ทศชาติชาดก เรื่อง พระมหาชนก ผู้ยิ่งด้วยวิริยบารมี ตอนที่ 7

ส่วนพระมหาชนกนั้น เมื่อทรงพ้นจากรัศมีการดึงดูดของน้ำและสัตว์ร้ายได้แล้ว ก็ทรงแหวกว่ายลอยคอเหมือนกับท่อนกล้วย ที่ล่องลอยอยู่ในคลื่นมหาสมุทร ท่านได้เพียรว่ายเพื่อจะข้ามข้ามมหาสมุทรด้วยกำลังแขนอยู่ถึง ๗ วัน https://dmc.tv/a544

บทความธรรมะ Dhamma Articles > ทศชาติชาดก > พระมหาชนก
[ 13 ต.ค. 2549 ] - [ ผู้อ่าน : 18284 ]
 
 
ทศชาติชาดก
 
เรื่อง  มหาชนก   ผู้ยิ่งด้วยวิริยบารมี  ตอนที่ 7
 

    จากตอนที่แล้ว พระราชกุมารทรงเข้าไปขอทรัพย์จากพระมารดา เพื่อที่จะนำไปลงทุนค้าขาย แล้วจะได้ชิงเอาราชสมบัติซึ่งเป็นของพระราชบิดากลับคืนมา พระมารดาก็ทรงมอบแก้วสำคัญที่มีค่ามากให้ 3 ดวง แต่ได้ตรัสห้ามว่า ทรัพย์ที่แม่มีนี้ก็มากพอที่จะใช้ชิงราชสมบัติคืน ขอลูกอย่าได้คิดทำการค้าขายเลย

    พระโอรสแม้จะถูกพระมารดาตรัสทัดทาน ก็ไม่ทรงเปลี่ยนพระทัย เมื่อได้ทรัพย์จากพระมารดาแล้ว จึงทรงแปลงสินทรัพย์นั้นให้เป็นต้นทุน แล้วนำไปซื้อสินค้าจำนวนมาก ขนขึ้นเรือพร้อมกับพวกพ่อค้า

    มิได้ทรงรู้ถึงความสังหรณ์พระทัยของพระมารดาเลย ว่าจะมีภัยมาถึงตน เมื่อใกล้เวลาเรือจะออกจากท่าก็ทรงกราบลาพระมารดา และตรัสให้สัญญาว่า “ไม่นานนักลูกจะกลับมา” เมื่อทรงล่ำลาพระมารดาเสร็จแล้ว ก็รีบออกเดินทางทันที

    เมื่อถึงวันที่ ๗ ของการเดินทาง เรือก็ประสบกับพายุร้ายที่โหมกระหน่ำ ท้องทะเลเต็มไปด้วยคลื่นลูกใหญ่ๆ เมื่อสีข้างเรือถูกคลื่นลูกใหญ่ๆ ซัดหนักๆ เข้า ก็ทนแรงกระแทกไม่ไหว แผ่นกระดานได้ปริแตกออกจากกัน  ทำให้น้ำทะเลไหลทะลักเข้ามาในเรือ   ในที่สุดเรือก็แตก แล้วค่อยๆ จมลงท่ามกลางมหาสมุทร

    พวกพ่อค้าทั้ง ๗๐๐ คน เมื่อเรือแตกแล้ว ก็รู้ว่าตนเองต้องจมน้ำตายอย่างแน่นอน  ก็เกิดหวาดหวั่นพรั่นพรึงต่อมรณภัย  แสดงกิริยาต่างๆ กัน บ้างก็ร้องไห้คร่ำครวญ บ้างก็กราบไหว้อ้อนวอนต่อเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตัวเองนับถือ 

    ส่วนพระโพธิสัตว์ เมื่อทรงทราบว่า เรือจะต้องอับปางลงแน่นอนก็มิได้ทรงหวั่นไหว ทรงเตรียมคลุกน้ำตาลกรวดกับเนย แล้วเสวยจนอิ่ม

    จากนั้นก็นำผ้าเนื้อเกลี้ยงสองผืนชุบน้ำมันจนชุ่ม แล้วนำมานุ่งห่มปกปิดผิวหนังให้มั่น เพื่อไม่ให้ถูกน้ำทะเลกัดผิว แล้วจึงประทับยืนเกาะเสากระโดง จากนั้นก็ทรงปีนขึ้นไปประทับยืนบนยอดเสากระโดงนั้น

    ในเวลาเรือจมลง พวกพ่อค้าบางพวกถูกกระแสน้ำดูดลง จมน้ำตายภายใต้ท้องมหาสมุทรพร้อมกับเรือ

    บางพวกก็พ้นจากแรงดูดของน้ำได้ แต่เมื่อหมดเรี่ยวแรงที่จะว่ายต่อไป ก็จมน้ำตายกลายเป็นอาหารของปลาและเต่า ไม่มีใครสักคนที่สามารถรอดพ้นจากความตายได้
 
    มีเพียงพระมหาชนกเท่านั้น ที่ทรงตั้งสติมั่น ได้กำหนดทิศที่ตั้งของเมืองมิถิลา แล้วก็กระโดดจากยอดเสากระโดงไปทางทิศนั้น ข้ามพ้นฝูงปลาร้ายไปตกอยู่ในที่ไกลจากเรือ เพราะพระองค์มีพละกำลังมาก จึงทำให้ทรงพ้นจากแรงดึงดูดของน้ำในขณะที่เรือจม

    ในวันเดียวกันนี้เอง พระเจ้าโปลชนกราชก็ได้สวรรคต โดยปราศจากรัชทายาทผู้เหมาะสมที่จะมาสืบทอดราชสมบัติต่อได้

    ส่วนพระมหาชนกนั้น เมื่อทรงพ้นจากรัศมีการดึงดูดของน้ำและสัตว์ร้ายได้แล้ว ก็ทรงแหวกว่ายลอยคอเหมือนกับท่อนกล้วย ที่ล่องลอยอยู่ในคลื่นมหาสมุทร ท่านได้เพียรว่ายเพื่อจะข้ามข้ามมหาสมุทรด้วยกำลังแขนอยู่ถึง ๗ วัน
 
    แม้จะทรงเหน็ดเหนื่อยสักเพียงไหน ร่างกายจะอ่อนล้าเพียงใด แต่เมื่อทรงนึกถึงเป้าหมายคือราชสมบัติที่รอคอยอยู่เบื้องหน้า ก็เกิดกำลังใจขึ้นมาได้ทรงว่ายต่อไปแม้จะทรงมองไม่เห็นฝั่ง

    วิสัยของพระบรมโพธิสัตว์นั้น เป็นผู้มีความเพียรไม่ลดละ ไม่ทรงท้อถอยในการทำความเพียร แม้จะรู้ว่าบางครั้งสิ่งที่ทุ่มเทลงไปอาจไร้ผล  แต่ถ้าเป็นความเพียรที่ไม่มีโทษก็จะทรงทำต่อไป

    ยิ่งเมื่อทรงเห็นว่าความเพียรนั้น เมื่อบรรลุเป้าหมายแล้วจะเกิดประโยชน์ใหญ่ ก็จะไม่ยอมหยุดยั้งความเพียรนั้นเป็นอันขาด  แม้หากจะต้องพลีด้วยชีวิต ก็ทรงยอมอุทิศให้ เพราะอย่างน้อยก็จะเป็นต้นแบบแห่งความเพียรอันยิ่งใหญ่ ทำให้อนุชนรุ่นหลังเกิดกำลังใจในการทำความเพียรตามพระองค์ไป

    อีกทั้งความเพียรนี้ จะกลายเป็นผังสำเร็จติดตัวพระองค์ไปข้ามชาติ เป็นผังของผู้ไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรค ไม่เคยหมดอาลัยในชีวิต แต่เป็นชีวิตที่เต็มเปี่ยมด้วยความหวังและพลังใจไม่สิ้นสุด ปัญหาจะหนักหนาสักแค่ไหน ก็จะมีแต่คำว่า  “ทำได้” และ “สำเร็จ” อยู่ในพระหฤทัยเสมอ

    พระโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลายจึงเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จเรื่อยมา เพราะท่านเป็นผู้เลิศด้วยความเพียร เหมือนดังเรื่องของมหาชนกผู้เพียรว่ายข้ามมหาสมุทรอยู่นี้ แม้จะมองไม่เห็นฝั่ง แต่จิตใจยังเปี่ยมด้วยพลังแห่งความหวัง ว่าสักวันหนึ่งจะต้องว่ายข้ามให้ถึงฝั่งให้ได้

    พระมหาชนกนั้น เมื่อทรงว่ายมาถึงวันที่ ๗  ทรงสังเกตเห็นพระจันทร์เต็มดวง ก็ทรงรู้ว่าวันนี้เป็นวันอุโบสถ จึงใช้น้ำเค็มบ้วนพระโอษฐ์ ทรงสมาทานอุโบสถศีลด้วยใจที่ตั้งมั่น แล้วก็ว่ายน้ำต่อไป โดยไม่คำนึงถึงความทุกข์ยากในมหาสมุทรเลย

    ในสมัยนั้น ท้าวโลกบาลทั้งสี่ได้ทรงมอบหมายให้เทพธิดาชื่อมณีเมขลา เป็นผู้คอยให้ความคุ้มครองมนุษย์ผู้มีคุณธรรม มีการบำรุงบิดามารดาเป็นต้น ว่าอย่าให้ได้รับอันตราย เพราะเป็นผู้ที่ไม่สมควรจะตายในมหาสมุทร

    เนื่องจากวันที่ผ่านมา นางมณีเมขลาได้เพลิดเพลินอยู่ด้วยการเสวยทิพยสมบัติ จึงไม่ได้มาตรวจตรามหาสมุทรนานถึง ๗ วัน 
 
    เมื่อนางนึกขึ้นได้ก็คิดว่า “วันนี้เป็นวันที่ ๗ ที่เรามิได้ตรวจตรามหาสมุทร มีเหตุอะไรเกิดขึ้นบ้างหนอ”  เมื่อนางตรวจดูก็เห็นพระมหาชนกโพธิสัตว์ กำลังดำผุดดำว่ายอยู่กลางมหาสมุทรตามลำพัง

    จึงคิดว่า  “ถ้ามหาชนกกุมารสิ้นพระชนม์ในมหาสมุทร เราจะมีความผิดอย่างมหันต์ อาจหมดสิทธิ์ที่จะเข้าสู่เทวสมาคม” 
 
    คิดฉะนี้แล้ว ก็รีบเหาะมาสถิตอยู่ในอากาศ เหนือท้องมหาสมุทรตรงที่พระโพธิสัตว์กำลังว่ายน้ำอยู่

    นางเกิดความอัศจรรย์ใจ และสงสัยว่าคนทั้งหลายเขาจมน้ำตายกันไปหมดแล้ว แต่ทำไมพระองค์ยังคงว่ายต่อไปแม้จะมองไม่เห็นฝั่ง

    จึงเปล่งเสียงให้พระโพธิสัตว์ทรงได้ยิน แล้วถามว่า  “ใครหนอ แม้จะแลไม่เห็นฝั่งก็ยังพยายามว่ายอยู่ท่ามกลางมหาสมุทร ท่านเห็นประโยชน์อะไรจึงพยายามว่ายอยู่อย่างนี้”

    พระโพธิสัตว์ทรงดำริว่า “เราแหวกว่ายอยู่ถึง ๗ วัน เข้าวันนี้แล้ว ยังไม่เคยเห็นใครสักคนเลย ใครหนอมาพูดกับเรา” 

    เมื่อทรงมองขึ้นไปเบื้องบน ก็ทรงเห็นเทพธิดามณีเมขลาสถิตอยู่ในอากาศ  จึงตรัสตอบว่า  “ดูก่อนเทพธิดา เราไตร่ตรองเห็นข้อปฏิบัติประจำโลกและอานิสงส์แห่งความเพียร เพราะฉะนั้น ถึงจะมองไม่เห็นฝั่ง เรายังพยายามว่ายอยู่ท่ามกลางมหาสมุทร
 
    ขึ้นชื่อว่าความเพียรที่ไม่มีโทษ เมื่อบุรุษพากเพียรไปย่อมไม่เสียหาย ย่อมให้ดำรงอยู่ในความสุขได้   ถึงแม้จะมองไม่เห็นฝั่ง เราก็จะพยายามเรื่อยไป หากไม่ทำความเพียรแล้วจะพบความสำเร็จได้อย่างไร” เมื่อนางเทพธิดามณีเมฆขลาได้ฟังพระโพธิสัตว์ตรัสอย่างนั้น ก็รู้สึกชื่นชมในความเพียรพยายามของพระองค์ แต่นางจะรีบช่วยพระโพธิสัตว์ในทันทีหรือไม่ โปรดติดตามตอนต่อไป
 
โดย : หลวงพ่อธัมมชโย (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)

 

http://goo.gl/25GY6


พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      ทศชาติชาดก เรื่อง ภูริทัต ตอนที่ 2 ต้นเหตุแห่งเภทภัย
      ทศชาติชาดก เรื่อง ภูริทัต ตอนที่ 1 การสร้างบารมีของพระโพธิสัตว์
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 202
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 201
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 200
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 199
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 198
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 197
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 196
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 195
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 194
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 193
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 192




   ค้นหา บทความธรรม    

  ฝันในฝันวิทยา
  สารพันธรรมะ
  ปกิณกธรรม
  ผลการปฏิบัติธรรม
  โครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
  ธรรมะบันเทิง
  ข่าว
  ข่าวประชาสัมพันธ์
  ข่าวบุญฝากประกาศ
  DMC NEWS
  ข่าวรอบโลก
  กิจกรรมเว็บ dmc.tv
  Scoop - Review DMC
  เรื่องเด่นทันเหตุการณ์
  Review รายการ DMC
  หนังสือธรรมะ
  ธรรมะเพื่อประชาชน
  ที่นี่มีคำตอบ
  หลวงพ่อตอบปัญหา
  อยู่ในบุญ
  สุขภาพนักสร้างบารมี
  นิทานชาดก
  CaseStudy กฎแห่งกรรม
  กฎแห่งกรรม
  เรื่องราวชีวิต
  เหลือเชื่อแต่จริง
  อุทาหรณ์สอนใจ
  ฮอตฮิต...ติดดาว
  วิบากกรรม...ทำให้ทุกข์
  บุญเกื้อหนุน
  ปรโลกนิวส์
  ธรรมะและสมาธิ
  พุทธประวัติ
  สมาธิ
  ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ
  ทศชาติชาดก
  พุทธประวัติและวันสำคัญ
  บทสวดมนต์
  ศัพท์ธรรมะ ภาษาอังกฤษ
  มหาปูชนียาจารย์
  อานุภาพมหาปูชนียาจารย์
  ประวัติ
  กิจกรรม
  ธุดงค์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
  About DMC
  เกี่ยวกับ DMC
  DMC GUIDE
  มือถือ Mobile
  คู่มือเว็บ www.dmc.tv
  มาวัดพระธรรมกาย
   ค้นหา บทความธรรม    

ธรรมะที่เกี่ยวข้อง - Related