ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ.2554พิธีลงนามบันทึกความเข้าใจทางวิชาการระหว่างวัดพระธรรมกาย กับ 3 สถาบันชั้นนำของโลกพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจทางวิชาการเพื่อค้นคว้าวิจัยคำสอนพระพุทธศาสนายุคดั้งเดิมในหัวข้อ“พระพุทธศาสนาเถรวาท: ความต่อเนื่องและความหลากหลาย”ระหว่างวัดพระธรรมกาย กับ 3 สถาบันชั้นนำของโลกมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด, มหาวิทยาลัยลอนดอน คิงส์คอลเลจ,มหาวิทยาลัยคอลเลจคอร์กเรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาเหลือเวลาอีกเพียงสองวัน ที่เราจะได้เห็นนักวิชาการพุทธศาสนาจากทั้งซีกโลกตะวันตกและตะวันออก มาจับมือกันสร้างความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์ เพื่อค้นคว้าหาหลักฐานที่จะชี้ให้เห็นถึงหลักคำสอนดั้งเดิม ซึ่งเป็นหนทางสายเอกแห่งการเข้าถึงสันติสุขภายในที่แท้จริง โครงการนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากด็อกเตอร์สาวชาวอังกฤษชื่อ เคท ครอสบี เธอสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกด้านพระพุทธศาสนา จากมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด (University of Oxford) และได้ทำงานค้นคว้าวิจัยในขอบข่ายเรื่องเหล่านี้ตลอดมากว่า 20 ปี ซึ่งเธอได้ค้นพบความรู้ที่เป็นประโยชน์อย่างมากมาย อาทิเช่น ความรู้ที่ยืนยันว่าสมาธิ(Meditation)มีความเชื่อมโยงกับศาสตร์ต่างๆทั้งวิทยาศาสตร์, คณิตศาสตร์, แพทยศาสตร์, เภสัชศาสตร์ และอื่นๆ ซึ่งอาจกล่าวโดยสรุปว่า “การศึกษาพระพุทธศาสนาอย่างถ่องแท้นั้น ย่อมทำให้เข้าใจความเป็นจริงของสรรพศาสตร์ที่เป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติอย่างแท้จริง” ยกตัวอย่างเช่น การจะตอบคำถามว่า “เหตุใดการกำหนดจิตของผู้ฝึกสมาธิจึงให้ผู้หญิงกำหนดที่ปากช่องจมูกด้านซ้าย และผู้ชายทางปากช่องจมูกด้านขวา” การค้นคว้าวิจัยเหล่านี้สามารถยืนยันด้วยความรู้และหลักฐานในคัมภีร์ได้อย่างหนักแน่นดร.เคท ครอสบีดร.เคท ครอสบี มุ่งมั่นอยู่บนเส้นทางสายวิชาการพระพุทธศาสนามาตลอดกว่า 20 ปี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเทียบได้กับผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านพระพุทธศาสนา ณ มหาวิทยาลัยลอนดอน (University of London) และนับตั้งแต่เธอได้รู้จักนักศึกษาชาวไทยเมื่อ 9 ปีที่แล้ว ก็ทำให้เธอได้มารู้จักกับหมู่คณะเป็นครั้งแรกที่วัดพระธรรมกายลอนดอน เมื่อปี พ.ศ.2553 ที่ผ่านมา และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดการแสวงหาความร่วมมือทางวิชาการของวัดพระธรรมกายกับสถาบันต่างๆในประเทศอังกฤษ เพื่อค้นคว้าวิจัยหลักคำสอนในพระพุทธศาสนา ทั้งที่เป็นคำสอนยุคดั้งเดิมและทั้งที่มีหลักฐานปรากฏในแหล่งต่างๆในยุคต่อๆมา ด้วยเหตุที่ดร.เคทเห็นว่า “วัดพระธรรมกายเปิดกว้างที่จะสนับสนุนการค้นคว้าวิจัยทางพุทธศาสนา” จึงยินดีรับเป็นที่ปรึกษาและเป็นผู้ติดต่อ แนะนำให้คณะนักวิจัยจากสถาบันต่างๆได้แก่ มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด, มหาวิทยาลัยลอนดอน คิงส์คอลเลจ และมหาวิทยาลัยคอลเลจคอร์ก มารับการสนับสนุนทุนวิจัยจากวัดพระธรรมกาย ภายใต้หัวข้อการค้นคว้าวิจัยที่มีชื่อว่า “พระพุทธศาสนาเถรวาท: ความต่อเนื่องและความหลากหลาย” ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่ามหาวิทยาลัยทั้ง 3 แห่ง โดยเฉพาะ 2 แห่งแรกนั้น ถือเป็นสถาบันชั้นนำของโลกตะวันตกเลยทีเดียวดร.เคท ครอสบี ที่วัดพระธรรมกายลอนดอน ประเทศอังกฤษเริ่มตั้งแต่ มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด (University of Oxford) เริ่มการเรียนการสอนตั้งแต่ปี พ.ศ.1639 หรือเมื่อ 915 ปีที่แล้ว เป็นผู้นำทางการศึกษาด้านพระพุทธศาสนาในตะวันตก จนสามารถจัดให้มีการสอนด้านภาษาบาลีและสันสกฤต นักวิชาการทั้งในยุโรปและเอเชียที่มีชื่อเสียงจำนวนมากได้ร่ำเรียนมาจากที่นี่ โดยมีหอสมุดโบเดลี่ยน (Bodleian Library) แห่งมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดเป็นแหล่งรวบรวมคัมภีร์พระพุทธศาสนาที่สำคัญอย่างยิ่งมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด (University of Oxford)หอสมุดโบเดลี่ยน (Bodleian Library)สถาบันแห่งที่สอง คือ มหาวิทยาลัยลอนดอน คิงส์คอลเลจ (King's College London) เป็นอีกหนึ่งมหาวิทยาลัยชั้นนำที่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศว่า มีความโดดเด่นในหลายสาขา ทั้งด้านการแพทย์, วิทยาศาสตร์, ปรัชญา และมีประวัติอันยาวนานในด้านการค้นคว้าวิจัยด้านนานาศาสนา และในอดีตก็เคยมีการเรียนการสอนพระพุทธศาสนาด้วยเช่นกัน แต่ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมาได้ปิดตัวลง เนื่องจากขาดผู้ชำนาญและผู้สนับสนุนการสอนพระพุทธศาสนา จนกระทั่งขณะนี้ เมื่อคณะทำงานวิจัยจาก 3 สถาบันได้รวมตัวกันเพื่อศึกษาวิจัยภายใต้โครงการนี้ ก็เท่ากับได้นำวิชาพระพุทธศาสนากลับคืนสู่การเรียนการสอนในสถาบันแห่งนี้อีกครั้งหนึ่งมหาวิทยาลัยลอนดอน คิงส์ คอลเลจ (King's College London)สถาบันแห่งที่ 3 คือ มหาวิทยาลัยคอลเลจคอร์ก (University College Cork) ประเทศไอร์แลนด์ มีคณาจารย์คณะการศึกษาด้านศาสนาเป็นผู้นำในการแสวงหาความร่วมมือในระดับนานาชาติ และมีผลงานเป็นที่ยอมรับในระดับสากลทั้งในทวีปยุโรปและอเมริกามหาวิทยาลัยคอลเลจคอร์ก (University College Cork)ตัวแทนจากสถาบันทั้ง 3 แห่งกำลังเดินทางมาเพื่อลงนามบันทึกความเข้าใจทางวิชาการ ร่วมกันที่วัดพระธรรมกาย ในวันธรรมชัย วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ.2554 เวลา 9.00 น. - 10.30 น. ณ ห้องประชุม SPD 7 จึงขอเชิญชวนลูกพระธัมฯผู้มีปณิธานอันยิ่งใหญ่ มาร่วมเป็นเกียรติและอนุโมทนาบุญกับบุคคลสำคัญที่จะเข้ามาอุทิศตน เพื่อนำแสงแห่งธรรมมาสู่ชาวโลกในครั้งนี้********************************บทความที่เกี่ยวข้องกับพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจทางวิชาการ ระหว่างวัดพระธรรมกายกับ 3 สถาบันชั้นนำของโลก
http://goo.gl/aXFJC