Mobile Versionรายงานการเดินทางไปมอบเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุไซโคลนนาร์กีสในสหภาพเมียนมาร์กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงกระผม พลอากาศเอกวีระวุธ ลวะเปารยะ ประธานไวยาวัจกร วัดพระธรรมกาย ขอกราบถวายรายงานการเดินทางไปมอบเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุไซโคลนนาร์กีส ในสหภาพเมียนมาร์ ครั้งที่5 ระหว่างวันที่ 18-20 มิถุนายน ที่ผ่านมาพระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ การเดินทางไปมอบสิ่งของช่วยเหลือชาวพม่าในครั้งนี้ กระผมรู้สึกอบอุ่นกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ไม่ใช่เพราะอากาศร้อนขึ้นนะครับ แต่เพราะมีตัวแทนองค์กรชาวพุทธจากหลายชาติ ได้แก่ ตัวแทนจาก มูลนิธิ Life Education ของ พระธรรมาจารย์ไห่เทา จากไต้หวัน และ มูลนิธิศรีโพธิราชา จากศรีลังกา และล่าสุดที่ติดต่อขอเดินทางไปกับเราก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่ก็เป็นพุทธบุตรผู้มีบารมีขอติดตามไปด้วย เดินทางมาโดยตรงจากประเทศออสเตรเลีย คือ พระปลัดสุธรรม สุธมฺโม ประธานสหพันธ์ชาวพุทธในประเทศออสเตรเลีย กระผมทราบมาว่า ท่านได้รวบรวมปัจจัยจากชาวพุทธหลายเชื้อชาติในออสเตรเลีย มาช่วยเหลือชาวพม่าในครั้งนี้พิธีมอบเครื่องอุปโภคบริโภคมีขึ้นเมื่อเวลา 9.30น.ของวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ.2551 ณ ห้องรับรองของมหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งชาติ เมืองย่างกุ้ง โดยมีตัวแทนองค์กรชาวพุทธจากนานานาชาติเป็นผู้มอบ ส่วนตัวแทนฝ่ายผู้รับมอบ ได้แก่ หลวงพ่อภัททันตะ กุมาระ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งชาติ เมืองย่างกุ้ง และ ฯพณฯ ตุระอองโก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการศาสนา พร้อมคณะ งานนี้มีล่ามแปลถึง 3ภาษา คือ ไทย จีน และพม่าหลังเสร็จพิธี กระทรวงการศาสนาได้พาพวกเราเดินทางไปเยี่ยมชม เพื่อมอบถุงยังชีพ และปัจจัยช่วยเหลือโรงเรียนวัดแห่งหนึ่งที่ประสบภัย ในเมืองย่างกุ้งด้วยภาคบ่าย พวกเราก็ย้อนกลับไปชมสถานที่สำคัญต่างๆ ภายในมหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งชาติ เมืองย่างกุ้ง และวัดกะบาเอ อาทิ มหาปาสาณคูหา ซึ่งภายนอกดูคล้ายถ้ำและภูเขา แต่ภายในเป็นห้องโถงใหญ่จุคนได้กว่าสามพันคน และเคยเป็นที่สังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่6ของพม่า เมื่อคราวฉลอง 25พุทธศตวรรษ ปัจจุบันใช้เป็นสนามสอบบาลีชั้นสูง และประกอบพิธีสำคัญ ดูแล้วโอ่โถง อลังการมาก ยิ่งเมื่อได้เห็นแผ่นหยกตามผนัง ปากถ้ำ และเสาในถ้ำแล้ว ต้องยอมรับว่าพม่านั้น ร่ำรวยหยกจริงๆเมื่อคราวที่เกิดพายุนาร์กีสนั้น สังกะสีที่มุงหลังคามหาปาสาณคูหา หลุดปลิวสูญหายไปมาก จึงนับว่าเป็นบุญของพวกเรา เพราะสังกะสีที่เราได้บริจาคได้ถูกนำมาซ่อมแซมหลังคามหาปาสาณคูหาด้วยในมหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งชาติ เมืองย่างกุ้ง ยังมีหอเก็บพระคัมภีร์ ซึ่งเป็นเสมือนห้องสมุด และพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรักษาพระไตรปิฎก คำสอนของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า และคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาไว้มากมาย นักท่องเที่ยวหรือบุคคลภายนอกไม่มีโอกาสได้เข้าชม จึงนับว่าเป็นบุญลาภของเราที่ได้มาชมเป็นบุญตาต่อจากนั้น พวกเราได้เดินทางต่อไปยัง พระมหาเจดีย์ชเวดากอง และได้บริจาคปัจจัยเป็นค่าซ่อมแซมบำรุงพระเจดีย์กว่าสามแสนจ๊าดพระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ แม้กระผมจะเคยมากราบพระมหาเจดีย์องค์นี้แล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังอยากมาดูไม่รู้เบื่อ มองดูพระเจดีย์สีทองคราวใด น้ำตามักจะไหลออกมาทุกที กระผมชื่นชมชาวพม่าที่มีศรัทธาแก่กล้า รู้จักแสวงหาสิ่งสูงค่ามาสร้างพระเจดีย์เป็นพุทธบูชา และเห็นว่านี่คือความยิ่งใหญ่ของพระพุทธศาสนา ผมว่าพวกเราอย่าให้น้อยหน้าชาวพม่า ต้องมาช่วยกันสร้างรูปหล่อทองคำของ พระเดชพระคุณหลวงปู่ วัดปากน้ำภาษีเจริญ พระมงคลเทพมุนี สด จนฺทสโร ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย ให้สำเร็จโดยเร็ว (รักท่านคนละหลายๆกอง) เพื่อให้ชาวพม่าหันมามองเราด้วยความชื่นชมบ้างวันรุ่งขึ้น คือวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ.2551 พวกเราก็ได้ไปชมศาสนสถานที่สำคัญของเมืองหงสาวดี เพื่อให้ทีมงาน Life TV ได้ถ่ายทำสารคดีเกี่ยวกับวัดวาอาราม และวิถีชีวิตของชาวพม่าอย่างสมบูรณ์ ทั้งที่อาศัยอยู่ในเมืองหลวงและชนบทก่อนไปหงสาวดี พวกเราได้แวะไปดูช้างเผือกตัวเป็นๆกันก่อน ที่ปางช้าง ชานเมืองย่างกุ้ง ที่นี่มีช้างเผือกถึง 3ช้าง (ช้างเผือก นับเป็นช้าง ช้างบ้านนับเป็นเชือก ช้างป่านับเป็นตัว)เมื่อไปถึงหงสาวดีก็มีโอกาสตักบาตรพระกว่า 600รูปที่วัดไจ้คะวายพร้อมกับได้ถวายถุงยังชีพ และปัจจัยบำรุงวัดอีกกว่าสามแสนจ๊าด ทุกคนเบิกบานในบุญกันมาก โดยเฉพาะตัวแทนจากไต้หวัน และสิงคโปร์นั้น ตื่นตาตื่นใจยิ่งกว่าพวกเราหลายเท่า นี่ถ้าหากพวกเขาได้ร่วมพิธีตักบาตรพระนับพันนับหมื่นรูปแล้วล่ะก็ คงจะตะลึง ตึงตึงกันไปเลยเมื่อออกจากวัดไจ้คะวาย พวกเราได้เดินทางไปนมัสการพระธาตุมุเตา หรือ ชเวมอดอว์ ชมพระราชวังบุเรงนอง และนมัสการพระนอนองค์ใหญ่ซึ่งงดงามมากที่วัดชเวตาเลียง จากนั้นจึงเดินทางกลับ เราถึงย่างกุ้งไม่ทันค่ำจึงพากันไปนมัสการพระพุทธรูปหินอ่อนองค์ใหญ่ที่สุดของพม่าที่วัดเจ้าดอจีตอนนั้นคิดจะปิดท้ายเพียงแค่นี้ เพราะดูจะอ่อนล้ากันมากแล้ว แต่ตัวแทนจากไต้หวันขอแถมอีกวัดหนึ่ง จึงพาไปที่เจดีย์พระเขี้ยวแก้ว ซึ่งแม้จะสร้างเมื่อสิบกว่าปีมานี้ แต่ก็วิจิตรงดงามมาก เพราะจำลองรูปแบบมาจากเจดีย์อานันทะ เมืองพุกาม ซึ่งได้ชื่อว่ามีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมที่งดงามเป็นเลิศการเดินทางคราวนี้ ตัวแทนจากสิงคโปร์และศรีลังกานั้น ดีใจเป็นอย่างมาก เพราะพวกเขาพยายามขอวีซ่าเข้าเมียนมาร์มาแล้วถึง 2ครั้งแต่ไม่สำเร็จจึงต้องเดินทางมาเมืองไทย เพื่อร่วมเดินทางไปกับเรา พวกเขาบอกว่า เข้าเมียนมาร์ได้เพราะบารมีของพระเดชพระคุณหลวงพ่อโดยแท้พระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ ครั้งนี้ หนูน้อด (ชนันภรณ์ รสจันทน์) ผู้สื่อข่าว DNN ได้ทำหน้าที่นักบินของ Air Asia โดยมี คุณแม่วรรณวิภา ของเธอเป็นผู้กำกับอยู่ข้างหลังในท้ายที่สุด พวกเราทุกคนก็ต้องขอกราบอนุโมทนาบุญกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อ และลูกพระธัมฯทั่วโลก ที่ได้บริจาคทรัพย์และสิ่งของเพื่อช่วยเหลือชาวพม่าในครั้งนี้ด้วยครับกราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูงพลอากาศเอกวีระวุธ ลวะเปารยะประธานไวยาวัจกร วัดพระธรรมกาย
http://goo.gl/MJ1Zu
พิมพ์บทความนี้
