ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ.2554จะเป็นอย่างไร เมื่อตายแล้ว ตอนที่ 12ปรโลกนิวส์... จะเป็นอย่างไร เมื่อตายแล้ว ตอนที่ 12ตอนต่อจาก จะเป็นอย่างไร เมื่อตายแล้ว ตอนที่ 11เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาฝันในฝันหลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ทีแล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะภาคเสริมพิเศษ (การเลื่อนภพภูมิของเทพบุตรภุมมเทวา)ความเดิมจากตอนที่แล้ว... ภายหลังจากที่คุณพ่อของลูกได้ไปบังเกิดเป็นเทพบุตรภุมมเทวาระดับกลาง ที่มีวิมานไม้ 2 ชั้นซ้อนอยู่ในเขตบริเวณเดียวกันกับบ้านของท่านในเมืองมนุษย์แล้ว ท่านก็ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตามสถานภาพของเทพบุตรภุมมเทวาระดับกลาง และท่านได้คอยเฝ้ามองดูคุณแม่ของลูกด้วยดวงตาและดวงใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและปรารถนาดีอยู่ตลอดเวลาคุณพ่อของลูกได้คอยเฝ้ามองดูคุณแม่ของลูกด้วยดวงตาและดวงใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและปรารถนาดีอยู่ตลอดเวลาซึ่งในขณะที่เทพบุตรภุมมเทวากำลังเพลิดเพลินกับการตรวจดูทิพยสมบัติและดูแลคุณแม่ของลูกอยู่นั้น ด้วยบุญที่ลูกสาวของท่าน (ตัวลูก) ได้ทุ่มเทสั่งสมบุญสร้างบารมีกับหมู่คณะอย่างเต็มที่เต็มกำลัง และทำแบบเอาชีวิตเป็นเดิมพันมาโดยตลอด จึงทำให้พระธรรมกายได้เมตตาไปเยี่ยมเทพบุตรภุมมเทวาที่วิมานของท่าน เมื่อเทพบุตรภุมมเทวาได้เห็นพระธรรมกายแล้ว ท่านก็รู้สึกดีใจและอัศจรรย์ใจที่พระธรรมกายได้เมตตามาเยี่ยม แล้วท่านก็ไม่รอช้าได้ก้มลงกราบพระธรรมกายด้วยความนอบน้อมในทันที จากนั้น เทพบุตรภุมมเทวาได้นั่งคุกเข่าพนมมือด้วยความรู้สึกปลื้มปีติเบิกบานใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อเทพบุตรภุมมเทวาได้เห็นพระธรรมกายแล้ว ท่านก็ไม่รอช้าได้ก้มลงกราบพระธรรมกายด้วยความนอบน้อมในทันทีหลังจากนั้นพระธรรมกายได้เมตตาถามเทพบุตรภุมมเทวาในทำนองที่ว่า “ท่านเทพบุตรภุมมเทวาต้องการที่จะไปบังเกิดอยู่ในภพภูมิที่สูงขึ้นไปกว่านี้ ละเอียดยิ่งไปกว่านี้ และมีความสุขมากขึ้นไปกว่านี้ หรือไม่” เมื่อพระธรรมกายได้เมตตาถามเช่นนั้นแล้ว เทพบุตรภุมมเทวาได้กราบเรียนพระธรรมกายว่า ถ้าตัวท่านสามารถไปบังเกิดอยู่ในภพภูมิที่สูงขึ้นไปกว่านี้ได้ ท่านก็อยากที่จะไปบังเกิดอยู่ในภพภูมินั้นพระธรรมกายได้เมตตาถามเทพบุตรภุมมเทวาว่า ต้องการที่จะไปบังเกิดอยู่ในภพภูมิที่สูงขึ้นไปกว่านี้ หรือไม่เมื่อพระธรรมกายได้ทราบความปรารถนาของเทพบุตรภุมมเทวาแล้ว พระธรรมกายจึงได้ตรวจดูด้วยญาณทัสสนะว่า ทำไมเทพบุตรภุมมเทวาหรือคุณพ่อของลูก จึงอยากที่จะไปบังเกิดอยู่ในภพภูมิที่สูงขึ้นไปกว่านี้ ทั้งๆที่ตัวท่านก็รักและผูกพันกับคุณแม่ของลูกเป็นอย่างมาก ซึ่งถ้าหากท่านไปบังเกิดอยู่ในภพภูมิที่สูงขึ้นไปกว่านี้ ท่านจะไม่ได้อยู่ใกล้ๆเพื่อที่จะดูแลคุณแม่ของลูกอย่างใกล้ชิดอีกต่อไปพระธรรมกายได้ตรวจดูด้วยญาณทัสสนะว่า ทำไมคุณพ่อของลูก จึงอยากที่จะไปบังเกิดอยู่ในภพภูมิที่สูงขึ้นไปกว่านี้ ทั้งๆที่ท่านก็รักและผูกพันกับคุณแม่ของลูกเป็นอย่างมากครั้นพระธรรมกายได้ตรวจดูด้วยญาณทัสสนะแล้ว จึงได้ทราบว่า ในตอนนี้ใจของเทพบุตรภุมมเทวาเริ่มคลายความรักความผูกพันจากคุณแม่ของลูกและลูกๆของท่านไปบ้างแล้ว ที่เป็นเช่นนี้ก็เป็นเพราะคุณแม่ของลูกและลูกๆของท่านได้พูดให้เทพบุตรภุมมเทวาได้ยิน ด้วยความรักและความปรารถนาดีอยู่เสมอๆในทำนองที่ว่า คุณแม่และลูกๆทุกคนอยากให้ท่านไม่ต้องเป็นห่วงทุกๆคนในครอบครัว และทุกๆคนในครอบครัวก็อยากให้ท่านได้ไปบังเกิดในภพภูมิที่สูงขึ้นไปกว่านี้ ละเอียดยิ่งไปกว่านี้ และมีความสุขมากขึ้นไปกว่านี้ทุกๆคนในครอบครัวอยากให้คุณพ่อของลูกได้ไปบังเกิดในภพภูมิที่สูงขึ้นไปกว่านี้ละเอียดยิ่งไปกว่านี้ และมีความสุขมากขึ้นไปกว่านี้กอปรกับด้วยกระแสใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและความปรารถนาดีของคุณแม่ของลูกและลูกๆของเทพบุตรภุมมเทวา จึงทำให้ท่านสามารถรับรู้และเข้าใจได้ว่า ทุกๆคนในครอบครัวอยากให้ตัวท่านได้ไปบังเกิดอยู่ในภพภูมิที่ดียิ่งขึ้นไปกว่านี้ ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เทพบุตรภุมมเทวาต้องการที่จะไปบังเกิดอยู่ในภพภูมิที่สูงขึ้นไปกว่านี้ ตามคำแนะนำที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและความปรารถนาดีของทุกๆคนในครอบครัวเทพบุตรภุมมเทวาต้องการที่จะไปบังเกิดอยู่ในภพภูมิที่สูงขึ้นไปกว่านี้ ตามคำแนะนำของทุกๆคนในครอบครัวหลังจากที่พระธรรมกายได้ทราบเหตุผลที่แท้จริงว่า ทำไมเทพบุตรภุมมเทวาจึงอยากที่จะไปบังเกิดอยู่ในภพภูมิที่สูงขึ้นไปกว่านี้แล้ว พระธรรมกายจึงได้ทำการคำนวณบุญทั้งหมดที่เทพบุตรภุมมเทวาหรือคุณพ่อของลูก ได้เคยสั่งสมเอาไว้ในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ ไม่ว่าจะเป็นบุญที่ท่านได้ทำบุญตักบาตร, ทอดกฐินทอดผ้าป่า, บุญที่ท่านได้เข้าวัดฟังเทศน์ฟังธรรม และบุญสงเคราะห์โลก เป็นต้น กับบุญที่ท่านได้อนุญาตให้ลูกสาว (ตัวลูก) มาสร้างบารมีเป็นอุบาสิกาอยู่ในเขตใน และบุญที่ลูกสาว (ตัวลูก) ได้มาชักชวนให้ท่านได้ทำ เช่น บุญสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัว และบุญหล่อรูปเหมือนทองคำพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ เป็นต้นพระธรรมกายได้ทำการคำนวณบุญทั้งหมดที่เทพบุตรภุมมเทวาได้เคยสั่งสมเอาไว้ในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่หลังจากที่พระธรรมกายได้คำนวณบุญทั้งหมดแล้ว พระธรรมกายจึงได้ทราบว่า ด้วยกำลังบุญทั้งหมดของเทพบุตรภุมมเทวาดังที่ได้กล่าวมาแล้ว จะสามารถส่งผลทำให้ท่านไปบังเกิดเป็นเทพบุตรคนธรรพ์ระดับสูง ที่มีวิมานไม้สีทองขนาดใหญ่ในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาได้ แต่ถ้าหากประมวลรวมบุญโดยนำบุญทั้งหมดของท่านดังที่ได้กล่าวมาแล้ว มารวมกับบุญที่ตัวลูกได้อุทิศชีวิตเข้ามาสร้างบารมีเป็นอุบาสิกาอยู่เขตใน และได้ทุ่มเทสร้างบารมีอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน อีกทั้งทำอย่างไม่มีข้อแม้ข้ออ้างและเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้นมาเป็นระยะเวลากว่า 20 ปี ด้วยกำลังบุญทั้งหมดนี้ สามารถที่จะส่งผลทำให้เทพบุตรภุมมเทวาไปบังเกิดเป็นเทพบุตร ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เฟสสาม หรือชนบทดาวดึงส์ได้เลยทีเดียวด้วยกำลังบุญทั้งหมดของเทพบุตรภุมมเทวา จะสามารถส่งผลทำให้ท่านไปบังเกิดเป็นเทพบุตรคนธรรพ์ระดับสูง ในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาได้ในเวลาต่อมา พระธรรมกายได้เมตตาไปเยี่ยมเทพบุตรภุมมเทวาอีกครั้งที่วิมาน เมื่อเทพบุตรภุมมเทวาได้เห็นพระธรรมกายแล้ว ท่านก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง แล้วรีบก้มลงกราบพระธรรมกายด้วยความนอบน้อมในทันที หลังจากนั้นพระธรรมกายก็ได้เมตตาให้โอวาทกับเทพบุตรภุมมเทวาในทำนองที่ว่า “ถ้าหากท่านเทพบุตรภุมมเทวาต้องการที่จะไปบังเกิดอยู่ในภพภูมิที่สูงขึ้นไปกว่านี้ ละเอียดยิ่งขึ้นไปกว่านี้ และมีความสุขมากขึ้นไปกว่านี้ ท่านก็จะต้องตั้งใจนั่งสมาธิ(Meditation)” จากนั้นพระธรรมกายได้เมตตาสอนวิธีการนั่งสมาธิให้กับเทพบุตรภุมมเทวาพระธรรมกายได้เมตตาให้โอวาทกับเทพบุตรภุมมเทวาว่า ถ้าหากต้องการที่จะไปบังเกิดอยู่ในภพภูมิที่สูงขึ้นไปกว่านี้ ก็จะต้องตั้งใจนั่งสมาธิเมื่อเทพบุตรภุมมเทวาได้รู้วิธีการนั่งสมาธิจากพระธรรมกายแล้ว ท่านก็ไม่รอช้าได้นั่งสมาธิตามที่พระธรรมกายได้เมตตาสอนเอาไว้ในทันที โดยที่ท่านได้นึกถึงองค์พระที่ท่านคุ้นเคย ซึ่งมีลักษณะตามที่ท่านเคยเห็นในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่เมื่อเทพบุตรภุมมเทวาได้รู้วิธีการนั่งสมาธิแล้ว ท่านก็ไม่รอช้าได้นั่งสมาธิตามที่พระธรรมกายได้เมตตาสอนเอาไว้ในทันที
http://goo.gl/hdGnx