รักเราไม่เก่าเลย

พ่อพอเห็นลำตัวของแม่ซึ่งถูกไฟไหม้จนเกรียมเท่านั้น พ่อรีบตรงเข้าไปกอดไว้แน่น ร้องไห้ฟูมฟาย พร่ำรำพันว่า..นี่ถ้าพ่ออยู่ด้วย พ่อรับรองว่าแม่จะต้องปลอดภัย ลูกเห็นแล้วก็ยิ่งสงสารจับใจ เพราะว่าแม่นั้นเป็นสุดยอดหัวใจของคุณพ่อค่ะ... https://dmc.tv/a184

บทความธรรมะ Dhamma Articles > กรณีศึกษากฎแห่งกรรม
[ 7 ส.ค. 2549 ] - [ ผู้อ่าน : 18275 ]
CASE STUDY
รักเราำไม่เก่าเลย
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
     
 กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงค่ะ

    ลูกเข้าวัดครั้งแรก ในงานหล่อรูปเหมือนทองคำ พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ เมื่อปี พ.ศ.2537 โดยการชักชวนของน้องสาวคนที่สี่ ปัจจุบันลูกติด DMC มาได้ครบปีแล้วค่ะ ลูกชอบฟังเรื่องกฎแห่งกรรมที่คุณครูไม่ใหญ่ตอบคำถามใน Case Study มาก เพราะก่อนที่จะได้มาเรียนรู้ความจริงของชีวิต ลูกไม่เข้าใจเลยว่า คนที่ตั้งใจทำความดีมาตลอดทั้งชีวิต แต่ทำไม...ถึงต้องมาประสบเคราะห์ร้ายและตายอย่างทุกข์ทรมาน
 
    ยิ่งนึกถึงภาพเหตุการณ์สะเทือนใจ ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของลูกเมื่อ 30ปีก่อน ลูกยากที่จะรับได้ เพราะตลอดชีวิตที่ผ่านมา คงไม่มีความสูญเสียครั้งใด จะยิ่งไปกว่าครั้งนั้นอีกแล้ว ลูกจึงขอนำเรื่องดังกล่าวมากราบขอความเมตตาคุณครูไม่ใหญ่ได้ฝันได้ฝัน ดังนี้ค่ะ
 
    ลูก เป็นลูกสาวคนโตในจำนวนพี่น้อง 7คน คุณพ่อของลูก อพยพจากจีนแผ่นดินใหญ่ เข้ามาเมืองไทยตั้งแต่อายุ 17ปี โดยหลบซ่อนใต้ท้องเรือ มาขึ้นที่ท่าเรือบริเวณภาคเหนือ นับแต่นั้นมาคุณพ่อก็สู้ชีวิตมาโดยตลอด เริ่มจากอาชีพจับกังค่าแรงถูก ทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำนานนับสิบปี
 
    ต่อมา จึงมาเป็นลูกจ้างทำทองรูปพรรณในโรงงานย่านฝั่งธนฯ คงเป็นด้วยบุพเพสันนิวาสแต่ชาติปางก่อน ขณะที่คุณพ่ออายุเข้า 32ปี จึงได้มาพบรักกับ คุณแม่ของลูก ซึ่งยังเป็นสาววัยรุ่นอายุเพียง 16ปี แม้จะต่างวัยถึง 16ปี แต่นั่นก็ยังมิได้เป็นอุปสรรค เท่ากับที่คุณพ่อถูกสบประมาทว่า เป็นคนจน ไม่คู่ควรกับลูกสาวเถ้าแก่ร้านทอง เพราะคุณแม่ของลูกทั้งสาวทั้งสวยทั้งเก่ง คุณตาจึงหวงมาก ท่านจึงแกล้งเรียกค่าสินสอดสูงถึง 5หมื่นบาท เพราะรู้ว่าต่อให้คุณพ่อทำงานเป็นปีๆ ก็คงไม่มีปัญญาเก็บเงินจำนวนมากขนาดนี้ได้
 
    แต่คุณพ่อไม่ละความพยายาม สู้อดทนทำงานหนัก แถมยังยอมเป็นหนี้เจ้านายด้วยความสมัครใจ ในที่สุดก็มีเงินค่าสินสอดครบตามจำนวน แต่ถึงอย่างไร คุณตาท่านก็ยัง Say no ท่าเดียว จนร้อนถึงเจ้านายของพ่อ ต้องออกหน้าเจรจาให้ สุดท้ายคุณตาจึงจำใจต้องยกลูกสาวให้อย่างเสียไม่ได้
 
    หลังแต่งงานได้ไม่กี่วัน ยังอยู่ในช่วงข้าวใหม่ปลามัน คุณพ่อก็พาคุณแม่ย้ายไปเช่าบ้านไม้เก่าๆอยู่ตามลำพัง แม้จะเป็นห้องเดี่ยวแคบๆ แต่ก็อบอุ่นด้วยสายใยแห่งรัก ท่านทั้งสองช่วยกันทำงานอย่างขันแข็ง เพื่อใช้หนี้คืนเจ้านาย คุณพ่อเป็นเซลล์ขายทองที่สุดแสนจะประหยัด เก็บเงินทุกบาททุกสตางค์ เพื่อสร้างอนาคตให้กับครอบครัว ส่วนคุณแม่ก็ซื้อจักรเย็บผ้า มารับจ้างตัดเย็บเสื้อผ้า แต่อาศัยที่คุณแม่มีหัวทางค้าขาย พอเริ่มมีลูกคนที่สอง จึงย้ายไปเซ้งที่ใหม่ เปิดเป็นร้านโชว์ห่วย จนขายดิบขายดี ฐานะก็ดีขึ้น ในที่สุดก็หมดหนี้ และมีบ้านเป็นของตนเอง
 
    คุณแม่เป็นคนขยัน ใจดี รักความสะอาดมาก ชอบทำบุญตักบาตร พูดไพเราะ และห้ามไม่ให้ลูกๆพูดคำหยาบ คุณแม่สอนแม้แต่ท่าเดินท่านั่ง ให้นั่งตัวตรงสง่าผ่าเผย ทานข้าวก็ห้ามเคี้ยวเสียงดัง คุณแม่ตั้งท้องปีละคน 6ปี ก็ 6คน แล้วก็เว้นวรรค 6ปี ถึงได้มีน้องคนสุดท้องเป็นลูกหลงมาอีกคน ตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตร่วมกันมานานเกือบ 12ปี จนมีลูกได้ 7คน แต่ความรักที่คุณพ่อกับคุณแม่มีให้กัน ไม่เคยจืดจาง มีแต่จะหวานชื่นทุกคืนทุกวัน
 
    ในวันหยุด ลูกๆจะได้เห็นท่านทั้งสองนั่งกอดกัน แหย่กันไปมา กะหนุงกะหนิงเหมือนหนุ่มสาวที่เพิ่งจีบกันใหม่ๆ ลูกรู้สึกเลยว่าครอบครัวของเราอบอุ่นมากค่ะ เพราะความรักของคุณพ่อกับคุณแม่นั้นใหม่เสมอ...ไม่เคยเก่าเลยค่ะ
 
    แต่แล้ววันหนึ่ง เหตุการณ์ที่น่าสลดใจ ก็มาเกิดขึ้นกับครอบครัวของเราโดยที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ขณะนั้นลูกอายุ 12ขวบ บ้านของลูกเป็นบ้านสองชั้น ครึ่งตึกครึ่งไม้หลังที่สี่ ในจำนวนห้องแถวสิบคูหา หลังบ้านห่างจากโรงงานทำรองเท้าเพียงเมตรเดียว ในคืนวันศุกร์ก่อนเกิดเหตุ มีลูกค้าโทรศัพท์มาสั่งของด่วน คุณพ่อจึงออกไปส่งของที่ต่างจังหวัด ตั้งแต่หนึ่งทุ่มของคืนนั้น
 
    ในคืนวันเสาร์ ประมาณตีหนึ่ง จู่ๆแม่ของเด็กรับใช้ ก็ร้องตะโกนมาจากด้านหลังบ้านว่า “ไฟไหม้...ไฟไหม้” คุณแม่สะดุ้งตื่นทันที พอได้สติท่านก็รีบวิ่งจากห้องนอนด้านหน้า มาปลุกลูกและน้องๆ ซึ่งนอนรวมกันในห้องกลาง คุณแม่สั่งให้ลูกพาน้องๆไปฝากไว้ที่บ้านตรงข้าม ลูกรีบจูงไม้จูงมือน้องทั้ง 5คน วิ่งข้ามถนนตามกันออกมา แล้วก็รีบกลับมาช่วยคุณแม่ดับไฟ โดยสาดน้ำจากชั้นล่างขึ้นไปชั้นบน
 
    แต่ปรากฏว่ายิ่งราดน้ำ ไฟกลับลุกโหมยิ่งกว่าเดิม คุณแม่ก็เลยเปลี่ยนมาใช้กระสอบข้าวสารชุบน้ำ แล้วขึ้นไปตบที่ข้างกำแพง แต่ไฟก็ยังลามไหม้ท่วมถึงหลังคา จนสุดที่จะต้านไว้ได้ ทำได้แต่เพียงขนของออกไปไว้นอกบ้านให้ได้มากที่สุด ลูกคว้าจักรเย็บผ้าได้ ก็รีบยกออกมาอย่างงงๆ ทั้งที่จักรนั้นหนักมาก ขนาดสองคนยกก็ยังไม่ค่อยจะไหวเลยค่ะ
 
    ขณะที่กำลังวิ่งลนลานอยู่นั้นเอง คุณแม่ก็หันมาถามลูกว่า “น้องอยู่ไหน” ซึ่งท่านหมายถึงน้องคนสุดท้อง ซึ่งอายุเพียง 4เดือน ลูกตอบว่า “ก็น้องนอนอยู่กับแม่นิ สงสัยยังอยู่ข้างบนมั้ง” พอพูดจบ คุณแม่ก็ทำตาลอยเหมือนเบลอๆ เดินวนไปวนมา 2-3รอบ จนลูกแปลกใจ รีบทักขึ้นว่า “แม่เป็นอะไรเหรอ ไหนว่าจะขึ้นไปอุ้มน้องไง” คุณแม่กลับได้สติ รีบวิ่งขึ้นไปหาน้องที่ชั้นบนทันที โดยลืมไปสนิทว่า ท่านได้สั่งให้แม่ของคนใช้อุ้มน้องคนเล็กออกไปตั้งแต่แรกแล้ว
 
    หลังจากไฟไหม้ไปได้ครู่ใหญ่ รถดับเพลิงก็มาถึงที่เกิดเหตุ แต่แทนที่เจ้าหน้าที่จะรีบฉีดน้ำทันที เขากลับถามลูกว่า “หนู ถ้าจะให้ฉีดน้ำดับเพลิง คิดกระบอกละห้าหมื่นบาทนะ” ลูกคิดในใจว่า “โอ้โฮ...แพงจัง แล้วแม่จะมีปัญญาจ่ายไหมนี่” พอลูกไม่ตอบ เขาก็เลยไปฉีดน้ำให้บ้านหลังถัดไป ลูกนึกขึ้นได้ว่าคุณแม่ยังอยู่ชั้นบน พยายามตะโกนเท่าไหร่ ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบจากท่านเลย
 
    สักพักหนึ่ง ตำรวจก็เข้ามาดึงตัวลูกให้ขึ้นรถตำรวจ บอกว่าจะพาไปสอบสวนที่โรงพักโทษ ฐานที่เป็นบ้านต้นเพลิง ขณะที่ตำรวจคว้าแขนลูกขึ้นรถ ลูกพยายามชะเง้อมองหาคุณแม่ ปรากฏว่าเห็นท่านยืนหันหลังให้ อยู่บริเวณห้องนอนชั้นบน ลูกจึงร้องบอกตำรวจว่า “นั่นไง...แม่หนูอยู่ข้างบน”
 
    ตำรวจจึงรีบหันไปดู แต่ก็ไม่เห็นร่างของคุณแม่ เห็นแต่เพียงเปลวไฟลุกไหม้หลังคาสังกะสีตกลงมาในห้อง ลูกถูกตำรวจเขกศีรษะอย่างแรง หาว่าเป็นเด็กโกหก หลังจากถูกสอบสวนอยู่พักใหญ่ พอตอนเช้าลูกก็ถูกปล่อยตัวมา มาทราบข่าวภายหลังว่าคุณแม่เสียชีวิตแล้วในกองเพลิง แรงระเบิดของถังแก๊สทำให้ชิ้นส่วนอวัยวะของท่านกระเด็นกระจัดกระจาย ลูกเสียใจมากเอาแต่ร้องไห้ฟูมฟายจนตาบวม
 
    เช้าวันอาทิตย์ ลูกเดินออกมาปากซอย สวนกับคุณพ่อซึ่งขี่มอเตอร์ไซด์กลับมาจากต่างจังหวัด คุณพ่อร้องไห้อย่างเลื่อนลอย ลูกเรียกท่าน ท่านยังไม่ได้ยินเลย คุณพ่อรีบไปรอรับศพคุณแม่ที่สถาบันนิติเวช พอเห็นลำตัวของคุณแม่ซึ่งถูกไฟไหม้จนเกรียมเท่านั้น คุณพ่อรีบตรงเข้าไปกอดไว้แน่น ร้องไห้ฟูมฟาย พร่ำรำพันว่า “นี่ถ้าพ่ออยู่ด้วย พ่อรับรองว่าแม่จะต้องปลอดภัย” ลูกเห็นแล้วก็ยิ่งสงสารจับใจ
 
    หลังจากคุณแม่เสียชีวิตไปได้ 3วัน ขณะที่ลูกกำลังนอนครึ่งหลับครึ่งตื่น ก็เห็นคุณแม่มายืนอยู่ที่บันได พูดกับลูกว่า...
 
“แม่ฝากดูแลน้องให้ดีด้วย”
ลูกทั้งสั่นทั้งกลัว ละล่ำละลักตอบท่านไปว่า “แม่ไม่ต้องห่วง หนูจะดูแลน้องทุกคนอย่างดี แม่จะไปไหนก็ไปเถอะ หนูกลัว”
 
    พอลูกพูดจบ คุณแม่ก็จากไปทันที โดยที่ไม่เคยมาให้เห็นอีกเลยค่ะ หลังจากผ่านพ้นงานศพของคุณแม่ไปแล้ว คุณพ่อก็พาลูกๆย้ายไปอยู่กับคุณตาคุณยายและน้าๆ ต้องลำบากหยิบยืมเงินคนโน้นคนนี้หลายแสนบาท จนเขาไม่กล้าให้ยืม เพราะกลัวคุณพ่อไม่มีปัญญาจ่ายคืน แต่เพราะคุณพ่อเป็นขยันหนักเอาเบาสู้ เพียง 2ปี ก็สามารถรวบรวมเงินสร้างบ้านหลังใหม่ขึ้นมาได้สำเร็จ
 
    ต่อมา ปี พ.ศ.2532 คุณพ่อประสบอุบัติเหตุรถชนเข้ากับเสาไฟฟ้าอย่างจัง ถูกกระจกหน้ารถทิ่มจนหน้าเละ มีรอยแผลเป็นเต็มหน้า 3ปีต่อมา คุณพ่อก็ต้องเข้าห้องไอซียูถึง 3ครั้ง ด้วยโรคร้ายต่างๆรุมเร้า ทั้งความดันสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคปอด เท่านั้นยังไม่พอ วันหนึ่งคุณพ่อไปเอกซเรย์สมอง พอกลับมา คืนนั้นคุณพ่อก็กลายเป็นเจ้าชายนิทราทันที ทั้งๆที่ตอนเข็นรถเข้าไปในห้องเอกซเรย์ ท่านยังคุยเรื่องงานกับน้องชายอยู่เลย
 
    อาการชองคุณพ่อทรุดลงเรื่อยๆ ลูกและสามีได้มีโอกาสไปเยี่ยมท่านเป็นครั้งสุดท้ายก่อน “วันพ่อ” เพียงวันเดียว แต่แล้วเช้าวันรุ่งขึ้นซึ่งตรงกับ “วันพ่อ” ลูกก็ได้รับทราบข่าวร้ายว่า คุณพ่อเสียชีวิตแล้วตั้งแต่ตีสองของคืนวาน
 
 คำถาม
 
1.คุณแม่ทำกรรมใดมา จึงต้องมาถูกไฟคลอกตายอย่างทรมาน ทั้งๆที่เป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ชอบทำบุญ สวดมนต์ไหว้พระทุกวัน และไม่เคยทำบาปฆ่าสัตว์ หรือผิดศีลใดๆเลยค่ะ ลูกอยากทราบว่า จริงๆแล้ว ต้นเพลิงนั้นเกิดจากสาเหตุใดกันแน่คะ 
 
2.คุณแม่รักลูกๆมาก ถึงขนาดยอมสละชีวิตตนเอง เพื่อขึ้นไปช่วยน้องคนเล็ก คุณแม่ทำอย่างนี้จะได้บุญบ้างหรือไม่อย่างไรคะ 
 
3.ขณะเกิดเหตุ ลูกพยายามเรียกหาคุณแม่ และให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงขึ้นไปตามหา ก็ไม่พบ แต่พอขึ้นรถตำรวจ ลูกกลับมองเห็นท่านยืนอยู่ชั้นบน ในขณะที่ตำรวจมองไม่เห็น หาว่าลูกโกหก ไม่ทราบว่าตอนนั้นคุณแม่หายไปไหน ลูกเห็นจริงหรือว่าตาฝาดไปเองคะ
 
4.หลังจากคุณแม่เสียชีวิตได้ 3วัน ลูกกับน้าฝันตรงกันว่า คุณแม่มาในชุดนอนสีฟ้าที่ใส่ในคืนเกิดเหตุ ท่านมาหาพวกเราจริงๆหรือไม่คะ ที่ชาวบ้านลือกันว่า ตกดึกจะเห็นคุณแม่มากวาดขยะหน้าบ้านนั้นจริงหรือไม่ คุณพ่อเคยไปเฝ้ารอพบคุณแม่จนถึงเช้าอยู่หลายวัน แต่ทำไมคุณแม่ถึงไม่เคยมาให้คุณพ่อเห็นเลยคะ 
 
5.ก่อนเสียชีวิต คุณแม่นึกถึงอะไรคะ เจ็บปวดทรมานมากหรือไม่ ท่านตายแล้วไปไหน ท่านได้รับบุญทุกบุญที่ลูกๆอุทิศไปให้หรือไม่คะ มีข้อความอะไรฝากมาถึงลูกๆหรือไม่คะ 
 
6.คุณพ่อจากบ้านมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น ต่อสู้ชีวิตด้วยลำแข้งตนเอง และทำงานหนักมาตลอดชีวิต เป็นเพราะมีวิบากกรรมใดคะ
 
7.คุณพ่อถูกกระจกรถทิ่มจนหน้าเละ ป่วยเข้าไอซียูถึง 3ครั้ง และในที่สุดก็กลายเป็นเจ้าชายนิทรา เป็นเพราะวิบากกรรมใด ช่วง 6ปีหลัง คุณพ่อต้องเข้าห้องน้ำทุกชั่วโมง จนท่านหงุดหงิดใจ เป็นเพราะมีเศษกรรมใดหรือคะ 
 
8.คืนแรกที่คุณพ่อมีอาการเป็นเจ้าชายนิทรา ลูกยังไม่ทันทราบข่าว แต่กลับฝันเห็นคุณพ่อมายืนจ้องมองลูก อยู่ตรงหัวเตียง เป็นเพราะวิญญาณของคุณพ่อ ออกจากร่างแล้วมาหาลูกใช่หรือไม่ เพราะคืนเดียวกันนั้นก็มีเพื่อนบ้านเห็นคุณพ่อมานั่งอยู่หน้าบ้านเช่นกันค่ะ 
 
9.ทำไม ในคืนสุดท้ายที่ลูกและสามีไปเยี่ยมคุณพ่อ ลูกเห็นท่านสะบัดแขนและขยับขางอเข่าได้ แล้วก็ยังหันหน้าเอียงมาทางลูก แต่คนอื่นซึ่งจ้องมองคุณพ่อตลอดเวลาเช่นกัน กลับบอกว่าไม่เห็นอะไรเลย ทำให้ลูกและสามีงงมาก อยากทราบว่า คุณพ่อเคลื่อนไหวได้จริงๆหรือคะ หรือว่าตอนนั้นวิญญาณของท่านกลับมาเข้าร่างแล้ว ตลอด 10วันที่คุณพ่อไม่ได้สติ ท่านหายไปไหน เป็นอยู่อย่างไรคะ 
 
10.ในวาระสุดท้าย คุณพ่อมีคตินิมิตเป็นอย่างไร ตายแล้วไปไหน ท่านได้ไปอยู่ร่วมกับคุณแม่หรือไม่คะ ท่านทั้งสองมีกรรมร่วมกันมาหรือไม่ เหตุใดก่อนตายจึงทรมานคล้ายกันคะ 
 
11.คุณพ่อกับคุณแม่เป็นลูกกตัญญูมาก ท่านทั้งสองจะส่งเงินให้พ่อแม่และส่งเสียน้องๆ ตลอด บุญนี้จะมีอานิสงส์อย่างไรคะ เพราะเหตุใดบุญที่คุณพ่อและคุณแม่ทำเอง และลูกหลานทำให้ จึงยังไม่อาจตัดรอนวิบากกรรมของท่านทั้งสองได้เลยคะ 
 
12.ลูกและน้องสาวคนที่สี่ เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไรคะ 
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ด้วยความเคารพอย่างสูง 

ฝันในฝัน
 หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ

1.คุณแม่ถูกไฟคลอกตายอย่างทรมาน ทั้งๆที่เป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ชอบทำบุญ สวดมนต์ไหว้พระทุกวัน และไม่เคยทำบาปผิดศีลใดๆเลยนั้น

แม้ไม่สมกับกรรมดีในปัจจุบัน แต่ก็สมกับกรรมในอดีต เรื่องมีอยู่ว่าชาตินั้นคุณแม่มีสามี สามีได้มีภรรยาน้อยจึงทำให้ตนเองแค้นใจ ได้สั่งให้คนไปเผาบ้านที่สามีสร้างให้ภรรยาน้อย จนทำให้ภรรยาน้อยถูกไฟครอกตาย
 

  • และในชาตินั้นเองเมื่อทำบุญคราใดก็จะอธิษฐานว่า ชาติต่อไปอย่าได้มีสามีเจ้าชู้อย่างนี้อีกเลย
  • ดังนั้นชาติหลังๆจึงได้มีสามีไม่เจ้าชู้ คือ สามีในปัจจุบันนี้นั่นเอง ติดต่อกันมาหลายชาติ แต่ก็ถูกไฟครอกตายมาหลายชาติแล้ว
  • ต้นเพลิงเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร

2.คุณแม่รักลูกมากๆ ถึงขนาดยอมสละชีวิตตนเองเพื่อขึ้นไปช่วยชีวิตลูกคนเล็กนั้น ก็เป็นเรื่องความรักของแม่ไม่ใช่เป็นเรื่องของบุญกุศล กอปรกับเป็นกรรมของคุณแม่ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว 
 
 

3.ขณะเกิดเหตุ ลูกพยายามเรียกหาคุณแม่ และให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงขึ้นไปหาก็ไม่พบ แต่พอขึ้นรถตำรวจลูกกลับมองเห็นคุณแม่ยืนอยู่บนชั้นบน ในขณะที่ตำรวจมองไม่เห็นหาว่าลูกโกหกนั้น ลูกเห็นจริงๆไม่ได้ตาฝาด แต่ว่าคนอื่นมองไม่เห็น อีกทั้งคุณแม่สำลักควัน โดนความร้อน จึงพยายามดิ้นรนออกมา

 
4.หลังจากคุณแม่เสียชีวิตได้ 3วัน ลูกกับน้าฝันตรงกันว่า ท่านมาในชุดนอนสีฟ้าซึ่งท่านใส่ในคืนเกิดเหตุนั้น ก็เป็นเรื่องจริงที่คุณแม่มาหาทุกๆคน แต่ผู้ที่รับรู้ได้ก็มีแค่ตัวลูกและคุณน้า
 

  • ตกดึก ชาวบ้านเห็นคุณแม่มากวาดขยะหน้าบ้านนั้น ก็เป็นเรื่องไม่จริง แค่ลือกันไปเป็นตุเป็นตะเท่านั้นเอง
  • คุณพ่อเคยไปเฝ้ารอพบคุณแม่ถึงเช้าอยู่หลายวัน แต่ไม่พบ เพราะคุณแม่ไม่ได้วนเวียนอยู่ที่บ้านแล้ว
 
5.ก่อนเสียชีวิต คุณแม่ก็มีความทุกข์ทรมานมาก ดิ้นทุรนทุราย เพราะถูกไฟครอก
  • คุณแม่ตายแล้ว ก็วนเวียนอยู่ 7วัน แล้วเห็นทางสว่างด้วยบุญกุศลที่ทำไว้ จึงทำให้ไปเกิดเป็นอากาศเทวา มีวิมานเป็นทอง ทั้งๆที่คุณแม่ควรจะไปได้สูงกว่านี้ แต่เพราะความห่วงลูกๆจึงทำให้ใจใสได้ไม่เต็มที่
  • ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้วก็มีทิพยสมบัติเพิ่มขึ้น
  • คุณแม่ฝากข้อความมาว่า ท่านมีความสุขสบายมาก ได้รับบุญทุกบุญแล้ว และหายห่วงลูกทุกคนแล้ว 
 
6.คุณพ่อจากบ้านมาตั้งแต่ยังวัยรุ่น ต่อสู้ชีวิตด้วยลำแข้งของตนเอง และทำงานหนักมาตลอดชีวิต เพราะกรรมตระหนี่ในอดีต มาส่งผล
  • เรื่องมีอยู่ว่า ชาตินั้น ท่านเป็นพ่อค้าที่ร่ำรวย แต่ท่านมีความตระหนี่ไม่ทำทาน ไม่ค่อยเชื่อเกี่ยวกับเรื่องการทำทานและผลแห่งทาน แต่ก็ไม่ถึงกับสุดโต่ง ท่านเชื่อว่าจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้ต้องหนึ่งสมองสองมือเท่านั้น 
 
7.คุณพ่อถูกกระจกรถทิ่มจนหน้าเละ, ป่วยเข้าห้องไอซียูถึง 3ครั้ง และในที่สุดก็เป็นเจ้าชายนิทรา เพราะในอดีต คุณพ่อเคยเกิดในสังคมเกษตรกรรม ได้ฆ่าสัตว์ไว้ฆ่ากินเป็นอาหาร และฆ่าขายเป็นประจำ เป็นกรรมหลัก กับกรรมที่จ้างนักเลงไปทำร้ายคู่อริ มารวมส่งผล
 

  • ช่วง 6ปีหลัง คุณพ่อต้องเข้าห้องน้ำทุกหนึ่งชั่วโมงจนหงุดหงิดใจ เพราะโรคเบาหวานที่เกิดจากกรรมฆ่าสัตว์ดังกล่าว มาส่งผล
 
8.คืนแรกที่คุณพ่อมีอาการเป็นเจ้าชายนิทรา ลูกยังไม่ทันทราบข่าว แต่กลับฝันเห็นท่านมายืนจ้องมองลูกอยู่ตรงหัวเตียง และในคืนเดียวกันนั้นก็มีเพื่อนบ้านเห็นท่านมานั่งหน้าบ้านเช่นกัน เพราะลูกจิตนิวรณ์ มีความรักและระลึกถึงคุณพ่อด้วยความห่วงใย จึงทำให้เก็บเอาไปฝัน
  • ส่วนเพื่อนบ้านนั้น เห็นคนอื่นแต่เข้าใจว่าเป็นคุณพ่อ เป็นเรื่องที่คิดเป็นตุเป็นตะเท่านั้นเอง อย่าไปสนใจเลย


9.คืนสุดท้ายที่ลูกและสามีไปเยี่ยมคุณพ่อ ลูกเห็นท่านสะบัดแขนและงอเข่าพับได้ แล้วหันหน้าเอียงมาทางลูก แต่คนอื่นซึ่งจ้องมองท่านตลอดเวลาเช่นกันกลับบอกว่า ไม่เห็นอะไรเลย เพราะลูกเป็นห่วงท่านมาก จึงทำให้เห็นไปเป็นเช่นนั้น
 

  • ตลอด 10วันที่คุณพ่อหมดสตินั้น ท่านก็เหมือนคนหลับอยู่ในภวังค์ กายละเอียดก็ยังไม่ได้หลุดไปไหน
 
10.คุณพ่อตายแล้ว ด้วยใจที่ผูกพันกับคุณแม่มากๆ เมื่อถอดกายแล้วก็ไปเป็นอากาสเทวา มีวิมานอยู่ติดกันกับคุณแม่
 

  • คุณพ่อกับคุณแม่ก่อนตายมีอาการทรมานคล้ายกันนั้น ก็เป็นเรื่องของกรรมส่วนตัวของท่านทั้งสอง ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว คือ...
  • คุณพ่อได้จ้างนักเลงไปทำร้ายคู่อริ จนคู่อริเป็นเจ้าชายนิทรา
  • ส่วนคุณแม่ก็จ้างนักเลงให้ไปจุดไฟเผาบ้านเมียน้อยของสามีในชาตินั้น จนเมียน้อยถูกไฟครอกตาย
 
11.คุณพ่อกับคุณแม่เป็นลูกกตัญญู ท่านทั้งสองจะส่งเงินให้พ่อแม่และส่งเสียน้องเป็นประจำ บุญนี้จะมีอานิสงส์โดยย่อ คือ ได้บุญเลี้ยงดูบิดามารดาและสงเคราะห์ญาติ ดังนั้นเมื่อบุญส่งผล ก็จะมีลูกๆและญาติมาคอยช่วยเหลือท่านทั้งสองในยามที่ลำบาก
 

  • บุญที่คุณพ่อ-คุณแม่ทำเองและลูกหลานทำให้ ยังไม่อาจตัดรอนวิบากกรรมของท่านทั้งสองได้ เพราะบุญใหม่ที่ทำไว้ยังมีแรงส่งน้อยกว่ากรรมเก่า เหมือนต้นไม้ที่ปลูกนานแล้ว จะให้ดอกผลมากกว่าต้นไม้เพิ่งปลูก


12.ลูกและน้องสาวคนที่สี่ สร้างบารมีกับหมู่คณะมา โดยเป็นกองเสบียง ประเภทบางทีก็ตามกำลัง หลายครั้งก็เต็มกำลัง
 

  • ชาตินี้มาเจอกันแล้ว ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญ แล้วอธิษฐานจิตตามติดไปดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ เขตบรมโพธิสัตว์ อย่าได้พลัดกันเลย


http://goo.gl/lAq6L

กรณีศึกษากฎแห่งกรรมจากชีวิตจริง (Case study in real life)

บุคคลที่ปรากฏในเรื่องราวต่อไปนี้ มีตัวตนจริงในปัจจุบัน ประสบชะตากรรมขึ้นลงตามกระแสของวัฏฏะและกฎแห่งกรรม (ชมตัวอย่างบทสัมภาษณ์จากรายการชีวิตในสังสารวัฏ) ผู้อ่าน-ผู้ชมก็อย่าเพิ่งเชื่อหรือปฏิเสธในทันที ควรศึกษาหลักธรรมในพระพุทธศาสนา แล้วค่อยนำไปเป็นอุทธาหรณ์ในการดำเนินชีวิตต่อไป

"วิชชาธรรมกาย" เป็นความรู้ดั้งเดิมในพระพุทธศาสนา เมื่อปฏิบัติแล้วสามารถไปรู้ไปเห็นเรื่องราวกฎแห่งกรรม การเวียนว่ายในภพภูมิต่างๆ ตรงตามพระธรรมคำสอนในพระไตรปิฎก วิชชาธรรมกายจึงเป็นหลักฐานยืนยันการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งทันสมัยตลอดกาล (อกาลิโก)



พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      Case Study โรคมะเร็งลำไส้และภาวะลำไส้อุดตัน (คุณแม่ชื้น)
      Case Study โรคปอดติดเชื้อ (คุณพ่อกิตติ)
      Case Study โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง (คุณพ่อวิศิษฎ์)
      Case Study โรคมะเร็งท่อไต (โยมแม่นุชชดา)
      ราชองครักษ์ชาตินักรบ ตอนที่ 16 (ตอนจบ)
      Case Study วิบากกรรมใดทำให้ไปเป็นสัมภะเวสี (คุณพ่อหัน)
      วิบากกรรม "คนหาปลา" ตอนจบ
      Case Study โรคมะเร็งลำไส้ (อุบาสกปองสิชฌ์) ตอนที่ 2 (ตอนจบ)
      Case Study โรคมะเร็งลำไส้ (อุบาสกปองสิชฌ์) ตอนที่ 1
      Case Study โรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ (พระจุมพล)
      วิบากกรรมน้ำท่วมปอด (คุณแม่พยอม)
      Case Study โรคเส้นเลือดหัวใจตีบ (โยมพ่อเกษมศักดิ์) ตอนที่ 3 (ตอนจบ)
      Case Study โรคเส้นเลือดหัวใจตีบ (โยมพ่อเกษมศักดิ์) ตอนที่ 2




   ค้นหา บทความธรรม    

  ฝันในฝันวิทยา
  สารพันธรรมะ
  ปกิณกธรรม
  ผลการปฏิบัติธรรม
  โครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
  ธรรมะบันเทิง
  ข่าว
  ข่าวประชาสัมพันธ์
  ข่าวบุญฝากประกาศ
  DMC NEWS
  ข่าวรอบโลก
  กิจกรรมเว็บ dmc.tv
  Scoop - Review DMC
  เรื่องเด่นทันเหตุการณ์
  Review รายการ DMC
  หนังสือธรรมะ
  ธรรมะเพื่อประชาชน
  ที่นี่มีคำตอบ
  หลวงพ่อตอบปัญหา
  อยู่ในบุญ
  สุขภาพนักสร้างบารมี
  นิทานชาดก
  CaseStudy กฎแห่งกรรม
  กฎแห่งกรรม
  เรื่องราวชีวิต
  เหลือเชื่อแต่จริง
  อุทาหรณ์สอนใจ
  ฮอตฮิต...ติดดาว
  วิบากกรรม...ทำให้ทุกข์
  บุญเกื้อหนุน
  ปรโลกนิวส์
  ธรรมะและสมาธิ
  พุทธประวัติ
  สมาธิ
  ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ
  ทศชาติชาดก
  พุทธประวัติและวันสำคัญ
  บทสวดมนต์
  ศัพท์ธรรมะ ภาษาอังกฤษ
  มหาปูชนียาจารย์
  อานุภาพมหาปูชนียาจารย์
  ประวัติ
  กิจกรรม
  ธุดงค์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
  About DMC
  เกี่ยวกับ DMC
  DMC GUIDE
  มือถือ Mobile
  คู่มือเว็บ www.dmc.tv
  มาวัดพระธรรมกาย
   ค้นหา บทความธรรม    

ธรรมะที่เกี่ยวข้อง - Related