โครงการ บอกโทษเกินร้อย ชิงทุนล้านโรงเรียนจุลสมัย จังหวัดสงขลาเสียงกู่ร้องของเยาวชนเด็กดี V-Star กว่า 500,000คน กำลังดังขึ้นทั่วประเทศ และเร่งออกทำหน้าที่ ตั้งคำถามที่แสวงหาคำตอบจากผู้ใหญ่ทุกคนว่า “สิ่งมึนเมา เหล้า เบียร์ บุหรี่ สุรา มันไม่ดีอย่างไร แล้วทำไมผู้ใหญ่จึงดื่มและเสพ”ซึ่งงานนี้ ต้องขอยกย่องวีรกรรมความดีของคุณครูผู้ให้แสงสว่างทุกท่าน เพราะเมื่อคุณครูไม่ใหญ่ (พระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์) เปิดทางสว่าง บอกทางสวรรค์ ชี้ทางพระนิพพาน ให้คุณครูที่เข้าร่วมโครงการ V-Star คุณครูทุกท่านก็เร่งทำหน้าที่กันอย่างน่าชื่นชม เป็นผู้ส่งเสริมสนับสนุนให้เหล่าเด็กดี V-Star ผู้นำฟื้นฟูศีลธรรมโลก ได้ทำหน้าที่ในโครงการ บอกโทษเกินร้อยชิงทุนเกินล้านงานนี้ คุณครูหลายๆท่าน รายงานมาว่า ตั้งแต่เด็กๆกลับมาจากงานรวมพลัง V-Star เขาจะรักวงตะวันของเขามาก ใส่มาโรงเรียนทุกวัน ไม่รู้ว่าเอาแรงมาจากไหน ทั้งขยันเรียนและทำกิจกรรมในโครงการ V-Star เด็กๆบอกว่า เวลาที่พวกเขาเห็นวงตะวัน ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่มอบให้แก่พวกเขาแล้ว ก็ยิ่งทำให้พวกเขาต้องยิ่งเร่งทำความดี เพราะที่วงตะวันเขียนว่า “เด็กดี V-Star ผู้นำฟื้นฟูศีลธรรมโลก”คุณครูผู้ให้แสงสว่างก็ขอเสริมบ้างว่า ของครูก็เหมือนกัน วงตะวันของครูเขียนว่า “ยอดครูดี V-Star” เวลาเห็นที่วงตะวันครั้งใด ก็เหมือนเป็นการตอกย้ำเตือนสติให้ต้องทำหน้าที่ครูผู้ให้แสงสว่างครั้งนี้ เราจะไปติดตามตามติด การทำความดีที่กำลังทำกันอย่างตลอดต่อเนื่องของเหล่าเด็กดี V-Star กับภารกิจใหม่ของคุณครูไม่ใหญ่ ที่เด็กๆบอกว่าสนุกมาก เหมือนกับการเล่นเกมตามหาคำตอบ โทษภัยของสิ่งมึนเมาให้ได้เกินร้อยข้อโรงเรียนจุลสมัย จังหวัดสงขลา ที่นี่เด็กดี V-Star ต่างทำความดีกันอย่างชนิดที่เรียกว่า ดีเด่นและโดดเด่นมากๆ เพราะเด็กนักเรียนกว่า 2,000คน ต่างทำโครงการ บอกโทษเกินร้อย ชิงทุนเกินล้าน กันหมดทั้งโรงเรียน ตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงชั้นประถม และได้ขยายผลไปยังโรงเรียนอื่นๆอีกด้วยคุณครูสืบศรี กาญจนะประโชติ เล่าว่า “โครงการนี้ ท่านผู้อำนวยการสนับสนุนเต็มที่ค่ะ คุณครูทุกท่านก็เห็นด้วย จากนั้นจึงเรียกประชุม V-Star ทั้งสองรุ่นว่า ตอนนี้เราจะต้องทำความดีกันแล้วนะ ภารกิจต่อไปที่ลูกๆ V-Star ทุกคนจะต้องปฏิบัติ คือ การทำความดีควบคู่ไปกับการรณรงค์ต้านยาเสพติด บอกโทษเกินร้อยด้วยการแบ่งสายเด็กดี V-Star ลงพื้นที่รณรงค์ และแสดงความคิดเห็นในสถานที่ต่างๆ ทั้งโรงเรียน ชุมชน วัด เทศบาล ทั้งที่อยู่ใกล้และอยู่ไกล เรียกว่าทำกันเต็มที่ และเราได้ขยายผลไปยังโรงเรียนข้างเคียง โดยทำหนังสือไปแจ้งขอทำกิจกรรมแสดงความคิด เรื่องโทษภัยของสุรา ยาเสพติด โรงเรียนอื่นๆก็ให้ความร่วมมือดีค่ะ ตอนนี้ เราไปมาหลายโรงเรียนแล้วค่ะก่อนหน้านี้ เราจะทำตารางไว้เลยค่ะว่า วันนี้ V-Star ของเราจะไปลงพื้นที่เพื่อดำเนินโครงการที่ไหนบ้าง ก็จะมีกิจกรรม เคาะประตูบ้าน โดยจะไปที่ลงพื้นที่ในชุมชนชาวบ้านที่ใกล้ๆโรงเรียนก่อน รวมทั้งงานมหกรรมการเรียนรู้วิชาการ ที่เทศบาลเมืองสงขลา ที่จะมาถึงนี้ ก็จะนำโครงการนี้เข้าไปให้เด็กทำกิจกรรมอีกด้วยค่ะ และในวันเสาร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ.2552 ซึ่งเป็นวันเด็กแห่งชาติ เราก็มีโอกาสได้ขึ้นเวทีใหญ่ เราได้ขึ้นไปจัดกิจกรรม V-Star รณรงค์โทษภัย เหล้า บุหรี่ โดยเราได้ให้เด็กนักเรียนและประชาชนทั่วไป ได้ร่วมแสดงความคิดเห็น ร่วมกิจกรรมบนเวที รณรงค์ต้านยาเสพติด และการทำความดีเพื่อส่งเสริมศีลธรรม และฟื้นฟูศีลธรรมโลกนอกจากนี้ ยังจัดให้มีการจัดบอร์ด การจัดนิทรรศการย่อย รวมถึงการแข่งขันกีฬาต้านภัยยาเสพติดด้วย เราจะร่วมกันทำกิจกรรมที่หลากหลาย และนับจากวันที่ 10 มกราคม พ.ศ.2552...เป็นต้นไป เราจะมีกิจกรรมลงไปยังพื้นที่ต่างๆตลอดค่ะ เพราะครูคิดว่ากิจกรรมนี้ ไม่ใช่เป็นเพียงกิจกรรมที่จะต้องทำในระยะเวลาสั้นๆตามที่กำหนด แต่ควรจะเป็นกิจกรรมที่จะต้องทำอย่างตลอดต่อเนื่อง และทำให้เห็นเป็นรูปธรรมในสังคมของเราให้ได้ค่ะ”แรงบันดาลใจ ที่ทำให้คุณครูสืบศรีทุ่มเททำงานในโครงการนี้อย่างเต็มที่ เกิดจากพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของเด็กและผู้ปกครอง เด็กมาเล่าให้ฟังว่า “คุณครูขา คุณพ่อของหนูเวลาเมาแล้วก็ชอบทะเลาะกับคุณแม่ เวลาดื่มเหล้ากลับมาบ้านต้องทะเลาะกับคุณแม่ทุกวัน หนูไม่ชอบเลย หนูจะทำอย่างไรดีคะ คุณพ่อถึงจะไม่ดื่มเหล้า”บังเอิญช่วงที่ผ่านมาเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ มีกิจกรรมให้เด็กได้วาดภาพเกี่ยวกับสิ่งที่อยากได้ในปีใหม่นี้ ให้เขียนใส่กระดาษรายงานแล้วเอากลับไปให้คุณพ่อคุณแม่ที่บ้าน และในช่วงนั้น ทางโรงเรียนก็เน้นเรื่องโทษภัยของสิ่งมึนเมาด้วย เมื่อเด็กกลับไปที่บ้าน เขาจึงขอของขวัญปีใหม่จากคุณพ่อคุณพ่อของเขาเป็นตำรวจ ได้บอกกับลูกว่า “ปกติวันอาทิตย์ พ่อถึงจะหยุดได้ แต่ช่วงปีใหม่จนถึงวันเด็ก เขาห้ามหยุด ห้ามลา ห้ามป่วย คือ ไม่ว่ากรณีใดๆก็ห้ามหยุด พ่อจึงไม่มีเวลาจะพาลูกไปไหน เอาอย่างนี้ดีกว่า ลูกอยากจะได้อะไรเป็นของขวัญจากพ่อล่ะ”ลูกก็ตอบว่า “หนูไม่อยากได้อะไรหรอกค่ะ แต่หนูอยากให้พ่อเลิกเหล้าเลิกบุหรี่ เท่านั้นเองค่ะ”คุณพ่อก็อึ้งไปเลย ก่อนที่จะบอก “ได้ลูก แล้วพ่อจะพยายามนะ”อยู่มาวันหนึ่ง คุณพ่อของเด็กคนนี้ได้มีโอกาสเข้ามาที่โรงเรียน จึงได้มาเล่าให้คุณครูสืบศรีฟังว่า “ลูกมาขอของขวัญปีใหม่จากผม ให้ผมเลิกเหล้า เลิกบุหรี่”ครูสืบศรีจึงให้กำลังใจว่า “ถึงแม้ว่าคุณพ่อจะเลิกทันทีไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ขอให้คุณพ่อทำใจก่อนว่าที่คุณพ่อพูดกับลูก คุณพ่อทำได้ไหม ถ้าเลิกไม่ได้ทันที ก็ขอให้ลด หรือหาอย่างอื่นมาแทน เช่น ถ้าอยากจะกินเหล้าก็ดื่มน้ำส้มแทน ดีไหมคะ”คุณพ่อก็ยิ้มรับเห็นด้วยกับความเห็นของคุณครู ต่อมาจึงได้ทราบว่าตำรวจคนนี้ดื่มเหล้าลดลงมาก และไม่ทะเลาะกับภรรยาอีกแล้ว แถมยังพูดดีๆให้กันด้วยอีกวีรกรรมหนึ่ง เด็กมาเล่าให้ฟังว่า “พ่อของผมขี้เมา ชอบดื่มเหล้ามาก แต่พ่อก็ชอบทำกับข้าวให้ทานอยู่เสมอ แต่ทุกครั้งที่พ่อทำกับข้าว มักจะมีกลิ่นเหล้าติดมาด้วย และพ่อก็หน้าแดงด้วย ผมจึงรู้ว่าพ่อนั้นเมาแล้ว ผมจึงเรียกผัดที่พ่อทำให้ผมทานว่า ผัดขี้เมา ผมได้แกล้งพูดกับพ่อเล่นๆว่า “วันนี้พ่อทำผัดขี้เมาให้ผมทานอีกแล้ว” ทั้งๆที่เป็นผัดผัก พ่อก็งง ผมจึงอธิบายว่า “เพราะว่าพ่อขี้เมา และมันก็มีกลิ่นเหล้าติดมาด้วยทุกวันเลย”ตั้งแต่วันนั้นมา พ่อของผมก็ไม่ดื่มเหล้าอีกเลยครับ ผัดผักของพ่อก็ไม่มีกลิ่นอีกแล้ว และพ่อก็ไม่มีอาการหน้าแดงด้วย ผมจึงบอกกับพ่อว่า...วันนี้พ่อผัดผักบริสุทธิ์ให้ผมทานด้วย อร่อยมากเลยครับ ผมรักพ่อมากที่สุดเลย”***************
http://goo.gl/00tN7