พระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้า ตอนที่ 75 อานิสงส์พิเศษ 18 ประการของพระโพธิสัตว์ ตอนที่ 3

ถ้าหากอานิสงส์พิเศษได้บังเกิดขึ้นกับพระโพธิสัตว์ท่านใดแล้ว พระโพธิสัตว์ท่านนั้นก็จะไม่ไปบังเกิดในฐานะที่ไม่เกื้อกูลต่อการสร้างบารมี https://dmc.tv/a10217

บทความธรรมะ Dhamma Articles > ช่วงเด่นฝันในฝัน > ปกิณกธรรม > พระศรีอริยเมตไตรย์
[ 17 ก.พ. 2554 ] - [ ผู้อ่าน : 18330 ]

ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2554

ตอน พระศรีอริยเมตไตรย์ ตอนที่ 75 อานิสงส์พิเศษ 18 ประการของพระโพธิสัตว์ ตอนที่ 3

 
พระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้า
ตอนที่ 75 "อานิสงส์พิเศษ 18 ประการของพระโพธิสัตว์ ตอนที่ 3"
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
 
        ความเดิมจากตอนที่แล้ว... อานิสงส์พิเศษประการที่ 10.ได้แก่ เมื่อท่านได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ท่านย่อมไม่กระทำอนันตริยกรรม หมายความว่า หลังจากที่ท่านได้รับพุทธพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่งแล้ว ในภพชาติต่อๆไปที่ท่านได้เกิดมาสร้างบารมี ท่านจะสั่งสมบุญสร้างบารมีอย่างเต็มที่เต็มกำลัง โดยที่ท่านจะไม่พลาดไปกระทำอนันตริยกรรมอย่างแน่นอน เพราะอนันตริยกรรม ถือเป็นครุกรรมหรือกรรมหนักของทางฝ่ายบาปอกุศล ที่จะส่งผลก่อนกรรมอื่นๆ โดยจะทำให้ผู้ที่พลาดพลั้งไปกระทำอนันตริยกรรมต้องตกอเวจีมหานรกในทันทีหลังจากที่เสียชีวิต
 
อนันตริยกรรม มี 5 ประการ ดังต่อไปนี้
 
1. ปิตุฆาต คือ ฆ่าบิดา
 
2.มาตุฆาต คือ ฆ่ามารดา
 
3.อรหันตฆาต  คือ ฆ่าพระอรหันต์
 
4.โลหิตุปบาท คือ ทำร้ายพระพุทธเจ้าจนทำให้พระโลหิตออก หรือทำให้ห้อพระโลหิต
 
5.สังฆเภท คือ ทำให้สงฆ์แตกแยก
 
        นั่นก็คือ...ท่านจะไม่กระทำบาปหนักดังกล่าว ไปตลอดทุกภพทุกชาติที่ท่านได้เกิดมาสร้างบารมี
 
อานิสงส์พิเศษประการที่ 11.ได้แก่ เมื่อท่านได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ท่านย่อมไม่เป็นโรคเรื้อน หมายความว่า หลังจากที่ท่านได้รับพุทธพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่งแล้ว ในภพชาติต่อๆไปที่ท่านได้เกิดมาสร้างบารมี ท่านจะเกิดมาเป็นผู้ที่มีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง อีกทั้งท่านจะไม่เจ็บป่วยเป็นโรคติดต่อร้ายแรงจนเป็นที่น่ารังเกียจของสังคมอย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้ท่านสามารถที่จะสั่งสมบุญ สร้างบารมีได้อย่างเต็มที่เต็มกำลัง โดยที่ท่านไม่ต้องมาเสียเวลา เงินตรา และอารมณ์ ที่จะต้องมารักษาพยาบาลตนเอง นั่นก็คือ...ท่านจะไม่มีเป็นโรคติดต่อทางผิวหนัง ไปตลอดทุกภพทุกชาติที่ท่านได้เกิดมาสร้างบารมี
 
พระโพธิสัตว์ผู้ได้รับพุทธพยากรณ์แล้ว เมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์ย่อมไม่เป็นโรคเรื้อน
 
อานิสงส์พิเศษประการที่ 12.ได้แก่ เมื่อท่านต้องไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน อันเนื่องมาจากวิบากกรรมในอดีตชาติ ท่านย่อมเป็นสัตว์ประเภทที่มีกายไม่เล็กกว่านกกระจาบ และไม่ใหญ่เกินกว่าช้าง หมายความว่า หลังจากที่ท่านได้รับพุทธพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่งแล้ว ในภพชาติต่อๆไปที่ท่านได้เกิดมาสร้างบารมี หากท่านจะต้องไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน กายของท่านก็จะมีรูปร่างลักษณะที่พอดี สมส่วน ไม่เล็กจนเกินไปและไม่ใหญ่โตจนเกินไป อีกทั้งยังประกอบด้วยดวงปัญญาที่สว่างไสว มีความแตกต่างจากสัตว์เดรัจฉานโดยทั่วไปทั้งหมด โดยที่ในภพชาติสุดท้ายที่ท่านจะมาตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ท่านจะเกิดมาเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์พร้อมด้วยลักษณะมหาบุรุษทั้ง 32-ประการ และอนุพยัญชนะ (ซึ่งเป็นลักษณะปลีกย่อย)-อีก 80-ประการ นั่นก็คือ...แม้ท่านจะต้องไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน กายของท่านก็ยังมีไว้ใช้สำหรับการสั่งสมบุญสร้างบารมี ไปตลอดทุกภพทุกชาติที่ท่านได้เกิดมาสร้างบารมี
 
 พระโพธิสัตว์ผู้ได้รับพุทธพยากรณ์แล้ว เมื่อต้องเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานต้องมีขนาด ไม่เล็กกว่านกกระจาบและไม่ใหญ่กว่าช้าง
 
อานิสงส์พิเศษประการที่ 13.ได้แก่ ท่านจะไม่ไปเกิดเป็น ขุปปิปาสิกเปรต คือ เปรตผู้หิวกระหาย ไม่ไปเกิดเป็น นิชฌามตัณหิกเปรต คือ เปรตผู้ถูกความอยากเผาผลาญ และไม่ไปเกิดเป็น กาลกัญชิกาสูร คือ อสูรกายชนิดหนึ่งที่ตัวสูงใหญ่มาก หมายความว่า หลังจากที่ท่านได้รับพุทธพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่งแล้ว ในภพชาติต่อๆไปที่ท่านได้เกิดมาสร้างบารมี หากท่านจะต้องไปเกิดอยู่ในภพภูมิของเปรตหรืออสุรกาย ท่านจะไม่เกิดเป็นเปรตหรืออสุรกายที่ถูกตัณหา (คือ ความอยาก)-ครอบงำจิตใจอยู่ตลอดเวลา อย่างเปรตหรืออสุรกายโดยทั่วไป เพราะตัณหาย่อมไปบดบังดวงปัญญาที่คิดจะสร้างบารมีให้มืดมิดไป เปรียบเหมือนกับบุคคลผู้มีความหิวและกระหายอย่างมาก ก็ย่อมไม่มีอารมณ์ที่จะคิดทำสิ่งต่างๆ นั่นก็คือ...แม้ท่านจะต้องไปเกิดเป็นเปรตหรืออสุรกาย ท่านก็จะไม่ถูกเบียดเบียนด้วยตัณหาและความหิวกระหาย ไปตลอดทุกภพทุกชาติที่ท่านได้เกิดมาสร้างบารมี
 
 พระโพธิสัตว์ผู้ได้รับพุทธพยากรณ์แล้วจะไม่ไปเกิด เป็นเปรตหรืออสุรกายที่ถูกตัณหาครอบงำจิตใจ
 
อานิสงส์พิเศษประการที่ 14.ได้แก่ ท่านจะไม่ไปเกิดในอเวจีมหานรกและโลกันตนรก อย่างแน่นอน หมายความว่า...หลังจากที่ท่านได้รับพุทธพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่งแล้ว ในภพชาติต่อๆไปที่ท่านได้เกิดมาสร้างบารมี หากท่านจะต้องไปเกิดเป็นสัตว์นรก ท่านจะไม่ไปเกิดในอเวจีมหานรกและโลกันตนรก ที่มีการทัณฑ์ทรมานอย่างแสนสาหัสโดยไม่มีการหยุดพัก อีกทั้งมีการทัณฑ์ทรมานเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมาก ซึ่งบุคคลที่จะไปเกิดในภพภูมิดังกล่าวนั้น คือ ผู้ที่กระทำบาปกรรมอย่างรุนแรง หรือผู้ที่มีความเห็นผิดอย่างสุดโต่ง แต่พระโพธิสัตว์เป็นผู้ประกอบด้วยความเห็นที่ถูกต้อง จะไม่พลาดพลั้งไปกระทำกรรมหนักเช่นนั้นอย่างแน่นอน นั่นก็คือ...แม้ท่านจะต้องไปเกิดเป็นสัตว์นรก ท่านก็จะไม่ไปเกิดในภพภูมิที่มีการทัณฑ์ทรมานอย่างหนัก จนทำให้ท่านขาดโอกาสในการสร้างบารมีเป็นระยะเวลาอย่างยาวนาน ไปตลอดทุกภพทุกชาติที่ท่านได้เกิดมาสร้างบารมี
 
 พระโพธิสัตว์ผู้ได้รับพุทธพยากรณ์แล้วย่อมไม่เกิด ในอเวจีมหานรกและโลกันตนรก
 
อานิสงส์พิเศษประการที่ 15.ได้แก่ เมื่อท่านไปเกิดเป็นเทวดาในสวรรค์ชั้นกามาวจร ท่านจะไม่เป็นเทวดาที่มีความเห็นผิด และท่านจะไม่เป็นเทวบุตรมาร หมายความว่า หลังจากที่ท่านได้รับพุทธพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่งแล้ว ในภพชาติต่อๆไปที่ท่านได้เกิดมาสร้างบารมี หากท่านต้องไปเกิดเป็นเทวดา ท่านจะไม่เกิดเป็นเทวบุตรมาร (เทวบุตรที่ถูกมารบังคับ)-ที่เป็นมิจฉาทิฐิและชอบขัดขวางการทำความดีของผู้อื่น โดยเมื่อเทวบุตรมารเห็นใครทำความดีแล้ว จะรู้สึกขัดอกขัดใจและทนไม่ได้ อยากที่จะหาทางขัดขวาง กลั่นแกล้ง หรือทำร้าย เพื่อจะทำให้ผู้นั้นไม่สามารถทำความดีสำเร็จได้ หรือไม่สามารถที่จะทำความดีได้อย่างเต็มที่ ซึ่งอัธยาศัยดังกล่าว เป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับอัธยาศัยของพระโพธิสัตว์อย่างสิ้นเชิง เนื่องจากพระโพธิสัตว์เป็นผู้มีจิตใจอันใสสะอาดบริสุทธิ์ ที่พลอยจะชื่นชมยินดีและอนุโมทนาบุญกับการทำความดีของผู้อื่นอยู่เสมอ นั่นก็คือ...ไม่ว่าท่านจะเกิดเป็นมนุษย์หรือเทวดาก็ตาม ท่านจะเป็นผู้ประกอบด้วยความเห็นอันถูกต้อง ไปตลอดทุกภพทุกชาติที่ท่านได้เกิดมาสร้างบารมี
 
 พระโพธิสัตว์ผู้ได้รับพุทธพยากรณ์แล้วย่อมไม่เกิด เป็นเทวดาผู้มีความเห็นผิดหรือเทวบุตรมาร
 
อานิสงส์พิเศษประการที่ 16.ได้แก่ เมื่อท่านไปได้เกิดในพรหมโลก ท่านจะไม่เกิดเป็นอสัญญีพรหม และสุทธาวาสพรหม หมายความว่า หลังจากที่ท่านได้รับพุทธพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่งแล้ว ในภพชาติต่อๆไปที่ท่านได้เกิดมาสร้างบารมี หากท่านต้องไปเกิดเป็นพรหม ท่านจะไม่เกิดเป็นอสัญญีพรหม หรือที่เรียกกันว่า พรหมลูกฟัก ซึ่งเป็นพรหมที่มีแต่รูปร่างโดยไม่มีความรู้สึกนึกคิด และไม่สามารถที่จะรับรู้อะไรได้ทั้งสิ้น กล่าวคือ ความรู้สึกภายนอกดับหมด แต่กิเลสในตัวนั้นยังไม่ดับ อีกทั้งเป็นพรหมที่อยู่ในอิริยาบถเดียวเท่านั้น โดยที่ก่อนตายอยู่ในท่าไหน เมื่อตายแล้วก็อยู่ในท่านั้น ไปตลอดจนครบอายุขัยในพรหมโลก ซึ่งมีอายุขัยถึงห้าร้อยมหากัป และท่านจะไม่ไปเกิดเป็นพรหมในชั้นสุทธาวาส เพราะเป็นสถานที่อยู่ของพระอนาคามีบุคคล ผู้ที่จะบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์อย่างแน่นอน นั่นก็คือ...เมื่อท่านไปเกิดในพรหมโลก ท่านจะไม่เกิดเป็นพรหมที่ไม่มีโอกาสในการสร้างบารมี และท่านจะไม่ไปเกิดเป็นพรหมในชั้นของพระอนาคามีบุคคล ไปตลอดทุกภพทุกชาติที่ท่านได้เกิดมาสร้างบารมี
 
พระโพธิสัตว์ผู้ได้รับพุทธพยากรณ์แล้วย่อมไม่เกิด เป็นอสัญญีพรหมหรือสุทธาวาสพรหม
 
 
ชม Video Scoop พระศรีอริยเมตไตรย์ ตอนที่ 75
 

http://goo.gl/dBw6y


พิมพ์บทความนี้

ไปหน้าทบทวนฝันในฝัน



บทความอื่นๆ ในหมวด

      กิจกรรมพัฒนาวัดพิชิตปิตยาราม ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
      กิจกรรมพัฒนาวัดอู่ข้าว ต.คลอง 7 จ.ปทุมธานี
      อานุภาพบุญจากการมาสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ตอนที่ 1
      เล่าเรื่องคุณยายฯ ตอน ได้ตึก 18 ล้านแค่เพียงกระพริบตา
      เล่าเรื่องคุณยายฯ ตอน ความทรงอภิญญาของคุณยายฯที่ผมเจอกับตัวเอง
      ประกาศผลสุดยอดสามเณรแสดงธรรมระดับโลก
      เปิดใจสามเณรแชมป์แสดงธรรมระดับภาค ชิงชัยสู่เวทีแสดงธรรมระดับโลก
      ซุปเปอร์บิ๊กบุญ ตักบาตรแสนรูป ครั้งประวัติศาสตร์
      เส้นทางสามเณร สู่เวทีแชมป์เทศน์ระดับโลก
      เล่าเรื่องคุณยาย ตอน เรื่องเหลือเชื่อของการบูชาข้าวพระที่คุณยายฯฝากไว้
      บวชเณรล้านตักบาตรแสน สานฝันคุณยาย สร้างพระแท้
      เล่าเรื่องคุณยายฯ ตอน แค่มองหน้า..ก็รู้ทั้งหมด
      แฝด 4 บวชเณรล้านอ่างทองทำลายสถิติโลก