ปรโลกนิวส์ น้องเบล ตอนที่ 1กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อด้วยความเคารพอย่างสูงครับกัลฯ เอกรินทร์หรือน้องเบลเป็นอาสาสมัครของชมรมตักบาตรบูชาเจดีย์ ที่จะรับบุญจัดเตรียมภัตตาหารและสถานที่ในการตักบาตร ที่หน้าบ้านแก้วเรือนทองคุณยายฯ ทุกวันอาทิตย์, ทุกงานบุญใหญ่ และงานตักบาตรนอกสถานที่ต่างๆ ซึ่งน้องเบลได้มาสร้างบารมีเป็นเวลาสามปีแล้วครับ น้องเบลเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่รักในการสร้างบารมีมาก และมีความใฝ่ฝันที่จะเป็นนักวิจัยระดับโลก ดังนั้นน้องเบลจึงตั้งใจเรียนควบคู่ไปกับการทำหน้าที่เป็นอาสาสมัครช่วยงานบุญที่วัดไปด้วยก่อนหน้าวันที่น้องเบลจะเสียชีวิต น้องเบลก็ได้มาช่วยรับบุญที่วัดตามปกติ และเมื่อน้องเขากลับไปถึงหอพักในตอนกลางคืน ตัวเขาก็ได้ไปใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ร้านอินเตอร์เน็ต เพื่อทำรายงาน แล้วก็ได้เสียชีวิตที่ร้านนั้นในเวลาประมาณ 00.40 น. ของวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้ น้องเบลได้สมัครเข้าโครงการอบรมธรรมทายาทไว้ และกำลังจะเข้าอบรมในวันรุ่งขึ้น จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย สำหรับโอกาสในการสร้างบารมีของน้องเบลในภพชาตินี้ครับฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปราคำถามข้อที่ 1 น้องเบลเสียชีวิตเพราะเหตุใด ตายแล้วไปไหนคำตอบ... ก่อนที่น้องเบลจะเสียชีวิต ด้วยความอ่อนเพลียที่สะสมมาก่อนหน้านี้ อีกทั้ง ในวันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม คือวันก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เขาต้องตื่นแต่เช้าเพื่อมารับบุญที่วัด พอตกค่ำเขาก็ต้องฝืนสังขารมาทำรายงานแบบข้ามวันข้ามคืน เพื่อที่จะรีบปั่นงานให้เสร็จทันก่อนวันที่เขาจะเข้าโครงการอบรมธรรมทายาทในวันที่ 19ก่อนที่น้องเบลจะเสียชีวิต เขาต้องฝืนสังขารทำรายงานแบบข้ามวันข้ามคืนด้วยเหตุนี้เอง ร่างกายของเขาจึงพีค คือเกิดอาการขาดน้ำและอ่อนเพลียอย่างรุนแรง สุดท้ายเมื่อระบบภายในร่างกายทำงานผิดปกติ ตัวเขาจึงเกิดภาวะช็อกและหัวใจหยุดเต้นในเวลาต่อมา ซึ่งในจุดนี้ จริงๆ แล้วมันมีเบื้องหลังอยู่ ถ้าอยากฟัง ก็ต้องติดตามกันต่อไปเรื่อยๆทันทีที่กายมนุษย์ละเอียดของน้องเบลหลุดออกมาจากกายมนุษย์หยาบ ด้วยความที่ในช่วงแรกๆ ตัวเขายังอยู่ในอาการมึนๆ งงๆ แล้วก็ง่วงๆ เพราะความรู้สึกอ่อนเพลียยังคงติดค้างอยู่ กายละเอียดจึงรู้สึกอยากนอน เมื่อรู้สึกเช่นนั้น กายละเอียดของน้องเบลจึงได้แว้บกลับไปนอนอยู่ที่เตียงภายในห้องพักของตัวเองกายละเอียดของน้องเบลได้แว้บกลับไปนอนที่เตียงในห้องพักของตัวเองเมื่อเวลาผ่านไปได้สักพักใหญ่ๆ กายละเอียดของน้องเบลก็ได้ตื่นขึ้นมา ซึ่งในตอนนั้น น้องเบลยังไม่รู้ตัวว่า ตัวเองได้ตายไปแล้ว เพียงแต่ในแว้บแรกที่รู้สึกตัว เขารู้สึกแปลกใจว่า ทำไมเขาถึงกลับมานอนอยู่ที่ห้องได้ พอลุกขึ้นยืนเขาก็รู้สึกแปลกใจซ้ำเข้าไปอีก ว่าทำไมวันนี้ เขารู้สึกเหมือนตัวลอยๆ เบาๆ แบบแปลกๆ แต่ถึงกระนั้นตัวเขาก็ยังไม่ได้เอะใจอะไรมากนักน้องเบลไม่เห็นเงาตัวเองในกระจก จึงทำให้เขาถึงกับตะลึงจนในที่สุด เมื่อตัวเขาได้เดินเข้าไปในห้องน้ำและส่องกระจกดูตัวเอง เขาก็ได้พบกับเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้ตัวเขารู้สึกเหวอ แล้วก็ช็อคอย่างสุดขีด นั่นก็คือ เขาไม่เห็นเงาตัวเองในกระจก จึงทำให้น้องเบลถึงกับตะลึงในทันทีที่น้องเบลไม่เห็นเงาตัวเองในกระจกเช่นนั้น ตัวเขาก็รีบวิ่งออกมานอกห้องด้วยอาการตกใจ แล้วก็พยายามเข้าไปพูดคุยกับคนที่อยู่ในหอพัก แต่ไม่ว่าน้องเบลจะสื่อสารอย่างไร กับใคร ก็ไม่มีใครรับรู้หรือตอบรับสิ่งที่เขาพูดด้วยเลยสักคนเดียวตัวเขาพยายามเข้าไปพูดคุยกับคนที่อยู่ในหอพักเมื่อสถานการณ์ดำเนินมาถึงจุดนี้ กายละเอียดของน้องเบลจึงเริ่มเอะใจ คล้ายๆ จะรู้ตัวนิดๆ ว่าตัวเองตายไปแล้ว แต่ในช่วงแรกๆ นั้นตัวเขาเองก็ยังไม่เชื่อ และไม่คิดที่จะเชื่อ จนสุดท้ายเมื่อเวลาผ่านไปสักพักใหญ่ๆ น้องเบลจึงเริ่มรวบรวมสติและคิดทบทวนเหตุการณ์ต่างๆ ในค่ำคืนที่ผ่านมา จนในที่สุดตัวเขาก็ได้รู้ว่า ณ ตอนนี้ตัวเขาได้ตายไปแล้วจริงๆในทันทีที่น้องเบลรู้ตัว แล้วก็มั่นใจว่าตัวเองตายแน่ๆ แล้ว เขาก็เริ่มรู้สึกหวาดกลัวและเกิดอาการ “จิตตก” อย่างหนัก เพราะเขาไม่คิดว่าตัวเองจะตายเร็วขนาดนี้ และเมื่อน้องเบลได้ทราบถึงสภาวะความเป็นจริงของตัวเองเช่นนั้นแล้ว น้องเบลจึงรู้สึกอยากหาที่พึ่งทางใจให้กับตัวเอง ซึ่งบุคคลท่านแรกที่น้องเบลนึกถึง เพราะเป็นบุคคลที่เขารักมากที่สุดท่านหนึ่งนั่นก็คือ “คุณแม่”น้องเบลจึงนึกถึงคุณแม่ขึ้นมาทันทีที่นึกถึงคุณแม่ กายละเอียดของเขาก็ได้แว้บกลับไปที่บ้าน ซึ่งเป็นบ้านที่คุณแม่อาศัยอยู่ที่จังหวัดเลย แต่เมื่อไปถึงที่บ้าน เขาก็ไม่เจอกับคุณแม่ เพราะในช่วงนั้นตรงกับช่วงเวลาที่คุณแม่กำลังเดินทางมารับศพน้องเบลพอดีและด้วยความที่ในช่วงจังหวะนั้น น้องเบลกำลังอยู่ในอาการจิตตกอย่างหนัก และต้องการที่พึ่งทางใจเป็นอย่างมาก ด้วยสัญญาเก่าหรือความทรงจำที่ตนเองเคยได้ยินได้ฟังเรื่องราวในช่วง Case Study มาหลายต่อหลายเคสว่า “ผู้นำบุญที่ตายไปแล้ว โดยส่วนใหญ่จะมานั่งสมาธิ(Meditation)เพื่ออธิษฐานจิต แล้วก็นึกทบทวนบุญอยู่ที่บริเวณด้านหน้ามหาธรรมกายเจดีย์”กายละเอียดของเขาได้แว้บมาอยู่บริเวณหน้ามหาธรรมกายเจดีย์ด้วยสัญญาเก่าหรือความทรงจำดังกล่าวนี้เอง จึงทำให้น้องเบลนึกถึงวัด นึกถึงมหาธรรมกายเจดีย์ แล้วก็นึกถึงพระเถระรูปหนึ่งซึ่งตัวเขาเคารพรักอย่างสูงสุด ในทันทีที่ภาพของมหาธรรมกายเจดีย์ และภาพของพระเถระรูปหนึ่งมาปรากฏอยู่ภายในใจ กายละเอียดของเขาก็ได้แว้บมาที่วัด โดยมาอยู่บริเวณหน้ามหาธรรมกายเจดีย์ ในคืนวันเดียวกันนั้นเอง คือวันที่ 18 ซึ่งเป็นวันที่เขาเสียชีวิตในช่วงแรกๆ ที่กายละเอียดของน้องเบลมาอยู่ที่หน้ามหาธรรมกายเจดีย์ใหม่ๆ น้องเบลยังไม่มีอารมณ์ที่จะนั่งสมาธิ นึกทบทวนบุญของตัวเองตามหลักวิชชาที่ตนเองเคยได้ยินได้ฟังมาจากโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา เหมือนอย่างหลายๆ เคสที่ผ่านมา ที่เป็นเช่นนี้ทั้งนี้ก็เป็นเพราะ ณ ช่วงเวลานั้น น้องเบลยังทำใจต่อการตายของตัวเองไม่ได้ รู้สึกว่าหัวใจมันสลายในช่วงแรกๆ น้องเบลยังไม่มีอารมณ์นั่งสมาธินึกทบทวนบุญของตัวเองอีกทั้งอาการจิตตกของตัวเขาเองก็ยังไม่ดีขึ้น คือยังซึมๆ เศร้าๆ ยังมีอาการเสียใจ และมีอาการเหม่อลอยเหมือนกับคนที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ประมาณว่าเดี๋ยวก็ผลุดลุก เดี๋ยวก็ผลุดนั่ง เดี๋ยวก็เดินไปที่นู่น เดี๋ยวก็เดินไปที่นี่แบบไร้จุดหมาย เดี๋ยวก็มานั่งเหม่อลอย คอตกแบบคนหมดอาลัยตายอยาก เป็นต้นและด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้บางช่วง น้องเบลก็จะไปนั่งกอดเข่าด้วยอาการซึมๆ แล้วก็มองดูมหาธรรมกายเจดีย์อยู่ที่บู๊ทอาสาสมัครในสภาแบบเหม่อๆ บางช่วงก็จะเดินคอตก อยู่รอบๆ บริเวณสภาหรือรอบๆ วิหารคด บางช่วงก็จะแว้บไปที่สำนักศรัทธาภิบาล โดยไปยืนเกาะหน้าต่างเพื่อมองดูพี่ๆ อุบาสก อุบาสิกา รวมถึงพระอาจารย์ที่ตัวเองคุ้นเคยด้วยอาการเหม่อๆ เศร้าๆ อยู่ห่างๆน้องเบลไปนั่งกอดเข่าด้วยอาการซึมๆ มองดูมหาธรรมกายเจดีย์ส่วนสาเหตุที่เขาไม่เข้าไปทักทายกับใคร ก็เป็นเพราะว่าในช่วงจังหวะนั้น ตัวเขายังไม่มีอารมณ์ อีกอย่างก็คือเขารู้ตัวเองดีว่า ถึงเขาจะพยายามเข้าไปทักทาย หรือเข้าไปพูดคุยกับใคร ก็คงไม่มีใครเห็น ดังนั้นเขาจึงแค่มองดูทุกคนอยู่ห่างๆ อย่างเหี่ยวๆ ตอนนั้นน้องเบลรู้สึกว่าตัวเองนั้นเคว้งคว้าง โดดเดี่ยวเหมือนอยู่ตัวคนเดียวจนสุดท้าย เมื่อไม่รู้จะไปที่ไหน น้องเบลก็จะแว้บกลับมานั่งสมาธิ และพยายามสกัดกั้นอารมณ์จิตตกของตัวเอง ด้วยการนึกถึงบุญอยู่ที่หน้ามหาธรรมกายเจดีย์ เพียงแต่ในช่วงแรกๆ นั้น ใจเขายังไม่เป็นสมาธิ และยังนึกถึงบุญไม่ตลอดต่อเนื่องสักเท่าไหร่ เพราะในตอนนั้น ตัวเขายังทำใจและรับสภาพที่ตัวเองกำลังเป็นไม่ได้ ซึ่งก็มีอยู่บ่อยครั้งที่เขาจะรำพึงกับตัวเองในทำนองที่ว่า “ทำไมเขาถึงต้องมาตายตอนนี้ เขายังไม่อยากตาย ทำไมบุญถึงไม่ช่วยเขา เขายังมีอะไรอีกหลายอย่างที่อยากจะทำ เขาอยากบวช ทำไมบุญจึงไม่ช่วย เป็นต้น”สุดท้ายน้องเบลก็มานั่งสมาธินึกถึงบุญอยู่ที่หน้ามหาธรรมกายเจดีย์และเมื่อเข้าสู่ช่วงเช้าของวันที่ 19 มีนาคม ซึ่งเป็นวันที่นาคธรรมทายาทโครงการอุปสมบทหมู่แสนรูปทั่วไทย และโครงการบวชบูชาธรรมทำการซ้อมบวช ตัวเขาซึ่งแต่เดิมจะต้องเข้ามาอบรมโครงการบวชธรรมทายาทภาคฤดูร้อนในวันนี้ ก็ได้ตามไปดูการซ้อมบวชของบรรดานาคธรรมทายาท ทั้งที่สภาและที่วิหารคดด้วยความรู้สึกเศร้าใจ เสียใจ และรู้สึกเสียดายอย่างที่สุด ที่ตัวเองไม่มีโอกาสได้บวชอย่างที่ตนเองได้ตั้งใจเอาไว้ตัวเขาไปดูการซ้อมบวชของบรรดานาคธรรมทายาททั้งที่สภาและที่วิหารคดเมื่อเข้าสู่วันที่ 20 มีนาคม ซึ่งตรงกับวันบรรพชาของเหล่านาคธรรมทายาทได้เริ่มขึ้น อาการจิตตกของน้องเบลก็ยิ่งเพิ่มปริมาณมากขึ้นไปกว่าเดิมอีก คือในวันนี้กายละเอียดของเขามีอาการเหมือนคนกำลังจะร้องไห้ เพราะเขารู้สึกเสียใจ แล้วก็เสียดายโอกาสของตัวเองมากๆ ที่ในภพชาตินี้ตัวเขาเองยังไม่มีโอกาสได้บวชเป็นพระ ตามที่ตัวเองตั้งใจเอาไว้กายละเอียดของเขามีอาการเหมือนคนกำลังจะร้องไห้แต่เมื่อพิธีบรรพชาและพิธีเวียนประทักษิณ ของเหล่าธรรมทายาทผ่านพ้นไป ด้วยภาพของพิธีบรรพชาและพิธีเวียนประทักษิณที่แลดูศักดิ์สิทธิในวันนั้น ก็มีพลังจนทำให้ใจของน้องเบล ซึ่งจากเดิมที่อยู่ในอาการจิตตก แล้วก็ห่อเหี่ยวอย่างที่สุด ก็พลันบังเกิดความปีติแช่มชื่นใจขึ้นมา แล้วก็ยังส่งผลทำให้กระแสบุญ เริ่มได้ช่องเข้ามาหล่อเลี้ยงอยู่ภายในใจของเขา เพิ่มมากขึ้นกว่าในวันแรกๆ ที่เพิ่งเสียชีวิต ทบทวนบุญบวชฉบับสั้น แต่ถึงกระนั้น ภายในใจของเขาก็ยังแอบเศร้าใจ เสียใจ และยังรู้สึกเสียดาย ที่ตัวเองตายเร็วไปและยังไม่มีโอกาสได้บวชในครั้งนี้ภาพของพิธีบรรพชาทำให้ใจของน้องเบลเกิดความปีติแช่มชื่นใจขึ้นมาส่วนว่า เมื่อกระแสบุญได้ช่องเข้ามาทำงานอยู่ภายในใจของน้องเบลมากขึ้น จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นหลังจากนี้ แล้วอาการจิตตกจะหายหรือไม่อย่างไรนั้น เราก็คงต้องมาติดตามกันต่อในตอนต่อไปบทความน่าสนใจเกี่ยวข้องกับ เคสปรโลกนิวส์ของน้องเบล
กรณีศึกษากฎแห่งกรรมจากชีวิตจริง (Case study in real life)
บุคคลที่ปรากฏในเรื่องราวต่อไปนี้ มีตัวตนจริงในปัจจุบัน ประสบชะตากรรมขึ้นลงตามกระแสของวัฏฏะและกฎแห่งกรรม (ชมตัวอย่างบทสัมภาษณ์จากรายการชีวิตในสังสารวัฏ) ผู้อ่าน-ผู้ชมก็อย่าเพิ่งเชื่อหรือปฏิเสธในทันที ควรศึกษาหลักธรรมในพระพุทธศาสนา แล้วค่อยนำไปเป็นอุทธาหรณ์ในการดำเนินชีวิตต่อไป
"วิชชาธรรมกาย" เป็นความรู้ดั้งเดิมในพระพุทธศาสนา เมื่อปฏิบัติแล้วสามารถไปรู้ไปเห็นเรื่องราวกฎแห่งกรรม การเวียนว่ายในภพภูมิต่างๆ ตรงตามพระธรรมคำสอนในพระไตรปิฎก วิชชาธรรมกายจึงเป็นหลักฐานยืนยันการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งทันสมัยตลอดกาล (อกาลิโก)
http://goo.gl/wd3jx