
ทศชาติชาดก
เรื่อง พระเตมีย์ ผู้ยิ่งด้วยเนกขัมมบารมี ตอนที่ 3

พระองค์จึงทรงรับสั่งให้ประชุมพระสนมกำนัล และพราหมณาจารย์ทั้งหลาย ให้ทำพิธีบวงสรวงอ้อนวอนเทวดาเพื่อขอพระโอรส แต่แม้จะทำพิธีผ่านไปนานแล้ว ก็ยังไม่มีพระเทวีองค์ใดให้กำเนิดพระโอรสเลยส่วนพระนางจันทาเทวี ผู้เป็นพระอัครมเหสี ทรงเห็นว่าแม้พระนางก็ควรจะทำความปรารถนาบุตรดูบ้างเมื่อถึงวันพระขึ้น 15 ค่ำ จึงสมาทานอุโบสถศีล แล้วตั้งสัจจอธิษฐานว่า ด้วยอำนาจแห่งศีลนี้ขอให้มีพระโอรสด้วยเถิด
ด้วยอานุภาพแห่งศีลบารมีที่พระนางจันทาเทวีทรงบำเพ็ญดีแล้ว กอปรกับแรงสัจจอธิษฐานนั้น ปัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ ของท้าวสักกเทวราชผู้ปกครองภพดาวดึงส์จึงเกิดอาการร้อนขึ้น เป็นเหตุให้ท้าวเธอร้อนรุ่มพระ
หฤทัยจนไม่อาจทนนิ่งเสวยทิพยสมบัติเป็นปกติสุขได้ จึงทรงสอดส่องทิพยเนตรตรวจดู ก็ทรงเห็นเหตุชัดเจนว่า พระนางจันทาเทวีทรงปรารถนาพระโอรสจึงทรงกำหนดในพระหฤทัยว่า เราจะให้พระโอรสแก่พระนางเจ้า ทรงพิจารณาดูว่า เทพบุตรองค์ใดหนอจะมีบุญญาธิการมากพอจะเป็นพระโอรสของพระนางเจ้าได้ ก็ทรงเห็นว่า มีเทพบุตรอยู่องค์หนึ่ง ชาติก่อนเคยเป็นพระเจ้ากรุงพาราณสี เสวยราชสมบัติอยู่เพียง 20 ปี

เมื่อสิ้นพระชนม์แล้ว เพราะบาปที่สั่งลงทัณฑ์นักโทษ โดยสั่งจำขังบ้าง สั่งประหารด้วยวิธีการต่างๆ บ้าง จึงไปเกิดอยู่ในอุสสุทนรก ขุมบริวารของสัญชีวมหานรกอยู่ 8 แปดหมื่นปีเมื่อพ้นจากอุสสทนรกนั้นแล้ว ได้มาเกิดอยู่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ซึ่งบัดนี้ใกล้ที่จะจุติขึ้นไปเกิดในสวรรค์ชั้นที่สูงขึ้นไป

เทพบุตรโพธิสัตว์ได้สดับคำเชื้อเชิญของท้าวสักกะเช่นนั้น ก็มีความปีติยินดี ด้วยปรารถนาจะสร้างบารมีให้เต็มเปี่ยมในเร็ววัน เพื่อมุ่งพระสัมมาสัมโพธิญาณเป็นที่สุด จึงตัดสินใจรับคำเชื้อเชิญของท้าวสักกเทวราช ส่วนเทพบุตรบริวารของพระโพธิสัตว์อีก 500 องค์ ก็ถึงเวลาใกล้จะจุติเช่นเดียวกัน จึงรับอาสาว่า แม้พวกตนก็ขออาสาที่จะจุติลงไปเกิดเพื่อเป็นบริวารของท้าวเธอ

เพียงได้สดับว่า พระอัครมเหสีจะทรงมีพระราชโอรสแด่พระองค์ พระ
ราชาก็ทรงดีพระหฤทัยยิ่งนัก ด้วยทรงปรารถนาพระราชโอรสมาเป็นเวลานานเหลือเกินแล้ว จึงทรงพระราชทานเครื่องบริหารพระครรภ์แก่พระนาง กำชับเหล่านางสนมกำนัลให้คอยระวังรักษาพระครรภ์ และดูแลพระพลานามัยของพระนางเป็นอย่างดี นับแต่วันที่พระนางทรงพระครรภ์ พระเจ้ากาสิกราชก็ทรงเฝ้ารอคอยวันที่พระนางจะประสูติพระราชโอรสอย่างใจจรดใจจ่อ แม้เหล่าข้าราชบริพารและชาวเมือง ต่างก็มีความปลื้มปีติใจกันทั่วหน้า มีใจเบิกบานแจ่มใสไม่น้อยไปกว่าพระราชาของตน

เมื่อพระนางจันทาเทวีทรงพระครรภ์ครบกำหนด ๑๐ เดือน ก็ทรงประสูติพระราชกุมารผู้มีพระฉวีวรรณผุดผ่อง ทรงเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยบุญลักษณะอย่างหาผู้เปรียบปานมิได้ ฝ่ายพระเจ้ากาสิกราชเล่า เมื่อได้ทรงทราบข่าวจากเจ้าพนักงานว่า พระอัครมเหสีทรงประสูติพระราชโอรสแล้วเท่านั้น ก็ทรงปรีดาปราโมทย์ มีปีติซาบซ่านไปทั่วพระราชหฤทัย เกิดความรักในพระราชโอรสเป็นกำลัง ราวกับผืนดินอันแห้งผากได้รับฝนอันฉ่ำชื่นในยามวสันตฤดู จึงทรงดำริว่า
“ลูกเราเป็นผู้มีบุญญาธิการมาเกิด ย่อมไม่เกิดเพียงลำพังผู้เดียว จะต้องมีบริวารติดตามมาเป็นแน่แท้”
จึงตรัสเรียกเสนาบดีมาเข้าเฝ้า แล้วรับสั่งว่า
“ท่านจงไปเที่ยวสืบดูทีซิว่า ในเรือนของเหล่าอำมาตย์ในวันนี้นะ มีทารกเกิดขึ้นบ้างหรือไม่”

ท่านเสนาบดีทราบความนั้นแล้วก็รีบกลับมาเข้าเฝ้าพระราชา กราบทูลว่า “ขอเดชะ พระอาญาไม่พ้นเกล้า ในวันนี้ภรรยาของเหล่าอำมาตย์ได้ให้กำเนิดบุตร 500 คนพร้อมกัน พระเจ้าข้า” ส่วนพระเจ้ากาสิกราชเมื่อทรงสดับข่าวสารอันเป็นมงคลนั้นแล้ว ก็ทรงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง พระองค์จะทรงรับสั่งประการใด เรื่องราวจะเป็นอย่างไร โปรดติดตามตอนต่อไป
โดย : หลวงพ่อธัมมชโย (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)