ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 5 เมษายน พ.ศ.2553 ช่วงที่ 3.1ผลการปฏิบัติธรรม จากแอฟริกาใต้เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาจากผู้เข้าร่วมโครงการ The Middle Way ครั้งที่ 10ผ่านไปเพียงปีเศษๆ โครงการเดอะมิดเดิลเวย์ โจฮันเนสเบิร์ก ก็นับเป็นรุ่นที่สิบแล้ว โดยรุ่นนี้ได้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-18 มีนาคม พ.ศ.2553 ที่ผ่านมาโจนาธีน เบเยอร์(Johnathene Beyers)เริ่มด้วย ผลการปฏิบัติธรรมของ โจนาธีน เบเยอรส์ ซึ่งเป็นสมาชิกประจำของคลาสวันอาทิตย์ เป็นเวลาหกสัปดาห์ติดกันไม่เคยขาด จนกระทั่งมาสมัครเข้าคอร์สเดอะมิดเดิลเวย์ในที่สุดโจนาธีน กับแผ่นดิสก์ดวงตะวัน (Sunshine Disc)ที่ศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ดโจนาธีน กับแสงตะวัน ที่ส่องลงมาเป็นลำ ทำให้กายภายในสว่างไสวสภาพร่างกาย คือ ขาว โปร่ง สว่างโจนาธีนมักรู้สึกว่าร่างกายหายไป และขยายออกไป จนกระทั่งใจไปสัมผัสกับเส้นขอบฟ้า รู้สึกเป็นอิสระอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต ต่อมาเห็นดวงอาทิตย์ส่องลำแสงลงมา ผ่านทางศีรษะ และกลายเป็น แผ่นดิสก์ดวงตะวัน หรือ Sunshine Disc ซึ่งเธอสรุปด้วยตนเองเองว่าเธอเป็นเพียง ผู้สังเกตการณ์ หรือ Observer เท่านั้น และมีอยู่รอบหนึ่ง เธอเห็นตนเองนั่งขัดสมาธิ(Meditation)อยู่ในกลางท้อง ทั้งๆที่ขณะนั้นเธอกำลังนั่งหลับตาบนเก้าอี้ หย่อนเท้าบนพื้นพรมอำพร ไผ่เศวตอนันต์หลุมสีม่วง จะดูดอำพร ให้ลงไป อยู่หลายครั้งหลุมสีม่วง จะดูดอำพร ให้ลงไป อยู่หลายครั้งนักเรียนคนต่อมา คือ คุณอำพร ไผ่เศวตอนันต์ นั่งสมาธิอยู่กับบ้านอย่างสม่ำเสมอ สร้างองค์พระประจำตัวพร้อมกับสามีคนละองค์ อำพรรู้สึกว่าร่างกายหายไป พร้อมกับเห็นแสงสว่างอยู่ข้างหน้า อยู่บ่อยครั้ง แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งเห็นองค์พระอยู่ในกลางท้อง อำพรมีความสุขมาก และมีหลุมสีม่วงๆพยายามจะดูดอำพรลงไปข้างล่าง ซึ่งเริ่มจากจมูกและใบหน้า แต่ว่าอำพรรู้สึกกลัว จึงไม่ได้กระโดดลงไปในหลุมนั้นเอเดรียน ออเบอฮอลเซอร์ (Adriaan Oberholzer)นักเรียนคนต่อมา คือ เอเดรียน ออเบอร์ฮอลเซอร์ มีอาชีพเป็นช่างทำผม เอเดรียนเคยปรับทุกข์ให้ฟังว่า ตั้งแต่เกิดมา เหมือนมีเงามืดดำครอบงำชีวิตเขาไว้ไม่ให้มีความสุข จึงตัดใจลาพักร้อน มาเข้าคอร์สเดอะมิดเดิลเวย์ เพราะมั่นใจว่า พลังงานภายในจะสามารถสะสางความเลวร้ายในชีวิตได้เอเดรียน เห็นตนเอง ขัดสมาธิอยู่ในกลาง Bubbleพร้อมเส้นขอบฟ้า และพลังงานมหาศาลเอเดรียน ถูก ตรึง แขวนไว้ในกลาง Bubble ในกลางตัว อย่างแน่นหนาเอเดรียนก็เหมือนกับทุกคนในรุ่น คือ รู้สึกว่าร่างกายหายไป และโปร่งเบาลอยได้ รู้สึกว่าตัวเองเป็นทั้งตัวใหญ่และตัวเล็กในขณะเดียวกัน และทั้งๆที่นั่งเก้าอี้ แต่ก็เห็นตนเองนั่งขัดสมาธิอยู่ในกลางดวงกลมในศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ด เอเดรียนใช้คำว่า “ตัวผมถูกตรึงไว้ในกลางBubble...ไม่สามารถขยับไปไหนได้เลย แต่ว่ามีความสุขมากมายอย่างไม่สามารถอธิบายได้”เซ็นต้า แยโรว์ (Zenta Yarrow)นักเรียนคนต่อมา คือ เซ็นต้า แยโรว์ เป็นคุณแม่ของลูกชายวัย 18ปี เข้าถึงความโล่งว่างอย่างสมบูรณ์ ซึ่งเซ็นต้าอธิบายด้วยภาษาอังกฤษว่า Nothingness ร่างกายขยายออกไปใหญ่มาก ขยายออกไปเอง ทั้งๆที่พระอาจารย์ไม่ได้เกริ่นให้รู้ล่วงหน้าแต่อย่างใด แล้วจู่ๆก็ปรากฏภาพดวงจันทร์ ซึ่งตัวตนของเซ็นต้าก็เข้าไปนั่งในดวงจันทร์ที่สว่างมาก และได้หลอมละลายเป็นเนื้อเดียวกับดวงจันทร์ในที่สุด แล้วเซ็นต้าก็รายงานพระอาจารย์ว่า “I feel love.”เซ็นต้าได้หลอมละลายเป็นหนึ่งเดียวกับดวงจันทร์ที่ศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ดเซ็นต้าเห็นตนเองนั่งขัดสมาธิอยู่ในดวงสว่างที่ศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ดเซ็นต้าเห็นปากหลุม สีดำ ซึ่งในที่สุดก็ตัดสินใจกระโดดลงไปแล้วโดยที่พระอาจารย์ไม่ได้เกริ่นนำล่วงหน้าเช่นกัน ในรอบหนึ่ง เซ็นต้าเห็นตนเองนั่งขัดสมาธิอยู่ในกลางดวงสว่างที่อยู่ในกลางท้อง ศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ด และต่อมา ก็หล่นวูบลงในในปากหลุมสีดำ ด้วยแรงดึงดูดรุนแรงมหาศาล ทำให้เซ็นต้าไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น จึงตัดสินใจไม่เดินทางต่อไปลึกนัก ในรอบนั้นสิ้นคำว่า “ขนนก” เซ็นต้าก็ตัดสินใจพุ่งหลาว สู่หลุมดำนั้น อย่างเด็ดเดี่ยวจนกระทั่งรอบหนึ่ง พระอาจารย์แนะนำให้ปล่อยใจให้เบาเหมือนปุยขนนกชิ้นเล็ก ที่ค่อยๆ บรรจงหย่อนตัวลงบนผิวน้ำ คำว่า ขนนก เป็นเหมือนคำที่ทำให้ใจของเซ็นต้าเบาฟ่องขึ้นมาทันที แล้วเซ็นต้าก็กระโดดเหมือนกับการพุ่งหลาวที่น้ำตก ทว่า...เบาเหมือนขนนก ทำให้การดูดลงไปในท่อนั้นเป็นไปอย่างนุ่มเบา มีการหยุดพักเป็นระยะๆ แล้วก็เดินทางดิ่งลงอย่างรวดเร็ว ทว่า...นุ่มเบาเป็นระยะๆอยู่หลายครั้งเมื่อหลุดจากปลายท่อ ก็เป็นที่โล่งว่าง กว้างใหญ่ สว่างไสวเปี่ยมไปด้วยความรักเมื่อสุดปลายท่อ เซ็นต้าก็หลุดไปในที่โล่งว่างอย่างไม่มีประมาณ เต็มไปด้วยแสงสว่างทุกหนทุกแห่ง เซ็นต้ารู้สึกว่าตัวเธอเป็นตัวตนของความรักเสียเอง จึงวาดรูปหัวใจในพื้นที่โล่งว่างอันกว้างใหญ่นั้นมาร์ค ฟาน ซิตเติร์ต (Marc Van Sittert)มาร์คมีความพึงพอใจกับพลังงานหมุนควงที่ศูนย์กลางกายและร่างกายครึ่งล่างที่หายไปส่วน คุณมาร์ค ฟานซิตเติร์ต มีประวัติการสร้างบารมี คือ สร้างองค์พระประจำตัว สอบWorld-PECและช่วยตรวจทาน แก้ไขสำนวนหนังสือ The Middle Way Once More ฉบับภาษาอังกฤษ ซึ่งแม้ว่าคุณมาร์คจะเป็นคนช่างคิด แต่ในที่สุดก็รู้สึกว่าร่างกายครึ่งล่างหายไป และมีพลังงานหมุนควงอยู่ในศูนย์กลางกาย มีความพึงพอใจมากทั้งหมดห้าท่านนี้ เป็นพยานเครื่องยืนยันว่า นักเรียนทุกคนล้วนมีประสบการณ์เหมือนกันหมด และเหมือนกันทั่วโลก เมื่อใดที่เราหลับตา วางใจอย่างถูกวิธีที่ศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ด ก็จะมีความสว่างเกิดขึ้นภายใน ที่มาพร้อมกับความสุขและความรัก ที่เป็นสากลต่อเพื่อนมนุษย์ ซึ่งความรักชนิดนี้เป็นพื้นฐานของสันติภาพโลกอย่างแท้จริง เซ็นต้าบอกว่า เมื่อทำสมาธิแล้ว ความปรารถนาที่จะเบียดเบียนกันก็หมดไป และเมื่อตัวเราเป็นตัวตนของความรักเสียแล้ว เราก็จะแบ่งปันความรักให้กับคนอื่นได้อย่างอัตโนมัติ โดยไม่ต้องพยายามที่จะต้องไปรักใคร และสันติสุขและความสุขภายในชนิดนี้ จะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ และเปลี่ยนแปลงมวลมนุษยชาติ ได้อย่างแน่นอน ทั้งหมดนี้ ตรงกับConceptสันติภาพโลกของคุณครูไม่ใหญ่ที่ว่า สันติภาพโลกจะต้องเกิดจากสันติสุขภายในเท่านั้น และการประชุมเจรจาสันติภาพต่างๆนั้น แท้ที่จริงแล้ว คือ การเจรจาเพื่อกำหนดปริมาณกำลังทหาร และอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งไม่ใช่การสร้างสันติภาพแต่อย่างใด แต่เป็นการสั่งสมกำลังทางทหารด้วยวิธีการอันสวยหรู The Middle Way Johannesburg รุ่นที่ 10แต่การทำสมาธิพร้อมกัน เป็นเรือนหมื่น เรือนแสน หรือเรือนล้าน คือ การประชุมสันติภาพที่แท้จริง ไม่ต้องมีการเจรจาใดๆ เป็นการประชุมด้วยการหลับตา เมื่อลืมตาขึ้นมา ก็มีแต่ความรัก และความหวังดีต่อเพื่อนมนุษย์ทุกคน เพราะว่าใจของทุกคนได้เข้าถึงและสัมผัสถึงแหล่งแห่งความรักที่แท้จริง คือ ความรักสากล ที่มีอยู่แล้วในศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ดของตัวเราเองชม Video Scoop ผลการปฏิบัติธรรม จากแอฟริกาใต้
http://goo.gl/Jpxqb