กรณีศึกษาคุณหมอปุ้ยตายแล้วไปไหน ตอนที่ 3

บุพกรรมที่ทำให้เธอต้องเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ทั้งนี้ก็เป็นเพราะ วิบากกรรมปาณาติบาตจากการที่เธอมีส่วนทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตโดยไม่เจตนาในภพชาติก่อนๆ https://dmc.tv/a14938

บทความธรรมะ Dhamma Articles > ช่วงเด่นฝันในฝัน > ปกิณกธรรม > กรณีศึกษากฎแห่งกรรม
[ 8 ม.ค. 2556 ] - [ ผู้อ่าน : 18327 ]
 
 
ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 5 มกราคม พ.ศ.2556
 
 
 
Case Study
คุณหมอปุ้ยตายแล้วไปไหน ตอนที่ 3
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
  
 
        คำถามข้อที่ 2 บุพกรรมใดที่ทำให้หมอปุ้ยเสียชีวิต
 
        คำตอบ...สำหรับบุพกรรมที่ทำให้เธอต้องเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ทั้งนี้ก็เป็นเพราะ วิบากกรรมปาณาติบาตจากการที่เธอมีส่วนทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตโดยไม่เจตนาในภพชาติก่อนๆ คือย้อนไปอีก 3 ชาติหลังจากภพชาติปัจจุบันนี้ได้ช่องตามมาส่งผล เรื่องราวก็มีอยู่ว่า ในภพชาติดังกล่าวซึ่งหมู่คณะของเราได้ลงมาเกิดสร้างบารมีด้วย เธอได้เกิดเป็น “แม่หญิงน้ำใจงาม” อยู่ในครอบครัวที่มีฐานะค่อนข้างดีและนับถือพระพุทธศาสนา และด้วยเหตุที่เธอเกิดอยู่ในช่วงที่พระพุทธศาสนากำลังเจริญรุ่งเรืองและอยู่ในครอบครัวที่อบอุ่น จึงทำให้เธอเป็นคนใจบุญและชอบช่วยเหลือผู้อื่นมาตั้งแต่เด็ก
 
ในภพชาติก่อนๆ เธอได้เกิดเป็นแม่หญิงน้ำใจงาม อยู่ในครอบครัวที่มีฐานะค่อนข้างดีและนับถือพระพุทธศาสนา
ในภพชาติก่อนๆ เธอได้เกิดเป็นแม่หญิงน้ำใจงาม อยู่ในครอบครัวที่มีฐานะค่อนข้างดีและนับถือพระพุทธศาสนา
 
 
        และเมื่อเธอเติบใหญ่ ด้วยความที่เธอเป็นคนที่มีอัธยาศัยชอบช่วยเหลือคนอื่นมาตั้งแต่เด็ก จึงทำให้เธอได้เลือกเรียนหมอที่สถาบันทางการแพทย์แห่งหนึ่ง และเมื่อเธอเรียนจบหลักสูตรแล้ว เธอก็ได้เป็นหมอรักษาโรคทั่วไป คือไม่ได้เป็นหมอเฉพาะทางเหมือนอย่างในยุคปัจจุบัน สมดังความตั้งใจของเธอ ภายหลังจากที่เธอเป็นหมอรักษาคนไข้อยู่ที่ศูนย์รักษาผู้ป่วยแห่งหนึ่งแล้ว ตัวเธอก็ได้ตั้งใจรักษาคนไข้ทุกๆ คนเป็นอย่างดี และด้วยความที่เธอดูแลเอาใจใส่คนไข้เป็นอย่างดีโดยทำหน้าที่อย่างไม่ขาดตกบกพร่องเลย จึงทำให้ชื่อเสียงของเธอดังกระฉ่อนไปทั่วทั้งเมือง พูดง่ายๆ ว่าในแต่ละวันจะมีคนไข้แห่มาจองคิวเพื่อให้เธอรักษาโรคกันเป็นจำนวนมาก
 

เธอมีอาชีพเป็นหมอรักษาโรคทั่วไป

เธอมีอาชีพเป็นหมอรักษาโรคทั่วไป
 
 
        และด้วยความที่ในแต่ละวันมีคนไข้แห่มาจองคิวรักษากับเธอเยอะมากๆ จึงทำให้เธอไม่ค่อยมีเวลาได้พักผ่อน จนกระทั่งมีอยู่วันหนึ่ง ในขณะที่เธอกำลังตรวจอาการคนไข้รายหนึ่ง ซึ่งมีอาการป่วยค่อนข้างหนัก ด้วยความเหน็ดเหนื่อยที่ถูกสะสมมาเรื่อยๆ จึงทำให้เธอเกิดอาการมึนศีรษะ และรู้สึกอ่อนเพลียเป็นอย่างมาก เพราะก่อนหน้านี้เธอผ่านการรักษาคนไข้มาเกือบทั้งวันแล้ว
 
เธอเกิดอาการมึนศีรษะ และรู้สึกอ่อนเพลียเป็นอย่างมาก
เธอเกิดอาการมึนศีรษะ และรู้สึกอ่อนเพลียเป็นอย่างมาก
 
 
        และด้วยความอ่อนเพลียเป็นเหตุ บวกกับในตอนนั้นยังมีคนไข้รายอื่นรอตรวจอยู่นี่เอง จึงทำให้เธอรีบตรวจเช็คอาการของคนไข้รายนี้แบบผ่านๆ ไม่ได้ตรวจเช็คอาการอย่างละเอียดเหมือนอย่างที่เธอเคยทำผ่านมา และด้วยความที่เธอเห็นว่าอาการภายนอกของคนไข้รายนี้ แลดูคล้ายกับคนที่ป่วยเป็นโรคหวัดทั่วๆ ไป จึงทำให้เธอบอกกับคนไข้รายนี้ไปว่า “คุณไม่เป็นอะไรมาก” ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว คนไข้รายนี้มีอาการป่วยค่อนข้างหนักกว่าที่เธอคิดเอาไว้มาก
 
เธอรีบตรวจเช็คอาการของคนไข้รายนี้แบบผ่านๆ
เธอรีบตรวจเช็คอาการของคนไข้รายนี้แบบผ่านๆ
 
 
        ภายหลังจากที่คนไข้รายนี้เชื่อในคำวินิจฉัยโรคของเธอ คนไข้รายนี้จึงกลับไปนอนพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน แต่ทว่าหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน อาการป่วยของคนไข้รายนี้ก็กลับทรุดหนักลงไปกว่าเดิมมาก เมื่อคนไข้รายนี้ถูกนำตัวมาให้เธอตรวจอาการอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง เธอจึงรู้ว่าคนไข้รายนี้ป่วยหนักกว่าที่เธอคิดเอาไว้ในตอนแรกมาก ถึงแม้ในครั้งนี้เธอจะตรวจพบอาการที่แท้จริงของโรคแล้วก็ตาม แต่ด้วยความที่เชื้อโรคได้แพร่กระจายเข้าสู่กระแสเลือดอย่างรุนแรงจนยากที่จะเยียวยา เพราะเชื้อได้ลุกลามไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นบริเวณปอด, ต่อมน้ำเหลือง หรือระบบทางเดินหายใจ เป็นต้น สุดท้ายคนไข้รายนี้ก็ได้เสียชีวิตลงด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรงในที่สุด
 
คนไข้รายนี้จึงไปพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน แต่อาการป่วยของเขากลับทรุดหนักไปกว่าเดิมมาก
คนไข้รายนี้จึงไปพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน แต่อาการป่วยของเขากลับทรุดหนักไปกว่าเดิมมาก
 
 
        และถ้าจะว่าไปตามความเป็นจริงแล้ว หากในวันนั้นเธอตั้งใจตรวจดูอาการของคนไข้รายนี้อย่างละเอียดตั้งแต่แรก เชื้อโรคก็จะไม่แพร่กระจายเข้าสู่ระบบเลือด อีกทั้งคนไข้รายนี้ก็อาจจะมีสิทธิ์รอด แล้วก็ไม่ต้องมาจบชีวิตลงด้วยอาการแบบนี้ เพราะโรคที่คนไข้รายนี้เป็นนั้น เดิมทีเป็นโรคติดเชื้อที่พอจะรักษาให้หายได้ ถ้าหากได้รับการตรวจอย่างละเอียดและรักษาอย่างถูกต้อง
 
คนไข้รายนี้อาจมีสิทธิ์รอด หากได้รับการตรวจอย่างละเอียดและรักษาอย่างถูกต้อง
คนไข้รายนี้อาจมีสิทธิ์รอด หากได้รับการตรวจอย่างละเอียดและรักษาอย่างถูกต้อง
 
 
        และด้วยวิบากกรรมในภพชาติดังกล่าวนี้เอง คือวิบากกรรมที่เธอวินิจฉัยโรคและตรวจอาการคนไข้แบบผ่านๆ จนเป็นเหตุทำให้คนไข้เสียชีวิตด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง เพราะเชื้อได้ลุกลามไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นบริเวณปอด, ต่อมน้ำเหลือง หรือระบบทางเดินหายใจ เป็นต้น จึงส่งผลทำให้นับตั้งแต่ในภพชาติที่เธอได้ก่อวิบากกรรมเรื่อยมาจนถึงในภพชาติปัจจุบันนี้ ถ้านับแล้วก็ประมาณ 3 ชาติ เธอจึงถูกวิบากกรรมดังกล่าวมาตัดรอน ทำให้เธอมีอายุขัยที่สั้นกว่าอายุขัยเฉลี่ยของคนในยุคนั้นๆ คือทำให้เธอต้องมาป่วยเป็นโรคที่เกี่ยวกับระบบเลือด หรือมีปัญหาเกี่ยวกับอวัยวะภายใน ไม่ว่าจะเป็นปอดหรือต่อมน้ำเหลือง เป็นต้น นี่คือสาเหตุหรือบุพกรรมที่ทำให้เธอต้องมาป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองบริเวณปอด แล้วก็ลุกลามไปตามส่วนต่างๆ อย่างในภพชาติปัจจุบันนี้
 
ด้วยวิบากกรรมในภพชาติดังกล่าว จึงส่งผลทำให้เธออายุสั้นและต้องป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับระบบเลือด
ด้วยวิบากกรรมในภพชาติดังกล่าว จึงส่งผลทำให้เธออายุสั้นและต้องป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับระบบเลือด
 
 
        มาถึงตรงนี้ คุณครูไม่ใหญ่ขอขยายเรื่องความแตกต่างของวิบากกรรม ที่ตั้งใจฆ่าคนโดยเจตนา กับวิบากกรรมที่ทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตโดยไม่เจตนา ว่ามันให้ผลแตกต่างกันอย่างไรกันอีกสักนิด สำหรับวิบากกรรมปาณาติบาตที่ทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตโดยไม่เจตนาในลักษณะคล้ายๆ กับเคสนี้นั้น แม้ผลของมันจะมีกำลังมาก แต่ก็ยังไม่มากเท่ากับผลของวิบากกรรมปาณาติบาตที่เกิดจากการตั้งใจฆ่าคนโดยเจตนา เพราะฉะนั้นเวลาที่วิบากกรรมฆ่าคนโดยไม่เจตนาส่งผล ผลของมันจึงไม่เร็วแรงเท่ากับผลที่เกิดจากการฆ่าคนโดยเจตนา ยกตัวอย่างเช่น จากที่ตั้งใจฆ่าคนโดยเจตนาจะส่งผลทำให้เสียชีวิตแบบทันทีทันใด ก็จะกลายเป็นค่อยๆ ส่งผลหรือยืดเวลาออกไป แต่ผลสุดท้ายก็จะเสียชีวิตเหมือนกัน เป็นต้น
 
ความแตกต่างของวิบากกรรมที่ฆ่าคนโดยเจตนา กับวิบากกรรมที่ทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตโดยไม่เจตนา
ความแตกต่างของวิบากกรรมที่ฆ่าคนโดยเจตนา กับวิบากกรรมที่ทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตโดยไม่เจตนา
 
 
        และในภพชาติเดียวกันนั้นเอง ภายหลังจากที่เธอรู้ตัวว่าเธอมีส่วนในการตายของคนไข้รายนี้ เธอก็รู้สึกเสียใจและทุกข์ใจเป็นอย่างมาก และด้วยความที่เธอรู้สึกว่าการตายของคนไข้รายนี้มันคือตราบาปในใจของเธอ เธอจึงหาทางออกด้วยการเข้าวัดทำบุญและอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลส่งไปให้กับคนไข้รายนั้นอยู่บ่อยๆ และจากวิกฤตชีวิตของเธอในครั้งนี้ ก็ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอได้มาเจอ และได้มาร่วมสร้างบารมีกับหมู่คณะในภพชาตินั้น ซึ่งคนที่ทำหน้าที่กัลยาณมิตรชักชวนให้เธอได้มาร่วมสร้างบารมีกับหมู่คณะในภพชาตินั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน บุคคลท่านนั้นก็คือเพื่อนสาวคนสนิทของเธอในภพชาตินั้น หรือพี่สาวที่แสนดีของเธอในภพชาติปัจจุบันนี้นั่นเอง
 
เธอหาทางออกด้วยการเข้าวัดทำบุญและอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลส่งไปให้คนไข้รายนั้นอยู่บ่อยๆ
เธอหาทางออกด้วยการเข้าวัดทำบุญและอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลส่งไปให้คนไข้รายนั้นอยู่บ่อยๆ
 
 
        เมื่อเพื่อนสนิทของเธอซึ่งก็คือพี่สาวของเธอในภพชาติปัจจุบันนี้ ได้ชักชวนเธอมาสั่งสมบุญที่วัดของหมู่คณะ ความศรัทธาก็พลันบังเกิดขึ้นในทันทีที่เธอได้ฟังธรรม และปฏิบัติธรรมร่วมกับมหาปูชนียาจารย์ในยุคสมัยนั้น และเมื่อเธอได้มาเจอหนทางสว่างและเริ่มรู้เรื่องราวความเป็นจริงของชีวิตแล้ว จึงทำให้หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา เธอก็มุ่งมั่นตั้งใจในการสั่งสมบุญสร้างบารมีกับหมู่คณะอย่างเต็มที่เต็มกำลังเรื่อยมา
 
เธอมุ่งมั่นตั้งใจในการสั่งสมบุญสร้างบารมีกับหมู่คณะอย่างเต็มที่เต็มกำลังเรื่อยมา
เธอมุ่งมั่นตั้งใจในการสั่งสมบุญสร้างบารมีกับหมู่คณะอย่างเต็มที่เต็มกำลังเรื่อยมา
 
 
        เมื่อเธอมีโอกาสได้มาสั่งสมบุญที่วัดของหมู่คณะบ่อยเข้า จึงทำให้เธอได้มาพบกับตัวลูกในภพชาตินั้น หรือพระพ่อของลูกชายทั้งสองคนในภพชาติปัจจุบัน ซึ่ง ณ ช่วงเวลานั้นตัวลูกได้ออกบวชเป็นพระภิกษุแล้ว และทุกครั้งที่เจอกัน ตัวลูกก็จะเล่าธรรมะและคอยชี้แนะแนวทางในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องให้กับเธอ ภายหลังจากที่เธอได้ฟังธรรมหรือได้ข้อคิดจากตัวลูกแล้ว ความทุกข์ใจ ในเรื่องที่เธอมีส่วนทำให้คนไข้ต้องตาย ซึ่งมันยังคงฝังแน่นและเป็นตราบาปอยู่ภายในใจของเธอก็ค่อยๆ คลายตัวลงไป
 
ในภพชาตินั้นตัวลูกจะเล่าธรรมะและคอยชี้แนะแนวทางในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องให้กับเธอ
ในภพชาตินั้นตัวลูกจะเล่าธรรมะและคอยชี้แนะแนวทางในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องให้กับเธอ
 
 
        นอกจากตัวลูกจะคอยเล่าธรรมะ หรือให้ข้อคิดในการดำเนินชีวิตให้กับเธอแล้ว ตัวลูกยังคอยประคับประคองและคอยให้กำลังใจ ในยามที่เธอทุกข์ใจหรือมีปัญหาชีวิตอีกด้วย พูดง่ายๆ ว่าในภพชาตินั้น ตัวลูกเหมือนกับเป็นพระอาจารย์ประจำตัวของเธอนั่นเอง และด้วยความผูกพันและความเกื้อกูลที่มีต่อกันมาข้ามภพข้ามชาติ จึงทำให้ในภพชาติปัจจุบันนี้ ตัวลูก, ตัวเธอและพี่สาวของเธอในภพชาติปัจจุบันนี้ ได้เกิดมาเจอกัน และได้มาสั่งสมบุญสร้างบารมีร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง
 
ด้วยความผูกพันและความเกื้อกูลที่มีต่อกันมาข้ามภพข้ามชาติ จึงทำให้ในภพชาติปัจจุบันนี้ ได้เกิดมาเจอกัน และได้มาสั่งสมบุญสร้างบารมีร่วมกันอีกครั้ง
ด้วยความผูกพันและความเกื้อกูลที่มีต่อกันมาข้ามภพข้ามชาติ จึงทำให้ในภพชาติปัจจุบันนี้ ได้เกิดมาเจอกัน และได้มาสั่งสมบุญสร้างบารมีร่วมกันอีกครั้ง
 
 
        ส่วนว่าเรื่องราวการสร้างบารมีในพุทธันดรที่ผ่านมาของหมอปุ้ย และตัวลูกจะเป็นอย่างไร เราก็คงจะต้องมาติดตามกันต่อในตอนต่อไป
 
 
รับชมวิดีโอ
 

รับชมคลิปวิดีโอปรโลกนิวส์ เทพธิดาแพทย์หญิง ตอนที่ 3
ชมวิดีโอปรโลกนิวส์ เทพธิดาแพทย์หญิง ตอนที่ 3   Download ธรรมะปรโลกนิวส์ เทพธิดาแพทย์หญิง ตอนที่ 3

 

คุณหมอปุ้ยตายแล้วไปไหน ตอนที่ 1
  

http://goo.gl/2AitX


พิมพ์บทความนี้

ไปหน้าทบทวนฝันในฝัน



บทความอื่นๆ ในหมวด

      กิจกรรมพัฒนาวัดพิชิตปิตยาราม ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
      กิจกรรมพัฒนาวัดอู่ข้าว ต.คลอง 7 จ.ปทุมธานี
      อานุภาพบุญจากการมาสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ตอนที่ 1
      เล่าเรื่องคุณยายฯ ตอน ได้ตึก 18 ล้านแค่เพียงกระพริบตา
      เล่าเรื่องคุณยายฯ ตอน ความทรงอภิญญาของคุณยายฯที่ผมเจอกับตัวเอง
      ประกาศผลสุดยอดสามเณรแสดงธรรมระดับโลก
      เปิดใจสามเณรแชมป์แสดงธรรมระดับภาค ชิงชัยสู่เวทีแสดงธรรมระดับโลก
      ซุปเปอร์บิ๊กบุญ ตักบาตรแสนรูป ครั้งประวัติศาสตร์
      เส้นทางสามเณร สู่เวทีแชมป์เทศน์ระดับโลก
      เล่าเรื่องคุณยาย ตอน เรื่องเหลือเชื่อของการบูชาข้าวพระที่คุณยายฯฝากไว้
      บวชเณรล้านตักบาตรแสน สานฝันคุณยาย สร้างพระแท้
      เล่าเรื่องคุณยายฯ ตอน แค่มองหน้า..ก็รู้ทั้งหมด
      แฝด 4 บวชเณรล้านอ่างทองทำลายสถิติโลก