้วอธิษฐานว่า   ชาติต่อไปอย่าได้อดอยากยากจนเหมือนชาตินี้อีกเลย ด้วยบุญนี้มาส่งผล    จึงทำให้มีแม่บุญธรรมมารับไปเลี้ยงดูและต่อมายกสมบัติให้หมดจ่ะ !

 

2.    คุณแม่เสียชีวิตด้วย “เส้นเลือดในสมองแตก”   เพราะ.....กรรมในอดีตได้ฆ่าสัตว์ทำอาหารและฆ่าขายเอาไว้เยอะ   เนื่องจากยากจน     ก็จะไปจับปลามา “ทุบหัวปลา” ทำอาหารและฆ่าขายเป็นประจำ   มาส่งผลจ่ะ !

 

• ตายแล้ว   ก็ไปเป็น “ภุมมเทวาชั้นดี” ในหมู่บ้านภุมมเทวาแห่งหนึ่ง     โดยมีเรือนใหญ่  ,  มีอาหารดี  ,  มีบริวาร   เป็นต้น   ด้วยบุญที่ทำตามประเพณีอยู่เป็นประจำ  ,  มีความสุขสบายดีพอสมควรและดูเป็นสาวจ่ะ !

 

3.    ก่อนลูกมาเกิดแม่ฝันว่า “โอบพระจันทร์” เอาไว้   แล้วกลายเป็น “พระพุทธรูป” นั้น    เป็นกรรมนิมิตของบุคคลผู้ที่จะมาเกิดว่าเป็นผู้มีบุญจ่ะ !

 

• หลวงพ่อวัดข้างบ้านได้ทำนายว่า   จะได้ “ลูกสาว”   และจะต้องไปอยู่ต่างประเทศนั้น   ด้วยความรู้สึกจากจิตที่ท่านได้ประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัย   และได้บำเพ็ญสมณะธรรมจ่ะ !

 

4.    การที่พ่อหรือแม่ฝันว่า   จะได้สิ่งนั้น  ,  สิ่งนี้   ก่อนที่จะมีลูกของตนนั้น     ความฝันเหล่านี้เกิดขึ้นได้ด้วยหลายสาเหตุ  เช่น กรรมนิมิตตามกำลังบุญ - บาปของผู้ที่จะมาเกิด   หรือเทพสังหรณ์ เช่น  เทวดามาบอกเหตุ   เพราะผู้ที่จะมาเกิดเป็นผู้มีบุญ  เป็นต้นจ่ะ !

• ส่วนใหญ่ผู้ที่จะเป็นแม่มักฝันมากกว่าคนที่จะเป็นพ่อ  เพราะ.....แม่จะมีจิตใจละเอียดอ่อนมากกว่าพ่อ  ,  อีกทั้งจะต้องรองรับกายละเอียดที่จะมาเกิดเป็นกายเนื้อในครรภ์ของตน     จึงมีความผูกพันมากกว่า   และทำให้ฝันมากกว่าผู้ที่จะเป็นพ่อจ่ะ !

 

5.    ความฝันที่เกิดกับมนุษย์โดยทั่วไป   เกิดขึ้นได้  2  แบบ คือ 

• 1. แบบกายละเอียดไม่ได้หลุดไปจากกายหยาบ  เช่น  ที่เกิดจากธาตุวิปริต  ,  จิตนิวรณ์    

 

• 2. แบบกายละเอียดหลุดออกไปทำหน้าที่ฝัน   ก็จะไปพบผู้คนเหตุการณ์ต่าง ๆ     แล้วนำกลับมาถ่ายทอดข้อมูลให้แก่กายมนุษย์หยาบทราบ  , 

 

• ที่ไม่ตาย   เพราะหัวต่อกายยังไม่ได้หลุดออกจากกัน     แต่ยืดออกไปเป็นสายที่ยังเชื่อมโยงกับกายมนุษย์หยาบอยู่จ่ะ !     แต่เป็นสายที่ละเอียดกว่าดวงตาของกายมนุษย์ละเอียดจะเห็นได้  เช่น  บางครั้งฝันว่าตัวเองหลุดออกไปยืนมองดูกายมนุษย์หยาบนอนอยู่     โดยไม่เห็นสายเชื่อมโยง   และเมื่อตื่นขึ้นมาก็ยังจำเรื่องราวได้  ,  อีกทั้งยังไม่ตายจ่ะ !

 

6.    พ่อของลูก “ขาบวมเป็นบาดทะยัก” เสียชีวิต   เพราะ.....ในอดีตพ่อได้เป็นทหารในสมัยอยุธยา   แล้วก็ได้ออกรบ   ได้ฆ่าข้าศึกตายไว้เยอะ  ,  ในการรบครั้งหนึ่งได้มุ่งเข้าไปทำร้าย “ขาช้าง”ของแม่ทัพข้าศึก     โดยเอาดาบแทงไปที่ขาช้างจนมิดด้าม   จนช้างบาดเจ็บ     ส่วนตัวเองก็ตายในสนามรบ   วิบากกรรมนี้มาส่งผลจ่ะ !

 

• ตายแล้ว   ก็ไปเป็น “ภุมมเทวาชั้นดี” อยู่กับแม่ของลูกด้วยรักและผูกพัน   รวมทั้งสร้างบุญมาด้วยกันจ่ะ !     โดยมีเรือนใหญ่โต  ,  มีอาหาร  ,  มีบริวาร    ด้วยบุญทุกบุญที่ท่านทำเอาไว้ตอนเป็นมนุษย์จ่ะ !

 

7.    ลูกและสามีได้มาอยู่ร่วมกัน   เพราะ.....ในอดีตได้เคยสร้างบุญร่วมกันมาหลายชาติ     โดยได้เป็นสามี - ภรรยากันมา  และเมื่อพุทธันดรที่แล้ว ได้เป็นสามี - ภรรยากัน   และได้สร้างบุญร่วมกันกับหมู่คณะมาทั้งคู่จ่ะ !     กับแรงอธิษฐานจิตว่า   ขอให้ได้เจอสามีที่สนใจด้านจิตนิยมเหมือนกัน   หรือมีศรัทธา  ,  ศีล  ,  ทิฐิ เสมอกัน     เพื่อจะได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขจ่ะ !

 

8.    “งูยักษ์ตัวสีดำ” ที่สามีลูกเห็นนั้น  คือ  “พญานาค” ตระกูลกัณหาโคตมะตนหนึ่ง   ที่มีอยู่ทั่วไป , ทั่วโลก    ตามกำลังวิบากกรรมของตน     และพญานาคที่สามีลูกเห็นก็ได้อยู่ใต้บาดาลแถบนั้น     ซึ่งมีจำนวนไม่มากนัก  คือ  น้อยกว่าแม่น้ำโขง  ,  มีอายุยืน  200  กว่าปีจ่ะ !

 

• ที่ชาวเมืองเชื่อถือพญานาคตนนี้   เพราะได้เห็นกันมาหลายชั่วอายุคนแล้วจนถึงปัจจุบัน     จึงได้นำมาเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองจ่ะ !

• ที่ขึ้นมาให้เห็น   เพราะอยากมาเล่นน้ำ   และนึกสนุกอยากปรากฏตัวให้มนุษย์เห็น   จึงทำให้เห็นจ่ะ !     
• พญานาคตนนี้      ก็คือ  อดีตชาวเมืองแถบนี้มาตั้งแต่เมื่อ  200  กว่าปีโน้น     โดยมีวิบากกรรมดื่มสุรากับมีบุญที่ช่วยเหลือสาธารณกุศลมาส่งผลจ่ะ !

 

 

9.    เหตุการณ์ที่สามีของลูกรู้สึกว่า   คน ๆ นี้จะมา   และสัมผัสว่าเขามาแล้ว     และทำทีเหมือนจะเปิดประตูเข้ามา   ,  แต่พอออกไปดูจริง ๆ กลับไม่มีใคร  ,  แต่ต่อมาคน ๆ นั้นก็มาจริง ๆ “สัมผัส” นี้เกิดจากบุญที่ได้ทำสมาธิมาในอดีตจ่ะ !

 

• ที่เกิดกับเขา  ณ  เวลานั้น   เพราะบุญมาส่งตอนนั้น    กับกระแสใจที่เนื่องถึงกันระหว่างผู้ที่จะมา  ณ  เวลานั้น     แต่ก็จะเกิดอาการนี้เป็นช่วง ๆ จ่ะ !

 

10.    ลูกมีนิสัย “ชอบเรียน” และรัก “การให้”   เพราะ.....ติดนิสัยดังกล่าวข้ามชาติมาหลายชาติ   ที่ใฝ่การศึกษาและชอบแบ่งปัน เพราะเมื่อทำดังนี้แล้วจะมีความสุขใจจ่ะ !

 

11.    ลูกและเพื่อนหญิงชาวไทย   ที่ทำหน้าที่กัลยาณมิตรด้วยกันที่นอร์เวย์  ,  รักและสนิทสนมกัน  ,  มีอะไรคล้าย ๆ กัน  , แต่มีอุปนิสัยต่างกัน   เคยผูกพันกันมาในอดีต  คือ  เคยเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่พุทธันดรที่ผ่านมา     ได้ชวนกันสร้างบารมีกับหมู่คณะมาจ่ะ !

 

12.    ลูก  ,  สามี  และเพื่อนดังกล่าว   เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาแบบ “กองเสบียง”  

 

 

• ทั้ง  3  คน   มีผลการปฏิบัติธรรมเข้าถึงดวงใส ๆ องค์พระใส ๆ    พอเอาตัวรอดกลับดุสิตบุรีวงบุญพิเศษได้จ่ะ !    
• ข้อผิดพลาดก็มีทุกคนแหละจ่ะ !    
• ให้ลืมไปให้หมด     แล้วมุ่งมั่นตั้งใจแก้ไขข้อผิดพลาดของตนเองให้ดีในทุกเรื่องจ่ะ !

• ชาตินี้มาเจอกันแล้ว     ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญ แล้วอธิษฐานจิต     ตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ !

 

http://goo.gl/eM48G