ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 5 มีนาคม พ.ศ.2554
เพราะมีเธอ...ฉันถึงมีความสุขอย่างนี้
เกาะติดสถานการณ์ Change the World 208 ประเทศThe Middle Way Meditation Coach (MMC)จดหมายจาก MMC ตอนก้าวแรกแห่งความสุข สู่การสร้างสันติภาพโลกเรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาวันวิสา บอยส์กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ดิฉัน วันวิสา บอยส์ อายุ 18-ปี ลูกครึ่งเมารี-ไทย จากประเทศนิวซีแลนด์ค่ะ ดิฉันมีความตั้งใจในการมาเข้าร่วมโครงการ MMC-เพราะต้องการเป็นส่วนหนึ่ง ในการช่วยหลวงพ่อขยายความสุขภายในไปสู่หัวใจของชาวโลก และดิฉันเชื่อมั่นเป็นอย่างมากว่าต้องทำสำเร็จ เพราะเมื่อดิฉันมองดูหลวงพ่อ หลวงพ่อก็เป็นมนุษย์ธรรมดาอย่างพวกเรา แต่ผลงานของหลวงพ่อนั้นสร้างสรรค์ มีพลังในการเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ หลวงพ่อเป็นแรงบันดาลใจของดิฉันซึ่งดิฉันอยากเป็นให้ได้แบบหลวงพ่อค่ะ ที่จริงแล้วดิฉันได้รับการเข้าเรียนในโรงเรียนแพทย์ แต่ดิฉันได้ดรอปการเรียนหนึ่งปี เพื่อจะใช้เวลานั้นมาเข้าอบรม MMC-เพราะดิฉันรู้สึกว่า การเรียนแพทย์ ยังไม่สามารถให้คำตอบในสิ่งที่ดิฉันต้องการได้ ดิฉันคิดว่ามีเพียงสิ่งเดียวที่จะให้คำตอบที่แท้จริงกับดิฉันได้ คือ การนั่งสมาธิค่ะ วันวิสา บอยส์เทคนิคการทำสมาธิของดิฉัน คือ การนั่งนิ่งๆ นำใจไปไว้ที่ศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ด ปล่อยวางความคิด ดิฉันคิดว่า ความคิดมันก็เหมือนกับนกตัวหนึ่ง เมื่อคุณเห็นนก คุณไม่ต้องสนใจก็ได้ว่ามันจะทำอะไร แค่ปล่อยให้มันผ่านไป ไม่นานดิฉันก็เห็นดวงแก้วดวงเล็กๆเกิดขึ้น ดวงแก้วสว่างมาก แล้วเมื่อดิฉันเอาใจไปไว้ตรงกลางกาย ดวงแก้วก็ขยายใหญ่ขึ้น จนกลายเป็นว่า...ดิฉันเข้าไปนั่งอยู่ในกลางดวงแก้วภาพวาดประสบการณ์ภายในของวันวิสา บอยส์ดิฉันฝึกนั่งสมาธิทุกวัน และนึกถึงศูนย์กลางกายอยู่เสมอ ทำให้ประสบการณ์ของดิฉันพัฒนาขึ้น วันหนึ่งดิฉันนึกถึงองค์พระที่กลางกาย โดยนึกเป็นองค์เล็กๆก่อน นั่งไปนิ่งๆ องค์พระก็ค่อยๆขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งดิฉันรู้สึกว่าได้เข้าไปนั่งอยู่กลางองค์พระ ประสบการณ์นี้เกิดขึ้นซ้ำๆ จากพระองค์เล็กๆกลายเป็นองค์ใหญ่ หมุนเวียนอยู่อย่างนี้ แล้วใจของดิฉันก็สงบมาก ประสบการณ์นี้ทำให้ดิฉันรู้สึกอบอุ่น หลังจากนั่งสมาธิแล้ว ดิฉันยังสามารถรักษาองค์พระไว้ที่ศูนย์กลางกายได้ ไม่ว่าจะเตรียมอาหาร รับประทานอาหาร องค์พระก็ยังอยู่ ทำให้ดิฉันรู้สึกสงบและมีความสุขมาก เป็นความสุขที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหนในโลก ดิฉันอยากให้ทุกคนบนโลกได้นั่งสมาธิ และได้พบกับประสบการณ์เช่นเดียวกับดิฉันค่ะ และเมื่อออกไปทำหน้าที่ MMC-แล้ว ดิฉันก็จะยึดหลวงพ่อเป็นต้นแบบ เพราะหลวงพ่อเป็นแรงบันดาลใจของดิฉันค่ะรูบี้ แชง กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ดิฉัน รูบี้ แชง อายุ 52-ปี ชาวจีนฮ่องกง ดิฉันได้ศึกษาการนั่งสมาธิจากโครงการ The-Middle-Way-ตั้งแต่ปี พ.ศ.2550-ทำให้ดิฉันประทับใจมาก หลังจากนั้นดิฉันก็ได้นิมนต์พระอาจารย์จากวัดพระธรรมกาย ไปสอนการปฏิบัติธรรมที่เมืองปักกิ่ง โดยชักชวนเพื่อนๆและคนรู้จักให้มานั่งสมาธิที่บ้านของดิฉัน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ดิฉันมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ คือ การได้มีส่วนช่วยหลวงพ่อขยายการทำสมาธิ นำความสว่างไสวไปสู่หัวใจของชาวโลก รูบี้ แชงเมื่อดิฉันกำลังจะก้าวไปทำหน้าที่ผู้ช่วยสอนสมาธิเบื้องต้น แน่นอนว่าตัวดิฉันเองจะต้องได้เข้าไปสัมผัสกับประสบการณ์ภายในนั้นก่อน และเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย ดิฉันจึงเริ่มประคองสติในทุกอิริยาบถ อย่างในเวลาทานข้าวดิฉันก็จะนับคำข้าว และคิดว่าข้าวทุกคำ คือ ดวงแก้วใสๆที่กำลังจะกลืนลงไปในศูนย์กลางกาย ทำให้ดิฉันหาศูนย์กลางกายได้ง่ายขึ้น และเวลานั่งสมาธิ ดิฉันก็ใช้เทคนิคง่ายๆที่หลวงพ่อสอน คือ ทำความสบายให้เกิดขึ้นกับร่างกายและจิตใจ ทำความรู้สึกนุ่มๆเบาๆเหมือนกำลังดูแลทารกน้อย ทำให้สมาธิของดิฉันก้าวหน้าขึ้นทุกวันค่ะในวันหนึ่ง ขณะปฏิบัติธรรม ดิฉันทำใจว่างๆ ไม่นึกถึงวัตถุใดๆ สักพักก็มีความรู้สึกเหมือนกำลังดิ่งลงไปในกลางท้อง แล้วดิฉันก็เห็นแสงสว่าง แสงนั้นสว่างมากจนตอนแรกดิฉันคิดว่าคงเป็นแสงไฟจากภายนอก แต่เมื่อดิฉันทำใจนิ่งๆดิฉันก็พบว่าแสงนั้นเกิดจากในตัวของดิฉันเอง พอนั่งไปอีกสักพักแสงนั้นก็ค่อยๆสว่างขึ้น จนคล้ายกับดวงอาทิตย์ตอนกลางวัน ใจของดิฉันสงบมาก เมื่อมองเข้าไปภายใน ดิฉันก็เห็นองค์พระอยู่ภายในดวงอาทิตย์ ซึ่งตอนนี้องค์พระและดวงอาทิตย์ก็ยังคงอยู่กับดิฉันค่ะ ภาพวาดประสบการณ์ภายในของรูบี้ แชงดิฉันจะพัฒนาประสบการณ์ภายในอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อให้พร้อมในการออกไปทำหน้าที่ที่สำคัญนี้ ดิฉันจะไม่ทำให้หลวงพ่อผิดหวังค่ะ********************************
http://goo.gl/yuHD8