ทศชาติชาดก เรื่องสุวรรณสาม ผู้ยิ่งด้วยเมตตาบารมี ตอนที่ 13

ครั้นได้สดับคำกล่าวตามที่เป็นจริงของสุวรรณสามแล้ว พระราชาก็ทรงเกิดความละอายพระทัยว่า เรายิงพ่อสามะผู้ไร้ความผิดก็นับว่าทำกรรมอันหยาบช้านักแล้ว ยังมากล่าวเท็จกับเธออีก จึงทรงรับสารภาพว่า “ดูก่อนสามะ อันที่จริง เนื้อเหล่านั้นเห็นท่านแล้วก็มิได้ตกใจอะไรเลย เรากล่าวคำเท็จกับท่าน เพราะเราถูกความโกรธและความโลภครอบงำ จึงยิงท่านด้วยลูกศร” https://dmc.tv/a1436

บทความธรรมะ Dhamma Articles > ทศชาติชาดก > สุวรรณสาม
[ 14 มี.ค. 2550 ] - [ ผู้อ่าน : 18263 ]
 
ทศชาติชาดก
 
เรื่อง  สุวรรณสาม   ผู้ยิ่งด้วยเมตตาบารมี  ตอนที่ 13
 

        จากตอนที่แล้ว สุวรรณสามโพธิสัตว์ขณะที่แบกหม้อน้ำกลับอาศรม ได้ถูกยิงด้วยธนูจึงร้องถามว่า " เนื้อของเราก็กินไม่ได้ หนังของเราก็ไม่มีประโยชน์ แล้วเหตุใดถึงได้ยิงเรา  ท่านเป็นใคร ทำไมท่านถึงได้ยิงเรา แล้วซ่อนตัวเสียเช่นนี้ "   พูดได้เพียงเท่านี้ก็สิ้นเรี่ยวแรงนอนนิ่งอยู่

        ฝ่ายพระเจ้าปิลยักขราช ได้สดับวาจาของพระโพธิสัตว์แล้ว ก็ดำริว่า บุรุษนี้ แม้จะถูกเรายิงด้วยลูกศรอาบยาพิษ แต่ก็ยังเรียกหาเราด้วยถ้อยคำที่ไพเราะ  ดำริฉะนี้แล้ว จึงเสด็จเข้าไปหาพระโพธิสัตว์ ตรัสบอกฐานะของพระองค์ แล้วก็ตรัสถามพระโพธิสัตว์ว่าเป็นมนุษย์ นาค หรือเทวดา

        พระโพธิสัตว์เมื่อสดับพระดำรัสของพระราชาก็รู้ว่า "พระราชานี้ยิงเราโดยที่ไม่รู้ว่าเราเป็นมนุษย์ หากเราจะบอกพระองค์ไปว่า เราเป็นกษัตริย์ พระราชานี้ก็จะทรงเชื่อ แต่เราจะทำเช่นนั้นไปเพื่ออะไร"   จึงกล่าวว่า "ข้าพระองค์เป็นมนุษย์ เป็นบุตรของฤษี  ญาติทั้งหลายเรียกข้าพระองค์ว่าสามะ" 

        พระราชาสดับคำของพระโพธิสัตว์แล้ว ก็ทรงรู้ว่า ผู้นี้เป็นมนุษย์ จึงทรงละอายยิ่งนัก ไม่อาจตรัสบอกความจริงได้ จึงตรัสคำเท็จไปว่า  "ดูก่อนสามะ เราเองกำลังจะยิงสัตว์ป่าพวกนั้น มันกำลังเข้ามาสู่ระยะลูกศรของเรา แต่พอพวกมันเห็นท่านเข้าแล้วก็หนีไป เราโกรธมากจึงยิงท่าน"  

        ลำดับนั้นพระมหาสัตว์ได้กล่าวขึ้นว่า   "พระองค์ตรัสอะไร?  เหล่ามฤคที่อาศัยอยู่ในหิมวันตประเทศนี้ เห็นข้าพระองค์แล้วไม่เคยสะดุ้งหวาดกลัวเลย พวกเราล้วนมีมิตรภาพต่อกัน เที่ยวเล่นไปในที่ต่างๆด้วยกัน เมื่อเป็นเช่นนี้ มฤคทั้งหลายจะสะดุ้งกลัวหนีข้าพระองค์ไปด้วยเหตุอันใด"

        ครั้นได้สดับคำกล่าวตามที่เป็นจริงของสุวรรณสามแล้ว พระราชาก็ทรงเกิดความละอายพระทัยว่า เรายิงพ่อสามะผู้ไร้ความผิดก็นับว่าทำกรรมอันหยาบช้านักแล้ว ยังมากล่าวเท็จกับเธออีก   จึงทรงรับสารภาพว่า “ดูก่อนสามะ อันที่จริง เนื้อเหล่านั้นเห็นท่านแล้วก็มิได้ตกใจอะไรเลย เรากล่าวคำเท็จกับท่าน เพราะเราถูกความโกรธและความโลภครอบงำ จึงยิงท่านด้วยลูกศร” 

        ครั้นตรัสแล้ว พระราชาก็ทรงมีดำริว่า สามะผู้นี้คงมิได้อาศัยอยู่ในป่านี้เพียงลำพังเป็นแน่ เขาคงต้องมีญาติ แล้วญาติพี่น้องของเขาอยู่ที่ไหนกันหนอ เราจะลองถามเขาดู   ดำริดังนี้แล้วจึงตรัสถามอีกว่า   “ดูก่อนสามะ ท่านมาจากไหน ใครใช้ให้ท่านมาตักน้ำล่ะ” 

        พระโพธิสัตว์เมื่อจะตอบพระดำรัสของพระราชา ได้กลั้นทุกขเวทนาเป็นอันมากเอาไว้ บ้วนโลหิตที่ไหลทะลักออกจากปาก แล้วกล่าวว่า “ข้าแต่มหาราช บิดามารดาของข้าพระองค์ตาบอด ...ข้าพระองค์เลี้ยงท่านอยู่ในป่าใหญ่ ข้าพระองค์มาตักน้ำดื่มในที่นี้ก็เพื่อท่านทั้งสอง” 

        เมื่อเอ่ยถึงบิดามารดาแล้ว ความเศร้าโศกก็พลันท่วมใจพระโพธิสัตว์ เพราะรู้ว่าตนคงไม่รอดจากความตาย ได้กลับไปหาท่านทั้งสองอีกแล้ว

        พระโพธิสัตว์จึงพร่ำรำพันถึงบุพการีทั้งสองปานหัวใจจะแตกสลายว่า “เวลานี้ อาหารของบิดามารดาข้าพระองค์ยังพอมีอยู่ มีเพียงพอที่จะให้ท่านทั้งสองดำรงชีวิตอยู่ได้อีก 6 วัน

        ...แต่ท่านทั้งสองนั้นตาบอดหมดทั้งสองข้าง ข้าพระองค์เกรงว่าท่านจะตายเสียก่อนเพราะไม่ได้ดื่มน้ำ 

        ...ข้าแต่พระราชา  ความทุกข์ที่ถูกศรอาบยาพิษแทงทะลุร่างกายแม้จะมีมาก แต่ก็เป็นเพียงความทุกข์กายที่ข้าพระองค์อดกลั้นได้ แต่ความทุกข์ที่เกิดจากการไม่ได้เห็นบิดามารดาอีกนั้น นับว่าเป็นความทุกข์ทรมานใจยิ่งกว่าทุกข์เพราะถูกยิงเสียอีก 

        ...บิดามารดาทั้งสอง เมื่อไม่ได้พบข้าพระองค์ ท่านคงต้องร้องไห้ถึงข้าพระองค์ตลอดราตรี อาจสูญสิ้นชีวิตไปในกึ่งราตรี หรือที่สุดแห่งราตรี ดุจแม่น้ำน้อยในฤดูร้อน เมื่อถูกแสงแดดแผดเผาก็จักเหือดแห้งไป

        ...ข้าพระองค์เคยบำรุงท่านทั้งสอง คอยนวดมือนวดเท้าให้ มาบัดนี้เมื่อไม่เห็นข้าพระองค์แล้ว ท่านทั้งสองจักต้องบ่นเรียกหาว่า พ่อสามะไปเที่ยวอยู่ในป่าใหญ่ เจ้าไปไหนหนอป่านนี้ยังไม่กลับมา  

        ... ข้าแต่เจ้าเหนือหัว ก็ลูกศรคือความเศร้าโศกนี้แหละ ที่แผดเผาจิตใจของข้าพระองค์อยู่ ข้าพระองค์เห็นจะต้องตายเป็นแน่ในคราวนี้ ข้าพระองค์จะไม่ได้เห็นบิดามารดาทั้งสองอีกแล้ว”

        พระเจ้าปิลยักขราช ได้สดับสุวรรณสามโพธิสัตว์คร่ำครวญถึงบิดามารดาเช่นนี้ ก็ทรงมีดำริว่า “บุรุษนี้เป็นผู้ประพฤติพรหมจรรย์ตั้งอยู่ในธรรม ปฏิบัติบิดามารดาอย่างยอดเยี่ยมยากจะหาบุคคลใดเสมอเหมือน

        ...แม้ตนจะได้รับทุกขเวทนาถึงเพียงนี้ ก็ยังคร่ำครวญห่วงหาแต่บิดามารดา เราเองได้ทำความผิดต่อบุรุษผู้สมบูรณ์ด้วยคุณธรรมถึงเพียงนี้ เราคงต้องตกนรกแน่ เราจะไถ่โทษของเราอย่างไรดี” 

        ดำริดังนี้แล้ว พระราชาก็ทรงนึกถึงภาพในมหานรก ทรงเกิดความสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง จึงดำริว่า “หากเราต้องตกไปสู่นรก แล้วราชสมบัติที่ยิ่งใหญ่ จะช่วยอะไรเราได้

        ... เราจะยังไม่กลับไปครองราชย์ แต่จะอยู่ที่นี่  แล้วเลี้ยงดูบิดามารดาแทนเขา โดยจะไม่บอกให้ท่านทั้งสองรู้ว่า บัดนี้บุตรชายได้ตายไปแล้ว”   

        เมื่อตกลงพระทัยเช่นนี้แล้ว จึงตรัสว่า“ดูก่อนสามะ ท่านอย่าพร่ำรำพันอะไรอีกเลย เราเองเป็นผู้เชี่ยวชาญในการยิงธนู เป็นที่เลื่องลือไปทั่วชมพูทวีปว่ามีความแม่นยำนัก

        ... เราจะฆ่ามฤค และแสวงหาผลาผลในป่า มาทำการงานเลี้ยงดูบิดามารดาของท่าน ดูก่อนสามะ ที่อยู่อาศัยของบิดามารดาของท่านอยู่ที่ไหน จงบอกแก่เราเถิด เราจะเลี้ยงท่านทั้งสอง ให้เหมือนกับที่ท่านทำ”

        พระโพธิสัตว์สดับคำของพระราชาแล้ว ก็ดีใจยิ่งนัก ได้ทูลว่า “เป็นมหากรุณายิ่งนักพระเจ้าข้า ขอพระองค์จงทรงโปรดเลี้ยงดูบิดามารดาของข้าพระองค์ด้วยเถิด”

        จากนั้นก็ได้ชี้บอกหนทางให้พระราชาทรงทราบว่า  “เส้นทางที่จะไปยังอาศรมของข้าพระองค์นั้น อยู่ทางด้านหัวนอนของข้าพระองค์ ขอพระองค์เสด็จดำเนินไปชั่วกึ่งเสียงกู่ร้อง ก็จะถึงสถานที่อยู่ของบิดามารดาของข้าพระองค์ ขอพระองค์เสด็จไป แล้วเลี้ยงดูท่านทั้งสองเถิด”

        พระมหาสัตว์ทูลบอกหนทางแด่พระราชาแล้ว ได้กลั้นทุกขเวทนาอันแรงกล้า แล้วรวบรวมกำลังที่มีอยู่ทั้งหมด ประคองอัญชลีทูลวิงวอนต่อพระราชาเป็นครั้งสุดท้าย ว่า “ข้าแต่มหาราช     ข้าพระบาทขอน้อมกราบพระองค์

        .... ข้าแต่มหาราช    ข้าพระบาทขอน้อมกราบพระองค์  ขอพระองค์ทรงบำรุงเลี้ยงบิดามารดาผู้ตาบอดในป่าใหญ่ด้วยเถิด

        ...และขอพระองค์จงตรัสบอกบิดามารดาของข้าพระองค์ด้วยเถิดว่า     สามะขอกราบลาบิดามารดาผู้มีพระคุณยิ่งเป็นครั้งสุดท้าย”
 
 
        เมื่อกล่าวจบกำลังแห่งยาพิษก็ได้แผ่ซ่านไปทั่วร่าง สุวรรณสามโพธิสัตว์เมื่อทนพิษแห่งบาดแผลไม่ไหว ก็ถึงกับสิ้นสตินอนนิ่งไป ส่วนพระราชา บัดนี้ได้ตระหนักถึงความผิดของตนอย่างถ่องแท้ แต่พระองค์จะทรงทำประการใดต่อนั้น  โปรดติดตามตอนต่อไป

โดย : พระราชภาวนาวิสุทธิ์  (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)


http://goo.gl/fCPAe


พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      ทศชาติชาดก เรื่อง ภูริทัต ตอนที่ 2 ต้นเหตุแห่งเภทภัย
      ทศชาติชาดก เรื่อง ภูริทัต ตอนที่ 1 การสร้างบารมีของพระโพธิสัตว์
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 202
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 201
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 200
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 199
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 198
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 197
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 196
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 195
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 194
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 193
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 192




   ค้นหา บทความธรรม    

  ฝันในฝันวิทยา
  สารพันธรรมะ
  ปกิณกธรรม
  ผลการปฏิบัติธรรม
  โครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
  ธรรมะบันเทิง
  ข่าว
  ข่าวประชาสัมพันธ์
  ข่าวบุญฝากประกาศ
  DMC NEWS
  ข่าวรอบโลก
  กิจกรรมเว็บ dmc.tv
  Scoop - Review DMC
  เรื่องเด่นทันเหตุการณ์
  Review รายการ DMC
  หนังสือธรรมะ
  ธรรมะเพื่อประชาชน
  ที่นี่มีคำตอบ
  หลวงพ่อตอบปัญหา
  อยู่ในบุญ
  สุขภาพนักสร้างบารมี
  นิทานชาดก
  CaseStudy กฎแห่งกรรม
  กฎแห่งกรรม
  เรื่องราวชีวิต
  เหลือเชื่อแต่จริง
  อุทาหรณ์สอนใจ
  ฮอตฮิต...ติดดาว
  วิบากกรรม...ทำให้ทุกข์
  บุญเกื้อหนุน
  ปรโลกนิวส์
  ธรรมะและสมาธิ
  พุทธประวัติ
  สมาธิ
  ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ
  ทศชาติชาดก
  พุทธประวัติและวันสำคัญ
  บทสวดมนต์
  ศัพท์ธรรมะ ภาษาอังกฤษ
  มหาปูชนียาจารย์
  อานุภาพมหาปูชนียาจารย์
  ประวัติ
  กิจกรรม
  ธุดงค์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
  About DMC
  เกี่ยวกับ DMC
  DMC GUIDE
  มือถือ Mobile
  คู่มือเว็บ www.dmc.tv
  มาวัดพระธรรมกาย
   ค้นหา บทความธรรม    

ธรรมะที่เกี่ยวข้อง - Related