Mobile Versionโดย พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทัตตชีโว)เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMCคำถาม: คนที่ชอบปลุกพระ นำพระเครื่อง หรือพระบูชามาอาราธนาเข้าตัว เพื่อให้พระคุ้มครอง ทางด้านเมตตา หรือทางหนังเหนียว คนที่ชอบทำแบบนี้จะมีผลเสียอย่างไรแก่ตัวเขาหรือไม่ และบุคคลที่ชวนให้เขาทำแบบนี้ด้วย จะมีข้อเสียอย่างไรครับ ?
คำตอบ: นี่ก็เป็นความเข้าใจผิดอีกแบบหนึ่ง ซึ่งเมื่อก่อนหลวงพ่อก็เคยมีความเข้าใจผิดอย่างนี้เหมือนกัน ก็เคยไปเห็นเขาเอาพระเครื่องใส่มือ แล้วประเดี๋ยวเดียวก็ลั่นพั่บๆ เชียว เอ๊ะ...ทำไมลั่น ? ก็ลองทำดูบ้างก็ได้ข้อสังเกตว่า ถ้าเอาใส่มือเฉยๆ จะยังไม่สั่น ต้องกลั้นลมหายใจด้วย พอกลั้นลมหายใจเข้า โดยเฉพาะเกร็งที่หน้าท้องสักหน่อยเดี๋ยวมันก็สั่น นี่ก็เป็นเรื่องของด้านสรีรศาสตร์ เรื่องทางวิทยาศาสตร์ อย่าว่าจะต้องมีพระเครื่องเลย จริงๆ แล้วไม่ต้องมีพระเครื่องใส่มือหรอก เอาก้อนดินใส่มือไปก็ได้ หรือเอาอะไรใส่ก็ได้แล้วกลั้นลมหายใจ พอหายใจไม่ออกเดี๋ยวมันก็สั่นเอง สั่นอย่างนี้เขาไม่เรียกว่าปลุกพระหรอก เขาเรียกว่าปลุกเปรต ถ้าสิ่งที่เขาปลุกขึ้นมาได้เป็นพระจริงๆ พระต้องสำรวม นี่มาดิ้นพั่บๆ ดิ้นอย่างนี้เปรตนะ เปรตมันไม่สำรวม มันดิ้น ให้รู้ไว้ด้วยปลุกพระคำว่า “ปลุกพระ” นั้น มาจากคำเต็มว่า “ ปลุกตัวเองให้เป็นพระ” พูดสั้นๆ แบบคนไทยเหลือแต่หัวกับท้ายเอาไว้ ก็เลยเหลือแค่ปลุกพระ เหมือนอย่างกับคำว่า “คนใช้” จะแปลว่าไปใช้คนอื่นใช่ไหม ไม่ใช่นะ คำเต็มมาจากคำว่า “คนที่คอยรับใช้” เหลือแต่หัวกับท้าย กลายเป็นคนใช้คำถาม: ถามว่าปลุกพระที่ถูกต้องเขาทำอย่างไร ?
คำตอบ: ทำง่ายๆ ไม่ยากอะไร ถ้าเรายังไม่ได้บวช เราก็เอาศีล ๕ ข้อ มาใส่ไว้ในตัว คือเอามาปฏิบัติ เรามีศีลแล้วไม่ฆ่า ไม่ลักขโมย ไม่เจ้าชู้ ไม่โกหก ไม่กินเหล้า ครบ ๕ ข้อแล้ว ก็ไม่เป็นพิษเป็นภัยแก่ผู้อื่น และไม่ก่อความเดือดร้อนให้แก่ตัวเองถือศีลดีอย่างนี้ ถ้าเป็นผู้ชายเขา เรียกกันว่า “พ่อพระ” ถ้าเป็นผู้หญิงเขาเรียกกันว่า “แม่พระ”นี่คือการปลุกตัวเองให้เป็นพระ ไม่ใช่ไปทำอย่างอื่น ไม่ใช่กลั้นลมหายใจแล้ว ไปดิ้นโครมๆ ไม่ใช่อย่างนั้นถ้าถามว่าไม่มีศีล เป็นพระได้ไหม ตอบว่าเป็นไม่ได้หรอก ถ้าจะเป็น ก็เป็นพระเพลิง คือ อยู่ที่ไหนก็นำความเดือดร้อนไปให้ที่นั่นเพราะฉะนั้น ใครที่เป็นนักปลุกพระแบบผิดๆ ขอให้เลิกเสียหันมาตั้งใจรักษาศีลให้ดี ก็จะเป็นการปลุกพระที่ถูกต้องถ้าตั้งใจรักษาศีลให้ดี ก็จะเป็นการปลุกพระที่ถูกต้องถ้าไม่เชื่อขืนทำต่อไป อาการทางประสาท โรคหัวใจ โรคความดัน จะตามมาเล่นงาน คนปลุก คนเชียร์ ให้เขาปลุกก็เท่ากับเชียร์ให้เขาบ้า ก็คงมีเวรตามๆ กันไปด้วยคำถาม: ขอความกรุณาหลวงพ่อช่วยอธิบายคำต่อไปนี้ให้ด้วยคะ ?
๑. ปัญญา
๒. ปัญญาอบรมสมาธิ
๓. สมาธิอบรมปัญญา
คำตอบ: ปัญญาในพระพุทธศาสนา หมายถึง ความรู้รอบ คือรู้รอบตัว รู้ดี รู้ชั่ว รู้ผิด รู้ถูก รู้ควร รู้ไม่ควรแค่รู้เฉยๆ ฉลาดรู้สารพัดแต่เจ้าเล่ห์แสนกล ทำผิดทำชั่วเป็นตัวแสบ ฉลาดทำสิ่งที่ไม่สมควร ไม่เรียกว่าเป็นปัญญาปัญญาอบรมสมาธิ หมายถึงขณะที่เรากำลังนั่งสมาธิอยู่ เราก็ต้องรู้จักใช้ความสังเกต สังเกตให้ได้ว่าวางใจไว้ตรงไหนรู้สึกพอดี นั่งท่าไหนนั่งได้นาน วางใจขนาดไหนมันสบาย มันพอดีการกำหนดนิมิต ชนิดไหนเป็นสมาธิดี เป็นสมาธิได้เร็ว จะนึกถึงองค์พระดี หรือดวงแก้วดี จึงจะเหมาะกับตัวเรานี่เป็นลักษณะส่วนบุคคล ถ้าเรารู้จักตัดสินใจลงไปได้ ว่าทำอย่างไรสมาธิจึงจะก้าวหน้าขึ้น เขาเรียกปัญญาอบรมสมาธิส่วนที่เรียกว่า สมาธิปัญญา คือเมื่อมีสมาธิมากเข้าๆ ใจมันก็ผ่องใส เมื่อใจผ่องใสเข้าๆ ปัญญาก็ยิ่งเกิดลุ่มลึกขึ้นไปตามลำดับทั้งสมาธิและปัญญาช่วยกันไปช่วยกันมาอย่างนี้
http://goo.gl/YT7Bp
พิมพ์บทความนี้
